ผลการปฏิบัติธรรม
กัลยาณมิตร พนอ สิริวัฒนาพิบูลย์กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงลูกชื่อ กัลยาณมิตร พนอ สิริวัฒนาพิบูลย์ ปัจจุบันอายุ 38ปี ทำกิจการอู่ซ่อมรถอยู่ที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ดำเนินกิจการนี้มากว่าสิบปีแล้วเจ้าค่ะ ตั้งแต่วัยเด็กตอนอายุประมาณ 4-5ขวบ เวลานอนหลับจะมีอาการประหลาดชนิดหนึ่งเกิดกับลูกตลอดมา คือ มีความรู้สึกเหมือนตัวขยาย เป็นอย่างนี้มาเรื่อยๆ ซึ่งลูกก็ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมจึงเกิดอาการเช่นนี้ จนกระทั่งหลังจากที่แต่งงานแล้ว คุณแม่ของสามีก็ได้ชวนมาวัดพระธรรมกาย เมื่อปี พ.ศ.2537วันที่มาวัดครั้งแรกนั้น ยังเป็นสภาหลังคามุงจาก คนเต็มสภาไปหมดจนไม่มีที่นั่ง ลูกจึงได้ไปนั่งอยู่ใต้ร่มไม้ เนื่องจากมาครั้งแรกจึงไม่ได้ตั้งใจอะไรมากเหมือนกับมาเที่ยวมากกว่า พอตอนบ่ายพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโวได้ขึ้นเทศน์ นอกจากน้ำเสียงของท่านจะไม่ธรรมดาแล้ว เนื้อหาเรื่องราวที่ท่านเทศน์ในวันนั้น กระหน่ำกิเลสในใจลูกเข้าอย่างจัง เวลาฟังทำให้รู้สึกว่าทำไมพระองค์นี้ว่าแต่ลูกไม่เห็นว่าคนอื่นเลยเนื้อหาที่ท่านเทศน์มีตอนหนึ่งที่สะดุดใจเป็นอย่างมาก ท่านบอกว่า บางคนมาวัดก็เหมือนไม่ได้มา เพราะไม่ได้ตั้งใจนั่งสมาธิทำภาวนา แต่ใครมาแล้วตั้งใจมากก็ได้บุญมาก ตั้งใจน้อยก็ได้บุญน้อย ทำให้ลูกมาฉุกคิดว่าคราวหน้าถ้ามาวัด ลูกจะตั้งใจนั่งสมาธิตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อสอน เพราะคำเทศน์แบบตรงๆของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโว ทำให้ลูกตัดสินใจมาวัดอีกครั้งคราวนี้ลูกมาด้วยความตั้งใจ ได้นั่งสมาธิทำตามที่คุณครูไม่ใหญ่ได้สอน แล้วอาการเก่าที่เป็นเหมือนโรคประจำตัวของลูก คือ อาการขยายก็กำเริบ พอใจนิ่งๆก็รู้สึกว่าตัวขยาย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะอาการอย่างนี้เป็นจนชินเสียแล้ว พอปล่อยๆไป คราวนี้อาการขยายของลูกกลับมีพัฒนาการที่รุนแรงกว่าเดิม พอตัวขยายใหญ่ขึ้นๆ กลับรู้สึกว่าตัวตนก็หายไปเลย หายไปในอากาศ เหลือแต่ความว่างๆ เหมือนหยุดหายใจ คราวนี้ลูกก็เลยคิดว่า ไม่เอาแล้วไม่นั่งแล้วเดี๋ยวตาย จึงเลิกนั่งต่อมา ได้ถามเจ้าหน้าที่ผู้ประสานงานของวัดว่า “ทำไมดิฉันจึงมีอาการอย่างนี้”จึงได้รับคำตอบว่า “มันเป็นอาการอย่างหนึ่งของการใจหยุด นั่งต่อไปเถอะไม่ตายหรอกพี่”พอกลับมานั่งที่วัดอีกครั้ง คราวนี้นอกจากขยายแล้วยังรู้สึกเหมือนตัวเบาๆลอยๆ พระเดชพระคุณหลวงพ่อบอกว่าให้นึกดวงแก้ว ลูกก็คิดว่ามันจะมีได้อย่างไรกันล่ะดวงแก้ว มีแต่ตัวลอยๆ ครั้งต่อมาลูกก็เริ่มจะติดใจอาการตัวเบาๆลอยๆ เพราะมันสบายๆและมีความสุข ก็เลยนั่งใหม่ นั่งไปนั่งมาพอใจขยายลูกก็มองเห็นว่าอาการขยายที่ตนเองพบมาตั้งแต่เด็กนั้น จุดเกิดเหตุมันอยู่ตรงไหน ลูกมองเห็นดวงจันทร์กลมๆสว่างๆอยู่ที่กลางท้อง พระเดชพระคุณหลวงพ่อบอกว่าเราจะเห็นจุดเล็กใสๆเท่าดวงดาว แต่ลูกก็ไม่เห็นดวงดาวเลย เห็นแต่ดวงจันทร์หลังจากนั้น เวลานอนหลับดวงจันทร์ในท้องของลูกก็สว่างอยู่ตลอดเวลา ชนิดที่ว่าทุกค่ำคืนของลูกมีแต่คืนเดือนเพ็ญไม่มีเดือนมืด ไม่มีเดือนเสี้ยวเลยสักคืน ลูกนั่งมองนอนมองดวงจันทร์ไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย แม้จะหลับไปสะดุ้งตื่นขึ้นมาลูกก็มองดวงจันทร์ในกลางกายเป็นสิ่งแรก พอหมั่นมองอยู่เรื่อยๆที่กลางดวงจันทร์ดวงนั้น ลูกก็มองเห็นจุดเล็กใสเหมือนดวงดาว จากจุดใสๆกลางดวงจันทร์ ขยายเป็นดวงแก้วใสๆ ซึ่งลูกเคยคิดว่าเราคงไม่มีเหมือนกับที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อบอกมา ตอนนี้ลูกก็เพิ่งรู้ว่าเราก็มีเหมือนกันจากจุดเล็กๆเท่าดวงดาวก็ขยายเป็นดวงแก้วใสๆ แล้วมีดวงใหม่ขยายจากจุดของดวงดาวไปเรื่อยๆเป็นชุดๆ พอผ่านไปหกดวง ลูกก็เห็นตัวเองนั่งอยู่ในดวงแก้ว ซึ่งดูสาวกว่าตัวจริงมาก อายุประมาณ 15ปี และในกลางท้องก็มีดวงแก้วใสๆปรากฏอยู่ พอมองเข้าไปผ่านจุดของดวงดาวก็มีดวงผุดขยายขึ้นมาอีกหกดวง แล้วก็เห็นตัวเองเปลี่ยนเป็นกายที่มีเครื่องประดับ สวยแต่ไม่ย้วย ใส่เสื้อก็เหมือนไม่ใส่เพราะเสื้อผ้าติดแนบเนื้อ ในกลางกายนี้ลูกก็เห็นดวงผุดมาเป็นชุดอีกหกดวง แล้วก็เห็นกายที่มีเครื่องประดับสวยๆอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกายที่เป็นเหมือนเทวดาเปลี่ยนเป็นองค์พระแก้วใสเกตุดอกบัวตูม สวยงามมากๆพอลูกวางใจเบาๆนิดเดียว ท่านก็ผุดขึ้นมา ยิ่งมองไปที่กลางองค์พระ ท่านก็ยิ่งขยายใหญ่ขึ้น ตอนนี้นอกจากอาการขยายจะไม่หายไปแล้ว อาการใหม่ก็เกิดขึ้นมาอีก นั่นคือ อาการสุขจริงหนอเจ้าค่ะ...พระเดชพระคุณหลวงพ่อ มันเป็นความสุขยากจะหาสิ่งใดเปรียบปาน เป็นความสุขที่อยากรำพึงรำพันสักล้านครั้ง และลูกไม่อยากให้อาการอย่างนี้หายไปจากชีวิตเลยปกติลูกจะนั่งสมาธิวันละหลายชั่วโมง เพราะรู้สึกว่ายิ่งนั่งยิ่งมีความสุข การนั่งสมาธิเป็นการแสวงหาความสุขที่ดีที่สุดในโลก ทำอะไรอื่นๆก็สู้นั่งสมาธิไม่ได้ เพราะทำอย่างอื่น ยิ่งทำยิ่งมากเรื่อง พอนั่งสมาธิบ่อยๆ มององค์พระบ่อยๆ ทำให้ลูกมีบุคลิกที่เป็นคนเฉยๆ ถ้ามีการสูญเสียหรือมีใครจากไปจากชีวิตสักคน หลายคนก็ร้องห่มร้องไห้เสียใจแต่ลูกกลับรู้สึกเฉยๆ บางคนถึงกับบอกว่าลูกเป็นคนใจร้ายช่างไร้ความรู้สึก แต่เขาไม่เคยรู้เลยว่าลูกไม่ใช่คนใจร้าย แต่กำลังทำใจใสๆ แม้จะดูเหมือนไร้ความรู้สึก แต่ลึกๆแล้วลูกไม่เคยไร้ความสุขเลยเจ้าค่ะหลังจากนั่งสมาธิซ่อมเสริมใจตนเองให้สดใสอยู่เสมอ ทำให้กิจการอู่ซ่อมรถของลูกดีขึ้นเป็นลำดับ ดีกว่าทุกๆปีแบบสวนกระแส มีกำลังใจไม่เคยตก ทำอะไรก็สำเร็จ ติดต่อเรื่องใดกับใครก็ตกลงกันอย่างง่ายๆ ลูกสอนตัวเองอยู่เสมอว่า ร่างกายของเราก็เหมือนรถ เหมือนบ้าน สักวันหนึ่งก็ต้องผุพังไปตามกาลเวลา เราต้องใช้ร่างกายนี้เร่งสร้างบารมีให้ดีที่สุด ตายไปก็ได้แต่บุญกับบาป คำๆนี้ลอยมาเตือนใจอยู่เรื่อยๆ ลูกเชื่อว่าใจของเรานั้นซ่อมได้ ร่างกายแม้เสื่อมไปแต่ใจไม่เสื่อมตาม แต่ก่อนไม่เคยเข้าใจว่า ใจใส เป็นอย่างไร ปัจจุบันลูกแจ้งแล้วว่า ใจใส เป็นดวงใสๆ ถ้าดวงไม่ใสจิตใจก็เสื่อม ต้องรีบซ่อมโดยด่วนด้วยการนำเข้าอู่ซ่อมใสที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ดเจ้าค่ะเวลาทำหน้าที่ผู้นำบุญ อาจจะโดนคนดุบ้าง แต่องค์พระท่านก็จะคอยสอนว่า สิ่งที่เราเจอเป็นเพียงแค่ภาพภายนอก เพียงเปลือกนอก แต่แก่นแท้ข้างในจริงๆของคนไม่ได้เป็นอย่างนั้น เราเกิดมาทำหน้าที่นี้ก็พึงทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดลูกอยากจะบอกว่า รักพระเดชพระคุณหลวงพ่อมากๆ ถ้าไม่เจอพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ลูกคงจะตกนรกแทบทุกขุม เพราะก่อนเข้าวัดพฤติกรรมของลูกเข้าข่ายผิดศีลหมดทุกข้อ พอได้พบพระเดชพระคุณหลวงพ่อจึงได้เปลี่ยนเป็นคนดี ลูกจะตั้งใจนั่งสมาธิและตั้งใจสร้างบารมีติดตามพระเดชพระคุณหลวงพ่อไปทุกภพทุกชาติเจ้าค่ะกราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงกัลยาณมิตร พนอ สิริวัฒนาพิบูลย์
http://goo.gl/mi22v