ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะในเวลาต่อมา สถานการณ์ภายในบ้านเมืองที่คุณพ่อของตัวลูกในภพชาตินั้นอาศัยอยู่ ก็เริ่มเกิดเหตุการณ์ที่ตึงเครียดและแลดูไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะ พวกชนชั้นสูงหรือพวกชนชั้นปกครอง ได้มีการใช้กำลังทหารเข้ามากดขี่ข่มเหง และบังคับใช้แรงงานพวกชนชั้นล่างหรือพวกทาสอย่างหนักถ้าพวกทาสทำงานไม่ถูกใจจะถูกสั่งลงโทษจนถึงขั้นเสียชีวิตก็มีไม่เพียงแค่นั้น ถ้าหากพวกชนชั้นล่างหรือพวกทาส ทำงานไม่ถูกใจหรือไม่ได้อย่างใจแล้ว พวกชนชั้นสูงหรือพวกชนชั้นปกครอง ก็จะสั่งให้พวกทหารทำการลงโทษพวกข้าทาสเหล่านั้นด้วยการทุบตี เฆี่ยนตี ไล่เรื่อยไป จนบางครั้งก็ลงโทษกันอย่างรุนแรง จนถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็มี
เมื่อพวกชนชั้นสูงหรือพวกชนชั้นปกครอง ได้กดขี่ข่มเหงและบังคับใช้แรงงานพวกชนชั้นล่างหรือพวกทาส อย่างหนักหน่วงแบบไม่ยุติธรรมเช่นนี้ จึงเป็นผลทำให้กระแสแห่งความโกรธแค้น และความไม่พอใจที่พวกชนชั้นล่างหรือพวกทาส มีต่อพวกชนชั้นสูงได้ทวีความรุนแรง แล้วก็ลุกลามแผ่ขยายไปทั่วทั้งแคว้น อย่างรวดเร็วพวกทาสไม่พอใจพวกชนชั้นสูงเป็นอย่างมากและเมื่อถึงขีดสุด พวกทาสบางที่บางแห่งที่ทนต่อความอยุติธรรมไม่ไหว ก็ได้มีการลุกฮือ และออกมาทำร้ายพวกชนชั้นปกครองและพวกทหารอย่างรุนแรง ซึ่งก็เป็นผลทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายกันไปเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นพวกเขาก็จะรีบหลบหนีเข้าป่าไป เพื่อที่พวกเขาจะได้รอดพ้นจากการถูกดำเนินคดีของทางการพวกทาสบางแห่งที่ทนไม่ไหว ก็ลุกฮือออกมาทำร้ายพวกชนชั้นสูงอย่างรุนแรงเมื่อพวกชนชั้นล่างหรือพวกทาสเหล่านั้น ได้ปลดแอกตัวเองและหลบหนีเข้าไปอยู่ในป่าแล้ว พวกเขาก็จะยังชีพหรือเลี้ยงชีวิตตัวเอง ด้วยการเป็นโจรป่าและโจรภูเขา ซึ่งในขณะนั้นจำนวนประชากรของพวกทาส ที่ใช้กำลังแล้วหลบหนีเข้าไปอยู่ในป่า ก็เริ่มมีปริมาณที่มากขึ้น มากขึ้น แล้วก็มากขึ้นไปเรื่อยๆเมื่อเป็นเช่นนี้ ทางการจึงได้มีคำสั่งให้พวกทหารทำการไล่ล่า ปราบปราม และจับตัวพวกโจรป่าโจรภูเขาเหล่านั้น หรือพวกทาสที่ทำร้ายร่างกายพวกชนชั้นสูง แล้วหลบหนีเข้าไปอยู่ในป่ามาลงโทษให้ได้ ซึ่งวิธีการลงโทษของทางการก็คือ “การตัดศีรษะแล้วก็เอาไปเสียบประจานไว้ที่นอกเมือง” เพื่อเป็นการข่มขวัญและข่มขู่พวกโจร รวมถึงพวกชนชั้นล่างหรือพวกทาสทั้งหลาย จะได้ไม่กล้ากระทำการแข็งข้อต่อทางการอีกต่อไปทางการจึงได้ลงโทษพวกทาสโดยการตัดศีรษะเสียบประจานไว้นอกเมืองและด้วยวิธีการที่โหดร้ายป่าเถื่อนดังที่ได้กล่าวมาแล้วนี่เอง จึงทำให้ความเกลียดชังของพวกชนชั้นล่างหรือพวกทาส ที่มีต่อพวกชนชั้นปกครอง ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น มากขึ้น แล้วก็มากขึ้นไปเรื่อยๆถึงแม้ว่าสถานการณ์ความไม่พอใจระหว่างชนชั้นปกครอง กับชนชั้นล่างหรือพวกทาส จะเขม็งขึงและตึงเครียดมากขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ตาม แต่สถานการณ์ดังกล่าวนี้ กลับไม่ได้ส่งผลกระทบต่อครอบครัวของคุณพ่อของลูกในภพชาตินั้นแต่อย่างใด ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะ ครอบครัวของท่านในภพชาตินั้น ได้ดูแลเหล่าข้าทาสบริวารทั้งหลาย ด้วยจิตที่มีเมตตาและมีมนุษยธรรมคุณพ่อของลูกได้ดูแลข้าทาสบริวารทั้งหลาย ด้วยจิตที่เมตตาและมีมนุษยธรรมกล่าวคือครอบครัวของคุณพ่อของตัวลูกในภพชาตินั้น ได้ให้ทั้งที่อยู่อาศัยและอาหารการกินที่ดีแก่เหล่าข้าทาสบริวารอย่างเหมาะสม ซึ่งจะผิดแผกแตกต่างกับครอบครัวของชนชั้นปกครองทั่วๆ ไป ที่มองว่าพวกข้าทาสบริวารเหล่านี้ เป็นเพียงแค่แรงงานที่พวกตนหาซื้อมาเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่พวกเขาจะต้องดูแลพวกข้าทาสบริวารเหล่านี้เลยนั่นเองจนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง ก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่พลิกผันชีวิตของคุณพ่อของตัวลูก ในภพชาตินั้น เรื่องก็มีอยู่ว่า วันหนึ่งได้มีเพื่อนคุณพ่อของตัวลูกคนหนึ่ง ได้มาชักชวนให้คุณพ่อของตัวลูกและกลุ่มเพื่อนๆ คหบดีไฮโซอีกหลายคนไปพักผ่อน และเที่ยวเล่นที่บ้านพักตากอากาศของเขา ซึ่งปลูกสร้างเอาไว้อยู่ที่บริเวณนอกเมือง ติดกับทะเลสาบขนาดใหญ่ เมื่อคุณพ่อของลูกในภพชาตินั้น ได้รับคำเชื้อเชิญจากเพื่อนคหบดีไฮโซของท่านแล้ว ตัวท่านก็ตอบรับคำเชื้อเชิญของเพื่อนคนนี้เป็นอย่างดีเพื่อนคุณพ่อของลูกคนหนึ่ง ชักชวนให้ท่านไปพักผ่อนที่บ้านพักตากอากาศของเขาเมื่อคุณพ่อของตัวลูกกับกลุ่มเพื่อนๆ คหบดีไฮโซในภพชาตินั้น เดินทางไปถึงบ้านพักตากอากาศแห่งนั้นแล้ว เพื่อนผู้เป็นเจ้าของบ้านก็ได้พาสมาชิกกลุ่มทุกคน เดินเที่ยวชมบรรยากาศภายในบ้านพักตากอากาศแห่งนั้น พร้อมกับสั่งให้พวกข้าทาสบริวารของตัวเขา นำเอาข้าวของและสัมภาระของทุกคนไปเก็บไว้ที่ห้องพักที่เตรียมเอาไว้แล้วเจ้าของบ้านเลี้ยงดูต้อนรับคุณพ่อของลูก และเพื่อนๆ ทุกคน ด้วยสุราอาหารการกินอย่างดีเมื่อถึงเวลาช่วงเวลาเย็น เพื่อนผู้เป็นเจ้าของบ้านก็ได้เลี้ยงดูต้อนรับคุณพ่อของลูก และเพื่อนๆ ทุกคน ด้วยสุราและอาหารการกินเป็นอย่างดี ซึ่งทุกๆ คนก็ดื่มกินกันอย่างเต็มที่ ยกเว้นแต่คุณพ่อของลูกเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ไม่แตะต้องสุราที่เพื่อนคนนี้ได้ตระเตรียมเอาไว้เลยในขณะที่บรรยากาศการดื่มกินภายในงานเลี้ยง กำลังเป็นไปด้วยความสนุกสนานอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเพื่อนของคุณพ่อของตัวลูกคนหนึ่ง ซึ่งกำลังมึนเมาด้วยฤทธิ์ของสุรา นึกสนุกคิดที่จะแกล้งทาสสาวคนที่กำลังเดินทำหน้าที่บริการเครื่องดื่มอยู่ภายในบ้าน เมื่อเพื่อนคุณพ่อของลูก คิดที่จะแกล้งทาสสาวคนนั้นแล้ว ตัวเขาจึงเรียกให้เธอเดินมาบริการเครื่องดื่มที่วงของเขา ทันทีที่ตัวเธอได้เดินมาบริการเครื่องดื่มที่วงของเพื่อนคนนี้ ตัวเขาก็ได้แอบแหย่เท้าเข้าไปข้างหน้าของทาสสาวคนนั้นในทันทีเพื่อนคุณพ่อของลูกคนหนึ่ง คิดจะแกล้งทาสสาวที่กำลังทำหน้าที่บริการเครื่องดื่มอยู่และในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ทาสสาวผู้โชคร้ายคนนั้นก็ได้สะดุดเท้าของเพื่อนคุณพ่อของลูก พร้อมกับล้มลงอย่างแรง ไม่เพียงแค่นั้น ทันทีที่ตัวเธอล้มลง ถาดเครื่องดื่มพร้อมทั้งขวดเหล้าต่างๆ ที่ตัวเธอได้ถือมาด้วย ก็ได้ร่วงหล่นลงมาแตกกระจายกลางวงเหล้าแบบไม่เป็นท่าเลยทีเดียวทาสสาวคนนั้นสะดุดเท้าเพื่อนคุณพ่อของลูก พร้อมกับล้มลงอย่างแรงเมื่อเพื่อนคุณพ่อของตัวลูกอีกคน ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านได้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างเป็นเช่นนั้น ตัวเขาซึ่งกำลังอยู่ในอาการที่มึนเมาด้วยฤทธิ์สุรา ก็เกิดอารมณ์ฉุนเฉียวกระฟัดกระเฟียดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยในทันทีทันใดนั้นเอง เพื่อนคุณพ่อของลูกผู้เป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งกำลังโกรธและอยู่ในอาการที่มึนเมาด้วยฤทธิ์สุรา ก็ได้ลุกขึ้น แล้วก็เดินเข้าไปจิกผมของทาสสาวผู้เคราะห์ร้ายคนนั้นอย่างแรง แล้วใช้กำลังลากตัวของเธอออกไปหน้าบ้าน แบบไม่สนใจใยดีแขกเหรื่อที่อยู่ในบ้านของเขาเลยเจ้าของบ้านจึงคว้าเอาดาบหมายจะลงโทษทาสสาวคนนี้ ด้วยการฆ่าเธอให้ตายคามือและในขณะที่เพื่อนคุณพ่อของตัวลูกผู้เป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งกำลังโกรธและอยู่ในอาการที่มึนเมาด้วยฤทธิ์สุรา กำลังลากตัวของทาสสาวผู้เคราะห์ร้ายไปที่บริเวณหน้าบ้านอยู่นั้น มือของเขาก็ได้ไปคว้าเอาดาบที่ประดับอยู่ภายในบ้านมาถือไว้ ด้วยความตั้งใจหมายมั่นว่า ตัวเขาจะลงโทษทาสสาวคนนี้ ด้วยการฆ่าเธอให้ตายคามือเลยทีเดียวท่ามกลางเสียงกรีดร้องของทาสสาวผู้น่าสงสาร ที่ดังลั่นไปทั่วบ้านอยู่นั้น คุณพ่อของทาสสาวและคนรักของเธอ ซึ่งกำลังทำงานอยู่ในครัวของบ้านหลัง ก็ได้รีบวิ่งกรูกันออกมาจากในครัว พร้อมกับร้องขอชีวิตของทาสสาวผู้น่าสงสารจากเพื่อนคุณพ่อของลูก ผู้เป็นนายในทันทีคุณพ่อของทาสสาวและคนรักของเธอ รีบวิ่งออกมาร้องขอชีวิตเธอจากผู้เป็นนายทันทีส่วนว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้ไปจะเป็นเช่นไร ทาสสาวผู้น่าสงสารคนนี้จะรอดพ้นจากเงื้อมมือของมัจจุราชหรือไม่ เราก็คงจะต้องอดใจมารอรับฟังกันต่อในวันถัดไป
กรณีศึกษากฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง (Case study in real life)
บุคคลที่ปรากฏในเรื่องราวต่อไปนี้ มีตัวตนจริงในปัจจุบัน ประสบชะตากรรมขึ้นลงตามกระแสของวัฏฏะและกฎแห่งกรรม (ชมตัวอย่างบทสัมภาษณ์จากรายการชีวิตในสังสารวัฏ) ผู้อ่าน-ผู้ชมก็อย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธในทันที ควรศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แล้วค่อยนำไปเป็นอุทธาหรณ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป
"วิชชาธรรมกาย" เป็นความรู้ดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติแล้วสามารถไปรู้ไปเห็นเรื่องราวกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ ตรงตามพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก วิชชาธรรมกายจึงเป็นหลักฐานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทันสมัยตลอดกาล (อกาลิโก)
http://goo.gl/YAZJA