future skillsเครื่องจักรและหุ่นยนต์จะเข้ามาทำงานแทนคน จึงมีความจำเป็นที่จะพัฒนาทักษะความรู้ความสามารถให้ก้าวหน้าเกินกว่าที่หุ่นยนต์จะมาทดแทนได้เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ)จากรายการทันโลกทันธรรม ออกอากาศทางช่อง GBN
สำหรับคนทำงานในยุคนี้และยุคอนาคต ต้องพัฒนาอะไรบ้าง เพื่อไม่ให้ถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์?มี 10 ทักษะที่สำคัญด้วยกัน 1.ทักษะในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน คนที่จะทำงานในอนาคตจะต้องมีความรู้ความสามารถแก้ไขปัญหาที่มันซับซ้อนกว่าเดิมยิ่งไปอีก ความต้องการของผู้บริโภคในอนาคตจะมีความสลับซับซ้อนมากกว่าความต้องการของผู้บริโภคในอดีต ในปัจจุบันเพราะฉะนั้นต้องหาเทคนิคต่างๆมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณสมบัติตามความต้องการของผู้บริโภคและตลาดที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
2.ทักษะในการคิดวิเคราะห์(critical thinking) จะต้องมีความรู้ความสามารถในการจับประเด็นต่างๆ ในปัจจุบันข้อมูลต่างๆมีมากมาย แต่บางคนมีความสามารถในการจับข้อมูลได้ดีกว่าคนอื่น สามารถมองตลาดได้ออก มองว่าต่อไปคนจะต้องการอะไร หรือโลกจะพัฒนาในแนวไหน คนที่มองออกคือคนที่มีทักษะในการคิดวิเคราะห์ จะสามารถหาผลิตภัณฑ์มาตอบสนองความต้องการของคนในอนาคตได้ดีกว่า3.ความคิดสร้างสรรค์ นอกจากจะแยกแยะอะไรได้แล้ว วิเคราะห์อะไรได้ดีแล้ว ก็ควรจะมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยเพื่อนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้กับตลาด เพราะคนต้องการสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา
4.ทักษะในการบริหารจัดการบุคคล ทักษะนี้จำเป็นทุกยุคทุกสมัย เป็นทักษะในการที่เลือกคนให้เหมาะสมกับงาน จัดสรรงานให้พอเหมาะกับคนนั้นๆ เพื่อให้งานออกมามีประสิทธิภาพสูงสุดนอกจากนั้นก็ควรมีการวางแผนพัฒนาบุคคลว่าแต่ละคนควรจะพัฒนาทักษะด้านไหนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อมีให้ประโยชน์ต่อองค์กรมากขึ้น มีทักษะนี้แล้วจะต้องวางคนอื่นให้ออกว่าแต่ละคนมีนิสัยพื้นฐานอย่างไร ชอบอะไร จะพัฒนาเขาไปในทิศทางไหนได้บ้าง และมองออกว่าแต่ละคนนั้นเข้ากันได้มากน้อยแค่ไหน ควรจะจับคนไหนไปอยู่ทีมไหน หรือจะจับแยกคนละทีมเพื่อที่จะได้ทำงานออกมาในภาพรวมให้ได้ประโยชน์สูงสุด
5.การทำงานเป็นทีม ไม่มีใครที่ทำงานคนเดียวหรือว่าวันแมนโชว์ตลอดเวลา ต้องอาศัยความร่วมมือจากคนอื่น ต้องดูบทบาทของเราว่าเรามีหน้าที่อย่างไรในทีม เราเป็นหัวหน้าทีมหรือเป็นสมาชิกในทีม ก็ควรทำหน้าที่ของให้เหมาะสม หากไม่ได้เป็นหัวหน้าทีม ก็ไม่ควรทำตัวเป็นผู้นำของทีมมากเกินไปเพราะเกินบทบาทหน้าที่ของเรา คนที่เป็นหัวหน้าทีมก็ควรนำอย่างเหมาะสมไม่ใช่แค่ประคองทีมไป ถ้าเป็นหัวหน้าทีมก็ต้องนำทีมไปสู่ความสำเร็จ นอกจากทักษะที่จะทำงานร่วมกันในทีมแล้วในปัจจุบัน มีการทำงานกับชาวต่างชาติมากขึ้น อีกทักษะหนึ่งคือทักษะในการทำงานกับบุคคลต่างวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นคนที่เหนือกว่าหรือคนที่ต่ำกว่า ในปัจจุบันมีแรงงานต่างชาติมาทำงานในประเทศไทยมากมาย ก็ควรพยายามทำความเข้าใจกับวัฒนธรรมของประเทศอื่น แล้วพยายามปรับตัวเข้ากับเขา แล้วก็พยายามปรับเขาเข้ากับเราด้วย เพื่อสร้างความสมดุลในการทำงานด้วยกัน
6.ความฉลาดทางอารมณ์หรืออีคิว จะต้องสามารถควบคุมสติควบคุมอารมณ์ของเราได้ไม่แสดงอาการหงุดหงิดหรือไม่พึงพอใจ พยายามรักษาบรรยากาศในที่ทำงานนั้นให้มีความสุขให้มีความรู้สึกว่า ทุกคนอยากจะทำงาน7.ทักษะในการประเมิน และตัดสินใจ เช่น การประเมินว่าตอนนี้สถานภาพของบริษัทองค์กรอยู่สถานภาพไหน กำลังมีความก้าวหน้า หรือกำลังถอยหลังเข้าคลอง สามารถประเมินได้เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด หลังจากประเมินแล้วก็สามารถตัดสินใจได้ว่าควรจะไปในทิศทางไหนเพื่อจะพัฒนาบริษัทให้มีความก้าวหน้ามากขึ้น8.ทักษะในการบริการ (service orientation) การบริการไม่ว่ายุคไหนสมัยไหนทุกคนก็ต้องการบริการที่ดี คำหนึ่งที่พูดเสมอว่า customers first คือลูกค้ามาก่อนต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้ ไม่ว่า product ของบริษัทนั้นจะดีเลิศขนาดไหนแต่ถ้าไม่ดูแลลูกค้า ลูกค้าอาจไม่อยากใช้บริการไปใช้บริการของบริษัทคู่แข่งได้
9.ทักษะในการเจรจาต่อรอง เพราะการทำธุรกิจ ในอนาคตอาจจะไม่ได้ทำแบบบริษัทเดียวแล้ว อาจต้องอาศัยความร่วมมือของคู่ค้า หรืออาศัยความชำนาญของบริษัทที่เป็นพันธมิตรมาร่วมกันพัฒนาธุรกิจร่วมกัน เพราะฉะนั้นทักษะในการเจรจาต่อรองนั้นสำคัญมาก ว่าควรแบ่งงานกันอย่างไร หรือเมื่อเกิดปัญหาเกิดข้อขัดแย้งเกิดขึ้น จะแก้ไขปัญหานั้นอย่างไรให้ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์แล้วก็พึงพอใจในคำตอบนั้นๆ ไม่ใช่อยากจะให้ฝ่ายเราได้ประโยชน์เพียงอย่างเดียว ถ้าเป็นอย่างนั้นคู่ค้าหรือพันธมิตรของเราก็ไม่พึงพอใจ10.ทักษะในการยืดหยุ่นทางความคิดเพราะในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาต้องยอมรับในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ เช่น จะรับบุคคลเข้ามาทำงานในสายงานของเรา อาจจะไม่มีคนจบตรงว่าในหน่วยงานนั้นๆ แต่สายงานใกล้เคียงก็สามารถรับคนก่อนนั้นเข้ามาพัฒนาทักษะได้ เป็นการยืดหยุ่นในการทำงานอย่าไปเถรตรงตลอดเวลา เพราะเถรตรงตลอดเวลา ก็ไม่สามารถหาทางออกได้ทันธรรม...โดย พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แต่ละครั้ง จะมีคนถูกพัฒนาการทางเทคโนโลยีแย่งงานไป แต่ขณะเดียวกันก็จะเกิดงานใหม่ขึ้นมาอีกมหาศาล โดยภาพรวมจะทำให้คุณภาพชีวิตของคนดีขึ้น แต่ผู้ชนะในแต่ละสังคมในแต่ละยุคคือผู้ที่ปรับตัวได้ดีกว่า เรียนรู้ทักษะเพื่ออนาคตใหม่ได้ดีกว่า ชีวิตจึงดีกว่า ในอดีตการเปลี่ยนแปลงแต่ละครั้งใช้เวลานาน
ตอนนี้กำลังเข้าสู่ยุคหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) ซึ่งจะมาแทนที่งานของมนุษย์จำนวนมาก คาดว่า 800,000,000 คน จะถูกหุ่นยนต์แย่งงานในหลากหลายอาชีพ และจะเกิดเร็วขึ้นเรื่อยๆ การเปลี่ยนแปลงที่เคยใช้เวลาเป็น 1,000 ปี เป็น 100 ปี จะเกิดขึ้นในเวลาเพียงแค่ 10-20 ปี และจะขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ มีแนวโน้มจะขยายไปอย่างรวดเร็ว เช่น คนขับแท็กซี่จะตกงาน เพราะรถยนต์ไร้คนขับออกมาวิ่งและปลอดภัยกว่าคนขับ ซึ่ง Uber ทดลองใช้แล้ว และรัฐบาลก็อนุญาตให้ขับบนถนน เพราะพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัยและตัดสินใจดีกว่าคนขับทักษะที่เคยล้าสมัยเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว คนที่เคยเรียงพิมพ์ใช้ตัวพิมพ์ตะกั่วเป็นอาชีพ ก็ตกงานไม่มีใครใช้ตัวเรียงพิมพ์และตะกั่ว เนื่องจากใช้คอมพิวเตอร์แทน ไปรษณีย์หลายที่ก็ยุบโทรเลขแล้ว เพราะไม่มีใครส่งโทรเลขแล้ว เพราะใช้ส่งข้อความในโซเชียลมีเดีย ใน LINE ในวอทแอพ ใน Facebook ก็ถึงแล้ว สังคมเปลี่ยนเร็วมาก และเปลี่ยนขึ้นเรื่อยๆ
อาจมีคนในเมืองไทยตกงาน 5,000,000 คน และอย่าคิดว่าคนที่ถูกแย่งงาน คือคนที่ไม่มีความรู้ ธนาคารขนาดใหญ่บางแห่งประกาศลดพนักงาน 10,000 คน พนักงานต้องเดินขบวนประท้วง เพราะเทคโนโลยีใหม่กำลังเข้ามาต้องลดสาขา เพราะกลายเป็นระบบออนไลน์ ทุกอย่างอัตโนมัติ พนักงานแบงค์มีความรู้จบปริญญาตรีเป็นส่วนใหญ่บางคนจบโท เคยทำงานเงินเดือน 30,000-50,000 ต้องถูกเลิกจ้าง เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดแบบไม่คาดฝัน และจะเป็นไปอย่างกว้างขวาง เช่น ในอเมริกาเมื่อการค้าออนไลน์เกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย เจ้าของ Amazon ผู้ถือหุ้นใหญ่ กลายเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกแซงบิวเกท ผลคือยักษ์ใหญ่ เช่น Walmart เคยมีรายได้ปี หนึ่ง 4- 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ตอนนี้ต้องปิดสาขาหลายแห่ง เพราะคนไปซื้อของออนไลน์มากขึ้น การซื้อการขายออนไลน์จะขยายไปอย่างกว้างขวางระบบร้านค้าเดิมจะกระทบกระเทือน แต่จะมีอาชีพใหม่ๆ เกิดขึ้นมาจากเทคโนโลยีใหม่อีกมากมาย
