พระภัททิยเถระกับการสร้างบุญพิเศษอย่างหนึ่งให้เต็มที่เต็มกำลัง

ในการทำบุญที่ส่งผลอลังการนั้น ไม่ใช่สิ่งผูกขาดเฉพาะกับบุคคลในพระไตรปิฎกเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้มีบุญในปัจจุบันได้เช่นกัน เพราะบุญย่อมส่งผลดีแก่ผู้ทำโดยไม่เลือกยุคสมัย https://dmc.tv/a13487

บทความธรรมะ Dhamma Articles > แรงบันดาลใจจากพระไตรปิฎก
[ 9 เม.ย. 2555 ] - [ ผู้อ่าน : 18271 ]
 ทองคำ
 
กับเส้นทางการสร้างบารมี
ของผู้มีบุญในพระไตรปิฎก
 
 
พระภัททิยเถระ 
 
        ตลอดเวลาแห่งการเดินทางในสังสารวัฏนั้น ไม่มีอะไรสำคัญกว่า “บุญกุศล” เพราะบุญเป็นมิตรแท้ที่ติดตามตัวเราไปได้ทุกภพทุกชาติ คนที่ไม่สร้างบุญกุศล จึงถือว่าเป็นคนที่ประมาทในการดำเนินชีวิตยิ่งกว่าความประมาทใดๆ และผลจากความประมาทนี้ จะนำชะตากรรมที่มืดมนมาสู่ชีวิตของเขา และหากเขายังดำเนินชีวิตด้วยความประมาทต่อไป ชีวิตก็จะยิ่งมืดมนลงไปเรื่อยๆ เพราะบุญที่เคยสั่งสมไว้ในอดีตจะค่อยๆ หมดลงไปทุกวัน และเมื่อหมดบุญ สิ่งดีๆ ทั้งหลายก็จะพากันทยอยจากไป ไม่ว่า คน สัตว์ หรือสิ่งของ เพราะไม่มีบุญที่จะรักษาสิ่งเหล่านั้นเอาไว้อีกแล้ว
 
        ด้วยเหตุนี้ ผู้มีปัญญาทุกยุคทุกสมัยจึงไม่ประมาทในการสั่งสมบุญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุญพิเศษ ที่จะมีอานิสงส์พิเศษอลังการ ดังเช่นผลบุญจากการสร้างบารมีของพระภัททิยะเถระ ในสมัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา พระภัททิยะเถระบังเกิดในครอบครัวที่มีตระกูลสูง สมบูรณ์พร้อมด้วยมนุษย์สมบัติอันเลิศ เป็นที่เคารพยกย่องของมหาชน ท่านเป็นผู้มีบุญมาก มีรูปสมบัติงดงาม ผิวพรรณวรรณะสวยงามกว่าคนทั่วไป และยังมีมือเท้าที่สวยงามเป็นพิเศษอีกด้วย เพราะท่านใช้มือและเท้าสร้างบารมีตลอดมาหลายภพหลายชาติ
 
เมื่อท่านมีโอกาสได้ฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เกิดจิตเลื่อมใสออกบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา
เมื่อท่านมีโอกาสได้ฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เกิดจิตเลื่อมใสออกบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา
 
        ในชาตินี้ เมื่อท่านมีโอกาสได้ฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เกิดจิตเลื่อมใสออกบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา หลังจากบวชแล้ว ท่านตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่ และใช้เวลาไม่นานก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ เมื่อเป็นพระอรหันต์แล้ว ท่านระลึกถึงบุญที่เคยทำมาในอดีตชาติ เมื่อเห็นบุพกรรมของตนแล้ว ท่านเกิดความปีติยินดี จึงประกาศบุพกรรมว่า “เมื่อภพชาติที่ผ่านมา เราได้สร้างบุญกับเนื้อนาบุญอันเลิศ คือพระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมกับเหล่าพระสาวก บุญนั้นส่งผลให้เราบรรลุถึงสมบัติทั้งสอง เราเป็นผู้ขวนขวายในวิเวก มีปกติอยู่ในเสนาสนะอันสงัด อริยผลทั้งปวงเราบรรลุแล้ว เราเป็นผู้ไม่มีความเศร้าหมองของจิต พระสัพพัญญูผู้เป็นนายกของโลกทรงทราบคุณทั้งปวงของเราแล้ว คุณวิเศษทั้งหลายคือปฏิสัมภิทาญาณ 4 วิโมกข์ 8 และอภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว” ประวัติการสร้างบารมีที่น่าสนใจของท่านที่ปรากฎอยู่ในพระไตรปิฎกมีดังนี้
 
        ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระพระภัททิยะเถระ ได้บังเกิดเป็นบุตรของเศรษฐี เมื่อเจริญวัยแล้ว ก็แต่งงานมีครอบครัวเหมือนดังชาวโลกทั่วไป วันหนึ่ง บุตรเศรษฐีเห็นชาวเมืองพากันไปทำบุญด้วยความร่าเริงเบิกบาน อุบาสกอุบาสิกาพากันไปเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไปฟังธรรม ทำทาน รักษาศีล และมีหลายๆ ท่านออกบวชในสำนักของพระบรมศาสดา เมื่อเขาเห็นทุกๆ คน ขวนขวายในการสร้างบุญ ก็คิดว่า “ตัวเราก็ไม่ควรปล่อยโอกาสให้ผ่านเลยไป ควรจะสร้างบุญพิเศษสักอย่างหนึ่งให้เต็มที่เต็มกำลัง”
 
บุตรเศรษฐีจึงตั้งใจบำเพ็ญบุญตลอดมา
บุตรเศรษฐีจึงตั้งใจบำเพ็ญบุญตลอดมา
 
        จากนั้นบุตรเศรษฐีก็ส่งคนไปนิมนต์พระบรมศาสดา และภิกษุสงฆ์มาเป็นเนื้อนาบุญ ด้วยความตั้งใจที่จะเอาบุญพิเศษ เขาจึงตระเตรียมบัลลังก์ทองถึง 100,000 ตัว ปูลาดด้วยเครื่องลาดที่มีขนยาว เครื่องลาดยัดนุ่น เครื่องลาดมีรูปดอกไม้ ผ้าเปลือกไม้ และผ้าฝ้าย เพื่อถวายแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระภิกษุสงฆ์ แล้วจัดสถานที่ปูลาดอาสนะอันมีค่าและสวยงาม เพื่อรองรับพระภิกษุถึง 100,000 รูป เมื่อได้เวลา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จมาพร้อมด้วยพระสงฆ์สาวก หลังจากที่พระพุทธองค์ประทับนั่งบนอาสนะที่จัดเตรียมไว้พร้อมกับหมู่สงฆ์แล้ว บุตรเศรษฐีได้ถวายภัตตาหารอันประณีตที่เตรียมไว้ด้วยจิตที่เลื่อมใส และถวายบัลลังก์ทองอันสูงค่าแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและคณะสงฆ์
 
        หลังจากที่พระปทุมุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงรับเครื่องบูชาแล้ว ก็ทรงมองไปในอนาคตกาลภายภาคหน้า และทรงทราบว่าอานิสงส์ใหญ่ได้บังเกิดขึ้นกับบุตรเศรษฐีแล้ว พระองค์ทรงปรารถนาที่จะให้บุตรเศรษฐีมั่นใจในผลแห่งบุญที่บังเกิดขึ้น จึงตรัสพยากรณ์ว่า “ผู้ใดถวายอาสนะทองอันลาดด้วยเครื่องลาดวิเศษมีขนยาวนี้ เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว ผู้นั้นจักได้เป็นเท้าสักกเทวราช 74 ครั้ง มีนางเทพอัปสรแวดล้อมเสวยสมบัติ จักได้เป็นพระเจ้าประเทศราชครอบครองพสุธา 1,000 ครั้ง จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 51 ครั้ง จักเป็นผู้มีสกุลสูงในกำเนิดและภพทั้งปวง ภายหลังผู้นี้จักบวชเป็นพระสาวกของพระสมณโคดมพุทธเจ้ามีนามว่า “ภัททิยะ”
 
        เมื่อฟังพระดำรัสของพระบรมศาสดาแล้ว มหาปีติก็บังเกิดขึ้นกับบุตรเศรษฐีอย่างไม่มีประมาณ เขาจึงตั้งใจบำเพ็ญบุญตลอดมา ด้วยอานุภาพของบุญที่ตั้งใจสะสมมาโดยตลอด เมื่อละโลกแล้ว บุตรเศรษฐีได้ไปบังเกิดในสวรรค์ จากนั้นเวียนว่ายตายเกิดอยู่ใน 2 ภพ คือได้เกิดเป็นเทวดาและมนุษย์เท่านั้น โดยไม่ตกไปในอบายภมิเลย ตรงตามพระดำรัสของพระบรมศาสดาทุกประการ และในชาติสุดท้าย บุตรเศรษฐีก็ได้บรรลุมรรคผลนิพพานอันเป็นเป้าหมายสูงสุดของการเดินทางในสังสารวัฏ หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ ห่างไกลจากทุกข์ทั้งปวง
 
เมื่อฟังพระดำรัสของพระบรมศาสดาแล้ว มหาปีติก็บังเกิดขึ้นกับบุตรเศรษฐีอย่างไม่มีประมาณ
เมื่อฟังพระดำรัสของพระบรมศาสดาแล้ว มหาปีติก็บังเกิดขึ้นกับบุตรเศรษฐีอย่างไม่มีประมาณ
 
        ในบรรดามนุษย์จำนวนมากมายมหาศาลนั้น เมื่อละโลกไปแล้ว คนที่ได้ไปเกิดในสุคติภูมิมีน้อยมาก ส่วนใหญ่จะไปเกิดในทุคติภูมิทั้งสิ้น ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยตรัสเปรียบเทียบไว้ว่า คนที่ได้ไปเกิดในสวรรค์มีแค่เขาโค แต่คนที่ตกนรกมีเท่าขนโค ดังนั้นการที่พระภัททิยเถระได้เวียนว่ายตายเกิดอยู่แต่ในสุคติภูมิตลอดต่อเนื่องเป็นเวลานานแสนนาน โดยที่วิบากกรรมซึ่งท่านต้องเคยทำผิดพลาดไว้บ้างในอดีตชาติ ไม่สามารถตามมาส่งผลให้ท่านไปเกิดในทุคติภูมิได้เลย จึงเป็นเรื่องที่ยากแสนยาก นอกจากนี้ ท่านยังได้ไปเกิดเป็นท้าวสักกเทวราชถึง 74 ครั้ง ได้เป็นพระเจ้าประเทศราชอีก 1,000 ครั้ง ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิถึง 51 ครั้ง และได้เกิดในตระกูลสูงทั้งในสวรรค์และโลกมนุษย์ สุดท้ายได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจากอานุภาพบุญใหญ่ที่ถวายบัลลังก์ทอง 100,000 ตัว ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสพยากรณ์ไว้
 
        สำหรับเราแม้มิได้ถวายบัลลังก์ทองถึง 100,000 ตัว แต่หากเราได้ถวายทองคำหล่อรูปเหมือนหลวงปู่ไว้เป็นปูชนียวัตถุให้ผู้คนรุ่นแล้วรุ่นเล่ามาสักการบูชา บุญกุศลเป็นอันมากก็จะเกิดขึ้นกับเราเช่นกัน และหากผู้มาทีหลังได้ศึกษาประวัติของหลวงปู่จนกระทั่งเกิดแรงบันดาลใจในการทำความดี ทำบุญทำกุศลตามอย่างท่าน บุญที่เกิดกับเราผู้มีส่วนในการหล่อรูปเหมือนหลวงปู่ ก็จะยิ่งทวีปริมาณเพิ่มขึ้น และบุญอันมหาศาลนี้ จะช่วยไปตัดรอนวิบากกรรมที่เราเคยพลาดพลั้งทำมา ทั้งในอดีตชาติและในปัจจุบันชาติให้เบาบางลง จนกระทั่งไม่สามารถตามมาส่งผลได้ ซึ่งจะทำให้เราดำรงชีวิตอยู่อย่างมีความสุขทั้งในชาตินี้และภพชาติเบื้องหน้า ต่างจากชีวิตของคนที่ไม่เห็นความสำคัญของบุญ
 
(จากภัททิยกาฬิโคธายปุตตเถราปทานที่ 3)

http://goo.gl/MbfeK


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      อานิสงส์การจุดประทีปเป็นพุทธบูชา : ตอน พระอนุรุทธเถระผู้มีจักษุทิพย์
      เพราะบูชาพระเจดีย์จึงมีรัศมีสว่างไสว บูชาด้วยดอกไม้แปดดอก
      พระปัญจทีปทายิกาเถรี กับอานิสงส์บูชาพระเจดีย์จึงมีทิพยจักษุ
      พระอุปวาณเถระ กับอานิสงส์การบูชาพระเจดีย์
      พระมหากัสสปะเถระ กับอานิสงส์สร้างพระสถูปเจดีย์
      บุญ คือ อะไร ?
      ศีลดี คือ อะไร ?
      เมื่อสวรรค์มีจริง ทำอย่างไรจึงจะได้ไปสวรรค์ ?
      ถ้าจิตขุ่นมัวในขณะนั้น ตายแล้วไปไหน ?
      นรก-สวรรค์
      อานิสงส์ของการฟังธรรม
      ทำทานอย่างไร จึงจะได้ บุญมาก ?
      ทำไมคนจึงต่างกัน ?




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related