ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 14 กันยายน พ.ศ.2554ชีวิตก็เป็นอย่างนี้ปรโลกนิวส์... ชีวิตก็เป็นอย่างนี้เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาฝันในฝันหลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ทีแล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะคำถามข้อที่ 1. คตินิมิตของคุณแม่เป็นอย่างไร หลังจากตายแล้ว ท่านมาแวะที่บ้านหรือไม่ ตอนนี้ท่านอยู่ที่ไหน ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่คะก่อนที่คุณแม่ของลูกจะเสียชีวิต ท่านมีความทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็งที่ทรวงอกมาโดยตลอด เพราะไม่ว่าท่านจะทานยาหรือรักษาอย่างไรก็ตาม ความทุกข์ทรมานอันเกิดจากโรคมะเร็งที่ท่านเป็นก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลงไปเลย จนกระทั่งในคืนที่คุณแม่ของลูกจะเสียชีวิต ท่านมีความทุกข์ทรมานด้วยโรคมะเร็งที่ทรวงอกเป็นอย่างมาก และเมื่อความทุกข์ทรมานนี้ได้เพิ่มมากขึ้นจนกายหยาบของท่านรับไม่ไหว ท่านจึงหมดสติและเสียชีวิตไปในที่สุด ก่อนที่คุณแม่ของลูกจะเสียชีวิต ท่านมีความทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็งที่ทรวงอกมาโดยตลอดทันทีที่คุณแม่ของลูกได้เสียชีวิตไปแล้ว กายละเอียดของท่านได้หลุดออกจากร่างมายืนอยู่ข้างๆกายหยาบของตัวท่านเอง ด้วยอาการที่มึนๆงงๆและยังไม่รู้สึกตัวว่า “ตนเองได้เสียชีวิตไปแล้ว” จากนั้น กายละเอียดของคุณแม่ของลูกได้เดินไปเดินมาอยู่ภายในบ้าน ด้วยความรู้สึกดีใจและประหลาดใจเป็นอย่างมากว่า ทำไมอาการเจ็บปวดที่แสนจะทุกข์ทรมานซึ่งเกิดจากโรคมะเร็งจึงได้หายไปเป็นปลิดทิ้ง นอกจากความเจ็บปวดทุกข์ทรมานที่ท่านได้รับจะหายไปเป็นปลิดทิ้งแล้ว ท่านยังสามารถเดินไปเดินมาได้อย่างคล่องแคล่วเหมือนกับคนปกติอีกด้วย แม้ในตอนนั้นกายละเอียดของคุณแม่ของลูกจะยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงว่า เกิดอะไรขึ้นกับตัวท่านก็ตาม แต่ท่านก็รู้สึกตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างยิ่งกับความรู้สึกดีๆที่เกิดขึ้นกับตัวท่านในตอนนั้นทันทีที่คุณแม่ของลูกได้เสียชีวิตไปแล้ว กายละเอียดของท่านได้หลุดออกจากร่างมายืนอยู่ข้างๆกายหยาบของตัวท่านเองด้วยความที่กายละเอียดของคุณแม่ของลูกมีความรู้สึกตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างยิ่งนี้เอง ท่านจึงรีบเดินไปหาลูกๆของท่าน เพื่อที่จะบอกให้ลูกๆของท่านรู้ว่า ในตอนนี้ท่านหายป่วยแล้ว แต่ทว่าในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลากลางคืน ดังนั้น สมาชิกทุกคนที่อยู่ในบ้านจึงยังหลับและพักผ่อนกันอยู่ เมื่อเป็นเช่นนี้กายละเอียดของคุณแม่ของลูกจึงเดินไปปลุกลูกๆของท่านที่นอนอยู่ในบ้านทีละคนๆ แต่ไม่ว่าท่านจะปลุกลูกๆด้วยวิธีการใดก็ตาม แต่ไม่มีลูกๆของท่านคนไหนตื่นขึ้นมารับรู้และรับทราบในสิ่งที่ท่านต้องการจะบอกได้เลยกายละเอียดของคุณแม่ของลูกเดินไปปลุกลูกๆของท่านที่นอนอยู่ในบ้านทีละคนๆในตอนนั้น ภายในใจของกายละเอียดของคุณแม่ของลูกคิดแค่เพียงว่า สงสัยลูกๆของท่านคงจะเหน็ดเหนื่อย, อ่อนเพลีย และคงจะง่วงกันมาก ท่านจึงปลุกลูกๆไม่ตื่นเลยสักคน เมื่อเป็นเช่นนี้ท่านจึงได้เดินไปเดินมาอยู่ในบ้าน ในเวลาต่อมา เมื่อลูกๆของท่านเริ่มตื่นขึ้น กายละเอียดของคุณแม่ของลูกก็เห็นลูกๆของท่านมารุมล้อมบางสิ่งบางอย่างตรงบริเวณที่ท่านเคยนอนป่วยอยู่ แล้วท่านก็เริ่มเห็นทุกคนในบ้านร้องไห้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านจึงรีบเดินเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับทุกคน ทำไมทุกคนในบ้านต้องร้องไห้ ทันใดนั้นเอง กายละเอียดของคุณแม่ของลูกก็ได้เห็นร่างของท่านนอนเสียชีวิตสงบนิ่งอยู่ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ท่านรู้สึกตัวในทันทีว่า “ตนเองได้เสียชีวิตไปแล้ว”กายละเอียดของคุณแม่ของลูกได้เห็นร่างของท่านนอนเสียชีวิตสงบนิ่งอยู่ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ท่านรู้สึกตัวในทันทีว่า “ตนเองได้เสียชีวิตไปแล้ว”ภายหลังจากที่กายละเอียดของคุณแม่ของลูกรู้สึกตัวแล้วว่า “ตนเองได้เสียชีวิตไปแล้ว” ท่านจึงเริ่มตั้งสติและมองดูลูกๆที่กำลังร้องไห้และเสียใจ ด้วยดวงตาและดวงใจที่มีแต่ความรักและความห่วงใยในตัวลูกๆ ของท่านทุกคนอยู่ตลอดเวลา เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านจึงได้ตามไปอยู่ข้างๆลูกๆ เพื่อคอยปลอบพวกเขาไม่ให้ร้องไห้และเสียใจ จนกระทั่งวันเวลาได้ล่วงเลยผ่านไป กายละเอียดของคุณแม่ของลูกก็ยังคงวนเวียนอยู่ภายในบ้านและยังไม่ไปบังเกิดอยู่ในภพภูมิอื่น สาเหตุที่ทำให้ท่านยังคงวนเวียนอยู่ภายในบ้านและยังไม่ไปบังเกิดอยู่ในภพภูมิอื่น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะสาเหตุหลักๆทั้งหมด 4 ประการที่มารวมกันส่งผลกายละเอียดของคุณแม่ของลูกพยายามปลอบใจลูกๆไม่ให้เสียใจกับการเสียชีวิตของท่านโปรดติดตามตอนต่อไปรับชมคลิปวิดีโอ  ชีวิตก็เป็นอย่างนี้ ตอนที่ 2
http://goo.gl/t2Igm