ทำอย่างไรจึงจะเป็นผู้ชนะในสภาวะแวดล้อมใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ได้แก่ 1.อย่าเป็นคนที่จมอยู่กับอดีต ต้องพร้อมศึกษาเรียนรู้สิ่งใหม่ตลอดเวลา อย่าไป คิดว่าแก่แล้ว ขี้เกียจเรียน อีก 3 ปี 5 ปี 10 ปี 20 ปีก็เกษียณแล้วห้ามคิดอย่างนั้นเด็ดขาด ศึกษาเรียนรู้ตลอด 2.บริหารเวลาให้ดี อย่าไปใช้เทคโนโลยีใหม่แบบเป็นทาสของมัน เช่น ติดโซเชียลมีเดียไปนั่งดูคนนั้นทำอะไรคนนี้ทำอะไร แล้วหมดเวลาไป แต่ต้องใช้อย่างเป็นเจ้านาย คือใช้เป็นเครื่องมือในการหาความรู้ ในการติดต่องาน มีการวางแผนเวลา แบ่งเวลาศึกษาค้นคว้าหาความรู้ใหม่ๆ จะทำให้มีทักษะในตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะได้ความรู้ทักษะที่หุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์แย่งเราไม่ได้ 3.การคิดวิเคราะห์
ใครที่มีความคิดสร้างสรรค์ในโลกยุคใหม่คนนั้นจะมีค่า ซึ่งคนไทยได้เปรียบเพราะเป็นชาวพุทธขอให้ตั้งใจนั่งสมาธิ(Meditation) พอใจนิ่งความคิดสร้างสรรค์จะเกิด เอาใจหยุดนิ่งๆเฉยๆไม่คิดอะไร ใจสงบๆ ความคิดสร้างสรรค์จะผุดขึ้นมา ถึงเวลาจะไปคิดอะไรจะเห็นได้ลึกกว่าคนอื่น แล้วให้ศึกษาคำสอนพระพุทธเจ้า เพราะคำสอนพระพุทธเจ้ามีจุดเด่นคือ เป็นสัจธรรมความจริงของโลก และสมบูรณ์พร้อม ดียิ่งกว่าความรู้ของนักปราชญ์ใดๆในโลกนี้ คนที่ศึกษาคำสอนพระพุทธเจ้าจะทำให้เห็นภาพรวมสามารถเชื่อมโยงความรู้ข้อมูลได้ คิดวิเคราะห์เป็นโดยอัตโนมัติ ขอให้เป็นชาวพุทธ สมชื่อตั้งใจนั่งสมาธิ แล้วศึกษาคำสอนพระพุทธเจ้าอย่างจริงจัง เรียนรู้สิ่งใหม่ตลอดเวลาเท่านั้น จะเป็นหนึ่งในผู้ชนะในโลกแห่งอนาคตนี้รับชมคลิปวิดีโอfuture skills : ทันโลกทันธรรม  
future skills
เครื่องจักรและหุ่นยนต์จะเข้ามาทำงานแทนคน จึงมีความจำเป็นที่จะพัฒนาทักษะความรู้ความสามารถให้ก้าวหน้าเกินกว่าที่หุ่นยนต์จะมาทดแทนได้ https://dmc.tv/a24848
บทความธรรมะ Dhamma Articles > ทันโลกทันธรรม[ 14 พ.ค. 2562 ] - [ ผู้อ่าน : 18268 ]
บทความอื่นๆ ในหมวด
ให้ใจอย่าให้เจ็บคนพันธุ์ Possible
แบกให้สมวัย
รักแท้ที่แม่ปลื้ม
หนึ่งคนกับตัวตนย่อย
พิษจากองศาอารมณ์ร้อน
พฤติกรรมลดเสน่ห์
ความเป็นส่วนตัวบนพื้นที่ส่วนรวม
วิกฤติมารยาท
ธรรมชาติลงโทษ
สุขภาพดีแม้ทำงานหนัก
เรื่องกินเรื่องใหญ่
คนในความลับ