แม่น้ำโขงมีความสำคัญอย่างไร

แม่น้ำโขง เป็นแม่น้ำที่มีความสำคัญมากสายหนึ่ง ที่ทำให้ประเทศไทยได้ติดต่อค้าขายหรือแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับหลายๆ ประเทศ เพราะแม่น้ำโขงนั้นไหลผ่านทั้งหมด 6 ประเทศด้วยกัน https://dmc.tv/a14103

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ข้อคิดรอบตัว
[ 17 ส.ค. 2555 ] - [ ผู้อ่าน : 18276 ]
ข้อคิดรอบตัว
 
 
 
แม่โขงสายน้ำแห่งชีวิต
 
        แม่น้ำโขง เป็นแม่น้ำที่มีความสำคัญมากสายหนึ่ง ที่ทำให้ประเทศไทยได้ติดต่อค้าขายหรือแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับอีกหลายๆ ประเทศ เพราะแม่น้ำโขงนั้นไหลผ่านหลายประเทศ เริ่มตั้งแต่ประเทศจีน พม่า ลาว มายังประเทศไทย ต่อเนื่องไปยังกัมพูชาและเวียดนาม ทั้งหมด 6 ประเทศด้วยกัน
 

แม่น้ำโขงมีความสำคัญอย่างไร?

 
        เราต้องเข้าใจว่า อารยะธรรมของมนุษย์เกิดขึ้นมานั้นอิงกับแม่น้ำเลย มนุษย์ในยุคที่ยังเร่ร่อนอยู่นั้นก็อพยพเร่ร่อนไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเพาะปลูกอะไร หาของป่ากินไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่าไม่ได้เดือดร้อนอะไร เพราะไม่ต้องเสียแรงปลูกและดูแลรักษา แต่ความจริงการดำเนินชีวิตแบบนั้นต้องอาศัยความโชคดีถึงจะได้ แต่จะได้ผลผลิตเป็นกอบเป็นกำเมื่อมนุษย์รู้จักการทำการเกษตรกรรม และการทำการเกษตรหัวใจสำคัญคือต้องมีน้ำ มนุษย์จึงต้องสร้างชุมชนอยู่ตามริมน้ำ ถ้าไม่มีแหล่งน้ำก็มักจะสร้างเมืองไม่ได้ เพราะน้ำคือชีวิต ที่ไหนมีน้ำชีวิตเป็นไปได้ นี่คือความสำคัญของน้ำ
 
วิถีชีวิตของชาวลุ่มแม่น้ำโขง
วิถีชีวิตของชาวลุ่มแม่น้ำโขง
 
        แม่น้ำก็มีอยู่ 2 แบบ คือ แม่น้ำในประเทศ กับ แม่น้ำนานาชาติ คือไหลผ่านหลายๆ ประเทศ ในเอเชียของเราเองมีแม่น้ำดังๆ หลายสาย แต่แม่น้ำนานาชาติที่ดังที่สุดจริงๆ คือ แม่น้ำโขง เป็นแม่น้ำนานาชาติแห่งเอเชียเลยก็ว่าได้ เพราะแม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านถึง 6 ประเทศ ตั้งแต่ที่ราบสูงทิเบต มณฑลเชียงไฮ่ของจีน ผ่านพม่า ลาว ไทย เรื่อยไปถึงกัมพูชา จนไปถึงเวียดนาม แล้วไหลลงสู่ทะเลจีนใต้ รวมระยะทางได้ 4,800 กว่ากิโลเมตร อารยะธรรมของผู้คนในย่านนี้ได้รับอิทธิพลจากแม่น้ำโขงสูงมาก แถมยังเป็นอารยะธรรมพิเศษคือเป็นอารยะธรรมของพระพุทธศาสนาเถรวาท แม่น้ำโขงจึงเป็นแม่น้ำแห่งพระพุทธศาสนายุคดั้งเดิม
 
        เพราะเหตุนี้เอง ขนาดพญานาคยังอพยพจากอินเดียมาอยู่แม่น้ำโขง เพราะผู้คนมีศีลมีธรรม พญานาคนั้นมีหลายชั้น มีทั้งชั้นสูงคือมีวิมานอยู่บนสวรรค์ก็มี รองลงมาหน่อยมีวิมานอยู่ในวังบาดาลก็มี เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จำพรรษาบนนั้นจนครบ 3 เดือน ท่านจึงเสด็จกลับสู่โลกมนุษย์ที่ชานเมืองสังกัสสะนคร และเป็นวันพระพุทธเจ้าเปิดโลกคือในวันนั้นทั้ง 3 ภพเห็นเหมือนกันหมด คนบนโลกเห็นนรกสวรรค์ด้วยตาเนื้อ สัตว์นรกก็เห็นมนุษย์และเทวดา มีกลุ่มพญานาคเห็นเหมือนกันและเกิดความเลื่อมใสศรัทธามาก ดังนั้นทุกปีในวันออกพรรษาเขาจะมาพ่นลูกไฟออกมาจากปากที่เรียกว่า บั้งไฟพญานาค
 
        ต่อมาพระพุทธศาสนาหมดไปจากอินเดีย ผู้คนในแถบนั้นก็เป็นคนไม่มีศีลแล้ว เป็นมิจฉาทิฏฐิ พญานาคเองก็ไม่อยากอยู่ ก็เลยพากันอพยพมาอยู่ในดินแดนที่พระพุทธศาสนายังเจริญรุ่งเรืองอยู่ก็คือ แม่น้ำโขง ตรงนี้เองที่เป็นที่มาว่าทำไมจึงเกิดบั้งไฟพญานาคในวันออกพรรษา เพราะพญานาคขึ้นมาพ่นบั้งไฟเพื่อบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อยู่ที่แม่น้ำโขงก็จริงแต่ก็มีที่บางส่วนบ้างที่มีนิดหน่อย เพราะมีบางส่วนที่แยกสายไปที่อื่นบ้างเล็กน้อยก็มี แต่ส่วนใหญ่ประมาณ 90 % อยู่ที่แม่น้ำโขง เพราะเป็นแม่น้ำแห่งพระพุทธศาสนา อู่แห่งพระพุทธศาสนาในยุคปัจจุบัน นี้คือที่มาที่ไป และจากตรงนี้ตลอดลุ่มแม่น้ำอิทธิพลของพญานาคมีตลอดเลย ในลาวนั้นยิ่งชัดเพราะเขาถือว่าพญานาคนั้นเป็นของสูง อย่างในไทยเราพอถึงเทศกาลบั้งไฟพญานาคเราก็ทำเสื้อยืดพิมพ์ลายพญานาคมาใส่กัน แต่ในลาวนั้นทำอย่างนี้ไม่ได้เลย เพราะเขาถือว่าเป็นของสูง ในจีนก็พญานาคเหมือนกันแต่ต้องเป็นแบบจีนมีการประยุกต์บ้างเล็กน้อย มีขายืดออกมาหน่อยก็เลยกลายเป็นมังกรไปเลย จะว่ากันจริงๆ แล้วมังกรนั้นไม่มี อันที่จริงคือพญานาค และพญานาคก็ไม่มีขา แต่ขามันมาโผล่ทีหลังก็เลยกลายเป็นมังกรขึ้นมา และกลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีนขึ้นมาเลย ก็มาจากแม่น้ำโขงนี่เอง สุดท้ายก็พัฒนาไปจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีนไปเลย
 

วิถีชีวิตของชาวลุ่มแม่น้ำโขงเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง?

 
        ก็ถือว่าเปลี่ยนไปมาก เพราะว่าถ้าในอดีต อาชีพหลักคือเกษตรกรรม วิถีชีวิตจะค่อนข้างสงบ พอเข้ามาถึงยุคอุตสาหกรรมและต้องมีการใช้ไฟฟ้าก็ต้องมีการสร้างเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้า แม่น้ำโขงก็เป็นแม่น้ำที่เหมาะแก่การสร้างเขื่อนมากด้วย เพราะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากมายมหาศาล พอกั้นเขื่อนแล้วก็จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ ผู้ที่อยู่ตรงปลายทางน้ำก็อาจจะเดือดร้อนเพราะปริมาณน้ำมีไม่พอ ยิ่งสร้างเขื่อนมากก็ยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงมาก วงจรชีวิตสัตว์น้ำก็จะเปลี่ยนหมดเลย  ผลกระทบที่เกิดขึ้นก็มากตามด้วย
 
        โลกในยุคปัจจุบันคนมีมากขึ้น อุตสาหกรรมมีการพัฒนามากขึ้น การบริโภคน้ำก็มีสูงขึ้น ต่อไปปัญหาการขาดแคลนน้ำจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะจะมีการแย่งชิงทรัพยากรน้ำกันขึ้นมา ตอนนี้ก็เริ่มเห็นกันแล้วว่าจีนเอาไปใช้มากไป ประเทศอื่นยอมไม่ได้อย่างนี้ จริงๆ ดีที่สุดก็คือต้องคุยกัน
 
แม่น้ำโขงก็เป็นแม่น้ำที่เหมาะแก่การสร้างเขื่อนมาก
แม่น้ำโขงก็เป็นแม่น้ำที่เหมาะแก่การสร้างเขื่อนมาก
 
        แม่น้ำโขงกับประเทศไทยนั้นมีความผูกพันกันมาก ช่วงระยะทางที่ยาวที่สุดของแม่น้ำโขงก็อยู่ที่ประเทศไทยกับลาวนั่นเอง ซึ่งเป็นส่วนใจกลางสำคัญของแม่น้ำโขงเลย และถ้าไทยกับลาวมีการร่วมมือกันจริงๆ จะเอื้อประโยชน์แก่ทั้ง 2 ฝ่ายมากๆ เลย เพราะประเทศลาวไม่มีทางออกทะเล การขนส่งสินค้าต่างๆ นานา ถ้าผ่านประเทศไทยจะสะดวกที่สุด แต่ความจริงเขาจะผ่านเวียดนามหรือจีนก็ได้ แต่ถ้าผ่านไทยจะสะดวกที่สุดและคุยกันรู้เรื่องด้วย เพราะภาษาใกล้เคียงกันโดยไม่ต้องเรียนรู้ใหม่ สามารถคาดเดาได้รู้เรื่อง ความสัมพันธ์ก็เป็นลักษณะบ้านใกล้เรือนเคียงเป็นพี่น้องกัน แต่ก็อย่าไปดูถูกกันนะ เพราะถ้ามีการดูถูกกันเมื่อไหร่ก็โกรธกันเมื่อนั้น ตรงนี้ละเอียดอ่อน และลาวก็มีสิ่งที่เราต้องการมาก ไทยพัฒนาประเทศไปแล้วแต่ขาดไฟฟ้า ลาวมีไฟฟ้าเหลือเฟือขายให้ไทย ได้ทั้ง 2 ฝ่าย ลาวเป็นประเทศที่กว้าง มีป่าไม้ทรัพยากรธรรมชาติมากแต่ประชากรน้อย ฉะนั้นถ้าลาวกับไทยจับมือกันแล้วจะเสริมซึ่งกันและกันได้อย่างดีมาก เพราะไทยก็สามารถเอาเทคโนโลยี วิธีการการทำเกษตรกรรมไปเผยแผ่ในลาวได้อีกมาก และโลกในยุคต่อไปจะเป็นยุคที่พืชพันธุ์ธัญญาหารราคาแพง ฉะนั้นถ้าใช้โอกาสตรงนี้ให้ดีประเทศไทยจะได้ประโยชน์ตรงนี้มาก ประเทศลาวก็จะได้ประโยชน์มากเช่นกัน จะเจริญรุ่งเรืองไปด้วยกัน แต่จะเจริญรุ่งเรืองได้นั้นเงื่อนไขแรก คือ สันติภาพ
 
ประเทศในแถบลุ่มแม่น้ำโขงในปัจจุบันมีสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?
 
        ของไทยเรานั้นยังพอคุ้นๆ อยู่ ในลาวต้องบอกว่าพระพุทธศาสนายังอยู่ในช่วงฟื้นฟูอยู่ เมื่อประมาณ 30 กว่าปีที่แล้วตอนคอมมิวนิสต์เข้ามา พุทธโดนกดไปมากเลย พระต้องสึกไปและอพยพมาไทยก็มาก แต่ตอนนี้เริ่มเปิดกว้างแล้ว ฉะนั้นพุทธเริ่มฟื้นฟู พระก็มากขึ้น วัดวาอารามได้รับการบูรณะ คนเข้าวัดก็มากขึ้น ผู้นำประเทศของคอมมิวนิสต์เองก็เข้าวัด
 
        ในกัมพูชาก็เหมือนกัน เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว พระแถบไม่เหลือเลยทั้งประเทศ เกือบจะเป็นศูนย์เลยในสมัยที่เขมรแดงคุมอยู่ ถึงตอนนี้จำนวนพระภิกษุที่เพิ่มขึ้นมาก็เกือบแสน เมื่อหลายปีก่อนอยู่ที่ประมาณ 5-6 หมื่น วัดวาอารามขึ้นมาเยอะแยะมากมายจนเป็นหมื่นวัดแล้ว ฉะนั้นจึงอยู่ในช่วงฟื้นฟูขนานใหญ่ ก็น่าดีใจ
 
        เวียดนามก็เหมือนกัน วัดใหญ่โต วัดสวยๆ มีการพัฒนา คนเข้าวัดกันมากขึ้นๆ เห็นแล้วก็น่าชื่นใจ ในจีนเองก็เช่นเดียวกัน ยุคคอมมิวนิสต์กำลังแข็งอยู่นั้น พระพุทธศาสนาถูกกดมาก ศาสนาทุกศาสนาถูกกดหมด แต่ตอนนี้วัดกำลังอยู่ในช่วงรุ่งเรืองขึ้นมาใหม่ บูรณะพัฒนาขนานใหญ่
 
        ฉะนั้นตรงนี้ต้องบอกว่า แม่น้ำโขงทั้งสายอยู่ในยุคที่กำลังจะสว่างไสว ทอแสงเรืองรอง แล้วจะลูบไล้ส่งแสงเรืองรองแห่งพระพุทธศาสนานี้ไปให้กับโลกทั้งโลกด้วย
 
การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในแถบประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ควรร่วมมือกันอย่างไร?
 
        การจะเดินไปได้ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างเท่าเทียมกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน แต่ต้องยอมรับความจริงที่ว่าสุดท้ายแล้วมันต้องมีเจ้าภาพ คือต้องมีใครเป็นโต้โผ ซึ่งมองดูแล้วที่พร้อมที่สุดในตอนนี้ก็คือประเทศไทย เพราะกัมพูชา ลาว จีน เวียดนามก็เพิ่งจะฟื้นขึ้นมา ในพม่าเองก็มีข้อจำกัดทางด้านการเมืองหลายอย่าง ไทยนั้นพร้อมที่สุด เพียงแต่ต้องถามว่า แล้วชาวพุทธในไทยเราพร้อมหรือยัง เราศึกษาพระพุทธศาสนาสมกับที่เราถือว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลกหรือยัง ปัญหาภาคใต้เราแก้ได้ขนาดไหนแล้ว ขอให้ตื่นตัวขึ้นมา ศึกษา ประพฤติปฏิบัติตามหลักทางพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง เป็นชาวพุทธเต็มตัวไม่ใช่ชาวพุทธแค่ในทะเบียนบ้าน แล้วเรายื่นมือเราเองออกไป ประสานความร่วมมือกับพี่น้องชาวพุทธทั้งลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ทำให้พระพุทธศาสนาทั้ง 6 ประเทศ เจริญรุ่งเรืองทั้งหมดเสริมซึ่งกันและกัน เป็นแรงส่งพระพุทธศาสนาไปสู่ชาวโลกทั้งมวล
 
        คนทุกคนมีความสำคัญ มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพแฝงอยู่ภายในอย่างไร้ขีดจำกัด เมื่อใดที่เราเองเกิดความตระหนักที่ว่า ตัวเองคือคนสำคัญและเอาจริง จะทำอะไรได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างมนุษย์คนหนึ่งเมื่อเอาจริงขึ้นมาอย่างถึงที่สุดแล้ว สามารถบรรลุธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ไปรู้ไปเห็นความจริงของโลกและชีวิตอย่างที่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถรู้ได้หลายอย่าง รู้ทุกสรรพสิ่งทั้งหมดได้ เดินทางไปด้วยตัวเองถึงจักรวาลอื่นก็ไปได้ ชนิดที่ว่ายานอวกาศไปไม่ได้ มนุษย์คือนวัตกรรมที่สุดยอดที่สุดเท่าที่เคยมีมาในโลกและจักรวาล เพียงแต่ว่าปัจจุบันเจ้าของนวัตกรรมอันนี้คือคนทุกคน ยังไม่ตระหนักว่าตัวเองกำลังครองขุมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แค่สมองเรานั้นก็เป็นนวัตกรรมที่ยิ่งกว่าคอมพิวเตอร์ ตัวของเรายิ่งกว่ายานอวกาศเพราะสามารถเดินทางไปได้ทุกที่ที่ยานอวกาศไปไม่ถึง ขอเพียงตระหนักรู้แล้วใช้กายมนุษย์นี้อย่างคุ้มค่าที่สุด คือใช้เพื่อการทำความดี ใช้เพื่อการศึกษาธรรมะภายใน เพื่อให้สามารถใช้นวัตกรรมนี้คือกายมนุษย์นั้น เปล่งศักยภาพให้สูงสุด แล้วเราจะทำประโยชน์ให้กับตัวเองและโลกได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ แล้วจะทำให้เราปลื้มใจมีความสุข และรู้สึกว่าเกิดมาชาตินี้ได้ใช้กายมนุษย์นี้อย่างคุ้มค่า สมกับที่เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วพบพระพุทธศาสนาจริงๆ

http://goo.gl/J7G33


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ทำไมจีวรพระต้องเป็นสีเหลือง
      ขอไม่นับถือพระสงฆ์
      ข้อคิดธรรมะของพระสุธรรมญาณวิเทศ (สุธรรม สุธมฺโม) จากหนังสือ "หน้าสุดท้าย"
      I can’t respect monks, can I?
      กราบไหว้ทำไม งมงาย !
      Why do people have to pay homage? Ignorant!
      โซเดียม อันตรายใกล้ตัว
      บวชให้สุก
      พลังหญิง
      ตักบาตรใส่บุญ(ตอนที่2)
      ตักบาตรใส่บุญ (ตอนที่1)
      ปัญหามรดก
      ยิ่งใหญ่ในรายละเอียด




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  
  
  
  
  
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related