Mobile Versionผลปฏิบัติธรรม
กัลยาณมิตร เคลลี่ นิวตัน เวิร์ดสเวิร์ธ (ประเทศออสเตรเลีย)ฉันชื่อ เคลลี่ นิวตัน เวิร์ดสเวิร์ธ ฉันเป็นคริสตชนที่เคร่งครัดในคำสอน และอุทิศชีวิตให้พระเจ้ามาตั้งแต่ 19ปีที่แล้ว ฉันอยากพบพระเจ้าเป็นที่สุด ฉันอธิษฐานขอให้พระองค์นำทางชีวิตฉันมาตลอดจนกระทั่งปีนี้ ฉันได้มาเมืองไทย ซึ่งเป็นดินแดนที่มีอะไรดีๆ รอคอยให้ดิฉันพบเจอค่ะ คุณหม่อมแนะนำให้มา วัดพระธรรมกาย ฉันมาถึงวัดเมื่อเวลา 11.00น. พอ 13.00น. ฉันก็ได้เริ่มนั่งสมาธิ(Meditation) เพียงแค่หลับตา เอาใจไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่7 ฉันก็เห็นดวงกลมๆสว่างใส ฉันมีความสุขมาก เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างง่ายๆ โดยที่ฉันไม่รู้ล่วงหน้ามาก่อน พอหมดเวลานั่ง ก็มีคนนำหนังสือเล่มหนึ่งของวัดมาให้ฉันอ่าน ฉัน Surprise มากเพราะฉันเห็นภาพของดวงกลมๆใสๆในหนังสือ เหมือนที่ฉันเห็นในท้องแม้ตอนนั้น ฉันยังไม่เคยพบพระเดชพระคุณหลวงพ่อ แต่การที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้ถ่ายทอดวิธีการนั่งสมาธิผ่านพระอาจารย์มาถึงฉัน ก็เป็นเหตุผลเพียงพอแล้วที่จะทำให้ฉันรักพระเดชพระคุณหลวงพ่อจนกระทั่ง ฉันได้มาวัดอีก แวบแรกที่ฉันได้เห็นพระเดชพระคุณหลวงพ่อ โอ...ไม่น่าเชื่อเลย พระเดชพระคุณหลวงพ่ออายุ 63หรือ?...ผิวของท่านอย่างกับผิว baby เลย เสียงของท่านช่างนุ่มนวล อ่อนหวาน wonderful การพบพระเดชพระคุณหลวงพ่อทำให้ฉันอยากเรียนภาษาไทยมาก ฉันต้องพูดกับท่านเป็นภาษาไทยให้ได้ แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ฉันรู้สึกว่า ฉันเข้าใจอะไรตรงกับท่าน เหมือนได้พูดภาษาเดียวกันวัดพระธรรมกาย คือ ดินแดนที่พระเจ้านำทางให้ฉันมาถึง และทำให้พบพระเดชพระคุณหลวงพ่อ สมาธิ คือ ของขวัญที่พระเจ้ามอบให้ฉัน พระเจ้าให้เราค้นหาท่านด้วยการนั่งสมาธิ ฉันคิดว่า สติปัญญาต่างๆที่เข้ามาในชีวิตมาจากแหล่งของชีวิต (Source of life) ซึ่งฉันไม่รู้ว่าคนอื่นๆเรียกว่าอะไร แต่ฉันขอเรียกว่า “พระเจ้า” การจะได้พบพระองค์ต้องมีวิธีง่ายๆนี้แหล่ะ คนอื่นที่ยังไม่พบ เพราะไปทำวิธียากๆ แค่เอาใจมองเข้าไปในตัว แค่นี้ก็จะเข้าถึงสัมผัสแห่งพระเจ้าได้ ดังสิ่งที่ฉันได้พิสูจน์มาแล้วผลปฏิบัติธรรมแรกๆ ฉันหลับตาวางใจที่ศูนย์กลางกาย และเข้าไปในทะเลแห่งพลังงาน แล้วก็เห็นลูกบอลแห่งความรัก มีแสงสว่างเหมือนดวงดาวมากมาย บางครั้งเหมือนใช้กล้องส่องทางไกล ส่องเข้าไปในอวกาศ มองเห็นดวงดาวมากมาย เหมือนเห็นทั้งกาแล็คซี (Galaxy) ฉันรู้สึกสงบสุขและเหมือนตัวเองอยู่ที่จักรวาลโล่งๆ กว้างๆ สบายๆ ฉันเป็นศูนย์กลางของจักรวาล เป็นแสงสว่างที่อยู่ตรงกลางที่ทรงพลังมาก ความรู้สึกตัวภายในตื่นขึ้น หลังจากหลับใหลอยู่นาน ไม่ว่าตาจะเปิดหรือปิด ฉันก็สามารถอยู่ในศูนย์กลางกายได้ตลอด เป็นสิ่งที่ง่ายมาก ฉันผ่อนคลาย โดยไม่มีความกดดันฉันเห็นพระเดชพระคุณหลวงพ่อ อยู่ในศูนย์กลางกายตลอด ทุกอย่างที่ศูนย์กลางกายเป็นแบบ 3มิติ แต่ฉันก็ไม่เคยคาดหวังอะไรในการนั่งสมาธิ ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าอะไรจะเกิดขึ้น สนใจแค่ความนิ่ง แล้วฉันก็เห็นลูกบอลสีเงิน พุ่งขึ้นมาจากกลางกาย แล้วก็เห็นตัวฉันเองในท่านั่งสมาธิ แล้วก็มีพระอาทิตย์ในตัวฉันอีกที ฉัน Control speed ของชีวิตทั้งภายนอกและภายใน ได้อย่างมหัศจรรย์ปกติ เมื่อฉันทำสมาธิฉันจะสัมผัสถึงความนิ่ง (stillness) แต่วันนี้ฉันเข้าไปอยู่ในจุดที่ “นิ่งยิ่งกว่า” อยู่ใน “ความนิ่ง” ซึ่งไม่รู้จะใช้คำว่าอะไร ภาษามีขอบเขตจำกัดที่จะอธิบายความรู้สึกของมนุษย์จริงๆ แปลกจริงๆ แม้ใน “ความหยุดนิ่ง” ก็มี “ความหยุดนิ่งยิ่งกว่า” (stop in stop) ถ้าฉันพูดกับคนทั่วไป เขาคงจะหาว่าฉันบ้าแน่...ฉันรู้แล้วว่า ฉันเกิดมาเพื่อหยุดนิ่ง ฉันสามารถเคลื่อนไหวร่างกายภายนอก ในขณะที่ใจหยุดนิ่งได้บางครั้ง แสงสว่างภายในตัวฉันออกมาคล้ายๆกับคลื่นวิทยุ แผ่กระจายเป็นวงกว้างออกมาจากตรงกลาง คล้ายกับทำของตกลงบนผิวน้ำแล้วแผ่ขยายออกรอบๆ และแผ่ออกมาครั้งหนึ่งก็มีพลังงานที่ยิ่งใหญ่ออกมาด้วยโดยที่ฉันไม่ต้องใช้พลังงานอะไรเลยจนวันหนึ่ง ฉันไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส ขณะปั่นจักรยานอยู่ รู้สึกว่าใจค่อยๆหลุดเข้าไปในศูนย์กลางกาย เหมือนเข้าไปอยู่ในจักรวาล สักพัก ฉันเห็นแสงสว่างเหมือนแสงเทียนที่นิ่งแต่ทรงพลัง ฉันมองไปกลางแสงสว่างนั้นแล้ว ฉันก็เห็น เออ...Buddha สีทองเล็กๆ สดใส ดูสวยงาม ฉันสงบใจแล้วก็มองไปกลาง Buddha อีกที ฉันก็เห็นแสงสว่างนิ่งๆทรงพลังอีก แล้วเมื่อมองไปในกลางแสงก็เห็น Buddha สลับกันไปเรื่อยๆเป็นจังหวะ ฉันไม่ได้รู้สึกขัดแย้งอะไรที่ได้เห็นภาพนี้ แต่ภาพนี้ทำให้ฉันมีความสุขที่สุดในชีวิต วันนั้นฉันปั่นจักรยานไป 20กิโลเมตร แต่เหมือนกับไม่ได้ใช้พลังอะไรเลย ไม่เหนื่อยเลย********************การทำสมาธิเป็นเรื่องง่ายมาก หอมหวานและงดงาม ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ ทุกครั้งที่นั่งสมาธิ ฉันปล่อยวางเรื่องราวทุกสิ่งได้ทั้งหมด นี่คือเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ฉันได้ประสบการณ์ดีๆจากสมาธิ บางคนอาจนั่งสมาธิ เป็นสิบๆปี โดยไม่ได้ประสบการณ์อะไรเลย เป็นเพราะพวกเขาฟังคำของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ผ่านไปเฉยๆ โดยไม่ได้ทำความเข้าใจ แต่ฉันคิดว่า คนไทยคงฝึกสมาธิ และเข้าถึงประสบการณ์ดีๆกันทุกคนไม่มีใครในโลก หยุดฉันจากการนั่งสมาธิได้แล้ว ฉันรักสมาธิมาก เพราะนี่คือความสมดุล ฉันได้แต่งเพลงซึ่งเนื้อร้องมาจากประสบการณ์ภายในของฉันด้วย เพื่อบอกให้โลกรู้ว่า สมาธิดีอย่างไร เมื่อฉันได้เจอสิ่งดีๆจะไม่เก็บไม่ไว้คนเดียว แต่จะบอกกับทุกคนในโลก ขณะที่ฉันร้องเพลงนี้ ฉันเห็นพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และดวงใสๆที่กลางท้องของฉันตลอดเวลา ฉันจะทำให้เพลงเหล่านี้ดังไปทั่วโลกในเวลาอันสั้น ฉันจะช่วยเหลือมนุษย์ ด้วยการชวนทั้งโลกนั่งสมาธิฉันดีใจที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้มาเป็นพระภิกษุ และถ่ายทอดแนะนำการนั่งสมาธิ วิธีที่แสนวิเศษเพื่อเข้าถึงความสุขของชาวโลก ฉันขอขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯด้วย ท่านต้องทุ่มเทอย่างมากเพื่อค้นพบสิ่งที่สูญหายไป 2พันปี สิ่งที่ท่านค้นพบคือของขวัญของมนุษยชาติจริงๆเมื่อฉันมีความสุขจากสมาธิ จึงโทรศัพท์บอกสามี (กัลยาณมิตร วิลเลี่ยม) ที่ออสเตรเลียว่า “ให้คุณลองนั่งดู” ตอนนั้นสามียังไม่เข้าใจ ฉันจึงตัดสินใจส่งรูปวาดดวงตะวันภายในที่ฉันเห็น ไปให้ครอบครัว ผ่านไปไม่กี่วัน สามีโทรศัพท์มาด้วยเสียงตื่นเต้นว่า “ที่รัก คุณรู้มั๊ย สมาธิมหัศจรรย์มาก ผมลองนั่งสมาธิครั้งแรก โดยดูภาพวาดที่คุณส่งมา แล้วผมก็เห็นดวงตะวันสว่างอยู่ในตัว และเข้าไปอยู่ในดวงตะวันนั้นได้ด้วย ผมมีความสุขมาก ขอบคุณที่รักมาก ตอนนี้ลูกๆก็เริ่มฝึกสมาธิ จากภาพวาดเช่นกัน”
ฉันไปแสดงคอนเสิร์ตที่ศรีลังกา ทำให้ทราบข่าวเกี่ยวกับสงครามและก่อการร้ายในศรีลังกา ฉันจึงนั่งสมาธิและแผ่เมตตามอบความรักให้คนที่ทำไม่ดีเหล่านั้น ผ่านไปแค่ 3วัน ฉันเห็นพาดหัวข่าวว่าผู้ที่ก่อการร้ายมาหลายปีได้ยอมจำนนและเข้ามอบตัวแล้ว ฉันทึ่งมาก “นี่เพียงฉันคนเดียว แต่ถ้าทุกคนทำร่วมกันล่ะ โลกจะเกิดสันติสุขขนาดไหน”ฉันได้เล่าให้คนไทยฟังว่า “ฉันได้ไปนั่งสมาธิที่วัดพระธรรมกาย ฉันมีความสุขมาก” ปรากฏว่าคนเหล่านั้นก็พูดว่าวัดอย่างนั้นอย่างนี้ ฉันหยุดมองหน้าคนเหล่านั้น แล้วก็ถามว่า “คุณเคยมาวัดพระธรรมกายกี่ครั้งแล้ว” พวกเขาตอบว่า “ไม่เคยเลย พวกเขาฟังสื่อ ก็เลยไม่มา” ฉันคิดว่า มนุษย์ควรวิจารณ์ในสิ่งที่ตัวเองได้ไปสัมผัสมาแล้วมากกว่า ไม่เช่นนั้นคำวิจารณ์นั้นก็ไม่มีค่าพอที่จะฟังฉันว่า ปัญหาใหญ่ของมนุษย์ คือ มนุษย์ใช้ความคิดมากเกินไป มัวแต่คิดเข้าข้างตัวเอง การใช้ความคิดเรากลับใช้สมองได้ไม่ถึง 5 % เท่านั้น แต่การไม่คิดเรากลับใช้ประโยชน์จากสมองได้มากกว่า เมื่อก่อน ฉันคิดแต่เรื่องดีๆทุกวัน แต่ไม่เคยรู้ว่าจะเอาเรื่องดีๆในหัว ออกมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร แต่พอฝึกสมาธิ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ ดึงพลังดีๆที่อยู่ภายใน ให้ออกมาเป็นการกระทำได้กราบขอบคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่ทำให้ฉันได้ฝึกสมาธิทำให้ชีวิตฉันเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ฉันได้พบพระเจ้าที่ฉันรอคอยและได้อุทิศตัวเพื่อพระองค์มาตลอด พระเจ้าอยู่ในตัวของฉันเอง ซึ่งฉันได้พิสูจน์ด้วยตัวเองมาแล้ว สมาธิทำให้เราเป็นมนุษย์ที่แท้จริงไม่มีที่ไหนบนโลกใบนี้อีกแล้ว ที่เหมือนวัดพระธรรมกาย ที่นี่เป็นสิ่งมหัศจรรย์อีกแห่งหนึ่งของโลก ที่คนทุกศาสนาจะได้มานั่งสมาธิในที่เดียวกัน ในเวลาเดียวกัน และวางใจตรงจุดเดียวกันฉันมีความรู้สึกว่า "วัดพระธรรมกายนี่ล่ะ คือ บ้านของฉัน"
http://goo.gl/baJCW
พิมพ์บทความนี้
