พิธีถวายภัตตาหารออนไลน์ ณ บ้านแก้วเรือนทองคุณยายฯ

พิธีถวายภัตตาหารออนไลน์ ณ บ้านแก้วเรือนทองคุณยายฯ

วัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี ได้จัดพิธีถวายภัตตาหารเป็นสังฆทานออนไลน์ ณ บ้านแก้วเรือนทองคุณยายฯ

สำหรับในช่วงสายของวันนี้ ณ บ้านแก้วเรือนทองคุณยายอาจารย์ มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง สภาธรรมกายสากล วัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี เป็นอีกช่วงเวลาสำคัญของทานบดีที่ได้สั่งสมบุญถวายภัตตาหารเป็นสังฆทานแด่คณะสงฆ์หมู่ใหญ่ และร่วมบุญเป็นเจ้าภาพโครงการบรรพชาและอุปสมบทหมู่วันคุ้มครองโลก ในส่วนของพิธีถวายภัตตาหารเป็นสังฆทานนั้น ทางวัดพระธรรมกายได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-11.00 น.ยกเว้นวันอาทิตย์ และจัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

สำหรับกิจกรรมงานบุญถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน ได้จัดขึ้นแบบออนไลน์ ผ่านระบบ ZOOM เป็นการเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนไม่ตกบุญ ให้ได้สั่งสมบุญได้ต่อเนื่อง เพราะว่าหลายท่านไม่สามารถเดินทางมาร่วมพิธีกรรมได้ที่วัด จึงได้ร่วมอนุโมทนาบุญทางออนไลน์และร่วมประกอบพิธีกรรมทาง ZOOM แม้ตัวห่างวัดแต่ไม่ให้ใจเราห่างบุญ ทำให้เราได้เกาะเกี่ยวบุญได้ต่อเนื่องทุกวัน

ในส่วนของพิธีกรรมวันนี้ คณะเจ้าภาพได้นำกล่าวคำถวายต่างๆ ดังนี้ พิธีกล่าวคำถวายปัจจัยไทยธรรม, พิธีกล่าวคำรัตนบุปผาบูชาพระมหาธรรมกายเจดีย์, พิธีกล่าวคำถวายประทีปโคมโฟ, พิธีกล่าวคำถวายข้าวสาร, พิธีกล่าวคำถวายผ้าไตรจีวร, พิธีกล่าวคำถวายยารักษาโรค และพิธีกล่าวคำถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน พร้อมกันนี้คณะประธานนำกล่าวคำถวายก็ได้น้อมนำผ้าไตรจีวรพร้อมด้วยบาตรถวายแด่คณะสงฆ์ด้วยใจที่ปีติในบุญ ซึ่งทุกขั้นตอนของกิจกรรมงานบุญวันนี้เป็นไปด้วยความปลาบปลื้มปีติในให้แก่ผู้มีบุญทุกท่าน

ในการนี้ท่านประธานสงฆ์ได้กล่าวสัมโมทนียกถา โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า บัณทิตทั้งหลายในกาลก่อนกล่าวไว้ว่า เมื่อเรือนถูกไฟไหม้ สิ่งของใดที่เจ้าของนำออกไปได้ สิ่งของนั่นย่อมเป็นประโยชน์แก่เจ้าของ ส่วนสิ่งของใดที่ไม่ได้ขนออกไป ย่อมถูกไฟไหม้ฉันใด โลกถูกชราและมรณะเผาแล้วก็ฉันนั้น ควรนำออกด้วยการให้ทาน เพราะทานที่บุคคลให้แล้วได้ชื่อว่า นำออกดีแล้ว หลวงพ่อธัมมชโยเคยให้โอวาทไว้ว่า เราจะมีชีวิตในโลกนี้อีกไม่นานเท่าไหร่ เดียวก็วัน เดียวก็คืน เดียวก็จะหมดเวลาไปแล้ว ใช้วันเวลาและทรัพย์พยากรณ์ที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ในการสร้างบารมี สิ่งใดที่เราให้ด้วยการนำออกบริจาค ฝากฝังไว้ในวัตถุอันเลิศ คือทักขินัยยะบุคคล สิ่งนั่นก็จะเป็นของเรา สิ่งใดที่เรายังไม่ให้ ไม่ได้บริจาค ยังไม่ได้นำออก ก็ยังไม่ได้เป็นของเรา เหมือนไฟไหม้บ้าน พึ่งไหม้บานประตู หน้าต่าง เรานำตู้ โต๊ะ เตียง เสื้อผ้าออกมาแค่ไหน เราก็นำไปใช้แค่นั้น ส่วนที่นำออกไม่ได้ก็จะถูกไฟไหม้ ชีวิตก็ถูกความแก่ ความเจ็บ ความตาย ประดุจไฟที่เผารนอยู่ตลอดเวลา เรือนกาย เรือนใจนี้จึงมีแต่วันเสื่อมสลายไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น สิ่งใดที่เราได้นำออก สิ่งนั้นก็จะเป็นของเราอย่างแท้จริง ทุกท่านที่ได้มาสั่งสมบุญในวันนี้ ชื่อว่าเป็นการดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท