CASE  STUDY
ชีวิตโลเล ก็เหมือน เรือที่เหออกจากเส้นทาง
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ

        ลูกเป็นเด็กนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาพันธุ์แท้ ได้มาวัดสร้างบารมีเป็นเวลา 7 ปีแล้วค่ะ  ลูกมีเรื่องที่ค้างคาใจ ยากที่จะหาคำตอบ แม้ตลอดภพสามก็ไม่อาจมีใครให้คำตอบลูกได้ นอกจากคุณครูไม่ใหญ่ “หลวงพ่อ ทเวนตี้” ใน DMC ช่องนี้ช่องเดียวเท่านั้นที่จะให้คำตอบได้   ลูกจึงขอความเมตตาคุณครูไม่ใหญ่ ฝันในฝันเรื่องราวของลูกและครอบครัว  ดังต่อไปนี้ค่ะ

        คุณพ่อเป็นหนุ่มนครสวรรคคุณแม่เป็นสาวยโสธร  ได้มาพบรักกันที่กรุงเทพ  ด้วยบุพเพสันนิวาส  และความรักที่ไม่อาจมีอะไรมาขวางกั้น  จึงทำให้ทั้งสองท่าน  ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกันทันที  โดยที่ผู้ใหญ่ฝ่ายคุณแม่ยังไม่เห็นชอบเท่าไหร่นัก   ท่านได้ใช้ชีวิตร่วมกันในเรือบรรทุกสินค้า  ที่ล่องไปตามลำน้ำเจ้าพระยา  แต่ท่านทั้งสองก็ไม่ได้หวั่นไหวกับอุปสรรค  ได้ครองรักกันอย่างมีความสุข  จนกระทั่งลูกได้ถือกำเนิดเกิดมาค่ะ 

        แต่แล้วเรื่องราวระหว่างความรักกับความกตัญญูก็ได้บังเกิดขึ้น เมื่อคุณยายของลูกเกิดป่วยเนื่องจากการผ่าตัด และไม่มีใครอยู่ดูแล รวมถึงความรู้สึกห่วงอนาคตของลูกด้วย คุณแม่ของลูกจำต้องตัดใจทิ้งคุณพ่อของลูกมา ทั้ง ๆ ที่ความรักที่มีให้กับคุณพ่อยังมีอยู่อย่างมากมายเต็มหัวใจทั้ง 4 ห้อง แต่เพราะคำนึงถึงความกตัญญูเป็นที่ตั้ง คุณแม่จึงได้พาลูกซึ่งอายุเพียง 4 เดือน  หนีกลับบ้านมาอยู่ที่จังหวัดยโสธร จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้ลูกต้องเป็นคนที่มีใบเกิดถึง 2 ใบ เพราะใบแรกคุณพ่อแจ้งให้ที่กรุงเทพฯ ส่วนอีกใบหนึ่ง คุณตาแจ้งเกิดให้ที่ จ.ยโสธร  

        คุณพ่อได้มาตามคุณแม่และลูกกลับไปอยู่ด้วยอีกหลายครั้ง แต่คุณแม่ของลูกก็ใจแข็งไม่ยอมกลับ จนตอนหลังคุณพ่อก็บอกว่าไม่กลับก็ไม่เป็นไร แต่ขอตัวลูกไปก็แล้วกัน แต่ความเป็นแม่จะยอมได้หรือคะ แน่นอนค่ะ คุณแม่ไม่ยอมทิ้งลูกเด็ดขาด จนคุณตาต้องขู่ว่าถ้าไม่เลิกมาวอแว จะเอาปืนไล่ยิง คุณพ่อจึงต้องยอมกลับไป แต่ก็ยังคงแอบมาตามดูอยู่อีกหลายครั้ง  จนกระทั่ง 6 ปีผ่านไป  คุณตาให้คุณแม่ของลูกแต่งงานใหม่  และมีลูกด้วยกันหนึ่งคน  ทำให้คุณพ่อเสียใจมาก  พออีก 2 ปีถัดมา คุณพ่อจึงได้ตัดสินใจแต่งงานใหม่ 

        เมื่อคุณพ่อคุณแม่ต่างมีครอบครัวใหม่  ชีวิตในวัยเด็กของลูกจึงเติบโตมาจากความรักความอบอุ่น  และการเลี้ยงดูของคุณตาคุณยายเป็นหลัก   คุณตารักลูกมาก  ไปไหนก็เอาไปด้วย ขี่คอ  อุ้ม ดูแลทุกอย่าง อย่างดี สิ่งไหนที่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ท่านหาได้ สิ่งนั้นแหละค่ะคือสิ่งที่ท่านทำให้กับลูก   ท่านจะคอยปกป้องลูก  เสมอๆ  ลูกจำได้ว่า  ถึงลูกจะทำความผิดขนาดไหน  ถ้าวิ่งไปหาคุณตาทัน  ก็ไม่มีใครสามารถตีลูกได้  เวลาลูกไปโรงเรียน  เมื่อถูกเพื่อนผู้ชายแกล้ง  ลูกร้องไห้  คุณแม่จะพาลูกไปโรงเรียน  และไปชี้ตัวคนที่แกล้งลูก  และให้ลูกตบเลยค่ะ  ให้ตบให้แม่เห็นด้วย  ลูกเลยไม่รู้สึกกลัวใครเลย  และไม่มีใครกล้าแหยมกับลูกเลยค่ะ  ซึ่งทำให้ลูกมีความห้าว,ไม่กลัวใคร,มีทิฐิและมีมาดติดตัวมาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็ลดลงแล้วค่ะ  เพราะลูกรู้เป้าหมายชีวิต  และรู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่าและมีความหมายเมื่อมาเจอครูไม่ใหญ่  

        ชีวิตในวัยเด็กของลูก  มีความสุขมากค่ะ  ที่มีคุณตาคุณยายอยู่ใกล้ๆ  ลูกรู้สึกไม่กลัวอะไรเลย  คุณตาคุณยายเปรียบเสมือนคุณพ่อคุณแม่ของลูก  ลูกรักท่านมากค่ะ  และท่านก็รักลูกมากเช่นกัน  

        วันที่ลูกรู้จักคำว่า “เสียใจ,ทรมานใจ,เจ็บปวดใจและสูญเสีย” เป็นครั้งแรกในชีวิต  เกิดขึ้นเมื่อลูกอายุได้ 8 ขวบ  วันหนึ่งคุณตาอยากทานทุเรียน  และได้ทานสมกับความอยาก  หลังจากทานไปแล้ว  เพียงไม่นานคุณตาก็เสียชีวิต  เนื่องจากคุณตาเป็นโรคความดันอยู่แล้ว  รวมอายุได้ 80 ปี  ลูกจำได้ว่าวันนั้น ลูกกลับมาจากโรงเรียน  มีญาติ ๆ อยู่เต็มบ้านไปหมด  อยู่ล้อมรอบเตียงคุณตา  ตอนนั้นลูกรู้สึกว่าต้องเกิดอะไรขึ้น    คุณแม่เรียกลูกให้มากราบเท้าคุณตา  ลูกเริ่มรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น  ลูกรู้สึกรับไม่ได้  ด้วยความเป็นเด็ก ลูกจึงไม่ยอมเข้าไปกราบ  ซึ่งลูกรู้สึกเสียใจมาจนถึงทุกวันนี้ สิ่งที่เด็กอย่างลูกทำได้ในตอนนั้นคือเดินไปร้องไห้ริมหน้าต่างคนเดียว

        วันเผาคุณตาลูกรับไม่ได้จริงๆเลยค่ะ  ตอนนั้นรู้เลยว่าหัวใจสลายเป็นอย่างไร  ลูกจำได้ว่า  ลูกจะวิ่งเข้าไปในเมรุ  จะไปพร้อมกับคุณตา  ดีแต่ว่ามีคนคว้าไว้ได้ทัน  ลูกรู้สึกว่า “อะไรกันคนที่มีร่างกาย เห็นๆกันอยู่  เผาไปแล้วไม่เหลืออะไรเลย”  ลูกเสียใจมากเลยค่ะกับความสูญเสียครั้งแรกในชีวิต

