CASE STUDY
ไสยศาสตร์จากรัสเซีย
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
    ลูก เป็นชาวรัสเซีย  เข้าวัดพระธรรมกายเป็นครั้งแรก  โดยมีลูกชายคนเล็กเป็นกัลยาณมิตรให้    ลูกชายคนเล็กของลูกได้มีโอกาสมาวัดพระธรรมกายก็เพราะอาการเจ็บป่วยของเขา เป็นสาเหตุให้เขาได้มาพักฟื้นที่เมืองไทย     และได้มีกัลยาณมิตรชักชวนเขาให้ได้มาวัดพระธรรมกาย    ปัจจุบันอาการป่วยของลูกชายก็ยังคงมีอยู่   ลูกขอเล่าประวัติของเขาดังนี้คะ 
 
    ลูกชายคนเล็กของลูก ปัจจุบันอายุ 21 ปี ได้ประสบอุบัติเหตุ ครั้งแรกเมื่อเดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2545  ขณะไปศึกษาต่อที่เมืองซูริค   ประเทศสวิสเซอร์แลนด์  ในวันเกิดเหตุ เขามีอาการเมาสุรา  ถูกผลักตกบันไดศีรษะฟาดพื้นหมดสติ  ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล   รุ่งขึ้นหลังจากรู้สึกตัว  เขาก็หนีออกจากโรงพยาบาล และไม่มีวี่แววว่าจะมีเหตุการณ์ร้ายใดๆเกิดขึ้นกับเขา
 
    ในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2546  ระหว่างปิดเทอมเขากลับมาพักร้อนที่บ้าน (ประเทศรัสเซีย) ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง  โดยขับรถยนต์ชนกับรถอีกคันหนึ่งอย่างแรง ในตอนนั้นเขาไม่ได้เมา  ศีรษะของเขาถูกกระแทก  แต่ไม่หมดสติ ร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลประมาณ  1  เดือน  เมื่อหายดีแล้วจึงกลับไปเรียนต่อที่ซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ กระทั่งเดือนมีนาคม  พ.ศ.2547  เริ่มมีอาการผิดปกติ  จนถึงขั้นรุนแรง เขาพยายามทำร้ายพี่ชายของเขา จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลด้านประสาท  เข้าบำบัดรักษาอยู่ประมาณ 2  เดือน (2 มี.ค.– 27 พ.ค. พ.ศ.2547) หลังจากนั้นกลับมาพักฟื้นที่บ้าน ในประเทศรัสเซีย โดยการรับประทานยาตามแพทย์สั่ง   อาการบาดเจ็บทางสมองทุเลาลงเรื่อยๆ    จึงลดจำนวนยาที่รับประทานลงตามลำดับ  
 
    นอกจากการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันแล้ว  ยังเสริมการรักษาด้วยพลังจิตหรือพลังจักรวาล  และไสยศาสตร์ที่เรียกว่า “ไสยขาว” ด้วย ซึ่งลูกเองได้จ้างผู้มีอำนาจทางจิตหรือหมอไสยศาสตร์ มารักษาลูกชายแต่อาการก็ไม่ดีขึ้น   จนกระทั่งลูกชายได้เดินทางมาพักฟื้นที่เมืองไทย พร้อมกับหมอไสยศาสตร์ และได้มีกัลยาณมิตรชักชวนให้มาที่วัดพระธรรมกาย  เพื่อไปปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ 1 สัปดาห์ ที่ จังหวัดเชียงใหม่ ลูกเองได้เดินทางมาสมทบในภายหลัง และได้ไปปฏิบัติธรรมพร้อมกันกับลูกชายเป็นครั้งแรก หลังจากปฏิบัติธรรม  ดูเขาสงบขึ้น อารมณ์ดี  ยิ้มแย้มแจ่มใส  ดูมีสุขภาพกายและใจดี  เราจึงมุ่งเน้นที่การนั่งสมาธิด้วยตนเอง เพราะเห็นผลที่ชัดเจน  รวมถึงพฤติกรรมต่างๆ  ของลูกชายดีขึ้นอย่างรวดเร็ว  รู้สึกสมองเขาจะปรอดโปร่งมากๆ โดยรวมแล้วแทบสังเกตไม่เห็นร่องรอยของความเจ็บป่วยเลย ดังนั้น จึงเลิกรักษากับหมอไสยศาสตร์หรือหมออื่นๆ แล้วหันมานั่งสมาธิอย่างเดียว     ซึ่งอาจทำความไม่พอใจให้กับหมอไสยศาสตร์บ้าง
 
    จากนั้นเหตุการณ์กลับมาวิกฤตอีกครั้ง เมื่อแพทย์ตรวจเช็คร่างกายพบสิ่งผิดปกติ ต้องเข้ารับการผ่าตัดที่กระดูกสันหลังช่วงล่าง  (บริเวณก้นกบ)  แพทย์เริ่มทำการผ่าตัดเมื่อวันที่  22  มีนาคม  พ.ศ.2548  โดยใช้วิทยาการสมัยใหม่ซึ่งดูเหมือนเป็นการผ่าตัดเล็กๆ ไม่มีอาการน่าเป็นห่วงใดๆ  แต่ที่สำคัญคือ มีการวางยาสลบ  ประกอบกับการหยุดรับประทานยามานานเป็นสัปดาห์  ดังนั้นในระหว่างที่ลูกชายออกจากโรงพยาบาลกลับมาพักฟื้นที่บ้าน พฤติกรรมของเขาเริ่มเปลี่ยนไปในทางลบ  มีความก้าวร้าวมากขึ้น  กระทั่งคืนวันที่ 18 เมษายน พ.ศ.2548 ที่ผ่านมา  อาการก้าวร้าวรุนแรงเกิดขึ้นอีกครั้ง เขาได้ทำร้ายแม่ของเขา (คือตัวลูก)  และพยายามจุดไฟเผาบ้าน  เมื่อลูกชายได้สติ  เขาอธิบายว่า  เรื่องทั้งหมดที่ทำลงไป เพราะมีเสียงสั่งและบังคับให้ทำ  ทั้งบอกว่าคนนี้ (คือตัวลูก)ไม่ใช่แม่  แต่เป็นคนที่คิดร้ายและจะทำร้ายเขา จึงต้องนำตัวเขาส่งโรงพยาบาลเพื่อบำบัดรักษาเฉพาะด้าน  ขณะนี้มีอาการดีขึ้นบ้างแล้ว  แต่ยังน่าเป็นห่วง   คงต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อีกนานเป็นเดือน
 
    นอกจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ตัวลูกเอง ขณะทำงานที่บ้านในรัสเซีย ปรากฏว่ามีข้าวของต่างๆหล่นแตกลงมา ได้รับความเสียหายอย่างมากมาย โดยที่ลูกเองก็แปลกใจและไม่ทราบสาเหตุว่าสิ่งของเหล่านั้นตกลงมาแตกได้ยังไง ลูกหยิบรูปเก่าๆของลูกชายที่เคยถ่ายเก็บไว้ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวด้วยกันขึ้นมาดู  ปรากฏว่ามีอยู่ภาพหนึ่งซึ่งถ่ายไว้ขณะเรานั่งอยู่ในรถไฟ ได้เห็นคราบเลือดอยู่ที่เงาของลูกชายในกระจกรถไฟ  กำลังไหลจากศีรษะลงมาถึงไหล่ อก และแขน  ดูน่ากลัวมาก  จากนั้นลูกพบความผิดปกติของภาพถ่ายอีกหลายๆใบ  ซึ่งคล้ายกันแต่แตกต่างกันที่บริเวณศีรษะของลูกชาย ได้มีคราบสีดำแทนคราบสีเลือดซึ่งเห็นได้ชัด ซึ่งภาพของคนอื่นๆเป็นปกติดี   ขณะนี้ภาพถ่ายถูกทำลายหมดแล้ว  มีเพื่อนบ้านบอกกับลูกว่า มีผู้ไม่ปรารถนาดีได้ทำคุณไสยกับครอบครัวของลูก  (ซึ่งอาจจะเป็นคนที่ลูกจ้างมารักษาลูกชายก็ได้) และแนะนำให้ไปหาผู้มีวิชาเพื่อทำการแก้คุณไสยนั้น   
 
    สามีของลูก ขณะมึนเมาได้ประสบอุบัติเหตุขับรถชนกับรถบรรทุกอาการสาหัส โดยเฉพาะที่กะโหลกศีรษะและสมอง  นอนหมดสติในอาการโคม่าอยู่  2 คืนก็เสียชีวิตในวันที่ 5 มิ.ย. พ.ศ. 2534 มีอายุเพียง 39 ปี ลูกทำบุญสร้างองค์พระโดยจารึกชื่อสามีอุทิศไปให้แล้ว พร้อมทั้งสร้างให้ตัวเองและลูกอีกสองคนรวมเป็น  4   องค์เจ้าค่ะ
  
กราบขอความเมตตาถามคำถามดังนี้ค่ะ
 
1. การเกิดอุบัติเหตุทั้ง 2 ครั้ง ของลูกชายคนเล็ก กล่าวคือ ถูกผลักตกบันได และขับรถยนต์ชน รวมถึงการป่วยทางประสาท เกิดจากกรรมอะไรเป็นสาเหตุ
 
2. การทำบุญให้ทานชีวิตสัตว์  การบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยอนาถา  การสร้างพระธรรมกายประจำตัว  และการปฏิบัติธรรม  ซึ่งได้ทำไปแล้วในระดับหนึ่ง  จะช่วยลูกชายได้หรือไม่  อย่างไร  และต้องทำในระดับไหนจึงจะช่วยให้หายขาดได้โดยเร็วคะ
3. วิบากกรรมที่ลูกชายประสบอยู่นี้ จะตามส่งผลถึงภพชาติต่อไปหรือไม่  ถ้ากรรมยังแรงอยู่  ต้องแก้ไขอย่างไร
 
4. ก่อนที่จะมีอาการทางประสาทอีกครั้งลูกชายเคยมาขอบวช  ลูกชายจะมีโอกาสได้บวชในพระพุทธศาสนาหรือไม่  การบวชจะช่วยตัดรอนวิบากกรรมของเขาได้หรือไม่  เพียงใด  และหากเจ้าตัวไม่สามารถบวชได้ แต่พี่ชายบวชแทนจะมีผลต่อน้องชายหรือไม่อย่างไรคะ
 
5. ความผิดปกติบนภาพถ่ายของลูกชาย  รวมทั้งการแตกหักของเครื่องใช้และสิ่งของมีค่าโดยไม่มีสาเหตุ เป็นเพราะเหตุใด จริงหรือไม่คะ ที่ว่ามีคนทำคุณไสยกับครอบครัวของลูก  หากมีการทำคุณไสยจริง  จะแก้ไขได้อย่างไรคะ
 
6. คนที่ทำคุณไสยกับครอบครัวลูก ใช่คนที่ลูกจ้างเขามารักษาลูกชายโดยใช้พลังจักรวาล หรือไสยขาวหรือไม่อย่างไรคะ  ถ้าไม่ใช่แล้วเขาเป็นใครคะ เขามีจุดประสงค์ใด ลูกควรทำอย่างไร   เราเคยมีกรรมร่วมกันไหมคะ
 
7. บุพกรรมใดสามีจึงมีอายุสั้นและเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ขณะหมดสติเขาเป็นอย่างไรบ้าง เสียชีวิตแล้วไปอยู่ที่ไหน ได้รับบุญจากการสร้างพระประจำตัว  และบุญอื่นๆ หรือไม่  มีอะไรฝากบอกมาหรือไม่คะ
 
8. ลูกเกิดประสบการณ์ภายในที่ดีมาก ตั้งแต่ครั้งแรกที่นั่งสมาธิและลูกมีความปีติใจได้เกิดศรัทธาทำบุญในพระพุทธศาสนา  ลูกมีเชื้อสายธรรมกายไหมคะ
 
9. ลูกและลูกชายทั้ง 2 คน เคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะมาอย่างไร ทำไมต้องมาเกิดเป็นชาวต่างชาติ และแม้อยู่ห่างไกล แต่กลับมีโอกาสได้มาปฏิบัติธรรมกับหมู่คณะ
 
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. ลูกชายประสบอุบัติเหตุ  2  ครั้ง  คือ ถูก “ผลักตกบันได” และ “ขับรถชน” และป่วยเป็นโรคประสาท   เพราะ ...กรรมสุรา ในอดีต 
 
 
 
 
2. การทำบุญให้ทานชีวิตสัตว์  ,  การบริจาคเพื่อช่วยเหลือ     ผู้เจ็บป่วยอนาถา , การสร้างพระธรรมกายประจำตัว  และการปฏิบัติธรรม  ซึ่งทำไปได้แล้วในระดับหนึ่ง  ก็จะไปช่วยตัดรอนวิบากกรรมให้หนักเป็นเบา , เบาก็จะหาย  หรือเว้นช่วงให้ห่างออกไป  แต่ถ้าทำบุญทุกบุญบ่อย ๆ  ก็มีสิทธิ์หายขาดได้จ่ะ!
 
 
3. วิบากกรรมนี้  อาจตามไปส่งผลต่อไปในภพชาติเบื้องหน้า เพราะปัจจุบันก็ทำด้วย  
 
 
 
4. ก่อนที่จะมีอาการทางประสาทอีกครั้ง  ลูกชายก็เคยมาขอบวช , เขาก็มีโอกาสที่จะบวชได้  เพราะเขาเคยมีบุญบวชมาในอดีตชาติ  คือ  เขาเคยเกิดในร่มเงาพระพุทธศาสนา  และเคยบวช “ระยะสั้น” บุญนี้จึงทำให้เขาคิดจะบวช คิดมาเอง 
 
 
 
 
 
 
5. ความผิดปกติของภาพถ่ายของลูกชาย  รวมทั้งการแตกหักของเครื่องใช้และสิ่งของมีค่า  โดยไม่มีสาเหตุนั้น  เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางสารเคมี  เพราะภาพถ่ายผ่านกาลเวลามา  จึงอาจทำให้มองเห็นเป็นดังกล่าวไปได้  อย่าไปกังวลเลย
 
 
 
 
 
6. คนที่ลูกจ้างเขาให้มารักษาลูกชายด้วย “ไสยเวท” นั้น เขาก็มีความขุ่นเคืองบ้าง   แต่ก็ไม่อาจทำอะไรลูกและครอบครัวด้วย “คุณไสย” ได้จ่ะ!
 
 
7. สามี “อายุสั้น” และประสบอุบัติเหตุ เพราะ ...กรรมในอดีตที่เคยเกิดในสังคมเกษตรกรรม ได้ฆ่าสัตว์ใหญ่เล็กเพื่อทำเป็นอาหารและฆ่าขาย ตามมาส่งผลจ่ะ!

 
 
 
 
 
 
8. ลูกเกิดประสบการณ์ภายในที่ดีมาก  ตั้งแต่ครั้งแรกที่นั่งสมาธิ  และลูกมีความปีติใจ ได้เกิดศรัทธาทำบุญในพระพุทธศาสนา ลูกมีเชื้อสายธรรมกายจ่ะ!

 
9. ลูกและครอบครัว  ก็เคยเกิดในร่มเงาพระพุทธศาสนา  และเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง”  แต่พลัดไปเกิดที่ต่างประเทศ , บุญเก่าที่เคยสร้างร่วมกันมา จึงดึงดูดให้มาสร้างบุญร่วมกันอีก
 
 
 


บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2548-06-08.html
เมื่อ 27 เมษายน 2567 08:20
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv