ไปที่เนื้อหา


บวชทำไม?


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 *innerspot*

*innerspot*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 29 January 2009 - 09:42 AM

เทศกาลงานบรรพชาอุปสมบท

“ชีวิตนั้นฆราวาสคับแคบเป็นทางมาแห่งธุลี
ชีวิตสมณะนั้นเป็นหนทางที่ประสริฐกว่า”

พุทธพจน์

บทนำ

เมือง ไทยเป็นเมืองแห่งพระพุทธศาสนา วัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามทั้งหลายของไทยจึงมาจากพระพุทธศาสนาและได้สืบทอด กันมาจากรุ่นสู่รุ่น ดังนั้นวัฒนธรรมของไทยจึงไม่ได้เป็นสิ่งที่เป็นแนวปฏิบัติหรือกิจวัตรเท่า นั้น แต่มันยังเป็นภาพสะท้อนของความดีงามที่มีต้นตอมาจากพระพุทธศาสนานั่นเอง ชาวไทยจึงนิยมให้บุคลที่มีโอกาสเข้าใกล้พระศาสนาได้เป็นส่วนหนึ่งของพระพุทธ ศาสนา การบวชเป็นัฒนธรรมอันดีงามประการหนึ่งของกุลบุตรไทย แต่การบวชนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่การอนุรักษ์แบบแผน หรือประเพณีอันดีงามเท่านั้น แต่ยังเป็นการทำให้ผู้บวชได้ยกฐานะของตนเองจากผู้นับถือพระรัตนตรับเป็นส่วน หนึ่งของพระรัตนตรัยอีกด้วย นอกเหนือจากนี้การบวชจะทำให้ผู้ที่ได้บวชมีเวลาว่างจากภาระกิจทางโลกและจะ ได้ใช้เวลาศึกษาธรรมะอย่างเต็มที่ ซึ่งจะทำให้เกิดความสุขสงบ สติปัญญา และความปลอดกังวล อันจะนำมาซึ่งความบริสุทธิ์ ทั้งทางกายและใจ


การบวชสำคัญอย่างไร

ผู้ ที่จะมาบวชในพระพุทธศาสนานั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ที่โกนหัวแล้วห่มผ้า เหลืองอย่างเดียวเท่านั้น แต่พวกเขาจะต้องฝึกฝนตนเองให้เดินตามแนวทางแห่ง ”พระแท้” ตามแบบอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอริยะสาวกทั้งหลาย ศีลทั้ง 227 ข้อซึ่งเป็นทั้งหลักการและข้อห้ามทั้งหลาย จะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บวชมีความบริสุทธิ์ทั้ง กาย วาจา ใจ และการบวชนั้นเป็นหนทางที่จะก้าวเข้าสู้เส้นทางแห่งความบริสุทธิ์นั่นเอง ดังนั้นการบวชจึงไม่ใช่แค่การแต่งตัวแบบพระ หรือแค่ทำให้มีกินมีใช้ไปวันๆ เท่านั้น แต่มันจะเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ผู้ที่ปรารถนาจะใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพได้ เลือที่จะก้าวเดินเข้าไปแสวงหา เมื่อผู้บวชเห็นประโยชน์ดังนี้แล้วเขาจึงตั้งใจฝึกฝนตนเองในการศึกษาธรรมะ ทั้งภาคปริยัติและปฏิบัติ เพื่อทำตนให้พ้นจากกองทุกข์ และเพื่อความบริสุทธิบริบูรณ์ตามวัตถุประสงค์ของการบวชที่ตนเองได้ตั้งใจไว้

ความสุขที่แท้จริงของชีวิต

พระ สัมมาสัมพุทธเจ้าได้อุทิศพระองค์เพื่อสั่งสอนสรพพสัตวืทั้งหลายให้เห็น สัจธรรมของโลกใบนี้ว่ามีความเสื่อม สิ้นไปเป็นธรรมดา พระองค์จึงทรงชี้หนทางแห่งความสุขที่คนทั้งหลายปรารถนาไว้ว่ามีสองประการคือ

* สามิสสะสุข; คือ ความสุขทั่วๆไปที่ต้องอาศัยคน สัตว์ สิ่งของมาปรนเปรอ ให้ได้มาซึ่งความพึงพอใจ ความสุขเหล่านี้ไม่ยั่งยืนยาวนาน หากถึงที่สุดแห่งความพอใจแล้ว จะนำมาซึ่งความผูกพันธ์ เป็นห่วง กังวล หวง ห่วง อิจฉา ริษยา ผิดหวังและเสียใจเมื่อสิ่งเหล่านั้นได้สูญหายไป

* นิรามิสะสุข; คือ ความสุขที่เที่ยงแท้ยั่งยืน ยาวนาน และไม่กลับมาทุกข์อีก แต่จะนำมาซึ่งความสุขที่ยิ่งๆขึ้นไป ซึ่งละเอียดกว่า ปราณีตกว่า คือพระนิพพาน ความสุขเหล่านี้ได้มาจากการปฏิบัติธรรม นั่นเอง



หาก ปราศจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสียแล้ว คงจะยากที่จะหาคนมาชี้หนทางแห่งความสุขที่แท้จริงนี้ได้ แม่พระองค์เองยังใช้เวลาถึง 6 ปีในการแสวงหาความสุขที่แท้จริงมาสอนพวกราได้ ดังนั้น พระองค์จึงทรงสรุปว่า ชีวิตฆราวาสเป็นหนทางที่คับแคบ เป็นทางมาแห่งธุลี คือ กิเลส การจะทำตนให้บริสุทธิบริบูรณ์ใชเพศฆราวาสนั้นยากกย่างยิ่ง กุลบุตรเมื่อเห็นดังนี้แล้วพึงปลงผมและหนวด นุ่งผ้ากาสาวพัสดุ์ แล้วออกบวชเพื่อแสวงหาหนทางแห่งความสุขอันแท้จริงเถิด

คุณสมบัติของผู้ที่จะบวช

ผู้ ที่จะบวชเป็นพระภิกษุได้นั้นต้องเป็นชายผู้นับถือพระรัตนตรัยว่าเป็นที่พึ่ง และมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ และจะต้องไม่เป็นบุคคลต้องห้ามดังต่อไปนี้

1. เป็นบัณเฑาะว์หรือกระเทย หรืออุพพโตพยัญชนก (ผู้ที่มีสองเพศในคนๆเดียวกัน)
2. 2. จะต้องไม่เป็นผู้ที่ได้ทำอนันตริกรรม เช่นฆ่าพ่อ แม่ พระอรหันต์ หรือทำให้พระพุทธเจ้าได้ห้อพระโลหิตมาก่อน และจะต้องไม่เป็นผู้ที่ได้กระทำผิดวินัยสงฆ์อย่างร้ายแรงจนต้องปราชิก หรือถูกขับไล่ออกจากสงฆ์มาก่อน
3. ต้องไม่เป็นโรคร้ายแรงอันจะนำมาซึ่งความน่ารังเกียจดังนี้
* โรคผิวหนังขั้นร้ายแรง เช่น โรคเรื้อน ฝีดาษ ครุฑธราฐ หรือโรคติดต่อร้ายแรง
* เป็นผู้พิการทางกายเช่น ตาบอด หูหนวก แขนขาด้วน
* ไม่เป็น อัมพาต เดินหรือช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เป็นต้น
4. ต้อง เป็นผู้ไม่มีพันธะผูกพันธ์ เช่น หนีทหาร หนีหนี้ หนีคดีความ หรือเป็นผู้ที่ทางการได้รั้งตัวไว้ด้วยเหตุบางประการ หรือเป็นผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาติจากบิดา มารดา หรือ ผู้ปกครอง

หน้าที่ความรับผิดชอบของพระภิกษุ

จุด ประสงค์หลักของการบวชนั้นเพื่อทำความบริสุทธ์ของตนเองให้ยิ่งๆขึ้นไป โดยที่จะต้องสละตนให้พ้นออกจากเครื่องเหนี่ยวรั้งทางโลกให้ได้มากที่สุด ดังนั้นผู้บวชจึงไม่ได้บวชมาเพื่อหวังลาภสักการะ หรือเพื่อใช้ชีวิตให้รอดไปวันๆเท่านั้น แต่ผู้บวชจะต้องศึกษาธรรมะ ทั้งภาคปริยัต และ ปฏิบัติ เพื่อมาสั่งสอนตนเอง ให้พ้นจากกองทุกข์ และทำพระนิพพานให้แจ้ง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงบัญญํติ “กิจวัตร” ไว้ให้พระภิกษุได้กระทำ กิจวัตรเหล่านี้มีทั้งสิ่งที่ “ต้องทำ” และ “ควรทำ” พระภิกษุผู้ปฏิบัติกิจวัตรนีเป็นประจำสม่ำเสมอ จะทำให้เป็นผู้มีความบริสุทธกาย วาจา ใจ และจะทำให้มีตบะ คือเครื่องเผากิเลสในใจได้ ในที่สุดกิจวัตรนั้นได้ถูกแบ่งเป็นสิบข้อดังนี้คือ

1. บิณฑบาตร
2. กวาดวัด
3. ปลงอาบัติ
4. ทำวัตร สวดมนต์ เจริญสมาธิภาวนา
5. พิจารณาความไม่งามของตน
6. ปรนนิบัติอุปัชฌาอาจารย์
7. ออกกำลังกาย บริหารขันธ์
8. ศึกษาพระธรรมวินัย
9. เอาใจใส่สมบัติพระศาสนา
10. ทำกริยาให้น่ากราบไหว้


ครั้งหนึ่งในชีวิตลูกผู้ชาย

วัด พระธรรมกายได้จัดการบวชให้มีขึ้นทุกปี ทั้งภาคฤดูร้อนและในตอนเข้าพรรษา ทางวัดจึงได้จัดสถานที่ให้หมาะสมที่จะใช้เป็นที่อบรมกุลบุตร ที่จะมาบวชเป็นพระในพระศาสนา และยังปรับหลักสูตรการอบรมเพื่อให้พระได้ใช้เวลาที่มาบวชไปเพื่อความบริ สุทธิอย่างแท้จริง ในฤดูเข้าพรรษาของปีนี้ทางวัดได้จัดบวชพระหลายโครงการ โครงการที่ได้จัดขึ้นในตอนนี้ได้แก่ โครงการบวชพระธรรมทายาทเข้าพรรษา ซึ่งจะมีผู้มาบวชถึง 500 รูปด้วยกัน และในภาคนานาชาติ ได้มีการจัดงานบวชของศูนย์สาขาในต่างประเทศอย่างในเมืองโกเธนเบริก ประเทศสวีเดนขึ้นอีกด้วย ผู้ที่สนใจสามารถร่วมอนุโมทนาได้โดยตรงที่วัดหรือศูนญ์สาขาใกล้บ้านท่าน

#2 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 January 2009 - 11:47 AM

พระแท้ แม้จะเป็นสมมุติสงฆ์ก็ตาม ยังคงขวนขวายในสมณธรรมและทำหน้าที่เป็นเนื้อนาบุญอันประเสริฐไม่เพียงแต่ชาวพุทธเท่านั้น ยังดำรงรักษาเผยแผ่พระสัทธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาจนถึงทุกวันนี้ ให้ชาวโลกได้มีโอกาสเรียนรู้เข้าถึงทางสายกลาง ซึ่งเป็นเส้นทางแห่งนวโลกุตตรธรรมอันเป็นเป้าหมายสูงสุดของสรรพชีวิต

ที่กล่าวเช่นนี้ เพราะในปัจจุบัน มีนักคิดหลายท่านมักวิพากษ์วิจารณ์พระสงฆ์ในเชิงลบ ชาวพุทธ(ทะเบียนบ้าน)บางท่านถึงกับกล่าวว่านับถือเฉพาะพระพุทธ พระธรรม แต่ไม่ไหว้หรือยำเกรงพระสงฆ์ ยังผลให้สังคมเสื่อมศรัทธา เป็นอันตรายต่อสังสารวัฏ โดยหารู้ไม่ว่าเนื้อนาบุญอันประเสริฐของภพสามนั้นมีอยู่ใกล้ตัวเอง จึงขาดโอกาสเข้าถึงเนื้อนาบุญอันประเสริฐภายในตัวเอง
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#3 อริย 072

อริย 072
  • Members
  • 440 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 January 2009 - 01:36 PM

QUOTE
การบวชนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่การอนุรักษ์แบบแผน หรือประเพณีอันดีงามเท่านั้น

แต่ยังเป็นการทำให้ผู้บวช ได้ยกฐานะของตนเอง
จาก ผู้นับถือพระรัตนตรับ เป็น ส่วนหนึ่ง ของพระรัตนตรัยอีกด้วย


นอกเหนือจากนี้ การบวช จะทำให้ผู้ที่ได้บวชมีเวลาว่าง
จากภาระกิจทางโลก และจะได้ใช้เวลาศึกษาธรรมะ อย่างเต็มที่
ซึ่งจะทำให้เกิดความสุขสงบ สติปัญญา และความปลอดกังวล
..อันจะนำมาซึ่งความบริสุทธิ์ ทั้งทางกายและใจ


ขอเรียนเชิญ ชายแท้ทุกท่าน จ้ะ


#4 www.kidtumdee.com

www.kidtumdee.com
  • Members
  • 3 โพสต์
  • Interests:Internet computerdmc and other

โพสต์เมื่อ 05 February 2009 - 11:06 PM


อนุโมทนาฯครับ

#5 สามารถ

สามารถ
  • Members
  • 40 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:Meditation, Internet

โพสต์เมื่อ 24 February 2009 - 10:43 AM

เนื่องจากเวป www. dmc.tv ไม่ใคร่เป็นที่รู้จักของผู้อยู่วงนอกเท่าไหร่ ทางท่านผู้อำนวยการสำนักบุคคลกลาง จึงอยากให้ข่าวการบวชของวัดพระธรรมกาย ได้เป็นที่รู้จักของสาธารณชนนอกรั้ววัดพระธรรมกายให้มากขึ้น เพื่อจะเผยแผ่และชักขวนให้คนมาบวชพระให้มากขึ้นๆ ทุกๆปี หลวงพี่จึงมีโอกาสรับบุญในการโปรโมทงานบวชของวัดพระธรรมกายออกไปสู่โลกภายนอกโดยทางอินเทอร์เน็ต จนกระทั่งสามารถทำให้ Search Engine ใหญ่ๆทุ้งหมด เช่น Google, Yahoo, Hotmail ต่างก็นำ Link ของ เวป www.dmycenter.com ไว้เต็มหน้าตั้งแต่หน้าหนึ่งถึงหน้าสี่ หน้าห้า ด้วย Keyword ภาษาไทยง่ายๆว่า "บวชพระ-ฟรี"

เพื่อช่วยกันตอกย้ำให้คำว่า บวชพระ-ฟรี เป็น Brand ของการบวชพระธรรมทายาทให้ได้อย่างยั่งยืน ก็จะเป็นการเพิ่มจำนวนผู้สมัครมาบวชพระได้ตามเป้าหมาย ทุกๆปี

จึงอยากรบกวนสมาชิกของ DMC Forum ได้ช่วยกันโปรโมท Keyword คำว่า บวชพระ-ฟรี ให้เป็นที่แพร่หลายออกไป ด้วยการแนะนำเพื่อนๆให้พูดต่อๆกันไปว่า หากคิดไม่ออกว่าจะบวชพระฟรีได้ที่ใหน ก็ให้ไปถามที่ Google หรือ Yahoo หรือ Hotmail ก็ได้

ขออนุโมทนาบุญแก่ทุกท่าน ที่ให้ความอนุเคราะห์ร่วมมือ

สาธุ

หลวงพี่ โกวิโท


#6 อนุบาลเสียงใส

อนุบาลเสียงใส
  • Members
  • 42 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 April 2009 - 05:23 PM

สาธุ.....
ไปร่วมพิธีกรรมงานบวชสามเณรวันที่ 11 เมย.ที่วัดมา เอาบุญมาฝากค่ะ
แต่ยังไม่ได้โหลดรูปมาให้ดูนะค๊ะ
เอารูปอื่นมาให้ดูก่อน happy.gif

ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  255_S.jpg   104.19K   3 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  _________1.jpg   125.79K   1 ดาวน์โหลด


#7 อนุบาลเสียงใส

อนุบาลเสียงใส
  • Members
  • 42 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 April 2009 - 05:36 PM

บวชแล้ว ได้บุญ....
บุญทั้งผู้บวช..และผู้ร่วมโมทนาการบวช

บวชแล้ว ได้ปลื้ม..
ปลื้ม ทั้งผู้บวช.. และผู้ชักชวนให้บวช...และทุกครั้งที่นึกถึงบุญนี้ ได้ปลื้ม ทุกครั้ง

บวชแล้ว ได้ระลึกนึกถึงความดี.. ได้ระลึกนึกถึงบรรยากาศที่เคยได้ร่วมอบรม ครั้งเยาว์วัย ....
จะได้มีความดีติดตัวไปทุกภพทุกชาติ และ ได้ชักชวนเพื่อนๆๆ ผู้ชายมาบวชกันอีก ได้บุญอีกหลายต่อ ...

อีกทั้งบวชแล้ว ได้บวชยาว.. ก็เป็นบุญเป็นต้นบุญต้นแบบให้กับน้องๆๆ ผู้ชายที่โรงเรียนได้เจริญรอยตามสามเณรรุ่นพี่ laugh.gif

สาธุ...

ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  novice.jpg   121.62K   1 ดาวน์โหลด


#8 อนุบาลเสียงใส

อนุบาลเสียงใส
  • Members
  • 42 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 April 2009 - 05:43 PM

การบวช... ได้สร้างคน ให้เป็นคนดีอย่างที่โลกต้องการ
การบวช.. ได้สร้างเยาวชน ให้เรียนรู้หลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เรียนรู้หลักของการดำรงชีวิต
การบวช.. ได้ฝึกฝนอบรมเยาวชน ให้อยู่ในระเบียบวินัย ได้สร้างความอดทน ได้หล่อหลอมนิสัย ให้เกิดขึ้น เพื่อให้เยาวชนเติบใหญ่เป็นคนดีในวันข้างหน้า
การบวช.. ได้สร้างเยาวชน ให้เป็นพระแท้ ในวันข้างหน้า...

ใครเลยจะรู้ว่า..การบวช... และการได้มาบวช...ของผู้มีบุญ...ยากเกินกว่าที่จะอธิบายได้ในหน้ากระดาษเดียว