เจ้าที่แรง
พระภูมิเจ้าที่
เจ้าที่แรง
Case study
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
พี่ชายคนโตของลูก บวชเป็นพระภิกษุ ใช้ชีวิตครองผ้าเหลืองมาประมาณ 20 กว่าพรรษา หลวงพี่เป็นพระภิกษุที่ชอบช่วยเหลือคน ท่านได้ร่ำเรียนวิชาอาคมเป็นภาษาเขมร มีการปลุกเสกเครื่องรางของขลังต่างๆ มีผู้คนเคารพนับถือท่านมาก ผู้คนมารักษากับหลวงพี่ก็เยอะ ส่วนใหญ่จะถูกของมา และก็มารักษาจนหาย พอหายก็มาทอดผ้าป่าบ้าง มาทอดกฐินบ้าง ให้กับสำนักสงฆ์ เงินที่ได้หลวงพี่ก็นำมาสร้างศาลาแต่ยังไม่เสร็จค่ะ
หลวงพี่ได้มาฟื้นฟูสำนักสงฆ์แห่งนี้เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ท่านได้สร้างศาลาในสำนักเอง สร้างคนเดียว ลูกศิษย์จะมาช่วยบ้างก็จะเป็นช่วงหลังเลิกเรียนในตอนเย็น หลวงพี่รักสำนักสงฆ์นี้มากค่ะ ไม่เคยบ่นว่าลำบาก แต่หลวงพี่ชอบสูบบุหรี่มากค่ะ และสูบเยอะด้วย ท่านเลิกไม่ได้จนกระทั่งล้มป่วยลง ต้องไปหาหมอรักษา พออาการดีขึ้น หลวงพี่ก็สร้างศาลาต่อ จนในที่สุดหลวงพี่เจ็บหนัก ถูกนำส่งโรงพยาบาล หมอรักษาแต่ไม่หายเพราะมะเร็งปอดลุกลามมาก จากปอดข้างซ้ายลามไปข้างขวา หลวงพี่ไม่สามารถนอนได้เลย ได้แต่นั่ง เพราะบอกว่า นอนแล้วปวดมาก ต้องนั่งหลับประมาณเดือนกว่าๆ
หลังจากนั้นไม่นาน ในตอนเช้าที่โรงพยาบาลหลังจากที่ฉันอาหารเช้าสักครู่ หลวงพี่ก็บอกกับเพื่อนพระของท่านว่า ท่านสู้กับมันไม่ไหวแล้ว หลวงพี่ได้มรณภาพบนเก้าอี้ ในวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2545 ปัจจุบันนี้ได้เก็บร่างของท่านไว้ รอจนกว่าจะสร้างเมรุเสร็จแล้วจึงจะเผา เพราะหลวงพี่บอกว่า ท่านจะสร้างศาลาให้เสร็จ และสร้างเมรุต่อ แต่ท่านได้มรณภาพเสียก่อน ด้วยอายุเพียง 46 ปี
พี่สาวคนที่สี่ ได้สร้างศาลพระภูมิเจ้าที่ขึ้นหน้าบ้าน เมื่อสร้างเสร็จไม่นาน พี่มีอาการเจ็บไหล่ และปวดมาก หายามากินก็ไม่หาย ไปหาหมอ หมอตรวจ และเอกซเรย์ก็ไม่มีอะไร จนกระทั่งสงสัยว่า จะโดนของ จึงได้ไปหาหมอที่ทำพิธีเกี่ยวกับไสยศาสตร์มาทำพิธีให้ อาการก็เบาลง หมอบอกว่า เป็นเพราะตั้งศาลพระภูมิเจ้าที่ผิดด้าน และยังตั้งศาลทับกับจอมปลวกด้วย และที่สำคัญตอนทำพิธีตั้งศาลคนทำพิธีเขาทำกระทงที่จะตั้งศาลผิด เพราะกระทงที่เขาทำเป็นกระทงเลี้ยงผี ไม่ใช่กระทงเลี้ยงเจ้าที่ที่จะขอตั้งศาลพระภูมิเจ้าที่ จึงเป็นเหตุให้พี่สาวปวดไหล่ หมอจึงได้แก้พิธีนั้น และทำให้ใหม่
หมอรักษาพี่สาว โดยใช้แป้งมันปลุกเสก มาให้พี่สาวทาทับบริเวณที่ปวด เมื่อทาทับบริเวณนั้นก็หายปวด แต่เมื่อหายปวดที่แขนแล้วก็จะเป็นที่อื่น คือปวดหัว หน้าท้อง หลัง ขา ฯลฯ และที่สำคัญ ปวดหน้าอก หมอบอกว่า ปวดเข้าถึงหน้าอก ใกล้หัวใจ ยากต่อการรักษามากค่ะ แป้งช่วยบรรเทาเฉพาะที่เท่านั้น ปัจจุบันนี้ ยังไม่หายเลยค่ะ
พี่ชายคนที่เจ็ด มีอาชีพรับราชการทหาร ช่วงปลายปี พ.ศ.2543 ทางกองร้อยได้จัดทอดกฐินสามัคคี ที่วัดดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่ พี่ชายก็ไป แต่ก่อนจะไปรถยนต์ก็สตาร์ทไม่ติด ทั้งๆที่สภาพรถก็ดี เพราะพี่จะดูแลรถเป็นอย่างดี จนเกือบเที่ยงรถจึงติด พี่ชายได้ออกเดินทางไปกับลูกและภรรยา เมื่อไปถึง ปรากฏว่า พิธีทอดกฐินได้เสร็จสิ้นแล้ว ก่อนจะกลับเพื่อนของพี่ชายก็ชวนนอนค้างที่บ้านของเขา 1 คืน เพื่อจะพาไปไหว้พระที่ดอยสุเทพ
คืนนั้น ลูกของพี่ชายได้เป็นไข้ออกหัด ทั้งคืนจนถึงเช้า แต่พี่ชายก็จะไปไหว้พระกับเพื่อนให้ได้ พี่สะใภ้ได้ห้ามไว้ แต่น่าแปลกปกติพี่ชายเป็นคนที่รัก และห่วงลูกมาก แต่ทำไมครั้งนี้จึงไม่เหมือนทุกครั้ง พี่ชายไปกับรถของเพื่อนเพราะสะดวกกว่า เพื่อนคนนี้ได้อาสาที่จะขับรถไปบนดอยเอง ทั้งๆที่เขาไม่ชำนาญในการขับรถ และไม่ชำนาญทาง
ขณะที่ขับรถขึ้นดอย อีกประมาณ 4 กิโลเมตรจะถึงดอยสุเทพ รถได้พลิกคว่ำ พี่ชายกระเด็นออกจากรถ หัวฟาดกับเหล็กราวขอบถนน และตกฟาดลงกับพื้นอย่างแรง ทำให้สมองบวม พี่ชายสลบ ถูกนำส่งโรงพยาบาลนครเชียงใหม่ เข้ารับการผ่าสมองถึง 3 ครั้ง แต่ไม่หาย สุดท้ายได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ.2543 สิริอายุได้ 31 ปี
คำถาม
1.ก่อนหลวงพี่จะล้มป่วย มีจอมปลวกใหญ่มากมาห่อหุ้มพระสังกัจจายน์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปอยู่หน้าสำนัก หลวงพี่ได้ไปรื้อจอมปลวกนั้น ต่อมา ท่านได้ล้มป่วย และก่อนที่หลวงพี่จะอยู่สำนักสงฆ์นี้มีพระมาอยู่ก่อนแล้วหลายรูป แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน มรณภาพลงหลายรูป สถานที่นี้เป็นสถานที่รุนแรงเกี่ยวกับเจ้าที่ และจอมปลวก ใช่หรือไม่คะ
2.หลวงพี่มรณภาพแล้วไปไหน มีกรรมนิมิต คตินิมิตเป็นอย่างไร กรรมจากการสูบบุหรี่มีผลส่งในตอนละโลกหรือไม่คะ
3.อาการเจ็บปวดของพี่สาวคนที่สี่ เกี่ยวเนื่องกับการตั้งศาล และจอมปลวก หรือไม่คะ และเป็นเพราะวิบากกรรมอะไร ทำอย่างไรจึงจะหายได้คะ
4.กรรมอะไรทำให้พี่ชายต้องประสบอุบัติเหตุ และถูกผ่าสมองถึง 3 ครั้ง พี่ชายตายแล้วไปไหนคะ
กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่ออย่างสูง
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ
1.สถานที่ตั้งสำนักสงฆ์ ไม่ได้มีเจ้าที่ที่โหดร้ายรุนแรง จนทำให้พระหลายรูปที่มาพำนัก ณ ที่นี้มรณภาพ รวมทั้งพระพี่ชายด้วย แต่ละรูปล้วนมีกรรมเป็นของตัวเอง เมื่อหมดอายุขัยก็มรณภาพไป ไม่เกี่ยวกับเจ้าที่หรือจอมปลวก
2.หลวงพี่ ก่อนมรณภาพ ใจของท่านผูกพันกับสำนักสงฆ์ เพราะท่านบูรณะขึ้นมากับมือของท่าน ท่านยังห่วงเรื่องการก่อสร้าง ท่านรู้ตัวว่าท่านต้องมรณภาพ
-
เมื่อมรณภาพบนเก้าอี้แล้ว กายละเอียดก็หลุดออกมาเป็นภุมมเทวาสายวิทยาธรทันที คือ มีลักษณะเป็นวิทยาธรที่แต่งกายคล้ายพระ นุ่งห่มสีกรัก มีผมยาว สวมลูกประคำที่คอ
-
เพราะท่านสนใจศึกษาแต่เรื่องไสยเวท คาถาอาคม ความสนใจเรื่องกิจของพระจึงไม่เต็มที่ ไม้ได้ทำพระนิพพานให้แจ้ง มุ่งเรียนแต่คาถาอาคม
-
ดังนั้น เมื่อมรณภาพแล้วบุญที่สร้างสำนักสงฆ์ และสนใจแต่ไสยเวท จึงต้องมาเป็นภุมมเทวาสายวิทยาธร
-
บุญที่สร้างสำนักสงฆ์ส่งผลก่อนช่วยอุ้มเอาไว้ ส่วนกรรมสูบบุหรี่ยังไม่ส่งผล
-
ที่ท่านล้มป่วยและมีอายุเพียงแค่ 46 ปี เพราะชาติในอดีต ท่านเกิดในสังคมเกษตรกรรม ท่านมักจะช่วยชาวบ้านล้มวัวล้มควายด้วยน้ำใจที่ดี โดยไม่รู้ว่าเป็นบาป และได้ฆ่าสัตว์ทำอาหารด้วย กรรมที่ได้ทำปาณาติบาตเป็นอาจิณ จึงทำให้อายุสั้น
-
รวมทั้งกรรมที่ชอบสูบบุหรี่ในชาติปัจจุบันด้วย
-
เหตุที่ท่านสนใจไสยเวทในชาตินี้ เพราะชาติในอดีตท่านก็ได้เคยศึกษามาจึงมีเชื้อชอบศึกษาทางด้านนี้อีก กอปรกับในชาติปัจจุบันที่บวชโดยไม่ได้มีเป้าหมายไปนิพพาน บวชแค่สร้างบุญ ไม่ได้รู้ในแก่นของพระศาสนา เชื่อแต่เรื่องบุญและบาป จึงศึกษาเรื่องไสยเวท เพื่อตอบสนองความต้องการของชาวบ้าน และเมื่อชาวบ้านเลื่อมใสก็จะได้ให้ปัจจัยมาสร้างสำนักสงฆ์
3.อาการเจ็บปวดของพี่สาวคนที่สี่ ไม่เกี่ยวกับเรื่องตั้งศาลผิด หรือจอมปลวก
-
แต่เป็นวิบากกรรมที่ติดมาข้ามชาติ เรื่องมีอยู่ว่า ในชาตินั้น พี่สาวได้เกิดเป็นผู้ชายในสังคมเกษตรกรรม มีนิสัยชอบโมโห และชอบทุบตีบุตรและภรรยาอย่างไม่มีเหตุผลในตอนที่ตัวเองโมโหเสมอๆ กรรมนี้จึงทำให้ในชาตินี้สุขภาพไม่ค่อยจะดี
-
ให้ตั้งใจทำบุญ รักษาศีล และเจริญภาวนาให้มากๆ แล้วอุทิศบุญกุศลไปให้อดีตบุตรและภรรยาในชาตินั้น
-
อีกทั้งให้ไปรื้อศาลพระภูมิเจ้าที่ออกไปเสีย แต่ให้รื้อให้ถูกหลักวิชชา โดยให้ไปพูดดีๆมีปิยวาจา นิมนต์พระมาทำบุญ ถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศล แล้วรื้อออกไป เพราะที่ศาลก็ไม่มีเจ้าที่เจ้าทางมาอยู่
-
รักต้องรื้อ ให้หันมานับถือพระรัตนตรัยแต่เพียงอย่างเดียว และที่ให้ทำอย่างนี้ก็เพื่อให้สบายใจด้วย
4.พี่ชายที่รับราชการเป็นทหาร ประสบอุบัติเหตุและต้องผ่าสมอง 3 ครั้ง เพราะกรรมในอดีตก็ได้เคยเกิดเป็นทหารเหมือนในชาตินี้ แต่เป็นทหารแบบโบราณที่รบกันด้วยหอกดาบ และได้สังหารข้าศึกตายในหลายๆรูปแบบ
-
ตายแล้วได้วนเวียนอยู่กับครอบครัว 7 วัน โดยตะเกียกตะกายไปหาครอบครัว
-
เมื่อครบ 7 วันแล้ว ได้ไปเป็นรุกขเทวาในป่าใกล้ๆกับบริเวณที่ประสบอุบัติเหตุ เพราะคตินิมิตก่อนตายเป็นต้นไม้ในป่าเขียวชอุ่ม
