Mobile Versionทบทวนฝันในฝัน วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
จดหมายประวัติศาสตร์แสงสว่างสันติภาพจากฟิลิปปินส์
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
และแล้ววันประวัติศาสตร์ที่ชาวโลกต้องจดจำ ในค่ำคืนวันพระจันทร์เต็มดวง วันจันทร์ที่ 14 เดือน 4 ปี 2014 ที่หมู่บ้านสะวันน่า เมืองอิโลอิโล เมืองแห่งความรักและสันติภาพ ประเทศฟิลิปปินส์
โดยตั้งแต่เช้าตรู่ เหล่า“อาสาสมัครเพื่อสันติสุขภายใน” นับหมื่นคน ได้เดินทางมาจากเมืองต่างๆด้วยความเบิกบาน เข้าสู่พื้นที่เพื่อช่วยงานในหน้าที่ต่างๆ เช่น เตรียมพื้นที่จุดโคม, จราจร, ดูแลจัดระเบียบของผู้มาร่วมงาน, ต้อนรับสื่อมวลชน, ติดต่อสอบถาม ฯลฯ ทำให้บรรยากาศในพื้นที่คึกคักสดใสด้วยรอยยิ้มกันตั้งแต่เช้าอาสาสมัครชาวปินอย นับหมื่นคน เดินทางมาช่วยเตรียมงานกันแต่เช้า
อาสาสมัครชาวปินอย นับหมื่นคน เดินทางมาช่วยเตรียมงานกันแต่เช้า
ก่อนพิธีกรรมจะเริ่ม ฝนได้ตกกระหน่ำลงมาไม่ขาดสายหลายชั่วโมง เรียกว่าเป็น ฝนวัดใจจ้า แต่กิจกรรมต่างๆก็มิได้หยุดลง “อาสาสมัครเพื่อสันติสุขภายใน” ยังทำหน้าที่ท่ามกลางสายฝน โดยทุกคนยึดหลักว่า เรื่องฝนแค่นี้ไม่มีปัญหา จนถึงเวลาเริ่มพิธีกรรมตามกำหนดการ ผู้ร่วมงานทุกคนก็ต้องอัศจรรย์ใจ ที่อยู่ๆ “ฝนวัดใจ” ต้อง “ยอมใจ” กลายเป็น“ฝนแพ้ใจ” เพราะฝนหยุดได้เหมือน “ใจสั่งมา”ฝนวัดใจ ที่ตกกระหน่ำก่อนเริ่มพิธี ก่อนจะหยุดตกในช่วงพิธีกรรม
เมื่อฟ้าเปิดพิธีกรรมก็เริ่มขึ้น ด้วยการกล่าวสปีชของผู้นำศาสนาต่างๆ โดยผู้นำศาสนาพุทธ คือ พระราชภาวนาจารย์ (คุณครูไม่เล็ก) และทุกคนได้รับฟัง “สาส์นสันติภาพ” ของคุณครูไม่ใหญ่ โดย คุณอนันต์ อัศวโภคิน เป็นผู้ถ่ายทอดคุณครูไม่เล็กกล่าว สปีช เป็นภาษาอังกฤษ 3 นาที
จากนั้นเวลาสว่างก็มาถึง โคมไฟปฐมฤกษ์ ได้ถูกจุดขึ้นบนเวทีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศฟิลิปปินส์ โดยผู้แทนฝ่ายศาสนา และตัวแทนฝ่ายการเมืองร่วมกันจุดไฟสันติภาพขึ้นจุดไฟเริ่มต้นแห่งสันติภาพ จากผู้แทนหลากศาสนา และฝ่ายการเมืองแล้วผู้ร่วมงานทั้งหมดก็หลับตาหยุดใจไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด โดยคุณครูไม่เล็กนำนั่งสมาธิเป็นภาษาอังกฤษ 30 นาที ทำให้บรรยากาศแห่งสันติสุขภายในแผ่ขยายไปทั่วบริเวณคุณครูไม่เล็กนำชาวปินอยนั่งสมาธิ 30 นาที
คุณครูไม่เล็กนำชาวปินอยนั่งสมาธิ 30 นาที
คุณครูไม่เล็กนำชาวปินอยนั่งสมาธิ 30 นาที
ช่วงเวลาแห่งสันติสุขภายใน
จากนั้นผู้ร่วมงาน ช่วยกันจุดโคมเพื่อแปรเป็นตัวอักษร แล้วในช่วงนาทีลุ้นระทึกนี้เอง ภาพถ่ายมุมสูงก็เห็น เป็นคำว่า “เวิร์ลพีซทรูอินเนอพีซ เดอะ ฟิลิปปินส์ 2014” ทั้งแขก VIP บนเวที ไปจนถึงผู้ร่วมงานพากันกระโดดโห่ร้องดีใจกันทั้งสนาม เมื่อผู้แทนกินเนสประกาศว่า นี่คือ การทำลายสถิติ การจุดโคมลานแปรอักษรที่ใหญ่ที่สุดในโลก โอ้..นี่คือรางวัลแห่งความทุ่มเทเสียสละของทุกๆคน ต้องกล่าวคำว่า ขอแสดงความยินดีจ้า แล้วทุกคนได้ร่วมจุดโคมจนครบแสนดวง ในพื้นที่ 6 สนามฟุตบอลให้สว่างไสวไปทั่วทั้งผืนดิน
ภาพจากมุมสูง ที่ถูกบันทึกโดยกินเนส เวิร์ล เรคคอร์ด ว่า “การจุดโคมลานแปรอักษรที่ใหญ่ที่สุดในโลก”
หลังจากนั้น เราก็จุดโคมที่เหลือครบแสนดวง บนพื้นที่กว่า 6 สนามฟุตบอลท่านวุฒิสมาชิก ซินเธีย วิลเลียร์
รับมอบใบประกาศความสำเร็จจาก ผู้แทนกินเนส เวิร์ล เรคคอร์ด
ในงานนี้ได้ถูกขับกล่อมด้วยบทเพลงสันติภาพ จากคุณโฮเวิร์ด, เกรทเชล และเหล่าอาสาสมัคร ทำให้ผู้ร่วมงานร่วมกันเปล่งเสียงในท่อนฮุคที่ว่า "พบกันครึ่งทางที่กลางกาย เมื่อใจใสใจสบายทำอะไรก็สำเร็จ" ท่ามกลางทะเลประทีปแสนดวง
คุณโฮเวิร์ด มายซัน และ เกรทเชล ร่วมขับขานบทเพลงแห่งสันติภาพ
เยาวชนอาสาสมัคร ร่วมกันร้องเพลง “จินดามณี” บนเวที
ภาพแห่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
เกิดจากประทีปดวงน้อยๆที่ส่งต่อโดยมือแต่ละคนWith Love from Pinoy (ด้วยรักจากชาวปินอย)ค่ำคืนที่สว่างทั้งบนผืนแผ่นฟ้า และผืนแผ่นดินประทีปแสนดวง สว่างไสว ตราตรึงในดวงใจชาวปินอย
ท่านอาคบิชอบ แองเจิล ลักคามีโอ้ กล่าวว่า “พ่ออยากให้ชาวแคทอลิกทุกคนนั่งสมาธิ เพราะสันติภาพโลก ต้องเริ่มจากการทำสมาธิของแต่ละคน! พระภิกษุท่านมาช่วยแนะนำให้เราฝึกสมาธิ เพื่อสร้างสันติสุขภายในตัวเองก่อนจะแบ่งปันไปถึงครอบครัว สังคม และประเทศ”ท่านอาคบิชอบ แองเจิล ลักคามีโอ้
“อยากให้ชาวแคทอลิกทุกคนนั่งสมาธิ สันติภาพโลกต้องเกิดจากผู้มีสันติสุขภายใน”
คุณแมนนี่ วิลเลียร์ กล่าวว่า “แม้ตอนบ่ายฝนจะตกอย่างหนัก ทำให้ผมกังวลมาก แต่มีบางสิ่งบอกว่างานนี้จะสำเร็จอย่างแน่นอน! แล้วสิ่งนั้นก็เป็นจริง ผมเห็นคุณอนันต์เพื่อนรักของผมมีความสุขมาก และผมดีใจที่หลวงพ่อเลือกจัดงานนี้ในประเทศนี้ ผมภูมิใจที่ได้ทำภารกิจนี้กับหลวงพ่อจนสำเร็จ ผมคิดว่าควรจะจัดงานอย่างนี้ทุกปีครับ”คุณ แมนนี่ วิลเลียร์ ประธานวุฒิสภาฟิลิปปินส์คนที่ 25
“คงมีหลายเมืองที่อยากจะจัดงาน
แต่หากสะวันน่าจะเป็นที่จัดงานครั้งต่อไป ผมจะรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากครับ”
ส่วนคุณพาเมล่า หัวหน้าโครงการสะวันน่า ในฐานะที่ช่วยเตรียมพื้นที่ทุกอย่างตั้งแต่ต้น บอกด้วยความปลื้มว่า“วันนี้เป็นวันแห่งปาฏิหาริย์ เพราะเราไม่พร้อมที่จะรับฝนจนพื้นดินเต็มไปด้วยโคลน คนกลัวว่าจะจัดงานไม่ได้ แต่ปาฏิหาริย์ก็เกิด พอจะเริ่มงาน ฝนก็หยุดตกไปเฉยๆ จน กระทั่ง เสร็จงานปุ๊บ ฝนก็กลับมาตกหนักติดต่อกันหลายวัน ฉันขนลุกทุกครั้งที่เล่าเรื่องนี้”คุณพาเมล่า คาบาร์เลส กาโค่ หัวหน้าผู้ดูแลโครงการสะวันน่า
“ฉันภูมิใจที่ได้ทำงานสำคัญของโลกครั้งนี้ ชาวฟิลิปปินส์โชคดีเหลือเกินที่ได้จัดงานนี้
เราควรเขียนประวัติศาสตร์ ด้วยงานจุดประทีปแห่งสันติภาพ”
หลังจากเลิกงาน ชาวเมืองสะวันน่ายังได้ขอนำโคมไม้ไผ่จากในงานไปจุดเทียนปักไว้ที่หน้าบ้านของตน แสดงให้เห็นว่า แสงแห่งสันติภาพยังคงประทับอยู่ ณ ที่แห่งนี้ต่อไป และที่แน่นอนงานครั้งนี้อยู่ในสายตาของสื่อมวลชนทั่วโลก ที่เดินทางมาทำข่าว และถ่ายทอดภาพประวัติศาสตร์ไปสู่สายตาชาวโลก
สื่อต่างๆ พาดหัวข่าวหน้าหนึ่ง ถึงภาพประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นที่ สะวันน่า
ชาวปินอย..นี่ล่ะจ้า จะเป็นส่วนสำคัญ ที่จะช่วยสร้างสันติภาพโลกจากสันติสุขภายใน
รับชมคลิปวิดีโอ 
http://goo.gl/V42hLu
พิมพ์บทความนี้
