Case study
เด็กหน้าแก่
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
เพื่อความเหมาะสม จำเป็นต้องของสงวนนามของบุคคล หรือสถานที่ไว้
 
    เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง  ถูกเรียกว่า “เด็กแก่เมืองอุบลฯ” เธออายุ 10 ขวบ แต่เพื่อนเรียก “คุณยาย” เพราะเหตุที่หน้าตาเหมือนคนอายุ 80 ปี เธอเป็นคนกล้าแสดงออก  โตขึ้นอยากเป็นหมอ  เพื่อจะได้รักษาคนป่วยที่มีลักษณะคล้ายตนเองให้หายเป็นปกติ
 
    ปัจจุบัน เธอเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ณ โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดอุบลราชธานี แม้ว่าเธอจะอายุ 10ปี แต่รูปร่างหน้าตาภายนอกกลับคล้ายกับคนแก่ อายุ 80ปี  เนื่องจากมีใบหน้าเหี่ยวย่น ผิวหนังหย่อนคล้อย เปลือกตาด้านบนหย่อนลงมาปิดดวงตาด้านล่าง เหลือให้เห็นตาเพียงครึ่งเดียว ส่วนผิวหนังตามร่างกายก็หย่อนยาน และเหี่ยวย่นเช่นกัน
 
    จากการสอบถามครูประจำชั้นของเธอ ได้ความว่า เด็กหญิงคนนี้ เธอมีสภาพร่างกายเหมือนกับคนแก่เช่นนี้มาตั้งแต่เกิดแล้ว  นั่นคือ  ผิวหนังเหี่ยวย่นผิดจากเด็กทั่วไป ซึ่งก่อนหน้านี้เธอเคยมีฝาแฝดคนหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกันนี้ทุกประการ  แต่ก็มาตายไป เมื่อเข้าเรียนได้เพียงแค่ชั้นอนุบาล ทั้งนี้เนื่องจากสภาพร่างกายผิดปกติ ปัจจุบันเธอจึงเป็นลูกคนที่ 3   ที่เหลือเป็นพี่อีก 2 คน แต่พี่ทั้งสองมีร่างกายปกติ ซึ่งถือว่าเธอ เกิดมาโชคร้ายกว่าบรรดาพี่ๆ
 
    อย่างไรก็ตาม แม้จะมีร่างกายที่ไม่ปกติ   ผิวหนังเหี่ยวย่น เหมือนคนแก่ แต่เด็กหญิงคนนี้ ถือว่าเป็นเด็กที่ตั้งใจเรียนดีมาก ได้เกรด 3-4 เป็นประจำ อีกทั้งยังเป็นเด็กที่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนฝูง ทำให้เพื่อนๆต่างรักใคร่ และยังเป็นคนที่ชอบการแสดงออก เนื่องจากเวลาที่ครูให้แสดงหน้าชั้นหรือหน้าแถว เธอมักจะเสนอตัวในการออกไปแสดง และบางครั้งยังรับบทเป็นนางเอกด้วย
 
    นอกจากนี้เธอยังเล่นกีฬาได้ดีไม่แพ้เด็กอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง หรือกีฬาอื่นๆ ซึ่งด้วยเหตุนี้เองทำให้กลายเป็นขวัญใจ และเป็นฮีโร่ของเพื่อนๆ ขณะเดียวกันยังพบว่า แม้เธอจะแตกต่างจากเพื่อนแต่ก็ไม่ทำให้ตัวเองมีปมด้อยเลย แต่เป็นคนที่สนุกสนานเข้ากับเพื่อนฝูงได้ดี และหลายครั้งที่แสดงออกเหมือนผู้ใหญ่ทำให้เพื่อนๆ ต่างเกรงใจและไม่กล้าแกล้ง ทำให้เป็นผู้นำในกลุ่มไปโดยปริยาย
 
    เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงที่คล้ายคลึงกับผู้สูงอายุแบบไม่มีผิดเพี้ยนว่า “เวลาอยู่กับเพื่อนๆ ไม่ได้รู้สึกอายอะไร เพราะเพื่อนๆ ต่างชินกันหมดแล้ว เนื่องจากเห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ถ้าไปที่อื่นก็จะมีคนสนใจมาก ส่วนสายตาแม้จะปิดลงบางส่วน แต่ก็ยังมองเห็น ตายังไม่ฟ่าฟาง และถ้าให้ไปรักษาโดยการผ่าตัดหรือทำศัลยกรรมก็คงจะกลัว ไม่กล้ารักษา และอยากจะเรียนต่อเพราะอยากเป็นหมอจะได้รักษาคนป่วยให้หายเป็นปกติ”
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2547-11-24.html
เมื่อ 4 พฤษภาคม 2567 21:20
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv