CASE STUDY
แรงศรัทธา
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
ออกอากาศครั้งแรก วันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2549
 
 
กราบเรียนพระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพสูงยิ่ง

    กระผม เป็นแฟนพันธุ์แท้ของวัดพระธรรมกายมาตลอด 20ปี ได้มาร่วมบุญทุกงานบุญของวัดพระธรรมกาย แม้ทางวัดจะมีข่าวโคมลอยจากสื่อ เพราะความเข้าใจผิด ที่ไม่ทราบเหตุผล กระผมก็ยังคงมาอย่างสม่ำเสมอ ปัจจุบันกระผมบวชเป็นพระได้ 20พรรษาแล้วครับ กระผมกราบขอความกรุณาคุณครูไม่ใหญ่ เมตตาฝันในฝันเรื่องของกระผม ดังต่อไปนี้ครับ
 
    โยมพ่อของกระผม เป็นคนเชื้อสายจีนอยู่จังหวัดบุรีรัมย์ พออายุได้ 18-19ปี โยมพ่อก็เข้ามาทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ได้มาพบและอยู่กินกับสาวเมืองนนท์ซึ่งก็คือ โยมแม่ของกระผม ท่านทั้งสองมีลูกด้วยกันทั้งหมด 6คน โยมพ่อมีอาชีพขับแท็กซี่ โยมพ่อชอบสูบบุหรี่ และทุกเย็นหลังเลิกงาน สิ่งที่โยมพ่อไม่ลืมก็คือ จะต้องดื่มเหล้าก่อนนอน พอเหล้าถึงท้อง ท่านก็จะหลับฟุบอยู่ตรงนั้น ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของโยมแม่และลูกๆ 3-4คน ช่วยกันหามเข้าห้องนอนเป็นกิจวัตร
 
    จนกระทั่ง กระผมได้บวชที่วัดพระธรรมกาย หลังจากบวชได้ครึ่งพรรษาแรก กระผมก็ได้ไปโปรดโยมพ่อ-โยมแม่ที่บ้าน โดยการแสดงธรรมเรื่องศีลห้า และอานิสงส์ของการรักษาศีล ให้ท่านทั้งสองฟัง มันเป็นความปีติและเบิกบานใจของท่านทั้งสอง จากนั้นมากระผมจึงทราบจากโยมแม่ว่า โยมพ่อเลิกเหล้าและบุหรี่หมดแล้ว ภายหลังโยมพ่อได้เสียชีวิต ในขณะนอนพักผ่อนอยู่บนเก้าอี้นอน อย่างสงบ ตอนอายุ 78ปี
 
    โยมแม่ของกระผม ในเดือนธันวาคม ปี พ.ศ.2530 โยมแม่ได้ประสบอุบัติเหตุ พลัดตกจากท้ายมอเตอร์ไซด์ ในซอยขณะกำลังจะกลับบ้าน นอนสลบคาที่และได้ไปฟื้นที่โรงพยาบาล รักษาจนร่างกายหายเป็นปกติ แต่พอปี พ.ศ.2540_โยมแม่ก็เป็นโรคสมองฝ่อ ความจำเลอะเลือน คอยแต่จะเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า บอกว่า “จะไปบ้านย่า” พอเอากระเป๋าไปซ่อน ท่านก็เปลี่ยนมาใส่ถุงหูหิ้วแทน
 
    โยมแม่ เริ่มทานจุจนอ้วน ตอนหลังท่านหลงลืม ถึงขนาดนำอุจจาระของตัวเองมาใส่จานขยำเล่น แต่เวลากระผมไปเยี่ยม โยมแม่จะเดินวนรอบตัวกระผมแล้วพูดว่า “พระมา...พระมา” เหมือนจำได้ โดยไม่แตะต้องตัวกระผมเลย ก่อนเสียชีวิตประมาณ 6เดือน โยมแม่ไม่ค่อยทานอาหาร จนผอมลงเรื่อยๆ และไม่ยอมนอน ท่านจะนั่งพิงหลับ คอพับไปข้างหน้า ทำให้เส้นที่คอยึด ต้องก้มหน้าอยู่อย่างนั้นตลอดเวลา เวลามองต้องเหลือบตามอง...โยมแม่ได้เสียชีวิตลงด้วยอาการสงบ รวมอายุ 70ปี
 
    น้องชายคนเล็กของกระผม เคยบวชพระอยู่หนึ่งพรรษา เขาได้เสียชีวิตเนื่องจากประสบอุบัติเหตุ จากการขับขี่จักรยานยนต์ รวมอายุได้ 24ปี
 
    โยมอา (น้องชายของโยมพ่อ) เคยบวชพระอยู่ 3พรรษา ต่อมาได้ลาสิกขาออกมามีภรรยา ซึ่งเป็นแม่หม้าย มีลูกชายติดมาด้วยหนึ่งคน และต่อมามีลูกสาวใหม่ด้วยกันอีกหนึ่งคน โยมอาชอบดื่มเหล้า เมาแล้วก็จะชอบทำร้ายร่างกายภรรยาเป็นประจำ วันหนึ่งลูกเลี้ยงทนไม่ไหว จึงตีด้วยด้ามจอบ จนโยมอาเสียชีวิต รวมอายุได้ 54ปี
 
    กระผม เกิดที่กรุงเทพฯ โยมแม่เล่าให้ฟังว่า ตอนคลอด กระผมคลอดในรถเก๋ง ที่หน้ากรมการทหารม้าสนามเป้า ตอนพระท่านตีกลองเพลพอดี เมื่อรถวิ่งต่อมาถึงโรงพยาบาลหญิง (ราชวิถี) เจ้าหน้าที่พยาบาลมาจับตัดสายรกผูกเส้นดายห้ามเลือด แม่และลูกจึงปลอดภัยทั้งสองคน
 
    พอกระผมอายุได้ไม่ถึงขวบ ก็มีฝีหนองเกิดขึ้นเต็มศีรษะของกระผม รักษาอย่างไรก็ไม่ยอมหาย จนโยมแม่เอือมระอา เพราะต้องคอยใช้น้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาดอยู่ตลอด แต่พออายุได้ขวบครึ่งก็หายไปเอง
 
    กระผมเป็นลูกชายคนที่สี่ ในจำนวนพี่น้อง 6คน ซึ่งมีผู้ชาย 5คน ผู้หญิงหนึ่งคน โยมแม่จะคอยพร่ำสอนลูกๆ โดยเฉพาะในตอนทานข้าวพร้อมหน้ากัน โดยย้ำสอนลูกที่เป็นชายอยู่เสมอว่า “เกิดเป็นผู้ชายต้องบวชพระให้พ่อ-แม่ ก่อนที่จะมีเมีย” โยมแม่พูดย้ำเรื่องบวชให้พ่อ-แม่นี้เสมอ
 
    พอกระผมมีอายุถึงวัยเกณฑ์ทหาร กระผมได้ไปเป็นทหาร ขณะยังเป็นทหารอยู่นั้น กระผมก็ได้รู้จักวัดพระธรรมกายจากหน้าหนังสือพิมพ์ ต่อมาก็มีคนนำหนังสือธรรมทายาทมาไว้ตรงที่กระผมอยู่ กระผมจึงได้หยิบมาอ่าน ตอนแรกคิดว่า ไม่น่าสนใจ แต่พออ่านไปรู้สึกดี จึงหยิบมาอ่านอยู่เรื่อยๆถึง 40-50รอบ กระผมชอบและประทับใจ เรื่องชีวิตชาวนาที่ออกบวชในหนังสือนั้นมาก กระผมเกิดอารมณ์อยากบวช จึงไปกราบขออนุญาตผู้บังคับบัญชา หลังจากได้รับอนุญาตแล้ว กระผมได้นำธูปเทียนแพ กราบลาโยมพ่อ-โยมแม่ขอบวช ท่านทั้งสองก็ปีติใจมาก
 
    จากนั้น กระผมก็ได้เดินทางเข้ามาอบรมธรรมทายาท ที่วัดพระธรรมกาย ในปี พ.ศ.2529 ทั้งๆที่ยังไม่เคยมาวัดพระธรรมกายเลย หลังบวชได้ 6เดือน สอบนักธรรมเสร็จ กระผมก็ได้กราบลาพระอาจารย์ ไปปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดในจังหวัดสุพรรณบุรี แต่กระผมก็ยังมาร่วมบุญกับหมู่คณะทุกวันอาทิตย์
 
    จากนั้นปี พ.ศ.2531 กระผมได้ไปช่วยงานพระเพื่อนโดยประจำอยู่ที่ธุดงคสถานล้านนา สาขาของวัดพระธรรมกาย ทำให้ได้มาวัดพระธรรมกาย เฉพาะงานบุญใหญ่หรือวันอาทิตย์ต้นเดือนเท่านั้น
 
    ต่อมา ปี พ.ศ.2537 ก็มีโยมผู้หญิงซึ่งเป็นน้องสาวของเจ้าอาวาส ได้นิมนต์กระผม ให้ไปอยู่ประจำช่วยงานเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ เป็นวัดที่สร้างขึ้นใหม่ โดยเจ้าอาวาสรูปที่กระผมไปอยู่ด้วยนี้ เป็นเจ้าอาวาสองค์แรก ท่านเป็นผู้บุกเบิกสร้างวัดนี้ด้วยปัจจัยของท่านเองทั้งหมด ตั้งแต่ซื้อที่ดิน สร้างโบสถ์ สร้างศาลา สร้างทุกอย่างในวัด ท่านได้มาสร้างวัดแห่งนี้ เมื่อปีพ.ศ.2534 ขณะนั้นท่านอายุได้ 73ปี
 
    ก่อนหน้าที่จะมาสร้างวัดแห่งนี้ ท่านได้บวชเป็นพระประจำอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นเวลาหลายสิบปีจนท่านชรา จึงนำปัจจัยที่ญาติโยมถวายมา กลับมาเมืองไทย มาซื้อที่ดินสร้างวัดที่จังหวัดสุรินทร์ ท่านเป็นคนตรง ในวัดของท่าน ท่านจะห้ามทิ้งขยะ ห้ามนำสุราหรืออบายมุขเข้ามาในวัดอย่างเด็ดขาด ท่านบอกว่า "ที่สิงคโปร์เขาสะอาด มีระเบียบมาก" ส่วนตัวกระผมจะเป็นคนทำความสะอาด ปัดกวาดเช็ดถู ดูแลความเรียบร้อยของวัด ตกเย็นก็จะนำสาธุชนสวดมนต์ทำวัตรเย็น เพราะท่านเจ้าอาวาสได้มอบหน้าที่นี้ให้กระผม
 
    ในต้นปี พ.ศ.2539 ตัวโบสถ์ก็สร้างเสร็จ ทาสีเรียบร้อย พอถึงปลายปีท่านเจ้าอาวาสก็มรณภาพลงด้วยโรคหัวใจล้มเหลว รวมสิริอายุได้ 78ปี รวมเวลาสร้างวัดมาได้ 5ปี
 
    จากนั้น เจ้าอาวาสองค์ที่2_ก็ขึ้นดำรงตำแหน่ง อยู่ได้ 1ปี ท่านก็ย้ายไปอยู่วัดอื่น เจ้าอาวาสองค์ที่3_ก็มาแทนที่อยู่ได้ 4ปี ก็มรณภาพลงด้วยโรควัณโรค ในปี พ.ศ.2546 เพราะท่านสูบบุหรี่จัด รวมสิริอายุได้ 82ปี พอมาถึงเจ้าอาวาสองค์ที่4_ดำรงตำแหน่งได้ 3ปี ท่านก็มรณภาพลงในปี พ.ศ.2549 ด้วยอาการหลับ แล้วมรณภาพไปเฉยๆ รวมสิริอายุได้ 53ปี รวมแล้วที่วัดแห่งนี้ มีเจ้าอาวาสมรณภาพไปแล้วรวม 3รูปด้วยกัน
 
    กระผมเองนั้น พอมาถึงช่วงเจ้าอาวาสองค์ที่3 กระผมก็ได้รับนิมนต์จากญาติโยมให้ไปรักษาการอยู่ที่ธุดงคสถานเมืองแก้ว ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากวัดเดิม และอยู่มาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
 
   โยมพี่เขยของกระผม เป็นชาวอิตาลี เมื่อปี พ.ศ.2530 เขาอายุ 54ปี ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถบัสที่ภาคใต้ บาดเจ็บสาหัส กรามหัก ขาหัก กระดูกหัวไหล่หัก กระดูกข้อมือหัก เส้นเอ็นที่ขาขาดจนไม่สามารถเดินได้ ต้องผ่าตัดเปลี่ยนเส้นเอ็น ไปผ่าตัดที่ต่างประเทศถึง 12ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ ไม่สามารถเดินได้ หมอได้นัดผ่าตัดอีกครั้งเป็นครั้งที่13
 
    โยมพี่เขยท้อแท้ใจมาก ได้บอกกับทุกคนว่า ถ้าผ่าตัดครั้งนี้แล้วยังเดินไม่ได้ เขาจะฆ่าตัวตาย กระผมซึ่งตอนนั้นบวชแล้ว จึงได้บอกกับโยมพี่เขยว่า “ไหนๆยูก็คิดว่าจะฆ่าตัวตายแล้ว ไปหาอาจารย์ของไอดีกว่า อาจารย์ของไอเก่งจะช่วยยูได้”
 
    กระผมจึงได้พามากราบคุณยายอาจารย์ ที่วัดพระธรรมกาย เมื่อโยมพี่เขยเห็นคุณยายอาจารย์และทราบว่าท่านอายุ 88ปี ถึงกับอุทานว่า “โอ...บิวตี้ฟูล...ทำไมสวยอย่างนี้ ไม่เหมือนคนอายุ 88ปี เหมือนคนอายุซัก 50ปี” โยมพี่เขยจับมือคุณยายอาจารย์มากอด พูดทั้งน้ำตาว่า ให้ช่วยเขาด้วย โยมพี่สาวจึงถามคุณยายอาจารย์ว่า โยมพี่เขยจะหายหรือไม่ คุณยายอาจารย์ก็ตอบว่า “หาย” และรับปากว่า “ยายจะช่วย”
 
    ต่อมา โยมพี่เขยก็เข้ารับการผ่าตัดครั้งที่13 เป็นผลสำเร็จ สามารถเดินได้ ทำให้โยมพี่เขยมีความสุขมาจนถึงปัจจุบัน แต่อาการปวดในกระดูกไม่ยอมหาย โยมพี่เขยยังต้องฉีดมอร์ฟีนทุกๆ 3ชั่วโมง เพื่อระงับอาการปวดมาจนถึงปัจจุบัน
 
คำถามมีดังนี้ครับ
 
1.โยมพ่อตายแล้วไปอยู่ภพภูมิใด ตอนที่ท่านตายใหม่ๆ ท่านรู้สึกตัวหรือไม่ว่าตายแล้ว โยมพ่อมีอะไรฝากมาบอกลูกๆบ้างครับ
 
2.กรรมใด ทำให้โยมแม่ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม คอยแต่จะเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า เป็นมากถึงขนาดขยำอุจจาระเล่น และกรรมใดทำให้ท่านไม่ยอมนอน นั่งพิงหลับจนเส้นที่คอยึด ต้องก้มหน้าตลอดเวลาจนเสียชีวิต โยมแม่มีคตินิมิตก่อนตายอย่างไร ตายแล้วไปอยู่ภพภูมิใดครับ
 
3.โยมน้องชายคนเล็ก ตอนใกล้ตายนึกบุญที่ได้บวชพระได้หรือไม่ครับ ตอนนี้ไปอยู่ภพภูมิใด
 
4.กรรมใดทำให้โยมอาถูกลูกเลี้ยงฆ่าตาย ตายแล้วไปอยู่ภพภูมิใดครับ บุญที่โยมอาได้เคยบวชพระมา ช่วยโยมอาอย่างไรบ้างครับ
 
5.ท่านเจ้าอาวาสองค์แรก ที่บุกเบิกสร้างวัดเอง ท่านมรณภาพแล้วไปไหนครับ บุญที่ท่านได้มีโอกาสมาสร้างวัดด้วยปัจจัยของท่านเองทั้งหมด ในยามที่ท่านชราแล้ว บุญนี้ส่งผลให้ท่านเป็นอย่างไรบ้างครับ
 
6.ท่านเจ้าอาวาสองค์ที่3และองค์ที่4 ที่มรณภาพไป ท่านทั้งสองมรณภาพแล้วไปอยู่ภพภูมิใดครับ
 
7.กรรมใด ทำให้โยมพี่เขยประสบอุบัติเหตุจนกระดูกหักหลายแห่ง เส้นเอ็นที่ขาขาดจนต้องผ่าตัดเปลี่ยนเส้นเอ็นอยู่ถึง 13ครั้ง ที่เดินได้เพราะคุณยายอาจารย์ช่วยใช่หรือไม่ครับ ถ้าไม่ได้มากราบขอความช่วยเหลือจากคุณยายอาจารย์ เขาจะเดินได้หรือไม่ครับ หรือจะต้องฆ่าตัวตายตามที่เขาพูดไว้ครับ
 
8.กรรมใด ทำให้โยมพี่เขยปวดทรมานในกระดูก จนต้องฉีดมอร์ฟีนทุกๆ 3ชั่วโมงมาจนถึงปัจจุบันครับ การฉีดมอร์ฟีนเพื่อระงับความปวดของโยมพี่เขย จะทำให้มีวิบากกรรมหรือไม่อย่างไรครับ เพราะเป็นสารเสพติดครับ
 
9.กรรมใด ทำให้กระผมมีฝีหนองเกิดขึ้นที่ศีรษะตั้งแต่อายุไม่ถึงขวบ ต่อมาก็หายไปเองเพราะเหตุใดครับ
 
10.เคยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับรถคันที่กระผมนั่งมาวัดถึงสองครั้ง...
ครั้งแรก รถบัสที่กระผมนั่งมา คนขับเกิดหลับใน ขับรถผิดเลน จึงประสานงากับรถสิบล้อ
ครั้งที่2 รถกระบะที่กระผมนั่งมา ได้พลิกคว่ำ 3ตลบ
    แต่กระผมก็รอดมาได้ทุกครั้ง เป็นเพราะกรรมใดครับ
 
11.กระผมเคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไรครับ ในพุทธันดรที่แล้ว กระผมได้ลงมาสร้างบารมีกับหมู่คณะหรือไม่ กระผมมีหน้าที่อะไรในกองทัพธรรม มีผังบวชมาหนาแน่นแค่ไหนครับ ชาติที่แล้วกระผมได้เคยเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดใดหรือไม่ ชาติปัจจุบันกระผมมีบุญที่จะบวชตลอดชีวิตหรือไม่ และจะต้องมาทำหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสหรือไม่ครับ

กระผมขอกราบพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
    
 ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1.โยมพ่อ ตายแล้วก็ได้ถูกเจ้าหน้าที่พาตัวไปยมโลกของมหานรกขุม5 ด้วยกรรมสุราและบุหรี่ จึงรู้ว่า “ตัวเองตายแล้ว” ในตอนนั้น กำลังถูกเจ้าหน้าที่กรอกน้ำทองแดงร้อนและขี้เถ้าร้อนทุกข์ทรมานมาก ดิ้นทุรนทุรายไม่มีเวลาพูด
 
2.โยมแม่ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม คอยแต่จะเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า เป็นมากถึงขนาดขยำอุจจาระเล่น ไม่ยอมนอน นั่งพิงหลับจนเส้นที่คอยึด ต้องก้มหน้าตลอดเวลาจนเสียชีวิต เพราะกรรมสุราและมุสาและวจีกรรมอื่นๆ ในอดีตและปัจจุบันมาส่งผล

 

 3.น้องชายคนเล็กตายแล้ว ร่อนเร่อยู่ระยะหนึ่ง แล้วก็ไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์แล้ว ไม่อาจรับบุญได้

 
4.โยมอาถูกลูกเลี้ยงฆ่าตาย เพราะกรรมในอดีต ชอบดื่มสุราจนเมา แล้วก็ชอบชกต่อยทุบตีทะเลาะวิวาทกับผู้อื่นเป็นประจำ

 
5.ท่านเจ้าอาวาสองค์แรก บุกเบิกสร้างวัดเอง มรณภาพแล้ว ท่านก็ไปเกิดเป็นยักษ์ชั้นสูง (หรือยักษ์หล่อ จะมีเขี้ยวให้เห็นเฉพาะตอนโกรธ) มีวิมานทองใหญ่โต บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ด้วยบุญที่ท่านสร้างวัด
 
6.ท่านเจ้าอาวาสองค์ที่3_มรณภาพแล้ว ก็ไปเกิดเป็นยักษ์ชั้นกลาง บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา เป็นยักษ์ที่มีควันออกจากจมูกตลอดเวลา เพราะท่านมีปกติใจขุ่น แต่ไม่ถึงกับหมอง และชอบสูบบุหรี่ตอนเป็นมนุษย์
 

 
7.พี่เขยประสบอุบัติเหตุจนกระดูกหักหลายแห่ง เส้นเอ็นที่ขาขาด ต้องผ่าตัดเปลี่ยนเส้นเอ็นอยู่ถึง 13ครั้ง เพราะในอดีตเคยเป็นนายพราน ได้ขุดหลุมดักสัตว์ พอสัตว์ตกลงไปในหลุมก็เอาหินทุ่มลงไปจนสัตว์ตาย
 

8.พี่เขยปวดทรมานในกระดูก จนต้องฉีดมอร์ฟีนทุก 3ชั่วโมงจนถึงปัจจุบัน เพราะกรรมที่ทรมานสัตว์ดังกล่าว ที่พอสัตว์ติดกับดักก็ปล่อยเอาไว้นานๆหรือผูกขาสัตว์เอาไว้ไม่ให้มันหนี ปล่อยให้มันทรมานอยู่อย่างนั้น มาส่งผล
 

 
9.ตัวลูกมีฝีหนองเกิดขึ้นที่ศีรษะ ตั้งแต่อายุยังไม่ถึงขวบและต่อมาหายไปเองได้ เพราะวจีกรรมในอดีต ที่เคยไปล้อเลียนและไปด่าเพื่อนเด็กที่หัวเป็นฝีหนองว่า เขาหัวเน่า จนทำให้เขาได้รับความอับอาย มาส่งผล
 
10.ลูกประสบอุบัติเหตุเกี่ยวกับเรื่องรถถึง 2ครั้ง แต่รอดมาได้ทุกครั้ง เพราะเศษกรรมยิงนก ตกปลา ฆ่าสัตว์ทำอาหาร ทั้งอดีตและปัจจุบัน มาส่งผล
 
11.ลูกเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมา โดยพุทธันดรที่ผ่านมา ลูกได้เป็นกุลบุตร ได้ออกบวชกับพระราชาองค์ที่ออกบวช จนตลอดชีวิต โดยมีหน้าที่เผยแผ่ แต่ช่วงแรกเป็นคนสอนยากสักหน่อย  
 
 


 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2550-11-29.html
เมื่อ 25 มิถุนายน 2567 08:40
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv