CASE  STUDY
บ่อฮักบ่อต้องสงสาร
เรียบเรียง จากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
  
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

        ลูกเป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้เข้าวัดเมื่อปี พ.ศ. 2538 โดยการอ่านพบในหนังสือวารสารประกายธรรมของญี่ปุ่น จึงทำให้ลูกได้มาสร้างบารมีกับหลวงพ่อและหมู่คณะจนถึงปัจจุบันนี้เจ้าค่ะ ลูกกราบขอความเมตตาส่งเรื่องราว  Case study มาถึงหลวงพ่อดังนี้ค่ะ

        ครอบครัวของลูกอยู่ที่จังหวัดลำปาง คุณพ่อคุณแม่มีลูก  4 คนเป็นหญิงล้วน ลูกเป็นคนที่ 3
        คุณพ่อเป็นคนดีเป็นต้นบุญต้นแบบในการทำความดีให้ลูกๆเห็นอยู่เสมอ ท่านใจบุญสุนทาน ชอบทำบุญตักบาตร  สร้างโบสถ์สร้างวิหารทำบุญทอดกฐินผ้าป่า  ทั้งยังชอบสวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น นั่งสมาธิทุกวันไม่เคยขาด  นอกจากนี้แล้วยังเป็นมัคทายกที่วัดอีกด้วย    คุณพ่อมีความรักและเคารพพระมาก  จะเห็นได้จากวันที่ฝนตกพระมาบิณฑบาตไม่ได้  ท่านจะกังวลใจ มีความเป็นห่วง กลัวว่าพระจะไม่มีฉัน คุณพ่อก็จัดเตรียมอาหารที่บ้านไปถวายพระที่วัดด้วยตัวของท่านเอง ...ท่านทำแบบนี้เพราะท่านรู้ว่าพระสงฆ์นั้น... ท่านคือใคร...ยิ่งช่วงเข้าพรรษาลูกจะเห็นคุณพ่อไปถืออุโบสถศีลและนอนค้างที่วัดด้วย ทุกวันนี้สุขภาพร่างกายของคุณพ่อก็ไม่ค่อยดี ได้ล้มป่วยเป็นโรคเกาต์  ปวดตามข้อกระดูกปวดตามตัว ปัสสาวะออกมาเป็นก้อนหินเล็กๆ ท่านได้ไปรักษาทั้งยาแผนไทยและแผนปัจจุบันก็ไม่หาย ปัจจุบันอายุ 71 ปี

        คุณแม่เป็นคู่บุญคู่บารมีทำบุญเคียงข้างคุณพ่ออยู่เสมอ  จะจัดแจงข้าวปลาอาหารเตรียมพร้อมถวายพระทุกวันไม่เคยขาด คุณแม่ทำทานรักษาศีลเจริญภาวนาอยู่เป็นเนืองนิตย์ ในช่วงเข้าพรรษาทุกวันพระ คุณแม่ก็ถืออุโบสถศีลเหมือนคุณพ่อ  แต่วันหนึ่งขณะคุณแม่อายุได้ 60 กว่าปี   จู่ๆท่านก็ส่ายหัวไป - มา นั่งตัวสั่นเหมือนผีเข้า    แล้วก็จำใครไม่ได้เลย  แม้กระทั่งตัวเอง  พูดคุยสื่อสารกับใครก็ไม่รู้เรื่อง   ลูกเป็นห่วงคุณแม่มากจึงพาไปโรงพยาบาล หมอตรวจพบว่า คุณแม่ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองฝ่อ อีกทั้งยังป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดันสูง ต้องเข้าๆออกๆโรงพยาบาลอยู่เป็นประจำ อาการก็ยังไม่ดีขึ้น  ตัวลูกเองทำได้ก็เพียง พูดถึงแต่เรื่องบุญต่างๆที่ได้ทำกับหลวงพ่อให้ท่านฟัง พร้อมกับบอกให้ท่าน  “สาธุ” คุณแม่ก็สาธุเหมือนรับรู้ได้ ปัจจุบันอายุ 65 ปี

        พี่สาวคนที่สอง  เธอมีชีวิตครอบครัวที่ลำบากมาก เพราะสามีชอบดื่มเหล้า เจ้าชู้ มีกิ๊กเรื่อยเปื่อย   จนพี่สาวจับได้คาหนังคาเขาว่าไปมีภรรยาน้อยเป็นตัวเป็นตน หนำซ้ำไปสร้างบ้านใหม่อยู่กับภรรยาน้อยอีกด้วย   พี่สาวเสียใจและช้ำใจมาก  เธอจึงตรอมใจร่างกายผ่ายผอมป่วยกระเสาะกระแสะเรื่อยมา ต่อมาเธอจึงล้มป่วยลง ด้วยการถ่ายท้องตลอด ต้องเข้าๆออกๆโรงพยาบาลอยู่เป็นประจำ    จนหมอไม่อยากรับการรักษา  พี่สาวคนโตจึงได้พาเธอไปรักษากับร่างทรง โดยร่างทรงใช้ไข่ไก่คลึงไปตามตัวของเธอ  แล้วก็เอาไข่ใบนั้นมากะเทาะเปลือกออก ปรากฏว่า ในไข่ มีตะปู เส้นผม เส้นด้าย หมอร่างทรงคนนั้นก็บอกว่า “เธอโดนคุณไสยจากภรรยาน้อย”  และหลังจากนั้นพี่สาวก็มีอาการดีขึ้น  แต่ไม่นานอาการป่วยก็ทรุดหนักกว่าเดิม   ต้องรักษาในโรงพยาบาลอีกครั้ง  ซึ่งในครั้งนี้หมอตรวจพบว่า เธอป่วยเป็นโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร  เธอล้มป่วยอยู่ประมาณปีกว่าๆจึงเสียชีวิตเมื่ออายุ   43   ปี  หลังจากเสียชีวิต ได้ไม่ถึงเดือน น้องสาวคนสุดท้องก็ฝันว่า  พี่สาวคนที่สองได้มาหาเธอที่บ้านพร้อมกับบอกว่า “ที่จริงพี่ยังไม่ตายในวันนั้นหรอก แต่หมอที่โรงพยาบาลได้ฉีดยาฆ่าพี่ให้ตาย”  และช่วงหลังจากที่พี่สาวตายแล้วนั้น  หมาที่บ้านพี่สาวก็เห่าหอนทุกวัน  ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านเธอตกหล่นแตกเองโดยไม่มีสาเหตุ 

        น้องสาวคนสุดท้อง   เป็นคนเจ้าอารมณ์หงุดหงิดง่าย โมโหร้ายนัก แต่เธอก็ชอบทำบุญใส่บาตร เวลาทำบุญใส่บาตรทุกครั้ง เธอจะโมโหหงุดหงิดก่อนเสมอ แม้หลังทำบุญเธอเห็นใครทำอะไรขัดหูขัดตา ก็จะขู่ดุด่าตะคอกใส่ แม้แต่คุณพ่อคุณแม่เธอก็ไม่ละเว้น  ซึ่งทุกคนในบ้านก็เอือมระอาในพฤติกรรมของเธอมากค่ะ   และก็สงสัยว่า  คนใจบุญทำไมหงุดหงิดง่ายอย่างนี้ค่ะ..ถ้าใครมักโกรธก็ต้องเกิดเป็น  ยักษ์

        ตัวลูกเอง เมื่อจบระดับ ปวช.ก็เปิดร้านเสริมสวยและขายของชำอยู่ที่ลำปางได้ระยะหนึ่ง  ต่อมาเมื่อปี 2534 ขณะนั้นลูกมีอายุ 28 ปี  ก็มีเพื่อนชวนไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น ลูกก็ได้ไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นในร้านขายเครื่องดื่มแห่งหนึ่ง (ขายเครื่องดื่มอย่างเดียวไม่มีบริการอย่างอื่นค่ะ)  แล้วในปี 2536 ก็ทำให้ลูกได้พบรักแต่งงานกับสามีชาวญี่ปุ่น  จากนั้นลูกก็หันมาทำอาชีพนวดแผนโบราณจนถึงปัจจุบันนี้ค่ะ  

        สามีของลูก เขาเป็นลูกโทน พ่อเสียชีวิตตั้งแต่อายุ  6 ขวบ  จึงเหลือแม่เพียงคนเดียวที่คอยดูแลเขามาตั้งแต่เล็กจนโต    เรารู้จักกัน เพราะวันหนึ่งเขาได้แวะมาดื่มเครื่องดื่มในร้านที่ลูกทำงานอยู่  ลูกได้ไปเสิร์ฟเครื่องดื่มที่โต๊ะของเขา จึงทักทายพูดคุยกัน  จากนั้นเขาก็มาดื่มที่ร้านนี้ประจำ โดยมีลูกเป็นคนดูแล ขณะนั้นเขาทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ต่อมาพอคุ้นกันมากขึ้นก็พาลูกเที่ยวสถานท่องเที่ยวในญี่ปุ่น  เขาไปมาหาสู่อยู่กับลูกปีกว่าๆ ลูกก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนดี มีความสม่ำเสมอ ให้ความช่วยเหลือลูกทุกอย่าง เขาก็ขอลูกแต่งงาน ลูกจึงตกลงแต่งงานอยู่กินกับเขา พออยู่กันได้ 2 ปี  สามีกับตัวลูกก็อยู่กันแบบพี่แบบน้อง เลิกมีความสัมพันธ์แบบสามีภรรยามาสิบกว่าปีแล้วค่ะ   และลูกเองมีความรู้สึกเสมอว่า “สามีเป็นเหมือนลูกชาย” ที่ต้องให้ความช่วยเหลือปกป้องและให้ความอบอุ่น  โดยลูกทำทุกอย่างให้สามี เช่น หาข้าวปลาอาหารให้รับประทาน  ดูแลความสะอาดเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มให้เขา เวลาป่วยก็ต้องอาบน้ำป้อนข้าวป้อนน้ำ พาไปหาหมอ ทำทุกอย่างให้สามีเหมือนทำกับลูกชาย    แต่เราไม่มีลูกด้วยกันค่ะ 

        ลูกเองเป็นกัลยาณมิตรชวนเขาไปทำบุญที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมโตเกียวเมื่อปี 2538 โดยสามีก็ชอบและส่งเสริมให้ลูกทำบุญในพระพุทธศาสนา  และเขาก็ได้มาปฏิบัติธรรมด้วยกันกับลูกเป็นประจำทุกวันอาทิตย์ ร่วมทำบุญกับทางศูนย์โตเกียวมาตลอด เขาทุ่มเทมุ่งมั่นฝึกสวดมนต์ทำวัตรเช้า – เย็น โดยอ่านจากภาษาญี่ปุ่น   แรกๆก็สวดไม่คล่อง แต่ก็หมั่นเพียรพยายามจนสวดได้คล่อง  จำได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องดูหนังสือ  นอกจากนี้เขายังชอบฟังหลวงพ่อเทศน์มากอีกด้วยค่ะ

        ต่อมาเมื่อปี 2542 สามีซึ้งในรสพระธรรมในคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อมาก และยังอยากศึกษาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ลุ่มลึกยิ่งขึ้น  เขาจึงตัดสินใจ ลาออกจากงาน มาบวชที่วัดพระธรรมกายรวมได้ 4 พรรษา โดยพรรษาแรกได้ฝึกฝนอบรมตนเองอยู่ที่วัด จากนั้นได้รับความเมตตาจากพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ ให้มาช่วยงานด้านเผยแผ่อยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมโตเกียว ได้เป็นกำลังสำคัญของศูนย์ โดยการชักชวนครูบาอาจารย์นิสิตนักศึกษาชาวญี่ปุ่นให้มาปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ อีกทั้งยังช่วยงานแปล case study รวมถึงงานแปลธรรมะต่างๆเป็นภาษาญี่ปุ่นอีกด้วย 
 
        แต่ในช่วงที่บวชอยู่นั้น โรคประจำตัวของเขาคือโรคความดันสูงและโรคไตวายก็กำเริบขึ้น น้ำหนักลดอย่างฮวบฮาบ จาก 70 กิโลกรัมเหลือ 50 กิโลกรัม  ร่างกายอ่อนเพลียไม่มีเรี่ยวแรง ในที่สุดจึงจำใจต้องลาสิกขา จากนั้นจึงเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล

        ซึ่งก่อนหน้าที่จะเข้ารักษานั้น ได้เกิดเหตุการณ์ขึ้นกับสามีคือ  ตกดึกสามีจะนอนสะดุ้งผวาตลอด จะยกแขนยกขาเหมือนมีอะไรมาฉุด แล้วบอกว่า “เขาเห็นสัตว์สี่เท้าตัวใหญ่ๆ เข้ามาทับเขาทั้งตัวทำให้หายใจไม่ออก” จึงดิ้นทุรนทุราย 

        ต่อมาอาการป่วยของเขาก็หนักขึ้นไปเรื่อยๆ จนต้องฟอกไตวันเว้นวัน สามีอึดอัดมาก บ่นกับลูกเสมอว่า “อยากหายเต็มที และอยากกลับไปบวช”   ลูกจึงพูดปลอบใจเขาว่า “อย่าเพิ่งคิดอะไรเลย พักรักษาตัวให้หายก่อน เรื่องอื่นๆค่อยคิดกันทีหลัง”   แต่เขาก็ยังมีความกังวลใจอยู่จึงไปปรึกษาหมอว่า “จะทำอย่างไรผมถึงจะหาย”  หมอก็แนะนำว่า “คุณต้องเปลี่ยนไต”   เขาจึงพอมีความหวังขึ้นมา  จึงไปหาแม่ของเขา แล้วพูดกับแม่ว่า  “คุณแม่ผมขอไตข้างหนึ่งได้มั๊ย  ถ้าให้ได้ผมจะหายเป็นปกติ เหมือนคนทั่วๆไป” แม่ก็พูดกับเขาว่า  “ถ้าให้แล้วแม่ต้องลำบากใช่ไหม ถ้าเช่นนั้นแม่ไม่ให้หรอก ”  เมื่อผิดหวังจากคุณแม่  เขาจึงหันมาหาลูกพร้อมกับขอไตจากลูก 
 
        ลูกเห็นสภาพเขาแล้วสงสารและรักเขามาก จึงตอบเขาว่า “ตกลงค่ะ” เพราะลูกเห็นเขามีความตั้งใจช่วยงานหลวงพ่อ ช่วยงานพระพุทธศาสนา เผยแผ่วิชชาธรรมกาย อีกทั้งยังได้ค้นคว้าตำรับตำราพระไตรปิฏกและบาลี  สอบมหาวิทยาลัยสงฆ์พุทธศาสตร์ที่ประเทศญี่ปุ่น 4 ปี top ทุกวิชา   และช่วยงานแปลที่ศูนย์โตเกียวจนถึงปัจจุบัน   ซึ่งทุกวันนี้แม้จะฟอกไตวันเว้นวัน เขายังเอางาน case  study มาแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยค่ะ

        แต่ตัวลูกเองสุขภาพก็ไม่แข็งแรง  คือ มีอาการเหนื่อยง่าย ปวดตามเนื้อตัว  ตามคอ แขน และขา จะมีอาการชาตลอด  หมอบอกว่า เป็นโรคกระดูกทับเส้นประสาทที่คอ  แล้วยังทำงานหนักไม่ได้อีกด้วย เพราะลูกอาจป่วยเป็นโรคมดลูกบวมได้  แต่ทุกวันนี้ ลูกต้องทำงานหนัก  หาเงินเลี้ยงครอบครัว สามีก็ป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆ ลูกก็รักษาตัวเองด้วยวิธีทานยา นวดเส้น จับเส้น  ฝังเข็มเพื่อทุเลาอาการป่วยที่เป็นอยู่ แต่ก็ไม่ละทิ้งการสร้างบารมีเลยเจ้าค่ะ
...ขอเป็นกำลังใจให้ลูกและสามีสู้ชีวิตต่อไป...
 
คำถาม

1.    บุพกรรมใดคุณพ่อจึงป่วยเป็นโรคเกาต์ และปัสสาวะทุกครั้งจะมีก้อนหินเล็กๆปนออกมาด้วย,  บุญจากการทำบุญต่างๆ และการถือศีลอุโบสถที่เคยทำมาจะช่วยท่านได้บ้างไหมคะ,  ท่านจะหายป่วยได้หรือไม่  ต้องทำอย่างไรคะ

2.    บุพกรรมใดคุณแม่จึงมีอาการป่วยเหมือนผีเข้า,  เป็นโรคเส้นเลือดในสมองฝ่อ, ความดันสูง, โรคเบาหวาน  และจำใครไม่ได้เลย  ท่านจะหายป่วยได้หรือไม่  ต้องทำอย่างไร คะ

3.    บุพกรรมใดพี่สาวคนที่สองจึงต้องช้ำใจเพราะสามีเจ้าชู้  , เธอตายเพราะเหตุใด ใช่หมอฉีดยาให้ตายตามที่น้องสาวฝัน หรือตายเพราะเป็นมะเร็งในกระเพาะตามที่หมอบอก หรือโดนไสยเวทย์ตายคะ,  เธอตายแล้วไปไหน   หลังจากที่เธอตาย ได้มาทำของหล่นแตกที่บ้านหรือไม่, เธอได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่คะ

4.    ทำไมน้องสาวคนเล็ก จึงเป็นคนเจ้าโทสะ อัธยาศัยนี้ติดตัวมาจากชาติใด  จึงทำให้ก่อนทำบุญหลังทำบุญก็โมโห,  ผลบุญผลกรรมของการโมโหก่อนทำบุญและหลังทำบุญจะแตกต่างกันอย่างไรคะ

5.    บุพกรรมใดสามีจึงกำพร้าพ่อมาตั้งแต่เด็กๆ   ทำไมเขาจึงใฝ่ใจในการบวชและชอบศึกษาพระพุทธศาสนาทั้งที่เป็นชาวญี่ปุ่น  

6.    บุพกรรมใดเขาถึงเจ็บป่วยด้วยโรคไตวายและโรคความดัน  เขามีบุญพอที่จะหายได้ไหมคะ  จะแก้ไขได้อย่างไร ,   ลูกเคยมีกรรมเรื่องไตร่วมกันเขาหรือไม่ ,  ถ้าลูกบริจาคไตให้กับเขาจะดีหรือไม่อย่างไร     ลูกจะเป็นอันตรายหรือไม่อย่างไรคะ

7.    เหตุใดสามีจึงนอนสะดุ้งผวา ยกแขนยกขาเหมือนมีอะไรมาฉุด แล้วบอกว่า “เขาเห็นสัตว์สี่เท้าตัวใหญ่ๆ เข้ามาทับเขาทั้งตัวทำให้หายใจไม่ออก”

8.    บุญใดทำให้สามีได้ทำหน้าที่แปล case study เป็นภาษาญี่ปุ่น    บุญนี้จะช่วยตัดรอนกรรมเขาได้มั๊ยคะ

9.    ทำไมลูกจึงมีความรู้สึกว่า “สามีเป็นลูกชายเสมอ” เพราะลูกและสามีเคยมีบุพกรรมร่วมกันมาอย่างไรคะ   

10.    ลูกและสามีเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร จะได้ไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์หรือไม่คะ

กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
 
 
ฝันในฝัน
 
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที 
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1.    คุณพ่อป่วยเป็น “โรคเก๊าต์” เวลาปัสสาวะมักจะมีก้อนหินเล็ก ๆ ปนออกมาด้วย   เพราะ....กรรมในอดีตมักจะชอบปัสสาวะไม่เป็นที่เป็นทาง   และเคยไป “ยืนฉี่” รดกำแพงวัด     รวมกับกรรมปาณาติบาตที่ฆ่าสัตว์ทำอาหารมาส่งผลจ่ะ !
 
 
  
2.    คุณแม่มีอาการป่วยเหมือนผีเข้า  ,  เป็น “โรคเส้นเลือดในสมองฝ่อ”  ,   ความดันสูง”  ,  เป็นโรค “เบาหวาน”  และจำใครไม่ได้เลย   เพราะ....กรรมในอดีตที่เคย “โกหก” ในหลาย ๆโอกาสมารวมกัน  เช่น  โกหกในการค้าขาย  ,  โกหกพ่อ - แม่    รวมกับฆ่าสัตว์ทำเป็นอาหาร     จึงทำให้มีอาการดังกล่าวจ่ะ !
 

  • ให้สั่งสมบุญทุกบุญให้มาก ๆ     บุญนี้ก็จะไปตัดรอนวิบากกรรมให้หนักเป็นเบา     แต่คงจะหายยาก   เพราะกรรมส่งผลยังหนักอยู่จ่ะ !

3.    “พี่สาวคนที่สอง” มีสามีเจ้าชู้ต้องช้ำใจ   เพราะ....เป็นเศษกรรมเจ้าชู้ของพี่สาวคนที่สองตอนเป็นผู้ชายเจ้าชู้มาส่งผลจ่ะ ! เป็นภาพในอดีตของเธอจ่ะ !
 

  • ตายแล้วก็วนเวียนอยู่เป็น “ภุมมเทวา” ระดับทั่วไปอยู่ที่บ้าน  และได้มาเข้าฝันน้องสาวจริง     แต่ไม่ได้ตาย   เพราะโดนคุณไสย  
  • ในช่วงแรกเธอยังรับไม่ได้จากการตาย     ได้มาทำของหล่นแตกในบ้าน    
  • ต่อมาได้รับบุญกุศลที่อุทิศไปให้   ก็ทำให้มีสภาพ      ดีขึ้น  ,  สงบขึ้น   แต่ยังอยู่ที่บ้านจ่ะ !

4.    “น้องสาวคนเล็ก” เป็นคนเจ้าโทสะ   ก่อนทำบุญก็ดี ภายหลังจากทำบุญก็ดี   มักจะ “ขี้โมโห”   เพราะ.... ติดนิสัยเป็นเทวดาสายยักษ์มาหลายชาติ     จึงมีนิสัยเป็นคนขี้มักโกรธ   แม้กระทั่งตอนก่อนและหลังทำบุญ
 
 

5.    สามีกำพร้าพ่อมาตั้งแต่เด็ก   เพราะ....ในอดีตชาติเคยทะเลาะกับบิดาจนถึงขนาดพูดพล่อย ๆ ว่า     ชาติต่อไปขออย่าได้มีพ่ออย่างนี้อีก  ,  เพราะโดนพ่อดุตอนที่เขายังเป็นวัยรุ่นอยู่    วิบากกรรมนี้มาส่งผลจ่ะ !
 


6.    เขาเจ็บป่วยด้วย “โรคไตวาย”  ,  และ “โรคความดัน” เพราะ....กรรมในอดีตเคยเป็นพ่อค้า   และมักค้าขายเอา “ของมีคุณภาพไม่ดีบ้าง  ,  ของปลอมบ้าง”   สอดไส้ปนกับของดี , ของแท้ อยู่เป็นประจำ     รวมกับกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารมารวมส่งผลจ่ะ !
 

  • เขามีบุญพอที่จะดีขึ้นในระดับที่จะได้สร้างบารมีต่อไปอีก ,    ดังนั้นให้สั่งสมบุญทุกบุญ   ทั้งทาน  ,  ศีล  ,  ภาวนา   ให้มาก ๆ   บุญนี้จะได้ไปตัดรอนวิบากกรรมดังกล่าวให้หนักเป็นเบาจ่ะ !    
 
ลูกไม่ได้มีกรรมเกี่ยวกับเรื่องนี้กับเขา  ,  แต่ถ้าลูกแข็งแรง   รักษาตัวดี ก็สามารถจะบริจาคให้เขาได้     ซึ่งก็จะเป็น “อุปบารมี” สำหรับ   ตัวลูก   และเขาก็จะได้สร้างบารมีต่อไป     แต่ก็ต้องรักษาสุขภาพของตัวเองให้ดีทั้งคู่จ่ะ !     ดังนั้นลูกก็ไปตัดสินใจเอาเองก็แล้วกันจ่ะ !     โดยหารือกับคุณหมอจ่ะ !


7.    สามีชอบนอนสะดุ้งผวา   ยกแขนยกขาเหมือนมีอะไรมาฉุด     แล้วบอกว่าเขาเห็น “สัตว์สี่เท้าตัวใหญ่ ๆ เข้ามาทับเขาทั้งตัวทำให้หายใจไม่ออก”   เพราะ.....เกิดจากธาตุวิปริตที่สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง     และอากาศถ่ายเทไม่ดี  ,  ไม่พอเข้าไปหล่อเลี้ยงในขณะนอนหลับ   จึงมีอาการดังกล่าว  ,  แต่ไม่ได้มีตัวอะไรมาทับจ่ะ !
 
 

8.    สามีได้ทำหน้าที่แปล  Case  Study  เป็นภาษาญี่ปุ่น      บุญนี้ก็จะไปช่วยตัดรอนวิบากกรรมให้หนักเป็นเบา     และยืดอายุขัยให้ยืนยาวได้สร้างบารมีต่อไปอีก   เพราะถือว่าได้มีส่วนในการให้ธรรมทาน    ซึ่งเป็นสุดยอดของการให้ทั้งปวง   เพราะทำให้เพื่อนมนุษย์ได้เข้าใจเรื่องราวความจริงของชีวิต     ซึ่งจะทำให้เขาดำเนินชีวิตได้ถูกต้อง  ,  ปิดอบาย  ไปสวรรค์จ่ะ !
 

9.    ลูกมีความรู้สึกว่า   “สามี  คือ  ลูกชายเสมอ”   เพราะ....ในอดีตหลาย ๆ ชาติ   ก็เคยเป็นสามีเหมือนชาติปัจจุบัน  ,  กับอีกหลาย ๆ ชาติเขาก็เคยเกิดเป็นลูกชายของตัวลูกมา  ,  และเคยเกิดเป็นลูกชายมามากกว่าเป็นสามี     รวมทั้งในปัจจุบันตัวลูกก็ดูแลเขาดีด้วยจ่ะ !     จึงเกิดความสำนึกลึก ๆ ว่าเป็นเช่นนั้นจ่ะ !


10.    ลูกและสามีเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง”     ประเภทตามอารมณ์เป็นส่วนใหญ่  ,  บางทีก็ทำเต็มที่ , บางทีก็ทำเต็มที     ทำให้ชาตินี้จึงทำให้มีความพร้อมบ้าง  ,  ไม่พร้อมบ้างในหลาย ๆ ด้านจ่ะ !    
 
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2549-01-06.html
เมื่อ 26 เมษายน 2567 06:39
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv