พันธกิจพิศษระดับสุดยอด

พีซ เรฟโวลูชั่น : สเปเชียล ออป
พันธกิจพิศษระดับสุดยอด
เพื่อการฟื้นฟูศีลธรรมและวัฒนธรรมสันติภาพสากล 

 

สเปเชียล ออป (Special OPs) เป็นคำที่ใช้ในทางทหาร สำหรับพันธกิจพิเศษ (Mission) ระดับสุดยอดของหน่วยรบพิเศษที่มีขีดความสามารถระดับสูง เช่น การจารกรรมข่าว ทำลายค่ายจู่โจม เป็นต้น แต่ ณ วันนี้สเปเชียล ออป จะถูกนิยามใหม่ เพื่อใช้กับการฟื้นฟูศีลธรรมอย่างฉับพลันในโครงการพีซ เรฟโวลูชั่นครับ

สเปเชียล ออป เป็นเกณฑ์สำคัญอีกข้อหนึ่ง ที่ทีมงานใช้คัดเลือกเยาวชนเพื่อเดินทางมาร่วมนั่งสมาธิและทำกิจกรรมสัมมนาพีซ เรฟโวลูชั่นที่ประเทศไทย  พันธกิจที่เยาวชนจะได้รับก็คือ การใช้ภาษาแห่งสันติภาพหรือพีซ แลงเกวด (Peace Language) ซึ่งเป็นภาษาที่ไม่ต้องพูด แต่ให้นั่งหลับตาเพื่อมองกลับเข้าไปภายใน และต้องชักชวนทุกคนในครอบครัวใช้ภาษาแห่งสันติภาพนี้ด้วย และแผ่ขยายออกไปเป็นเครือข่ายสันติภาพยังประเทศของตน เรามาฟังตัวอย่างสเปเชียล ออปกันดีกว่าครับ

ลูซ มาเรีย แอมพูเอโร่ และเออซูล่า เลย์ว่า สองสาวเพื่อนรักตัวแทนเยาวชนจากประเทศเปรูได้ตอบรับจะปฏิบัติพันธกิจพิเศษนี้ทันที   ลูซ  มาเรีย กล่าวว่า “ชุมชนของฉัน ผู้คนมีแต่ความเครียด และก้าวร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันคิดว่าสมาธิจะช่วยทำให้ทุกคนผ่อนคลายมากขึ้น” ส่วน เออซูล่า กล่าวว่า “นี่เป็นโอกาศอันดีที่ชาวเปรูจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสมาธิ และเข้าใจว่าสันติภาพที่พวกเขาแสวงหาที่แท้จริงนั้นมาจากใจของพวกเขาเอง” จากนั้นสองสาวก็ได้ช่วยกันวางแผนทำใบปลิวและนำไปแจกให้กับชาวเปรูในตลาดกลางกรุง, ลิม่า

ลูซ มาเรีย (เสื้อขาว) และเออซูล่า (เสื้อม่วง) แจกใบปลิวเชิญชวนชาวเปรูในกรุงลิม่านั่งสมาธิ

โดยสามารถชวนคนมานั่งสมาธิได้ถึง 18 คนและใช้บ้านของตัวเองในการรวมคนนั่งสมาธิ โดยนั่งสมาธิตามวิธีที่บอกไว้ในเว็บไซต์พีซเรฟโวลูชั่น เช่น นึกถึง ดวงอาทิตย์   แสงเทียน  และแผ่ขยายความรักให้คลุมโลกใบนี้ เมื่อนั่งสมาธิเสร็จทุกคนต่างผ่อนคลายจากการทำสมาธิ และอยากให้มีครั้งต่อไปอีกอย่างแน่นอน

ลูซ มาเรีย, เออซูล่า และชาวเปรูในกรุงลิม่ารวม 18 คน นั่งสมาธิร่วมกัน

ในอีกซีกโลกหนึ่ง ท่ามกลางความวุ่นวายของสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในทวีปอาฟริกา ประเทศคองโกเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ต้องสูญเสียน้ำตาแห่งความเจ็บช้ำที่เกิดจากสงครามกลางเมืองเหล่านี้  เฟรด เอมมานูเอล หรือ เฟรมม่า เยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการชาวอูกันด้า ได้ตอบรับพันธกิจพิเศษของพีซ เรฟโวลูชั่น และขันอาสาที่จะนำสมาธิไปสอนในค่ายผู้ลี้ภัยสำหรับชาวคองโกที่ชื่อ “นากิเวล” และ “กิซูล่า” ทั้งสองค่ายอยู่ห่างจากเมืองหลวงคัมปาล่าของอูกันด้า ไปทางตะวันตก ใช้เวลาเดินทางด้วยรถ 8 ชม บนถนนลูกรังที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ

ค่ายผู้ลี้ภัยที่นากิเวล สร้างโดย UNHCR หรือข้าหลวงผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ

เฟรมม่ากล่าวว่า “ผู้ลี้ภัยต่างก็เต็มไปด้วยความเครียด, รู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง และผิดหวังในชีวิต ผมต้องใช้เวลามากทีเดียวที่จะอธิบายให้เขาฟังว่าสมาธิจะดีต่อพวกเขาอย่างไร

 

 

เฟรมม่า (เสื้อเหลือง) และผู้คุม กุสตาว่า (เสื้อน้ำเงิน)
หน้าออพฟิศของเธอที่ค่ายผู้ลี้ภัย “นากิเวล”
ในชายแดนประเทศอูกันด้า

ผมได้แนะนำตัวจากผู้คุมค่ายชื่อ กุสตาเวีย ว่า “ผมเป็นตัวแทนเยาวชนจากสันติภาพโลก และจะไปร่วมงานมาฆบูชาที่ประเทศไทย ผมต้องการแนะนำสมาธิให้กับคนในประเทศของผมและคิดว่าผู้ลี้ภัยเหล่านี้จะมีสันติสุขภายในขึ้นมาได้ด้วยการทำสมาธิ” ในทีแรกคุณกุสตาเวียไม่เห็นด้วย เธอกล่าวว่า “เร็วๆ นี้มีการระบาดของอหิวาตกโรค และมีคดีข่มขืนถึง 13 คดี เธอไม่คิดว่าคนเหล่านี้จะมีสภาพจิตใจดีพอที่จะเรียนสมาธิ”

 

 

เด็กๆ ชาวคองโก ที่ค่ายผู้ลี้ภัย

 

ผมบอกเธอว่านี่แหละเป็นเหตุผลที่ทำไมผมต้องมาที่นี่ ผมได้เริ่มแนะนำสมาธิ โดยให้เด็กๆ นึกเปลวเทียนไว้ในท้อง แต่สอนไปได้ไม่เท่าไหร่ คุณกุสตาเวียก็มาบอกว่าให้เลิกซะ เพราะว่าค่ายผู้ลี้ภัยเต็มไปด้วยกระท่อมอยู่ใกล้ๆ กันเต็มไปหมด ซึ่งอาจจะเกิดไฟไหม้ได้หากเด็กทุกคน นึกเปลวเทียนไว้ในท้องพร้อมๆ กัน ผมเลยแนะนำให้นึกถึงสิ่งที่พวกเขาชอบแทนครับ

 

เฟรมม่ากำลังแนะนำเด็กๆ ผู้ลี้ภัยให้ลองนั่งหลับตาทำสมาธิ

 

เฟรมม่า (เสื้อเหลือง) กำลังแนะนำสมาธิให้กับกลุ่มหัวหน้าผู้ลี้ภัยชาวคองโก

หลังจากการนั่งสมาธิพวกเด็กๆ กล่าวว่า “นาซิเกีย มวิลี่ อีน่า ปูมูซิก้า” (Nasikia Mwili Ina Pumuzika) แปลว่า ร่างกายของฉันสดชื่นขึ้น เด็กๆ ต่างอยากให้ผมไปอีก เพราะการพูดให้กำลังใจของผมทำให้เด็กๆ เหล่านั้นมีความหวังที่จะใช้ชีวิตในโลกต่อไป และเชื่อว่าการทำสมาธิจะทำให้ชีวิตของเขามีความสุข

 

เด็กๆ เริ่มมีความสุขขึ้นหลังจากทำสมาธิ กำลังใช้กระป๋องน้ำมันเบนซินแทนกลอง และบอกให้ผมกลับมาให้กำลังใจ และสอนสมาธิให้กับพวกเขาอีก

เด็กๆยังขอให้ผมทำเสื้อเชิ้ตที่มีข้อความแห่งสันติภาพติดไว้ เพื่อที่พวกเขาจะสามารถใส่และแสดงให้โลกเห็นว่า พวกเขากำลังเจ็บปวดเพียงใดจากสงคราม และสามารถอ่านข้อความเพื่อเตือนตัวเอง และคนอื่นๆ ได้ว่าสันติภาพที่แท้จริงนั้นเกิดขึ้นที่ใจของพวกเขาเอง  

ก่อนที่ผมจะกลับคุณกุสตาเวีย ผู้คุมกล่าวว่า “เราขอขอบคุณพระเจ้าที่ส่งคุณมาสอนสมาธิ และมีคำพูดดีๆให้กำลังใจพวกเรามีความสุข อยากให้คุณกลับมาอีกหลังจากที่คุณกลับมาจากการเรียนสมาธิที่ประเทศไทย เรารู้ว่าที่นั่นมีคนดีมากมาย ซึ่งมีความเป็นห่วงเป็นใยเพื่อนมนุษย์ และต่อสู่เพื่อสันติภาพอยู่ เราอยากรู้ว่าคนไทยเหล่านี้ต่อสู้เพื่อสันติภาพอย่างไร เราขอให้คุณบอกคนไทยเหล่านี้ว่า “ทูน่า ทาก้า อามานี่” แปลว่าพวกเราต้องการสันติภาพจริงๆ

นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของสเปเชี่ยล ออป ซึ่งเยาวชนตัวแทนสันติภาพเหล่านี้เปรียบเสมือนทหารหน่วยรบพิเศษของกองทัพธรรม หลังจากเข้ารับการอบรมวิธีการทำสมาธิที่ถูกต้องจากโครงการเดอะมิดเดิ้ลเวย์ที่ประเทศไทย และเข้ารับการอบรมศีลธรรมจากคุณครูไม่เล็กแล้ว ย่อมสามารถรับพันธกิจจากคุณครูไม่ใหญ่ไปปฏิบัติในประเทศของตน เพื่อยังจักรแห่งธรรมให้หมุนไปจนกว่าสันติภาพที่แท้จริงจะบังเกิดขึ้นครับ      

 

กราบแทบเท้ามาด้วยความเคารพอย่างสูง ทีมงานพีซ เรฟโวลูชั่น

 

http://goo.gl/KJsPP