คนไทยทิ้ง "ขยะพิษ" ปีละ 4 แสนตัน
กระทรวงสาธารณสุข เผยประเทศไทย มีการทิ้งขยะอันตรายจากชุมชน ปีละประมาณ 4 แสนตัน โดยปริมาณขยะกว่าครึ่งเกิดในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภาคกลาง.
นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สถานการณ์ขยะอันตรายว่า จากสถิติที่ผ่านมา พบมีการทิ้งขยะอันตรายจากชุมชน ปีละประมาณ 4 แสนตัน กว่าครึ่งเกิดใน กรุงเทพมหานคร ปริมณฑลและภาคกลาง ซึ่งขยะเหล่านี้ได้รับการกำจัดอย่างถูกวิธีน้อยมาก หน่วยงานที่มีหน้าที่กำจัดขยะ ควรจะจัดถังหรือถุงขยะสีส้ม ซึ่งเป็นสีสัญลักษณ์ของขยะอันตราย และรณรงค์ให้ประชาชนแยกใส่ขยะอันตรายออกจากขยะมูลฝอยทั่วไป ซึ่งจะเป็นการลดการแพร่กระจายของสารพิษสู่สิ่งแวดล้อม
นายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขยะอันตรายหมายถึงวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้แล้วแต่ยังมีสารเคมีอันตรายหลงเหลืออยู่ เช่นกระป๋องสเปรย์ ภาชนะบรรจุสารเคมีกำจัดศัตรูพืช สารเคมีทำสะอาด สารเคลือบเงาต่างๆ ซากถ่านไฟฉาย หลอดไฟ ซากเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ โดยซากขยะเครื่องไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์จะมีสารโบรมีน ทำให้เกิดโรคมะเร็ง ถ่านไฟฉายมีสารแคดเมียม หลอดไฟฟ้ามีสารปรอท เป็นอันตรายต่อระบบประสาท แบตเตอรี่มีสารตะกั่วทำลายเม็ดเลือดแดง กลุ่มที่เสี่ยงสัมผัสขยะอันตรายได้แก่ กลุ่มที่มีอาชีพเก็บหรือรับซื้อของเก่า หรือซาเล้ง มักนำภาชนะบรรจุสารเคมีไปล้าง แล้วเทสารเคมีที่ยังเหลืออยู่ลงดินหรือลงน้ำ ทำให้ดินและน้ำปนเปื้อนสารพิษ