ตอน คิด พูด และทำ อย่างผู้ชนะชีวิตของเราคือเงาของความคิด นั่นก็หมายความว่า ถ้าเราอยากได้ชีวิตเป็นอย่างไร ก็ต้องเริ่มปรับกันตั้งแต่ความคิดเลยค่ะ และแน่นอนค่ะว่ามนุษย์ทุกคนในโลกนี้ ล้วนแล้วอยากให้ตนเองชนะ ไม่ได้อยากเป็นผู้แพ้ แต่จะเป็นผู้ชนะได้อย่างไร ต้องเริ่มตั้งแต่ความคิดว่า แล้วจะปรับโหมดความคิดของเราอย่างไร ให้ตรงกับความคิดของผู้ชนะ ดังนั้นวันนี้เราเลยมาพูดคุยกันในเรื่องคิดอย่างผู้ชนะ แต่ก่อนที่จะถึงความคิดของเค้านะค่ะ มาดูคำจำกัดความก่อนดีกว่า ว่าผู้ชนะเค้าคิดกันอย่างไรถ้าเราขืนไปใช้คำจำกัดความเรื่องผู้ชนะของใครคนหนึ่งจะไม่สมบูรณ์ เราลองไปดูของ Frank LuntzFrank Luntzซึ่งเค้าได้รวบรวมจากการวิจัย แล้วก็การสอบถามจากบุคคลที่ประสบความสำเร็จในโลกนี้ ในวงการ แต่ละวงการว่าเค้าให้คำจำกัดความของคำว่าผู้ชนะอย่างไรบ้าง แล้วในที่สุดก็รวบรวมออกมาได้ทั้งหมด 15 คำจำกัดความ เพราะฉะนั้นจะประกอบด้วยอะไรบ้าง เราก็ว่าเป็นข้อๆ เลยคำจำกัดความคำว่าผู้ชนะ 15 ข้อ คือคำจำกัดความคำว่าผู้ชนะ1.ผู้ที่สามารถเข้าถึงจิตใจคนได้ในทุกสถานการณ์2.ผู้ที่รู้ว่าควรถามคำถามใดในเวลาที่เหมาะสม3.ผู้ที่มองเห็นในสิ่งที่ผู้อื่นมองไม่เห็นและสามารถนำมาประยุกต์ใช้จนก่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมได้4.ผู้ที่มองเห็นโอกาสต่างๆ สิ่งท้าทาย และมีแผนสำรองหรือวิธีการแก้ไขสำหรับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น5.ผู้ที่สามารถแยกแยะสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดออกจากสิ่งที่สำคัญทั้งหมด รู้ว่าเป้าหมายหลักจริงๆคืออะไร6.ผู้ที่สามารถชักจูงจิตใจให้คนอยากมาทำงานร่วมกันและอยากทำงานให้ดียิ่งขึ้นไปอีก7.ผู้ที่สามารถถ่ายทอดความคิดและวิสัยทัศน์ของตนเองออกมาให้ผู้อื่นรับรู้ ตระหนักถึงประโยชน์ มีศิลปะในการจูงใจ8.ผู้ที่ยังคงต่อสู้ไปในขณะที่คนอื่นถอดใจไปแล้ว9.ผู้ที่สามารถทำความรู้จักกับผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วเสมือนว่ารู้จักกันมานานหลายสิบปี10.ผู้ที่ไม่มีคำว่า”เป็นไปไม่ได้” อยู่ในระบบความคิด11.ผู้ที่มีความกล้าหาญและมุ่งมั่นที่จะเดินต่อไป แม้ว่าในระหว่างทางจะต้องเจอกับสิ่งที่ไม่แน่นอนก็ตามที12.ผู้ที่มีเสน่ห์ ใครๆก็อยากเข้ามาเสวนาด้วย13.ผู้ที่ยอมรับความพ่ายแพ้ได้ โดยไม่โยนความผิดให้ผู้อื่นหรือจมปลักอยู่กับความล้มเหลวจนไม่สามารถก้าวต่อไปได้14.ผู้ที่มองโลกในแง่ดีเขาเชื่อมั่นว่ามีโอกาสรอคอยเขาอยู่เพียงแต่ตอนนี้เขาจะต้องพัฒนาตนเองให้สมควรที่จะได้รับโอกาสนั้นๆ ในอนาคต15.ผู้ที่เชื่อว่ามีชีวิตและการเกิดเป็นมนุษย์จะเป็นหนทางที่จะช่วยให้เขาได้พัฒนาจิตวิญญาณของตนเองหลักการของผู้ชนะ มี 9 ประการ1.มีความสนใจเรื่อง “คน” คือสนใจว่าสิ่งที่คนอื่นพูด พูดเรื่องอะไร แล้วยังสนใจว่ารายละเอียดของบุคคลนั้นๆได้ สามารถทักได้ว่าเขาคนนั้นชื่ออะไร จำวัน เดือน ปี เกิดได้ ถึงเวลามีเหตุการณ์สำคัญๆ ไม่ลืมที่จะทักจะถาม จะให้สิ่งของหรือให้กำลังใจ สนใจในรายละเอียดของบุคคล มองคนอื่นเหมือนกับว่าเป็นบุคคลที่ควรจะได้รับการสนใจไปหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นคนในระดับไหนก็ตาม แล้วก็มีความเคารพในความเป็นมนุษย์ของคนอื่นด้วย ไม่ดูถูกคนอื่นสนใจในรายละเอียดของบุคคล2.การไม่ยึดมั่นถือมั่นในกรอบความคิด หรือมุมมองใดมุมมองหนึ่ง ผู้ที่จะเป็นผู้ชนะจะต้องมีความพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง ถ้าหากว่าสิ่งใด ไปต่อไม่ได้ก็พร้อมที่จะล้มกระดานใหม่เลยทันที โดยไม่ได้คิดว่าสูญเสีย เสียหน้า เป็นการมองเป้าหมายเป็นหลัก ถ้าสิ่งไหนไม่ใช่ก็คว่ำกระดานใหม่ มีความกล้าเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่าความพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง3.รู้จักจัดความสำคัญ ก่อนหลัง เพราะฉะนั้นผู้ที่เป็นผู้ชนะต้องรู้ว่าสิ่งใดควรทำ และสิ่งใดต้องทำ แล้วยังต้องแยกออกว่า ทำเมื่อไหร่ คือทำในเวลาที่เหมาะสม แล้วก็ไม่มีการผัดวันประกันพรุ่ง ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเลื่อน ในขณะเดียวกันก็ไม่ปล่อยให้เวลาสูญเสียไปโดยไร้ประโยชน์รู้จักจัดความสำคัญ ก่อนหลัง4.คลั่งไคล้ความสมบูรณ์แบบ ไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้ใน พจนานุกรม มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งคลั่งไคล้ความสมบูรณ์แบบ5.เชื่อว่าความสำเร็จของเขาที่ผ่านมาเกิดจากความร่วมมือซึ่งกันและกัน ตระหนักว่าความสำเร็จที่ผ่านๆมา จะไม่สามารถเกิดขึ้นๆได้ หรือไม่สามารถยืนอยู่ในจุดนี้ได้เลย ถ้าปราศจากทีมงานที่ดีเชื่อว่าความสำเร็จของเขาเกิดจากความร่วมมือ6.มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะประสบความสำเร็จ รู้ว่าจะต้องไปในทิศทางไหนอย่างไร ผู้ชนะนี้มีเป้าหมายอย่างชัดเจนและถูก คำว่าเป้าหมายที่ถูกคือ การเอาประโยชน์ของส่วนรวมมีความปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จ7.ความสามารถที่จะชักจูงคนอื่นให้เชื่อในสิ่งที่เราพูด ปฏิบัติตาม และมีความศรัทธาในตัวเรา จะเป็นอย่างนั้นได้ผู้นำต้องมีความดีอย่างคงเส้นคงวา จนเป็นที่ตั้งศรัทธาความสามารถที่จะชักจูงคนอื่น8.มีความมุ่งมั่นไม่ท้อถอย รู้จักเรียนรู้จากข้อผิดพลาดอยู่เสมอ มองว่าปัญหาและอุปสรรค์นั้น ทำให้ตนเองมีสติปัญญา และมีวิธีการทำงานที่ดีขึ้น โดยไม่คิดท้อถอยมีความมุ่งมั่นไม่ท้อถอย9.มีหลักการทางคุณธรรมและจริยธรรมมีคุณธรรมและจริยธรรมจากคุณสมบัติทั้ง 15 ข้อ และหลักคิดอีก 9 ข้อ จะเห็นได้ว่า ผู้ชนะที่แท้จริงนั้น ไม่ว่าจะชนะอะไรก็ตาม ถ้าชนะใจคนไม่ได้ ก็เป็นผู้แพ้ ลองมาดูข้อคิดของผู้ชนะทางธรรมกันเลยใครๆในโลกล้วนแล้วก็อยากเป็นผู้ชนะทั้งนั้น แต่จะทำอย่างไรถึงจะเป็นผู้ชนะได้ ทั้งด้วยการคิด พูด และทำ อย่างผู้ชนะมีทฤษฎีเรื่องนี้มากมาย แต่จะขอฝากไว้ย่อๆว่า เราจะเป็นผู้ชนะได้นั้น ต้อง คิด พูด ทำ อย่าง Active ถ้าแปลเป็นไทยก็ คิด พูด และทำ อย่างเป็นผู้กระทำ อย่าคิด พูด และทำ อย่าง Passive คืออย่างผู้ถูกกระทำ ถ้าเปรียบกับเด็กนักเรียนก็จะเหมือนกับถูกกระทำ คือ ถูกระบบบังคับให้เรียน ระบบรากไปจูงไป แบบนี้ละก็ ยากที่จะประสบความสำเร็จ แต่ถ้าเป็นนักเรียนแบบ Active รู้สึกสนุกไปกับการเรียนคิด พูด ทำ อย่าง Active และ Pssiveต่อให้เป็นกรรมกร ทำอย่าง Passive ก็จะเป็นคนงานก่อสร้างระดับล่างๆตลอดชาติ แต่ถ้าคนไหนทำงานอย่าง Active เหมือนเป็นเจ้าของงาน ใส่ใจทำ งานที่ออกมาจะเนี๊ยบแล้วก็จะดี แล้วความเนี๊ยบ ความดีมันจะสั่งสมตัวเอง จนทำอะไรๆ มาตรฐานก็จะเกิดขึ้น ฝีมือจะพัฒนาตลอดเวลา ถ้าทำอย่างตั้งใจ ถ้าเราทำงานอะไรก็แล้วแต่ ถ้าทำอย่างเป็นเจ้าของงาน ใส่ใจทำ อย่างเป็นผู้กระทำ เราจะเก่งขึ้นเรื่อยๆ แล้วความสำเร็จจะเป็นของเรา เราจะเป็นผู้ชนะในแวดวงการทำงานเราจะเห็นว่า คนเก่งๆที่ประสบความสำเร็จทุกคน จะเป็นคนที่ว่า ทำอะไรต้องทำให้ดี เพราะฉะนั้นการทำอะไรก็ตาม ทั้งคิด ทั้งพูด แล้วก็ทำ อย่าง Active นั่นแหละเป็นหนทางแห่งการเป็นผู้ชนะ แม้แต่การปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ(Meditation)ก็ตามโดยสรุปคือ จะทำอะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่างานทางโลกหรืองานทางธรรม ถ้าทำอย่างเป็นผู้กระทำ(Active ) ชนะ สำเร็จ ถ้าทำอย่างผู้ถูกกระทำ (Passive) ปล่อยให้ระบบรากไป จูงไป ทำอย่างไม่ได้เต็มอกเต็มใจ ไม่สำเร็จ ไม่ชนะ ซึ่งหลักนี้ถ้าว่าไปแล้ว ก็คือเรื่องของ อิทธิบาท 4 นั่นเอง ประกอบด้วยอิทธิบาท 41.ฉันทะ คือ มีความเต็มใจทำ ขยันหมั่นเพียร เห็นประโยชน์ ตั้งใจ เต็มใจทำ เริ่ม Active แล้ว2.วิริยะ คือ มีความเพียร ความขยัน3.จิตตะ คือ มีความตั้งใจ ใจจดจ่อ บางคนขยันนะ แต่ขยันแบบเปะปะ เพราะใจไม่จดจ่อ ความผิดจะออกมาเยอะ เพราะฉะนั้น เราต้องมีความใส่ใจกับสิ่งที่เราทำ มีสมาธิใจจดจ่อ ถึงจะทำได้ดี ถ้าเรานิ่งแล้วใจจดจ่อ เราจะเห็นรายละเอียดมากขึ้น4.วิมังสา คือ เข้าใจทำ คิดว่า งานชิ้นนี้ ทำอย่างไรจึงจะสำเร็จ เริ่มเห็น เริ่มศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ปรับปรุงวิธีการ พัฒนาไปเรื่อยๆ ครบ 4 ข้อนี้ สำเร็จหมดเลย แต่ถ้าเริ่มต้นแล้วบอก คิด พูด ทำ อย่างผู้ชนะ คือทำแบบอิทธิบาท 4 แล้ว ที่ยกตัวอย่าง Active Passive เพื่อให้ทุกคนนั้นตื่นตัว แต่ความจริงแล้วก็ไม่ได้เกินหลักของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ อิทธิบาท4 นี่เอง จะเป็นหนทางของผู้ชนะของพวกเราทุกๆคนรับชมวิดีโอ
http://goo.gl/axPbe