พระธาตุแช่แห้ง จ.น่านพระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน
พ.ศ. 2451 มีบันทึกไว้ว่า ขณะทำการบูรณะพระเจดีย์ มีงูตัวหนึ่งหัวแดงลำตัวมีหลายสี ตัวใหญ่เท่านิ้วมือ ยาว 1 ศอก ปรากฏบนอาสนะสงฆ์อยู่ 5 นาที แล้วหายวับไป แล้วมีฝนเม็ดใหญ่ลูกพุทราตกลงมาทั้งๆ ที่ฟ้าสว่างแจ้ง
วัดพระธาตุเสด็จ จ.ลำปาง
พ.ศ. 2077 พระบรมธาตุสำแดงรัศมีประมาณเท่าลำตาลรุ่งเรืองงามประดุจทองคำ และประดุจรูปพระยานาคเกี้ยวกันสุดยอดต้นคะจาง แล้วเปล่งรัศมี 6 ประการรุ่งเรืองงามยิ่งนัก แล้วก็เสด็จขึ้นไปบนอากาศใหญ่ประมาณเท่าลูกบาตรบ้าง เท่าลูกมะพร้าวบ้างเท่าเดือนบ้าง เท่าดาวบ้าง มากสุดจะคณานับได้ตลอดคืน ภายหลังมีปรากฏการณ์พระธาตุเสด็จขึ้นๆ ลงๆ เช่นนี้อีกหลายครั้ง
พระธาตุจอมทอง จ.เชียงใหม่
วันพระ 8 และ 15 ค่ำตอนกลางคืนมักจะมีแสงสว่างแปลกประหลาดผุดขึ้นข้างบน ฉวัดเฉวียนไปมา
วัดโขงสุวรรณภูมิ (วัดโขลงสุวรรณคีรี) ราชบุรี
มีแสงเป็นดวงใหญ่ขึ้นจากฐานเจดีย์ทุกวันขึ้น 15 ค่ำ ตอนกลางคืน
พระธาตุดอยตุง จ.เชียงราย
พระมหาวชิรโพธิเถระนำเอาพระบรมสารีริกธาตุ 150 องค์จากถ้ำสัตตบัณณคูหา ดอยเวภาบรรพต เมืองราชคฤห์ใส่โกศแก้วพระธรรมราช (ปัทมราช) ลูกเท่าหมากน้ำเต้ามาถวายพระเจ้าเม็งราย ได้อัญเชิญสู่ดอยตุงยกเอาโกศขึ้นประดิษฐานเหนือก้อนหินอันพระบรมสารีริกธาตุเดิมบรรจุไว้ก่อนพระบรมธาตุได้แสดงอภินิหารจมลึกลงไป 7 ศอก คือ ประดิษฐานอยู่สูงกว่าพระบรมธาตุเดิม 1 ศอก พระเจ้าเม็งรายได้ให้ช่างก่อสร้างพระเจดีย์ครอบสูง 7 ศอก และจัดงานฉลองสมโภชนานถึง 3 เดือน
ยุคปัจจุบัน
วัดคลองศิลา อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
ท่านเจ้าอาวาส ได้เจริญภาวนา ณ วัดร้าง ในวันวิสาขบูชา พ.ศ. 2534 ได้ปรากฏแสงรัศมีวงกลมพุ่งขึ้นแล้วแตกกระจายไปทั่วอาณาเขตในบริเวณวัดร้างที่ชาวบ้านเรียกว่า ดอยธาตุ หลังจากนั้น 3 วันก็พบผอบบรรจุพระธาตุ 26 องค์ ณ บริเวณนั้น
วัดพระธาตุดอนจอมแจ้ง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
พระบรมธาตุเสด็จออกมาบ่อย ชาวบ้านมักจะเห็นกันเป็นประจำ ส่วนมากคล้ายลูกไฟวิ่งขึ้นลงในแนวขนานกับองค์เจดีย์พระธาตุ
วัดพระธาตุดอยเขาความแก้ว อ.เมือง จ.เชียงราย
ตอนกลางคืนวันดีคืนดี จะมีพระบรมสารีริกธาตุ ออกเที่ยวไปมาหากัน มีแสงสว่างเจิดจ้าเต็มท้องฟ้าหลายครั้ง เปล่งรัศมีเป็นสีเขียวบ้าง เหลืองบ้าง แดงบ้าง ขาวบ้าง เป็นที่ตื่นตาตื่นใจแก่ผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอันมาก ถือว่าเป็นบุญญาวาสนาบารมีที่ได้เห็นแจ้งประจักษ์ (ทางเหนือเรียกว่า พระธาตุออกแอ่ว)
วัดพระธาตุจอมคีรี อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่
เดือนเป็งของทุกๆ ปี เห็นแสงลอยออกจากพระธาตุ แล้วไปลงวัดร้างใกล้เคียง แล้วลอยเพิ่มขึ้น สุดท้ายจะลอยมาลงจุดเดียวกันคือที่พระธาตุเจดีย์แห่งนี้
พระธาตุหนองจันทร์ อ.สอง จ.แพร่
ในประเพณีสรงน้ำพระธาตุ จะมีฝนตกหนักทุกครั้ง จะตกเฉพาะบริเวณพระธาตุ และรอบๆ เท่านั้น ผู้ใดตั้งใจไปสักการบูชาแล้ว คิดปรารถนาประการใดมักจะมีปรากฏการณ์ให้เห็นและได้สมปรารถนาด้วยพระธาตุดอยคำ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
พระธาตุดอยคำ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ได้เคยเกิดฝนตกสามวันสามคืน แซะเอาแร่ทองคำไหลเข้าไปในถ้ำใต้ภูเขาสถานที่นี้จึงได้ชื่อว่าดอยคำ ถ้ำแห่งนี้ยังเป็นที่เก็บสมบัติของพระนางจามเทวีและเคยเป็นแหล่งพำนักในวัยเยาว์ของพระองค์ท่าน (กับอาจารย์พระฤาษีด้วย)
พระธาตุปูล้าน อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย
แสดงปาฏิหาริย์เป็นดวงแก้ว เปล่งรัศมีโชติช่วงชัชวาลเป็นประจำ บางครั้งมีการแสดงหยอกล้อกับแสงจากพระธาตุ (ดวงแก้ว) ที่ออกมาจากภูเขาในทิศอื่น ใกล้รุ่งก็ลอยกลับมาที่องค์พระธาตุ เคยมีช้าง 2 เชือกผ่านก็หยุดไม่ยอมเดิน ต้องให้โอกาสช้างล้มตัวลงไหว้นมัสการพระธาตุก่อนจึงลุกเดินไป เคยมีการทำพิธีขอฝนแล้วสำเร็จเสมอ เคยมีการฉายภาพยนตร์โดยหันจอไปทางองค์พระธาตุ ห้ามอย่างไรคนฉายก็ยังดื้อดึง ปรากฏว่าเครื่องฉายพังอย่างไม่เป็นท่า
วัดคีรีเขต อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
ณ เวลาอัญเชิญพระบรมธาตุขึ้นสู่สถานที่บรรจุได้บังเกิดอัศจรรย์พระศรีบรมธาตุได้ส่งกลิ่นหอมเย็นระรื่นเหมือนกลิ่นกระแจะจันทร์หอมจรุขจรขจายไปทั่วบริเวณ และยังมีแสงประกายเจิดจ้าประดุจแสงสายฟ้าโชติช่วงแผ่ออกเป็นรัศมีประพาฬมณฑลห่อซุ้มพระโกศทองคำที่บรรจุพระบรมช่วงแผ่ออกเป็นรัศมีประพาฬมณฑลห่อซุ้มโกศทองคำที่บรรจุพระบรมธาตุลอยติดตามพระโกฏขึ้นสู่พระพุทธปรางค์เบญจกูฎโดยตลอด
พระธาตุดอยกู่แก้ว อ.แม่จัน จ.เชียงราย
วันสำคัญ วันพระ จะเปล่งรัศมีฉายแสงเป็นประกายรุ้งโชติช่วง ปีใดแห้งแล้งก็ขอฝนได้
พระธาตุโป่งขาม ต.ต๊ำ อ.เมือง จ.พะเยา
ในวันเพ็ญเดือน 2 และวันเพ็ญเดือน 12 จะมีดวงแก้วรัศมีพุ่งขึ้นมาเป็นสีปีกแมลงภู่หรือสีทับทิม รัศมีแสงความกว้าง 1 กิโลเมตร สูง 50 เมตร
พระธาตุวัดเหล่ายาว อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน
วันที่คณะผ้าป่ามาถึงวัดตอนเวลา 19.30 ขณะที่พระและศรัทธาทำซุ้มประตูอยู่ มีแสงเท่าลำตาลยาวกว่า 10 เมตร พุ่งออกมาจากป่า มีแสงสีขาว เขียว แดง น้ำเงิน สลับกันไป มีเสียงแตกดังตูม เห็นกันทุกคน
อีกครั้งหนึ่งมีคณะมาฉายหนังหน้าวัด ก็มีแสงพุ่งลงมาเกือบถึงดินแล้วสว่างไสว ทุกวันนี้ก็ยังเห็นลำแสงอัศจรรย์กันดาษดื่นเสมอๆพระธาตุเป็งสกัด อ.ปัว จ.น่าน
พระธาตุเป็งสกัด อ.ปัว จ.น่าน
บริเวณที่สร้างพระเจดีย์เดิมเป็นบ่อกว้าง 1.5 เมตร เมื่อนำไม้ยาวแหย่ลงไปไม้จะหายไป นำไม้ยาว 10 แหย่ลงไปไม้ก็หายไปอีก นำไม้รวกยาว 15 เมตรแหย่ลงไปก็ขาดเป็นท่อน จนหมดไม้ไปหลายท่อน จึงกำหนดก่ออิฐเป็นพระเจดีย์รอบบ่อนั้น และเมื่อเฉลิมฉลองพระธาตุเจดีย์มีแสงเรืองรองพุ่งออกมาจากยอดพระธาตุ แสงที่เกิดโพยพุ่งรอบพระเจดีย์และบริเวณงาน
วัดมหาธาตุสวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
เคยปรากฏแสงสว่างพวยพุ่งออกจากองค์พระปรางค์
พระธาตุดอยจ้อง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย
วันขึ้น 14-15 ค่ำ บางครั้งชาวบ้านจะเห็นแสงรูปคล้ายดาวออกมาจากองค์พระธาตุ
วัดถ้ำขวัญเมือง อ.สวี จ.ชุมพร
พระธาตุกระทำปาฏิหาริย์มากมาย ทั้งเสด็จมาเพิ่ม ปรากฏแสงเป็นดวงสว่าง เคลื่อนไหวลอยไปมา ฉัตรบนยอดลอยแกว่งไปมาได้ (ทั้งที่ตรวจสอบแล้วว่าติดแน่น) และอื่นๆ อีกมากมาย
จาก : หนังสือพระบรมธาตุ เขียนโดย : อ.บริภัทรพิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ.2539
อ่านบทความอื่นๆ
http://goo.gl/eiR4i0