Case study
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
กราบนมัสการคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพอย่างสูง
 
    ลูก เป็นคนกรุงเทพฯ พ่อของลูก เสียชีวิตตั้งแต่ลูกยังเด็ก แม่ของลูก จึงได้ยกลูกให้กับครอบครัวของป้า แล้วแม่ก็ไปมีครอบครัวใหม่ ตลอดระยะเวลาที่ลูกอยู่ที่ครอบครัวป้า ชีวิตค่อนข้างรันทด ลำบาก ถูกใช้งานสารพัดทั้งงานบ้าน งานครัว ฆ่าปูปลาเพื่อทำอาหาร ซึ่งลูกไม่อยากทำ แต่ก็ต้องทำเพราะโดนตี โดนด่า ถ้าไม่ยอมทำ
 
    พอโตขึ้น ลูกพลาดไปมีความสัมพันธ์กับลูกชายของป้า ซึ่งต่อมาก็คือ สามีของลูก ทางบ้านก็ไม่มีใครเห็นด้วย บังคับให้เลิกกัน พอลูกตั้งครรภ์ จึงต้องไปทำแท้ง ลูกเสียใจมาก อธิษฐานจิตให้ลูกที่ตายไปมาเกิดอีก แล้วเราจะไม่ยอมพรากจากกัน ไม่นานต่อมาลูกก็ฝันเห็นเด็กผู้ชายผิวสองสีมายืนร้องไห้ เอื้อมมือมาเกาะ ลูกสงสารจึงเข้าไปกอด ต่อมาลูกได้ตั้งครรภ์และคลอดลูกชาย เป็น ลูกชายคนเดียวของลูก
 
    ป้า มักจะบอกกับสามีของลูกว่า ลูกชายที่เกิดมาไม่ใช่ลูกของเขา เขาก็เชื่อ และไปมีภรรยาคนใหม่ และมีลูกชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งเขารักลูกชายคนนั้นมาก ส่วนลูกชายที่เกิดกับลูก เขาแทบไม่มอง ไม่จับ ไม่อุ้ม ลูกก็รู้สึกน้อยใจ เสียใจ ลูกจึงพาลูกชายมาอยู่กับแม่ ให้แม่ช่วยเลี้ยง และลูกก็ทำงานเลี้ยงลูกชายไปด้วย
 
    ลูกชายของลูก แม้ว่าจะอยู่กับยายและน้า แต่ทุกๆวัน เขาจะมานั่งคอยลูก หน้าตาหงอยเหงาไม่อบอุ่น จนคุณครูเคยมาถามว่า “ลูกชายมีปัญหาอะไร” ลูกจึงคอยสังเกต เห็นลูกชายจะออกจากบ้านทุกวัน เวลาทุ่มครึ่ง ลูกจึงลองเดินตามไปดูว่า เขาออกไปไหน ทำอะไร ก็เห็นว่า บางทีเขาก็ไปเดินรอบวัด เดินไปเรื่อยๆ บางทีมานั่งที่บันไดกุฏิพระ จุดธูปจิ้มทรายเล่น บางครั้งก็ไปเล่นน้ำที่ท่าพระอาทิตย์ ถอดแว่นตาทิ้งไว้ จนแว่นตาหายเป็นประจำ เขาเป็นคนไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยถามใคร จะไปไหนทีก็เดินไปเรื่อยๆบอกว่า “เดี๋ยวก็ถึง”
 
    ลูกชายเริ่มเข้าสู่เส้นทางการสร้างบารมี จากการอบรมธรรมทายาทรุ่น 23 ในปี พ.ศ.2538 และได้ไปช่วยงานของชมรมพุทธ มหาวิทยาลัยเกษตร เขาเริ่มทำบุญ ทุกครั้งที่ลูกชายมาขอเงิน ลูกให้ทุกครั้งด้วยความรักลูก ลูกชายก็จะพยายามรวบรวมปัจจัยมาทำบุญเสมอๆ และจะมีความสุขเบิกบานเมื่อพูดถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และการสร้างบารมี
 
    เขามักมีอาการปวดหัวบ่อยๆ ปวดหัวจนไม่สามารถเรียนต่อไปได้ บอกว่าเรียนไม่รู้เรื่อง จึงออกจากมหาวิทยาลัย มาเริ่มทำงาน พอทำงานก็ทำบ้าง หยุดบ้าง เพราะปวดหัว ในช่วงเดือนสิงหาคม ปี พ.ศ.254 มีพี่จากวัดมาบอกบุญ แล้วพบว่า ลูกชายมีเลือดออกที่หู จึงพาไปตรวจที่โรงพยาบาล และพบว่า เป็นมะเร็งหลังโพรงจมูกซึ่งลามไปสมองแล้ว
 
    ช่วงเวลาที่เขาป่วยอยู่นี้ พี่จากวัดก็จะมาเยี่ยม พูดถึงบุญให้นึกถึงทุกๆบุญที่ได้ทำมา และลูกชายไม่เคยพลาดบุญทุกบุญจากวัดพระธรรมกาย กฐินปี 46, หอฉันคุณยายอาจารย์, อาคารภาวนา 60ปีพระราชฯ, องค์พระสามแสนองค์ สามแสนปลื้ม เขาได้ทำบุญตลอดมา
 
    ช่วงสุดท้าย ลูกชายบอกลาทุกๆคนเพราะรู้ตัวว่า ไม่ไหวแล้ว บอกลูกว่า “เราจะไปเจอกันที่ดุสิตบุรี” เมื่อก่อนเขาไม่เคยคิดจะไปดุสิต อยากไปดาวดึงส์ เพราะสนุกดี แต่ตอนนี้เขาหวังไปดุสิตบุรี เขาเอาพระของขวัญที่ได้จากการทำบุญให้กับญาติๆ บอกว่า “ไม่เสียดาย”
 
    วันอาทิตย์ต้นเดือน วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2547 มีพี่และเพื่อนที่เคยอยู่ชมรมพุทธฯ มหาวิทาลัยเกษตรศาสตร์ มาเยี่ยม ดูเขาสดชื่นและปลื้มกับบุญที่พี่ และเพื่อนบอก เช่น บุญจุดประทีปมาฆบูชา บูชาข้าวพระ และสามแสนปลื้ม ที่ลูกชายไม่พลาดเลยสักบุญ
 
    หลังจากนั้นลูกชายเริ่มซึม กินไม่ค่อยได้ ไม่มีแรงพูด หายใจไม่ออก เลือดเริ่มออกจากจมูก ปาก ออกมามาก ไหลไม่หยุด  ลูกพยายามพูดถึงบุญทุกบุญที่เขาทำมาตลอดทั้งชีวิต เขาพยักหน้ารับรู้ คุณหมอให้ทำใจ ลูกไม่กล้ามองหน้าลูกชายเลย จึงออกมานอกห้อง และเขาเสียชีวิตเวลาประมาณ 03.30น. ของวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ.2547 รวมอายุได้ 28 ปี 9 เดือน
 
    สามีของลูก ตอนหลังเริ่มมีสติฟั่นเฟือน พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง เมื่อเขามีอาการทางประสาท ทางบ้านของเขาก็ไม่มีใครดูแล แม้แต่แม่ของเขาเองก็ไม่เอา เขาจึงแยกมาอยู่กับลูก อาการดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่พูดอะไรมาก พูดจารู้เรื่องขึ้น แต่ถ้าห่างออกไปเขาก็จะมีอาการขึ้นมาอีก จนปัจจุบันเขาก็ไม่ได้ทำงานแล้ว ลูกก็ต้องดูแลเรื่องอาหารการกินให้เขา และคอยให้กินยาระงับประสาท
 
คำถาม 
 
1.ลูกทำกรรมอะไรมา จึงต้องไปอยู่กับครอบครัวป้าตั้งแต่เด็ก ต้องถูกบังคับให้ทำแท้ง  การทำแท้งจะมีผลต่อลูกอย่างไร และลูกที่แท้งไป คือ คนเดียวกับลูกชายคนนี้ของลูก ใช่หรือไม่คะ
 
2.ลูกชายทำกรรมอะไรมา จึงต้องมาเป็นโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกคะ
 
3.ขณะใกล้ละโลก ลูกชายมีคตินิมิตอย่างไร ลูกพยายามพูดถึงทุกๆบุญที่เขาทำมา เขารับรู้ได้หรือไม่ บุญสามแสนปลื้ม เขาได้รับหรือไม่คะ
 
4.ในวันอาทิตย์ต้นเดือน ที่มีพี่และเพื่อนที่เคยอยู่ชมรมพุทธฯ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ด้วยกัน มาเยี่ยม ทำไมลูกชายจึงมีอาการดีขึ้นมากคะ
 
5.ตอนนี้ลูกชายอยู่ที่ไหน มีความเป็นอยู่อย่างไรบ้างคะ ลูกต้องทำอย่างไรต่อไปกับชีวิตดีคะ เพราะใจหาย สับสน คิดถึงลูกชายมากค่ะ
 
6.สามีจะหายจากโรคทางประสาทหรือไม่ ต้องทำอย่างไรคะ
 
7.ลูกและลูกชาย เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไรบ้างคะ
 
กราบขอบพระคุณคุณครูไม่ใหญ่อย่างสูง
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ
 
1.ลูกมีเศษกรรม กล่าวคือ ในชาติที่เกิดเป็นผู้ชาย มีลูกหลายคน ไม่สามารถเลี้ยงได้ จึงจำต้องยกลูกของตนไปให้คนอื่นเลี้ยง และได้เคยบังคับให้ภรรยาของตนทำแท้ง เพราะไม่พร้อมที่จะเลี้ยงลูก กรรมนี้จึงทำให้ต้องมาอยู่กับครอบครัวของป้าตั้งแต่เด็ก และถูกบังคับให้ทำแท้ง
 
 
 
 
 
 
 
2.ลูกชาย ในอดีตเคยเป็นทหารระดับเสนาธิการของพระราชา วางแผนในการรบแม้ส่วนใหญ่ตนเองจะไม่ได้ออกรบก็ตาม แต่มีส่วนให้คนตายเป็นจำนวนมากในสนามรบ เพราะตนเองนั้นได้คิดเสมอว่า ทำอย่างไรจึงจะเข่นฆ่าศัตรูให้ได้มากๆเพื่อชัยชนะ
 
 
 
 
3.ในเวลาใกล้จะละโลก ลูกชายได้พยายามนึกถึงบุญตลอดทุกๆบุญ โดยเฉพาะบุญสามแสนปลื้มในช่วงสุดท้ายของชีวิต
 
 
 
 
 
 
4.ในวันอาทิตย์ต้นเดือนก่อนตาย ที่รุ่นพี่และเพื่อนๆ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาเยี่ยม ลูกชายมีอาการดีขึ้น เพราะทุกคนพูดแต่เรื่องธรรมะ และเรื่องบุญเป็นหลัก จึงทำให้ลูกชายมีกำลังใจ
 
 
5.ลูกจะต้องคิดว่า คนเรามีความเกิด ความแก่ ความตายเป็นธรรมดา จะล่วงพ้นความเจ็บป่วย ความตายไปไม่ได้ แม้แต่ตัวของลูกเอง เป็นเรื่องปกติธรรมดา จะตายช้าหรือเร็วก็ต้องตาย
 
 
6.สามีของลูก มีเศษกรรมสุราทั้งในอดีตและปัจจุบัน (แต่วิบากกรรมสุราในอดีตเป็นหลัก) จึงทำให้มีอาการทางประสาท
 
 
7.ลูกและลูกชายก็เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมา แต่ตอนอายุมากแล้วทั้งคู่ในชาติที่ผ่านมา
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2547-03-23.html
เมื่อ 6 พฤษภาคม 2567 21:46
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv