วันพระที่ศรีลังกาประเทศศรีลังกา มีพระพุทธศาสนา เป็นศาสนาประจำชาติ โดยศาสนาพุทธเข้าสู่ศรีลังกาในพุทธศตวรรษที่3 (ประมาณ 2,200ปี มาแล้ว) ชาวศรีลังกา มีความภาคภูมิใจมาก ที่ประเทศนี้เป็นที่รวมของสิ่งซึ่งเตือนใจให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า อาทิ พระเขี้ยวแก้ว ต้นพระศรีมหาโพธิ์ และศาสนสถานต่างๆต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่เมืองอนุราปุระ มีความสำคัญมากในประวัติศาสตร์พุทธศาสนา เพราะมีอายุเก่าแก่ที่สุดในโลก ในเวลาเย็นของทุกๆวัน ชาวพุทธศรีลังกาทุกเพศ ทุกวัย ต่างพากันเดินถือดอกไม้ เช่น ดอกบัว และดอกพุด ใส่ถาดเล็กๆ สำหรับการบูชา แล้วนั่งเรียงรายอยู่บริเวณรอบๆ ลานต้นพระศรีมหาโพธิ์ เพื่อสวดมนต์ บางคนถือหม้อน้ำมาด้วย เพื่อนำมารดบริเวณใกล้ๆโคนต้นบริเวณด้านหน้าทางเข้าสู่ต้น พระศรีมหาโพธิ์ ณ เมืองอนุราธปุระ
เป็นต้นโพธิ์ที่มีอายุมากที่สุดในโลกต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นนี้ จึงเป็นเสมือนหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต ยืนยันการเข้ามาของพุทธศาสนาบนเกาะศรีลังกา และต้นโพธิ์ทั้งหมดบนเกาะนี้ รวมถึงต้นโพธิ์ในประเทศพม่าและไทย ก็ล้วนขยายพันธุ์มาจากพระศรีมหาโพธิ์ต้นนี้ทั้งสิ้น แม้แต่ในทำเนียบ ก็ยังมีการปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ไว้เพื่อสักการบูชาท่านประธานาธิบดี นำคณะจาก วัดพระธรรมกาย
บูชาต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งปลูกไว้ในบริเวณทำเนียบวัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว ที่เมืองแคนดี้ เป็นที่ประดิษฐาน พระเขี้ยวแก้ว (พระทันตธาตุ (ฟัน) ของพระพุทธเจ้า) มีประเพณีการนมัสการพระเขี้ยวแก้วเป็นประจำทุกวัน เช่นเดียวกัน โดยในเวลาประมาณ 6โมงเย็น ผู้คนจำนวนมากจะถือดอกไม้ เช่น ดอกบัว หรือถาดดอกไม้เล็กๆ เพื่อนำมาบูชาพระเขี้ยวแก้ว เมื่อถึงเวลานมัสการ จะมีชายกลุ่มหนึ่งแต่งกายด้วยชุดพื้นเมือง ตีกลองและเป่าเครื่องดนตรีอยู่บริเวณห้องโถงหน้าประตูวิหาร เพื่อเป็นการบูชาด้วยศรัทธาพิธีฉลอง พระเขี้ยวแก้ว ที่เมืองแคนดี้อาจจะมีคนคิดว่า การเข้าวัดฟังธรรมเป็นเรื่องของสว. (สูงวัย) แต่ชาวศรีลังกาไม่คิดเช่นนั้น เพราะลูกเด็กเล็กแดงในประเทศนี้ จะตามพ่อ-แม่ไปวัดตั้งแต่ยังเป็นทารก รวมทั้งยังถืออุโบสถศีลตามพ่อ-แม่ด้วย โดยเด็กๆจะถือศีลแปดจนถึงเวลา 6โมงเย็นของทุกวันพระ แม้เมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่น ก็จะไปวัดกับเพื่อนๆ ภาพที่พบเห็นเป็นประจำ คือ ภาพวัยรุ่นหนุ่มสาว เดินกันมาเป็นคู่หรือเป็นกลุ่ม มือถือดอกบัว หรือถาดใส่ดอกไม้เพื่อจะนำไปบูชาพระ ที่เป็นเช่นนี้ไม่ใช่เพราะเขาไม่มีที่ไปเที่ยว แต่เป็นเพราะพวกเขาถูกปลูกฝังมาว่า วัดคือสถานที่ที่ดีที่สุด หากรักใครชอบใครก็ต้องชวนกันไปทำบุญที่วัดการจัดดอกไม้บูชา ซึ่งมีแบบอย่างเฉพาะ ชาวศรีลังกาจะจัดเรียงดอกไม้ที่ลิดกิ่งและใบออก วางบนภาชนะหรือจัดเรียงบนพื้นหน้าพระประธาน โดยไม่หล่อน้ำไว้เพื่อใช้ความเหี่ยวเฉาของดอกไม้ เตือนใจให้นึกถึงสังขารอันไม่เที่ยงแท้แน่นอนนอกจากนี้ภาพของครอบครัวพ่อ-แม่-ลูก หรือปู่-ย่า-ตา-ยาย ที่พาลูกหลานมาวัด ก็มีให้เห็นมากมาย เมื่อเข้าสู่บริเวณวัดแล้ว พวกเขามักจะถอดรองเท้า เพื่อแสดงความเคารพ สถานที่บางแห่งจะมีลานสำหรับล้างเท้าก่อนเข้าสู่พุทธสถานให้ด้วยภาพที่น่าประทับใจเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นถึงการหล่อหลอมความอ่อนโยน อ่อนน้อม ด้วยวัฒนธรรมประเพณีของศาสนาตั้งแต่วัยเยาว์ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญของจิตใจ เมื่อเติบใหญ่ก็สืบทอดต่อให้กับคนรุ่นใหม่ รุ่นแล้วรุ่นเล่า และเป็นเครื่องยืนยันถึงความศรัทธาอย่างมั่นคง และยิ่งใหญ่ที่พวกเขามีต่อพระพุทธศาสนาแม้แต่ผู้นำของประเทศนี้ ก็เป็นต้นแบบที่ดีของพุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะ ท่านประธานาธิบดี มหินธะ ราชปักษา (Mahinda Rajapaksa)ท่านประธานาธิบดี มหินธะ ได้รับคะแนนเสียงท่วมท้น จากการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2548 ด้วยนโยบายเด่นที่นอกเหนือไปจากการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ก็คือ การประกาศให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนาในทุกๆรูปแบบ รวมทั้งนำหลักธรรมมาใช้ในการปกครองประเทศเนื่องจากว่า ทุกๆวันพระ 15ค่ำ ถูกกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการ นอกเหนือไปจากวันเสาร์และวันอาทิตย์มาเนิ่นนาน มีบันทึกไว้ว่า กษัตริย์องค์หนึ่งได้ออกกฎหมาย "มาฆาตะ" คือ ห้ามฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนชีวิตสัตว์ จนอาชีพนายพรานได้ล่มสลายไปจากระบบการหาเลี้ยงชีพ นายพรานจึงตกงานต้องไปทำอย่างอื่นแทน และต่อมาในยุคหลังก็มีกฎหมายว่า ให้งดโฆษณาและขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกวันพระ ร้านเหล้า ผับต่างๆก็ต้องปิดกิจการในวันนี้และด้วยการทำงานอย่างจริงจังของรัฐบาลชุดนี้ ปัจจุบันศรีลังกา จึงมีอัตราการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลงไปถึงร้อยละ40 และอัตราการสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะ ลดลงไปถึงร้อยละ95 นับเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียที่สามารถลดอัตราการบริโภคแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ลงได้นอกจากนี้ รัฐบาลศรีลังกา ยังพยายามควบคุมอัตราการเกิดโรคไม่ติดต่อ (Non-communicable-diseases) โดยใช้มาตรการการ ลดอัตราการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ รวมทั้งได้ออกกฎหมาย พระราชบัญญัติควบคุมบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย นับเป็นประเทศที่4 ในโลกที่ได้ที่ใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่ รัฐบาลเขาเข้มและเอาจริงกับเรื่องนี้มากทุกๆวันพระขึ้น 15ค่ำ ท่านประธานาธิบดี พร้อมด้วยภรรยา จะเปิดทำเนียบ นิมนต์พระมาแสดงธรรม และได้เชิญชวนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการและครอบครัวมาร่วมฟังธรรมด้วย โดยการฟังธรรมนี้ จะถูกถ่ายทอดไปทางสถานีโทรทัศน์ ให้ประชาชนรับฟังพร้อมกันทั่วประเทศ นับเป็นต้นแบบที่ดีเยี่ยม ในการทำหน้าที่ของผู้นำประเทศ ผู้เป็นกัลยาณมิตร คัดสรรสิ่งดีๆให้กับประชาชนอย่างแท้จริงท่านประธานาธิบดี พร้อมด้วยภรรยา และคณะรัฐมนตรี นั่งฟังธรรมในทำเนียบ
และมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ ไปทั่วประเทศ
http://goo.gl/8xhLW