สารพัดโรค
คำถามจากทางบ้าน:
คุณตาเป็นลูกคุณพระสมัยรัชกาลที่ ๖ มีฐานะดีมาก ท่านชอบยิงนกตกปลาตั้งแต่วัยหนุ่มเมื่อ แต่งงานกับคุณยาย ท่านมีความสุขกันมาก แต่ความสุขนั้นมีระยะเวลาสั้นนักเนื่องจากคุณตาได้ล้มป่วยลงอย่างกะทันหันด้วยวัณโรค และเสียชีวิตด้วยวัยเพียง ๒๕ ปี
คุณยายอายุมากขึ้น ท่านได้ล้มป่วยลงด้วยโรคต้อหิน โรคต้อกระจก โรคเบาหวานโรคความดันสูง โรคหัวใจโต และสุดท้าย ก็คือโรคมะเร็งในโพรงจมูก ต่อมาเมื่อเบาหวานขึ้นตา ทำให้ท่านตาบอดสนิท แต่ที่ร้ายที่สุดเห็นจะเป็นโรคมะเร็งในโพรงจมูก เพราะเวลานั่งเก้าอี้ ท่านจะทำอาการหัวสะบัด เหมือนถูกใครกระชาก
ท่านบอกว่า ปวดหัวซีกซ้ายบ้างซีกขวาบ้าง ปวดจนหัวกระตุกจะมีเนื้อเยื่อสีแดงขยายใหญ่ ยื่นออกมาทางโพรงจมูกและต่อมาก็มีเลือดไหลออกมาจากโพรงจมูกเป็นเลือดสีดำ เป็นลิ่มๆ ทะลักออกมาไม่หยุดต้องนำส่งโรงพยาบาลกะทันหันกลางดึกเป็นประจำ เมื่อผ่าตัดเอาเนื้อมะเร็งออกอาการก็ดูเหมือนจะดีขึ้นระยะหนึ่ง แต่แล้วก็กลับทรุดลง จนทำให้ท่านต้องเสียชีวิตไปในที่สุด ด้วยวัย ๗๕ ปี
คุณตาของลูกทำกรรมใดไว้ จึงต้องตายตั้งแต่ยังหนุ่ม ด้วยวัณโรค และคุณยายของลูกทำกรรมใดไว้ จึงต้องป่วยด้วยโรคมากมายและสุดท้ายเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในโพรงจมูก
ขณะนี้ท่านทั้งสองอยู่ที่ไหน อยู่ด้วยกันหรือไม่คะ และได้รับบุญที่ลูกๆ ทำบุญอุทิศไปให้หรือไม่
ที่นี่มีคำตอบ:
คุณตาตายตั้งแต่ยังหนุ่มด้วยวัณโรค เพราะกรรมในอดีต คุณตาเคยเป็นอำมาตย์ ได้ตัดสินผู้ต้องขังให้ไปขังไว้ในคุกที่อับชื้นทรมานจนตาย วิบากกรรมนี้มาส่งผล
เหตุที่ทำให้คุณตาตายตั้งแต่ยังหนุ่มด้วยวัณโรค
ตายแล้วก็วนเวียนอยู่ระยะหนึ่ง และไปเกิดเป็นมนุษย์ เพราะหมดวิบากกรรมดังกล่าวตอนนี้จึงยังไม่ได้รับบุญที่อุทิศไปให้
เหตุที่ทำให้คุณยายป่วยด้วยโรคหลายโรค
คุณยายป่วยด้วยโรคหลายโรค เช่น โรคต้อหิน ต้อกระจก เบาหวาน ความดันโลหิตสูงหัวใจโต และเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในโพรงจมูก เพราะกรรมปาณาติบาตที่ฆ่าสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ เพื่อขายและทำเป็นอาหารทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมทั้งมีกรรมในอดีตที่เคยสั่งขังนักโทษในคุกมืดในสมัยที่ท่านเป็นผู้ชายจนนักโทษตามองไม่ค่อยเห็น กับสั่งทรมานนักโทษด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งกระชากศีรษะทุบตีชกจนหน้าเละ เลือดกำเดาออก กรรมทั้งหมดมารวมส่งผล
ทั้งคุณตาคุณยายตอนนี้ไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์แล้ว จึงไม่อาจรับบุญได้
ตายแล้วก็วนเวียนอยู่ระยะหนึ่ง ตอนนี้ไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์แล้ว จึงไม่อาจรับบุญได้ทั้งคุณตาคุณยายจ้ะ
โดย คุณครูไม่ใหญ่
๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