ข้อดีของการเป็นคนไม่มีแฟน มีอะไรบ้าง!!!!!
#1
โพสต์เมื่อ 09 May 2006 - 03:53 PM
1.มีเวลาเต็มที่ในการฝึกฝนสมาธิ อบรมจิตภาวนา
#2
โพสต์เมื่อ 09 May 2006 - 04:55 PM
ห่วงอะไรบ้างคงพอทราบอยู่แล้วนะค่ะ
#3
โพสต์เมื่อ 09 May 2006 - 05:37 PM
=> สามารถบำเพ็ญเนกขัมมะบารมีได้โดยสะดวก และเมื่อบำเพ็ญบารมีนี้ได้โดยสะดวกแล้ว ก็จะเป็นฐานให้สามารถบำเพ็ญบารมีอื่นๆ ได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทานบารมี และเมื่อบำเพ็ญทานบารมีได้อย่างเต็มที่ ก็สามารถยังบารมีอื่นๆ ที่เหลืออีก ๘ บารมีให้เต็มเปี่ยมได้โดยง่ายดายครับผม
#4
โพสต์เมื่อ 09 May 2006 - 05:43 PM
2.ไปไหนมาไหนสะดวกไม่ต้องห่วงใคร สบายใจสุดๆ
3.จะมีกินหรือไม่มีกินก็ไม่เครียด ไม่ต้องหนักใจว่าลูกและเมียจะมีกินไหมเลี้ยงตัวเองคนเดียวก็พอ
4.ไม่ต้องคอยตามหึงหวงให้เสียสุขภาพจิต เข้าเพลงว่าอยากไปไหนก็ไปครับ 555
5.หากอยากประพฤติพรหมจรรย์ย่อมสามารถตัดใจได้ง่ายเพราะไม่มีห่วงเพิ่มคือ ห่วงบุตร ห่วงภรรยา
แค่นี้ก่อนละกันครับเดี๋ยวให้เพื่อนๆ ท่านอื่นตอบบ้างครับ
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#5
โพสต์เมื่อ 09 May 2006 - 06:57 PM
#6
โพสต์เมื่อ 09 May 2006 - 07:10 PM
มีคู่ สนุกแต่ไม่สบาย
ด้ายเส้นเดียว .........ไม่เป็นผืนผ้า
อิฐก้อนเดียว .... ไม่เป็นบ้านเรือน
ทำบุญคนเดียว ...ไม่เป็นกัลยาณมิตร
#7
โพสต์เมื่อ 09 May 2006 - 07:13 PM
"อยู่คนเดียวแสนจะเปลี่ยวใจ โบราณว่าไว้แสนสบายแต่ไม่สนุก" ขำขำครับ
#8
โพสต์เมื่อ 09 May 2006 - 08:02 PM
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#9
โพสต์เมื่อ 09 May 2006 - 08:18 PM
#10
โพสต์เมื่อ 09 May 2006 - 08:57 PM
อยู่คนเดียว สบายแต่ไม่สนุก อยู่สองครองทุกข์ สนุกแต่ไม่สบาย
DMC The only one
ประกอบเหตุ สังเกตผล ทนเอาเถิด ประเสริฐนัก
ไม่หยุดไม่ถึงพระ ตัวหยุดนี้แหละเป็นตัวสำเร็จ
ผลไม้ดกนกชุม น้ำเย็นปลาชอบอาศัย
คติธรรม พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
#11
โพสต์เมื่อ 09 May 2006 - 09:01 PM
#12
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 07:30 AM
เราควรตัดใจซะ เพราะคานทองนั้นมันแฝงด้วย
ความสุขอยู่เบื้องหลังที่มหาศาล สุภาพบุรุษที่ยังโสด
ก็ตัดใจซะ ไปบวชกันเหอะ.....(บอกให้เค้าปลงเกินไปมั้ยเนี้ย)
ความไม่มีแฟนเป็นลาภอันประเสริฐ
#13
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 08:42 AM
3. ....
4. ....
#14
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 08:45 AM
1.ทุกข์มากสุขน้อย
2.ทำอะไรตามใจตัวเองได้ยาก
3.ไม่ใช่แค่เราสองคนมันมีทั้งครอบครัวฝ่ายเราและฝ่ายเขาด้วยปัญหามากตามตัว
4.หาเวลาสงบใจได้น้อยลง
5.เปรียบเหมือนหนอนที่มีความสุขในอาจม
6.บั่นทอนเวลาการทำความเพียร
7.รักกันมากแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องจากกันอยู่ดี
8.คิดถึงอยากเจอไม่ได้เจอก็เป็นทุกข์
9.กลัวเขาไม่รักเราก็เป็นทุกข์
10.กลัวเขาเจ็บป่วยก็เป็นทุกข์
11.กลัวเขาตายจากก็เป็นทุกข์
13.ครอบครัวเขาไม่ยอมรับเราก็เป็นทุกข์
14.กลัวเขาไปมีคนอื่นก็เป็นทุกข์
15.กลัวไม่มีเงินเลี้ยงเขาก็เป็นทุกข์
16.เวลาเขาเสียใจก็เป็นทุกข์ด้วย
17.เขาไม่ทำบุญเหมือนเราก็เป็นทุกข์
18.กลัวเขาไม่ได้ขึ้นสวรรค์กับเราก็ป็นทุกข์
19.คนเวลาตกอยู่ในห้วงของการมีแฟนห้ามไม่ได้เลยที่จะเกิดสิ่งเหล่านี้กับตัวเขาและเธอ.........สรุปทุกข์นั่นแหละครับ...........เขาเอาความสุขเล็กน้อยมาล่อหลอกเราเพื่อให้เราตกอยู่ในวังวนเหล่านี้โอกาศการสร้างบารมีก็ถูกบั่นทอนไป
#15
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 12:47 PM
เพราะชีวิตแสนจะมีอิสระเสรี ใจไม่ติดกับอารมณ์ต่างๆ
ที่เป็นเครื่องขัดขวางการปฏิบัติธรรม และที่สำคัญนะ
เวลาทั้งหมดจะเป็นของเราอย่างแท้จริง..
มันดีอย่างนี้แล้ว...จะรีรออะไรอยู่...มาเป็นโสดกันเถอะ..
เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน
#16
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 02:08 PM
แต่ให้เข้าใจไว้เลยว่า "เข้าแล้ว ออกยาก"
ดังนั้น ควรคิดให้ดีๆ คิดให้มากๆ ให้รอบคอบ และรอบด้าน ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป
อนุโมทนาบุญกับผู้ที่ตั้งใจ ออก และตั้งใจ ไม่เข้า ทุกท่าน
สาธุ
#17
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 02:16 PM
แต่มีคู่ทางธรรม
รักพ่อที่สุด
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#18
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 04:46 PM
#19
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 04:55 PM
........ผมว่ามีหมู่คณะเราอีกมากต้องการกำลังใจหักดิบในเรื่องนี้ แต่ หลงกับความสุขเล็กน้อยที่เฉาก๊วยล่อหลอกเรา ให้หมดเวลาไปกับเรื่องแบบนี้...........
.ฟังเรื่องราวดีๆได้ที่นี่ครับ
#20
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 05:21 PM
มีให้ดูแบบครบทุกรส สดทุกเรื่อง เลยล่ะครับ
#21
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 05:25 PM
แฟนเราเขาก็ดี้ดี จะสลัดเขาไปก็สงสาร
ไม่ยู้ทำไงดีนอกจากชวนมานั่งสมาธิด้วยกันเผื่อเขาจะเบื่อเราบ้าง
#22
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 05:35 PM
น้าจี้
#23
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 05:40 PM
#24
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 08:21 PM
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"
#25
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 09:08 PM
สุดยอดจริงๆ อนุโมทนาครับ ชอบประโยคนี้มาก ขอยกมาเลยนะครับ
"อนิจจาร่างกายของชายหญิง มีแต่สิ่งปฏิกูลอาดูรหลาย เต็มไปด้วยมูตรคูถไม่เว้นวาย น่าเบื่อหน่ายรำคาญทุกกาลไป ร่างกายนี้มีหนังหุ้มบังทั่ว โดยรอบตัวมีช่องดังปล่องไข่ สิ่งโสโครกมากมายจากภายใน ให้หลั่งไหลซึมออกมานอกกาย กายนี้เป็นแผลใหญ่จำไว้เถิด เป็นที่เกิดทุกข์ยากลำบากหลาย แต่คนเขลาเฝ้าชมหลงงมงาย ว่าเฉิดฉายโสภาเที่ยงถาวร อะยังโขกาโยโอ้กายนี้ เป็นถิ่นที่เกิดอยู่แห่งหมู่หนอน มีโรคาสารพัดคอยตัดรอน ให้เดือดร้อนเป็นประจำทุกข์ย่ำยี ร่างกายนี้ไม่นานนักจักผันแปร ถึงความแก่คร่ำคร่าสิ้นราศี จักสิ้นลมล้มตายวายชีวี กลายเป็นผีเน่าผุพังเหม็นจังเลย"
(พระใบฎีกาตรีคูณ จิตฺตปญฺโญ : ประพันธ์)
#26
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 09:29 PM
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#27
โพสต์เมื่อ 12 May 2006 - 01:48 AM
เป็นโสดหนะเหรอ "สบายส่วนตัว อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน"