ปรโลกนิวส์ คุณแม่ประชิดละโลกแล้วไปไหน ตอนพิเศษ

การแต่งงานเป็นการยกระดับฐานะของหญิงชายธรรมดาให้เป็นสามีภรรยา แล้วก็เลื่อนระดับเป็นบิดามารดา เป็นพรหมและเป็นบูรพาจารย์ของลูก เป็นพระอรหันต์ในบ้าน https://dmc.tv/a14423

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ช่วงเด่นฝันในฝัน > ปกิณกธรรม > ปรโลกนิวส์
[ 9 ต.ค. 2555 ] - [ ผู้อ่าน : 18279 ]
ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ.2555
ปรโลกนิวส์ ตอน คุณแม่ประชิดละโลกแล้วไปไหน
 
 
ปรโลกนิวส์ ตอน คุณแม่ประชิดละโลกแล้วไปไหน ตอนพิเศษ
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรา
 
 
        หลังจากที่ลูกๆ นักเรียนอนุบาลฯ ได้รับฟังเรื่องราวสะเก็ดข่าวสั้นทันปรโลกของคุณแม่ประชิต ไปเมื่อวานนี้ ลูกๆ ก็อาจจะยังรู้สึกค้างคาใจและอยากที่จะรู้ถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องของ “ การอยู่ก่อนแต่ง ” ที่คุณครูไม่ใหญ่ได้เคยพูดถึงไปแล้ว
 
การมาเกิดเป็นมนุษย์ในยุคนี้ ต้องอาศัยบิดามารดาเป็นแดนเกิด
 
การมาเกิดเป็นมนุษย์ในยุคนี้ ต้องอาศัยบิดามารดาเป็นแดนเกิด
 
        ในยุคสมัยนี้ มนุษย์ไม่ได้เกิดขึ้นแบบโอปปาติกะแบบในยุคต้นกัป เพราะฉะนั้น การมาเกิดเป็นมนุษย์ในยุคนี้จึงต้องอาศัยบิดามารดาเป็นแดนเกิด ดังนั้น การแต่งงานจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ อีกทั้ง การแต่งงานยังเป็นการยกระดับฐานะของหญิงชายธรรมดาให้เป็นสามีภรรยา แล้วก็เลื่อนระดับเป็นบิดามารดา เป็นพรหมและเป็นบูรพาจารย์ของลูก เป็นพระอรหันต์ในบ้าน
 
        ดังนั้น การแต่งงานจึงต้องทำให้ถูกต้องตามหลักของศีลธรรม คือจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคุณพ่อคุณแม่ของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายหญิง แล้วก็ต้องจัดพิธีสมรสตามจารีตประเพณีของแต่ละที่ ถึงจะเรียกว่าถูกต้องตามหลักของศีลธรรมและไม่ผิดหลักของกฎแห่งกรรม
 
การแต่งงานต้องทำให้ถูกต้องตามหลักศีลธรรม
 
การแต่งงานต้องทำให้ถูกต้องตามหลักศีลธรรม
 
        แต่ในยุคปัจจุบันนี้ เราจะสังเกตเห็นว่าเรื่องของ “การอยู่ก่อนแต่ง” นั้นได้เกิดขึ้นมากมายจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาและชินตาไปแล้ว เพราะคนส่วนใหญ่ในยุคนี้ขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต โดยเฉพาะเรื่องของกฎแห่งกรรม หรืออาจจะมองข้ามไปเลย ไม่ให้ความสำคัญในการศึกษาเรียนรู้เรื่องนี้
      
        เมื่อมนุษย์ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องกฎแห่งกรรมเช่นนี้แล้ว จึงทำให้ มนุษย์ถูกพญามารเอากิเลสและความกำหนัดยินดีในกามมาบังคับได้ง่าย อีกทั้งมนุษย์ในยุคนี้ยังถูกย้อมใจด้วยสิ่งมึนเมา และมีสิ่งยั่วยุจากสิ่งแวดล้อมให้ได้เห็น ให้ได้ยิน ให้ได้ฟังอยู่เยอะแยะมากมาย แล้วก็มีต้นแบบที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้น จึงทำให้มนุษย์ในยุคนี้มีความคิดที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม คือคิดว่าเรื่องการอยู่ก่อนแต่งเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็ทำได้
 
มนุษย์ถูกพญามารเอากิเลสและความกำหนัดยินดีในกามมาบังคับได้ง่าย
 
มนุษย์ถูกพญามารเอากิเลสและความกำหนัดยินดีในกามมาบังคับได้ง่าย
 
        เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้มนุษย์ในยุคนี้มีการอยู่ก่อนแต่งมากขึ้นไปเรื่อยๆ จนเห็นเป็นเรื่องธรรมดา แต่สิ่งเหล่านี้มันเป็นสิ่งที่ผิดต่อหลักของกฎแห่งกรรม
 
        หลังจากที่มนุษย์เริ่มมีการอยู่ก่อนแต่ง มากขึ้นไปเรื่อยๆ เช่นนี้ จึงเป็นผลทำให้สภาพของสิ่งแวดล้อมต่างๆ เริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากยุคเก่าๆ มากมาย โดยจะสังเกตเห็นได้จากฝนกรด ที่แต่ก่อนไม่เคยมีก็ได้มีปรากฏขึ้นในยุคปัจจุบันนี้
 
จากที่มนุษย์มีการอยู่ก่อนแต่งมากขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นผลทำให้สภาพของสิ่งแวดล้อมต่างๆ เริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากยุคเก่าๆ มากมาย
 
จากที่มนุษย์มีการอยู่ก่อนแต่งมากขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นผลทำให้สภาพของสิ่งแวดล้อมต่างๆ เริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากยุคเก่าๆ มากมาย
 
        ซึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับฝนกรดนี้ บางคนก็เข้าใจว่า เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ฝนกรดนี้เกิดมาจากจิตใจของมนุษย์ที่ขาดศีลธรรม และขาดความรู้เรื่องราวของกฎแห่งกรรมเป็นหลัก จึงทำให้ดำเนินชีวิตไม่ถูกต้องและดีงาม เป็นต้น โดยเรื่องราวเกี่ยวกับฝนกรดนี้ก็เคยมีปรากฏเกิดขึ้นมาแล้วในอดีตหลายๆ ครั้ง ดังเรื่องราวที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์วิสุทธิมรรค ที่กล่าวเอาไว้ว่า
 
        “เมื่อมนุษย์ในยุคใดเป็นผู้มากไปด้วยกามราคะ หรือมีความกำหนัดเยอะ ยินดีในกามเยอะ โลกในยุคนั้น ก็จะพินาศด้วยน้ำในที่สุด”
 
        ดังนั้น ในวันนี้ คุณครูไม่ใหญ่ก็จะได้ถือโอกาสนำเรื่องราวเกี่ยวกับ “ น้ำประลัยกัลป์ ” มาเล่าให้ลูกๆ นักเรียนอนุบาลฯ ได้ฟังกันย่อๆ
 
น้ำประลัยกัลป์
 
น้ำประลัยกัลป์
 
        ในยุคที่มนุษย์มีกามราคะอยู่ภายในใจอย่างแรงกล้า สภาพสิ่งแวดล้อมของโลกในยุคนั้นก็จะเริ่มแปรเปลี่ยนไป คือเมฆที่อยู่บนท้องฟ้าจะกลายเป็นเมฆที่มีฤทธิ์เป็นกรด แล้วก็หลั่งฝนลงมาเป็นน้ำกรดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนอย่างรุนแรง ซึ่งฝนที่มีฤทธิ์เป็นกรดนี้ก็จะตกลงมาอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย โดยเริ่มตกลงมาเป็นเม็ดเล็กๆ ทีละน้อย ทีละน้อย
      
        จากนั้น ฝนน้ำกรดนี้ก็จะมีขนาดของเม็ดฝนที่ใหญ่ขึ้น และตกลงมาหนักขึ้นไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นสายน้ำกรดที่เทลงมาจากท้องฟ้า เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงส่งผลทำให้ระดับน้ำกรดบนโลกมนุษย์มีปริมาณที่สูงมากขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งท่วมคูคลอง แม่น้ำ บ้านเรือน ต้นไม้ ตึกรามบ้านช่อง จนกระทั่งท่วมภูเขา แล้วก็ท่วมไปทั้งโลก แล้วยังขยายท่วมไปอีกจากโลกนี้ไปทั่วทั้งจักรวาล
 
ระดับน้ำกรดบนโลกมนุษย์มีปริมาณสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ขยายท่วมจากโลกนี้ไปทั่วทั้งจักรวาล
 
ระดับน้ำกรดบนโลกมนุษย์มีปริมาณสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ขยายท่วมจากโลกนี้ไปทั่วทั้งจักรวาล
 
        ยังไม่พอ ยังท่วมไปถึงป่าหิมพานต์ สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ไล่เรื่อยไปจนหมดสวรรค์ทั้ง 6 ชั้น ไม่เพียงเท่านั้น น้ำกรดนี้ยังท่วมเลยไปถึงพรหมโลกอีกด้วย ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่จมอยู่ภายใต้น้ำกรดนี้ ก็จะถูกกัดกินละลายจนหายไปหมดสิ้น
 
        และเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างถูกกัดกินละลายหายไปหมดแล้ว น้ำกรดนี้ก็จะค่อยๆ ยุบและแห้งหายไปในที่สุด คือจะเหลือเพียงแค่อากาศที่ว่างเปล่าและเต็มไปด้วยความมืดมิดทั่วทั้งจักรวาล
 
จะเหลือเพียงแค่อากาศที่ว่างเปล่าและเต็มไปด้วยความมืดมิดทั่วทั้งจักรวาล
 
จะเหลือเพียงแค่อากาศที่ว่างเปล่าและเต็มไปด้วยความมืดมิดทั่วทั้งจักรวาล
 
        เมื่อลูกๆ นักเรียนอนุบาลฯ ได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับ “ น้ำประลัยกัลป์ ” แล้ว ลูกๆ ก็จะเห็นได้ว่า เหตุการณ์น้ำท่วมโลกนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากเหตุอื่นใดเลย แต่เกิดขึ้นจากราคะความกำหนดยินดีในกามในใจของมนุษย์นี่เอง
 
        ดังนั้น พวกเราจะต้องมาร่วมกันแก้ไขปัญหานี้ให้หมดไป ด้วยการมาช่วยสร้างเขื่อนศีลธรรมให้เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้โลกนี้ต้องพินาศไปด้วยน้ำกรด ซึ่งถ้าหากพวกเราทำได้ ก็จะเป็นบารมีพิเศษที่ติดตัวพวกเราไปข้ามภพข้ามชาติ ที่จะต้องเป็นต้นบุญต้นแบบ และเป็นแสงสว่างให้แก่มวลมนุษยชาติ เช่น นักเรียน เป็นต้น
 
เพื่อไม่ให้โลกนี้ต้องพินาศไปด้วยน้ำกรด พวกเราจะต้องมาร่วมกันแก้ไขปัญหานี้ให้หมดไป ด้วยการมาช่วยกันสร้างเขื่อนศีลธรรมให้เกิดขึ้น
 
เพื่อไม่ให้โลกนี้ต้องพินาศไปด้วยน้ำกรด พวกเราจะต้องมาร่วมกันแก้ไขปัญหานี้ให้หมดไป ด้วยการมาช่วยกันสร้างเขื่อนศีลธรรมให้เกิดขึ้น
 
        ส่วนว่า เรื่องราวของ “ ไฟประลัยกัลป์และลมประลัยกัลป์ ” จะมีรายละเอียดเป็นอย่างไรนั้น เราก็คงจะได้มาติดตามรับฟังกันต่อในตอนถัดๆ ไป
 
กรณีศึกษากฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง (Case study in real life)

     บุคคลที่ปรากฏในเรื่องราวต่อไปนี้ มีตัวตนจริงในปัจจุบัน ประสบชะตากรรมขึ้นลงตามกระแสของวัฏฏะและกฎแห่งกรรม (ชมตัวอย่างบทสัมภาษณ์จากรายการชีวิตในสังสารวัฏ) ผู้อ่าน-ผู้ชมก็อย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธในทันที ควรศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แล้วค่อยนำไปเป็นอุทธาหรณ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป

     "วิชชาธรรมกาย" เป็นความรู้ดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติแล้วสามารถไปรู้ไปเห็นเรื่องราวกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ ตรงตามพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก วิชชาธรรมกายจึงเป็นหลักฐานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทันสมัยตลอดกาล (อกาลิโก)

http://goo.gl/Tsekl


พิมพ์บทความนี้

ไปหน้าทบทวนฝันในฝัน



บทความอื่นๆ ในหมวด

      กิจกรรมพัฒนาวัดพิชิตปิตยาราม ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
      กิจกรรมพัฒนาวัดอู่ข้าว ต.คลอง 7 จ.ปทุมธานี
      อานุภาพบุญจากการมาสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ตอนที่ 1
      เล่าเรื่องคุณยายฯ ตอน ได้ตึก 18 ล้านแค่เพียงกระพริบตา
      เล่าเรื่องคุณยายฯ ตอน ความทรงอภิญญาของคุณยายฯที่ผมเจอกับตัวเอง
      ประกาศผลสุดยอดสามเณรแสดงธรรมระดับโลก
      เปิดใจสามเณรแชมป์แสดงธรรมระดับภาค ชิงชัยสู่เวทีแสดงธรรมระดับโลก
      ซุปเปอร์บิ๊กบุญ ตักบาตรแสนรูป ครั้งประวัติศาสตร์
      เส้นทางสามเณร สู่เวทีแชมป์เทศน์ระดับโลก
      เล่าเรื่องคุณยาย ตอน เรื่องเหลือเชื่อของการบูชาข้าวพระที่คุณยายฯฝากไว้
      บวชเณรล้านตักบาตรแสน สานฝันคุณยาย สร้างพระแท้
      เล่าเรื่องคุณยายฯ ตอน แค่มองหน้า..ก็รู้ทั้งหมด
      แฝด 4 บวชเณรล้านอ่างทองทำลายสถิติโลก