        ตอนเด็ก  ลูกมักจะถูกล้อว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ  ลูกจะเก็บความเสียใจ  และความไม่เข้าใจไว้กับตัวเอง  จนวันหนึ่งลูกทนไม่ไหว  จึงกลับไปถามคุณแม่  ว่าพ่อหนูอยู่ไหน  พ่อหนูเป็นใคร  ซึ่งคุณแม่ก็สงสารจึงได้พาลูกมาพบกับคุณพ่อ เจอกันครั้งแรกก็บอกกับตัวเองว่า ใช่เลย คนนี้เลยพ่อเรา ก็ดูคุ้นมากเลยค่ะ ก็หน้าตาคล้ายกันนี่คะ

        จากนั้นลูกก็ไปมาหาสู่กับคุณพ่อ  จนลูกจบม.3 ก็ได้มาอยู่กับคุณพ่อและมาเรียนต่อที่กรุงเทพจนจบ ปวช.  แต่ระหว่างที่อยู่ด้วยกัน  ลูกกับคุณพ่อจะทะเลาะกันบ่อยมาก  ไม่ค่อยเข้าใจกัน  เนื่องจากลูกไม่ได้เติบโตมากับคุณพ่อ  อีกทั้งคุณพ่อก็ยังไม่ค่อยเข้าใจถึงอัธยาศัยของเด็กผู้หญิงว่าต้องการสิ่งใด จึงมีหลายครั้งที่เราไม่เข้าใจกัน  จนพอลูกจบ ปวช. ลูกทะเลาะกับคุณพ่ออีกครั้ง  ลูกจึงตัดสินใจออกจากบ้านไปอาศัยอยู่บ้านเพื่อนที่นครราชสีมา และเข้าเรียนต่อระดับปริญญาตรีค่ะ

        1 ปีผ่านไป  คุณพ่อตามลูกจนเจอค่ะ  พ่อไปประกาศไมค์กลางตามหาลูก  ที่สถาบันการศึกษาที่ลูกเรียนอยู่  ตอนเจอคุณพ่อ  ลูกดีใจมากค่ะ  ร้องไห้  แต่ก็ยังไม่ยอมกลับไปกับคุณพ่อ  เพราะอยากเรียนต่อให้จบ 
เมื่อเรียนจบ  ลูกกลับไปอยู่กับคุณพ่อ  ซึ่งขณะนั้นคุณพ่อได้เข้าวัดพระธรรมกายแล้วค่ะ  ท่านอยากมอบสิ่งดีๆให้กับลูก  ก่อนที่ลูกจะเลือกเส้นทางเดินชีวิตต่อไป  นั่นก็คือการอบรมธรรมทายาทหญิง รุ่นที่ 16  ด้วยความเคารพรักพ่อ ลูกก็ตามใจท่านค่ะ
 
        หลังจากการอบรม  ลูกตัดสินใจเข้ามาเป็นบัณฑิตแก้ว   เพราะมีกัลยาณมิตรคนหนึ่งมาชวน อีกทั้งประทับใจพระอาจารย์  แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าอื่นใด  นั่นคือ  ลูกได้รู้ถึงมโนปณิธานของครูไม่ใหญ่  และรู้สึกว่าตัวเองมาช้ากว่าคนอื่น  กลัวว่าบุญจะตามคนอื่นไม่ทันค่ะ

        2 ปีผ่านไป  ลูกต้องเลือกเส้นทางเดินชีวิตอีกครั้งหนึ่ง  เพราะบัณฑิตแก้วเป็นได้เพียง 2 ปีเท่านั้น  ลูกรักในเส้นทางการสร้างบารมี  แต่ขณะเดียวกันก็กลัวการเป็นอุบาสิกา  แต่เพราะความรักในการสร้างบารมีที่มีมากกว่าความกลัว  จึงตัดสินใจเข้าอบรมสมาธิแก้วและเข้าอบรมบุคลากรใหม่ค่ะ   

        เมื่อไม่นานนี้ มีเหตุการณ์สะเทือนใจเกิดขึ้นกับลูกอีกครั้งหนึ่งค่ะ  คุณยายซึ่งลูกรักเหมือนคุณแม่ของลูก   ท่านเป็นคนแข็งแรง และขยัน  ปัจจุบันลูกๆของคุณยายไม่ให้คุณยายทำงานอะไรเลย  แต่คุณยายก็ยังเก็บกวาดใบไม้  ทำงานบ้านเล็กๆน้อยๆอยู่    วันหนึ่งเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น  ขณะที่คุณยายกำลังกวาดเศษใบไม้อยู่  คุณลุงซึ่งเป็นลูกชายคนที่ 3 ของคุณยาย ได้ขับรถกลับมาที่บ้านเพื่อมาเอาของ  ขณะถอยหลังรถปิคอัพด้วยความเร็วกว่าปกติเพราะรีบมาก  และประกอบกับคุณยายเป็นคนร่างเล็ก  จึงทำให้คุณลุงมองไม่เห็นคุณยาย  จึงถอยรถมาชนคุณยาย  ลูกๆหลานๆที่อยู่ในเหตุการณ์รีบพาคุณยายไปส่งโรงพยาบาล  แต่เนื่องจากคุณยายอายุมากแล้ว  และเป็นการชนที่ค่อนข้างแรง  จึงทำให้คุณยายเสียชีวิตในเวลาต่อมา  รวมอายุได้ 87 ปี
 
        เมื่อคุณยายเสียชีวิตแล้ว  น้องสาวของลูกได้เล่าว่า  สมัยคุณยายยังมีชีวิตอยู่ได้บอกที่ซ่อนเงินเอาไว้  เพื่อให้นำเงินจำนวนนี้ไปจัดงานศพ  ลูกหลานจะได้ไม่เดือดร้อน  เมื่อลูกกับน้องสาวไปยังที่เก็บเงิน  ปรากฏว่าพบเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งมากพอสมควร  ลูกกับน้องสาวจึงได้ตกลงจัดสรรเงินบางส่วนใช้ในการจัดงานศพ  เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของคุณยาย  และนำเงินอีกส่วนหนึ่ง มาสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว  และทำบุญอื่นๆให้กับคุณยายค่ะ

ลูกมีคำถาม  ถามครูไม่ใหญ่ดังต่อไปนี้ค่ะ
 
1.    เพราะเหตุใดคุณตาและลูกจึงรักและผูกพันกันมาก  , เพราะบุญใดลูกจึงเป็นหลานคนเดียวที่ได้รับทรัพย์สินจากคุณตา , คุณตาเสียชีวิตเพราะสาเหตุใดคะ  ท่านตายแล้วไปไหน  ได้รับบุญที่ลูกสร้างองค์พระอุทิศให้หรือไม่  ผลบุญนี้ส่งให้ท่านเป็นอย่างไร , คุณตาฝากบอกอะไรถึงลูกบ้างคะ

2.    วิบากกรรรมอะไรที่ทำให้คุณยายต้องมาเสียชีวิต เพราะถูกคุณลุงซึ่งเป็นลูกของคุณยายถอยรถมาชนจนเสียชีวิตคะ ก่อนตายท่านรู้สึกเจ็บปวดมากหรือไม่ ท่านตายแล้วไปไหน อยากฝากอะไรถึงลูกหลานบ้าง 

3.    ลูกได้สร้างองค์พระให้คุณยาย 2 องค์ องค์แรกลูกสร้างให้ขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ด้วยเงินของลูกเอง  ส่วนอีกองค์ลูกสร้างพระให้ท่านด้วยเงินของท่านแต่สร้างในช่วง 7 วันหลังจากที่ท่านเสียชีวิตไปแล้ว คุณยายได้บุญสร้างองค์พระทั้งสององค์แตกต่างกันอย่างไรคะ  และท่านได้รับบุญจากการสร้างพระทั้ง 2 องค์หรือไม่  ผลบุญนี้ส่งผลให้ท่านเป็นอย่างไรคะ

4.    คุณลุงกับคุณยายมีวิบากกรรมร่วมกันมากหรือไม่อย่างไรคะ  คุณลุงจึงถอยรถมาเหยียบคุณยายจนเสียชีวิต , เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นอนันตริยกรรมหรือไม่คะ , คุณลุงจะได้รับผลกรรมที่เป็นเหตุให้แม่แท้ๆของตัวเองเสียชีวิตนี้หรือไม่อย่างไรคะ จะแก้ไขวิบากกรรมนี้ได้อย่างไร , และอนันตริยกรรมที่มีเจตนากับไม่มีเจตนาให้ผลแตกต่างกันอย่างไรคะ

5.    คุณพ่อกับลูกเคยสร้างบารมีร่วมกันมาอย่างไร  ทำไมคุณพ่อจึงได้เป็นกัลยาณมิตรให้ลูกได้เข้าสู่เส้นทางการสร้างบารมี

6.    คุณแม่และน้องสาวคนละพ่อของลูกเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไรหรือไม่  และลูกจะทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้กับคุณแม่และน้องสาวได้สำเร็จไหมคะ

7.    วิบากกรรมอะไรจึงทำให้ลูกมี 2 ใบเกิด และไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับคุณพ่อในวัยเด็ก แต่กลับได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดีจากบุคคลรอบข้างคะ

8.    ปัจจุบันลูกมักจะเป็นโรคลมบ่อยๆ  เป็นเพราะวิบากกรรมใด  และต้องแก้ไขอย่างไรคะ

9.    ลูกเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร มีผลการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างไร  มีผังการบวชติดตัวมาบ้างหรือไม่  ลูกมีหน้าที่อะไรในหมู่คณะคะ

10.    ลูกมีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เรามีอุปนิสัยแตกต่างกันมาก แต่ก็คบกันได้ด้วยดีไม่เคยขัดแย้งกันเลย เราเคยเกี่ยวข้องกันมาอย่างไร เพื่อนเคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไรคะ                                                
   

 
ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1.    “คุณตา” และ “ลูก” รักและผูกพันกันมาก   เพราะ....ในอดีตเคยเป็นทั้งหลานและลูกของท่านมา     กอปรกับในปัจจุบันท่านก็ดูแลเอาใจใส่มาตั้งแต่เด็ก   จึงรักและผูกพันกันมากจ่ะ !
 

2.    “คุณยาย” ถูก “คุณลุง” ถอยรถมาชนตาย   เพราะ....กรรมในอดีต   ท่านได้ฆ่า “วัวแก่” ที่ใช้ไถนามานาน   ฆ่ากินเป็นอาหาร   เพราะใช้ทำงานไม่ได้ดีเหมือนเดิม   ในสมัยที่ท่านเกิดในสังคมเกษตรกรรม   มาส่งผลจ่ะ !

3.    ลูกได้สร้างองค์พระให้คุณยาย  2  องค์  ,  องค์แรกลูกสร้างให้ท่านเองด้วย “เงินของลูก”     องค์ที่สองลูกสร้างให้ท่านด้วย “เงินของท่าน”     แต่สร้างให้ท่านหลัง  7  วันนับจากวันที่ท่านตายแล้วนั้น    ผลบุญที่ได้ก็พอ ๆ กัน   ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่     แต่สู้เป็นเงินของตัวเองและทำด้วยตัวเองในสมัยที่มีชีวิตอยู่ไม่ได้จ่ะ !


4.    “คุณลุง” ซึ่งเป็น “ลูกคุณยาย”   ถอยรถมาชนคุณยายนั้น  ก็เคยมีวิบากกรรมกันมา  คือ  คุณลุงก็เป็น “วัวแก่” ดังกล่าว   ที่คุณยายใช้งานมาจนแก่   ไม่สามารถไถนาต่อไปได้อีก    จึงนำมันมาฆ่ากินเป็นอาหาร  ,  ได้กลับชาติมาเกิดเป็นลูกของยาย     แล้ววิบากกรรมดังกล่าวก็บันดาลให้ถอยรถมาชนคุณยายตายจ่ะ !  

5.    “คุณพ่อ” ได้เป็นกัลยาณมิตรให้กับตัวลูก    ทำให้ตัวลูกได้มาสู่เส้นทางแห่งการสร้างบารมี   เพราะ....ในอดีตก็เคยเกิดเป็นลูกของท่าน     แล้วท่านก็ได้พามาสร้างบารมีกับหมู่คณะคล้าย ๆ ในชาตินี้จ่ะ !


6.    “คุณแม่” และ “น้องสาว” คนละพ่อของลูก   เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง” ประเภทไม่สม่ำเสมอ     ทำให้บางชาติก็เจอกันกับหมู่คณะ  ,  บางชาติก็ไม่เจอกันจ่ะ !
 

7.    ลูกมี  2  ใบเกิด   และไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับคุณพ่อตั้งแต่วัยเด็ก     แต่กลับได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีจากคนรอบข้าง   เพราะ....ในอดีตตอนเป็นลูกท่าน   เคยน้อยใจเรื่องที่ท่านดุด่าว่ากล่าวจนพูดออกมาว่า   จะไม่กลับไปอยู่กับพ่ออีกแล้ว   และได้หนีไปอยู่บ้านญาติ  ,  ต่อมาเมื่อหายโกรธแล้วก็กลับไปขอขมาท่าน  ,  กอปรกับบุญที่พ่อกับแม่สร้างมาเพียงเท่านั้น 
 
 

8.    ปัจจุบันลูกมักจะเป็น “โรคลม” บ่อย ๆ   เพราะ....ลูกไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย   พักผ่อนน้อย   และมีความเครียดเรื่องงานและคนในปัจจุบัน     แต่ไม่ได้มีวิบากกรรมอะไรมาจ่ะ !
 
 
  • จะแก้ไข   ก็ให้หมั่นออกกำลังกาย  ,  พักผ่อนให้เพียงพอ  ,  นั่งธรรมะให้สม่ำเสมอ  ,  แผ่เมตตา  ,  ดื่มน้ำอุ่น  ,  รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย  ,  อย่ากระทบกระทั่งกับใคร   ให้สร้างบุญอย่างเดียวเรื่อย ๆ ไปเดี๋ยวก็จะหาย  ,  จะแข็งแรงและสดใสจ่ะ !

9.    ลูกเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมา   โดยพุทธันดรที่ผ่านมาได้เป็น “กุลธิดา”   เบื่อหน่ายในการครองเรือน  ,  ได้ตั้งความปรารถนาจะประพฤติพรหมจรรย์สร้างบารมีในภพชาติต่อไป  ,  มีผลการปฏิบัติธรรมได้เข้าถึงดวงใส ๆ   พอเอาตัวรอดกลับดุสิตบุรีได้  ,  ในพุทธันดรที่ผ่านมาก็เป็น “กองเสบียง”  , 
 
 

10.    ลูกมีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง   โดยมีอุปนิสัยต่างกัน   แต่ก็ไม่เคยขัดแย้งกัน   คบกันมาด้วยดี   เพราะ....เคยเป็นเพื่อนกัลยาณมิตรกันมา   โดยเป็น “กุลธิดา” ทั้งคู่   ในพุทธันดรที่ผ่านมาจ่ะ !
 
 

 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2549-06-23.html
เมื่อ 1 มิถุนายน 2567 01:46
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv