ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

มองการเดินทางของเวลาอย่างทะลุปรุโปร่ง ตอนที่ 1

เวลาในแต่ละโลก

  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
ไม่มีการตอบกลับในกระทู้นี้

#1 Suphatra

Suphatra
  • Members
  • 24 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 26 May 2018 - 03:22 PM

มองการเดินทางของเวลาอย่าง ทะลุปรุโปร่ง
 ตอน เวลาในแต่ละโลก
 
     พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า สิ่งที่ยากแก่การเข้าใจของคนโดยทั่วไปมี 3 ประการ คือ "จิต เจตสิก และนิพพาน"
     "จิต" คือ "ดวงจิต" ส่วน "เจตสิก" คือ "การทำงานของดวงจิต" ทั้งสองมีความลึกล้ำเข้าใจยากพอๆ กับ "นิพพาน" เลยทีเดียว แสดงว่า ผู้ที่จะเข้าใจได้จริง ๆ จะต้องปฏิบัติจนบรรลุก่อน ไม่ใช่เข้าใจด้วยความคิด เหนือการอ่าน
     การจะเข้าใจด้วยสติปัญญาทั่วไป อาจด้วยการใช่ความคิดตรึกตรองและตรรกะ คนทั่วไปมักจะคุ้นเคยอย่างนั้น อธิบายอย่างไรก็ได้แค่ความรู้พื้นฐานเบื้องต้น ซึ่งเป็นเพียงเค้าโครงคร่าวๆ เท่านั้น
     การจะเข้าใจจริงๆ ต้องไปรู้ไปเห็นด้วยญาณทัศนะ จากการทำสมาธิจนใจนิ่งถึงจุดแล้ว ถ้าพูดในเชิงปฏิบัติคือ จนกระทั่งเห็นเรียกว่า "ธรรมจักษุ"แล้วรู้ว่าสิ่งที่เห็นคืออะไรด้วย"ญาณ-ทัศนะ"อย่างนี้ถึงจะแจ่มกระจ่าง ไม่ต้องใช้ความคิดเลย แต่ใช้"การเห็น"แล้วความรู้ก็จะผุดขึ้นมาจากการเห็นนั่นเอง นี่เป็นชั้น"ภาวนามยปัญญา"ปัญญาที่เกิดจากการภาวนาจนเห็นแจ้งซึ่งเป็นปัญญาขั้นสูงกว่าการนึกคิดตรึกตรอง
     เพราะฉะนั้น ถ้าเรายากรู้เรื่องใหญ่ ๆ อย่างเรื่องจักรวาลอยากรู้เรื่องกำเนิดเอกภพ หรืออยากรู้เรื่องเล็กระดับ "ควอนตัม"(Quantum)"อะตอม"(Atom) ให้เอาใจจรดเข้าที่ศูนย์กลางกายเมื่อปฏิบัติได้ถูกส่วน สิ่งเหล่านี้จะปรากฏขึ้นให้เห็นทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคต
   
 เวลา ในแต่ละโลก
 
     เมื่อกล่าวถึงเรื่องของกาลเวลา เวลาระหว่างโลกมนุษย์ สวรรค์และนรกนั้นต่างกัน พวกเราอยู่ในโลกที่คุ้นเคยกับวัน เดือน  ปี แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพบว่า สวรรค์มีเวลาที่ต่างออกไป
     สวรรค์ชั้นที่ 1 คือ "ชั้นจาตุมหาราชิกา"ในวันหนึ่งคืนหนึ่งบนสวรรค์ชั้นนี้ เทียบเท่ากับเวลาบนโลกมนุษย์นานถึง 50 ปี แปลว่า ในขณะที่โลกเราผ่านไปแล้ว 50ปี บนสวรรค์ชั้นนี้เพิ่งผ่านไปเพียงวันเดียว
     ส่วนสวรรค์ชั้นที่ 2 คือ "ชั้นดาวดึงส์"วันหนึ่งคืนหนึ่งเท่ากับเวลาบนโลกนานถึง 100 ปีทีเดียว มาถึงสวรรค์ชั้นที่ 3 คือ"ชั้นยามา"วันหนึ่งคืนหนึ่งบนนั้น เท่ากับเวลาบนโลกนานถึง 200ปี แล้ววันหนึ่งคืนหนึ่งบนสวรรค์ชั้นที่ 4 คือ "ชั้นดุสิต"ก็เท่ากับเวลาบนโลกนานถึง400ปีทีเดียว ยิ่งสูงไปถึงสวรรค์ชั้นพรหม เวลาก็จะยิ่งยาวนานขึ้นไปอีก
     ส่วนเวลาในนรกนั้นช้ากว่าเวลาบนสวรรค์มาก มหานรกมีทั้งหมด 8 ขุมใหญ่ ยกตัวอย่าง มหานรกขุมที่ตื้นที่สุด เรียกว่า"สัญชีวมหานรก" นรกขุมนี้วันหนึ่งคืนหนึ่งเท่ากับเวลาบนโลกมนุษย์ยาวนานถึง 9 ล้านปีเลยทีเดียว
     แค่สวรรค์ชั้นแรกเวลาก็ยาวนานกว่าบนโลกมนุษย์มากมายแล้วคนบนโลกอยู่กันจนอายุ 50 ปี แต่บนสวรรค์เพิ่งผ่านไปเพียงวันเดียวเท่านั้น
     สมมุติว่า พ่อแม่ใครที่เสียชีวิตไป แล้วท่านทำบุญไว้มากได้ไปอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ถ้าพ่อแม่เสียชีวิตไปแล้ว 25 ปี แสดงว่าท่านเพิ่งเกิดอยู่บนสวรรค์ชั้นนี้เพียง 6 ชั่วโมง ท่านเพิ่งจะไปถึงได้สักพัก เหมือนกับเราไปบ้านใหญ่ได้แค่ 6 ชั่วโมง กำลังเดินสำรวจบ้านใหญ่ยังไม่ทันเสร็จ เวลาบนโลกเราก็ผ่านไป 25 ปีแล้ว
     ส่วนเวลาในมหานรกนั้นนานจนลืมไปเลย เพราะวันหนึ่งคืนหนึ่งในมหานรกขุมที่ตื้นที่สุดยังเทียบเท่ากับเวลาบนโลกที่ผ่านไปถึง 9 ล้านปี เพราะฉะนั้น เราอย่าเผลอทำบาปเด็ดขาด เพราะมหานรกนั้นน่ากลัวมาก
     ไปเกิดในมหานรกแล้วไม่ได้นั่งเล่นนอนเล่นสบายๆ พอเกิดปุ๊บก็กลายเป็นสัตว์นรกตัวใหญ่โต แล้วนายนิบาล ยมบาลตัวเบ้อเริ่มก็จะมาจับตรึงไว้เอามีดบ้าง ขวานบ้าง เลื่อยบ้าง ทั้งเฉือนทั้งสับจนกระทั่งเนื้อและกระดูกขาดเป็นท่อน ๆ หั่นเนื้อกันเหมือนกับหั่นฟักแฟงอย่างนั้น
     สัตว์นรกต่างก็ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด พอทนพิษบาดแผลไม่ไหวก็ขาดใจตาย พอตายปั๊บ ด้วยอานุภาพแห่งกรรมที่ทำไว้ก็กลับมีชีวิตขึ้นอีกครั้ง แขนขาที่ขาดไปก็ต่อขึ้นมาใหญ่ แล้วโดนทารุณซ้ำอีก ตาย ๆ เกิด ๆ ซ้ำวันละหลายล้านหนอย่างนี้ น่ากลัวมาก
     คิดดูว่า แค่เราโดนมีดบาด หรือมีดเฉือนนิ้วขาดก็เจ็บปวดแทบขาดใจแล้ว แต่ในมหานรกนั้น สัตร์นรกต้องโดนสับโดนเฉือนเป็นชิ้นๆ จนตาย แล้วต่อติดใหม่วนเวียนไปอย่างนี้ วันหนึ่งคืนหนึ่งนานเทียบเท่ากับเวลาบนโลกมนุษย์ผ่านไปถึง 9 ล้านปี แล้วรับกรรมอย่างนี้นานถึง 500ปีนรก "น่ากลัวมาก"
     ใครที่เป็นนักเลงชอบไปไล่ยิงไล่ฟันเขา ไปเข่นฆ่าคนอื่นเขาแล้วต้องไปเจออย่างนี้ในนรกยาวนาน ไม่คุ้นเลย เพราะฉะนั้น อย่าไปทำบาปกรรมอกุศลทั้งหลาย แต่ให้ตั้งใจทำความดีถึงจะคุ้มค่าที่ได้เกิดมาเป็นคน ได้พบพระพุทธศาสนา
 
จากหนังสือ 24 ชั่วโมงที่ฉันหายใจ
โดย พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ
(สมชาย ฐานวุฑโฒ)