CASE STUDY
ไชยาจะจี๊ชา
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ

    ลูกเป็นลูกพระธัมฯ จากเยอรมัน ติด DMC ครั้งแรกเมื่อปลายปี พ.ศ.2547 แล้วก็ติดตามชม DMC ช่องนี้ช่องเดียวทุกวัน ไม่มีเบื่อ...ลูกชอบฟังคำสอนของคุณครูไม่ใหญ่มาก ฟังแล้วก็นำมาสอนใจตัวเองทุกวัน ลูกรู้สึกว่า ลูกมาเจอหมู่คณะช้า ทำให้ต้องขวนขวายในทุกๆบุญอย่างเต็มที่เต็มกำลัง เรียกว่า เอาชีวิตเป็นเดิมพันเลยทีเดียวค่ะ
 
    ลูกลุยทำหน้าที่ผู้นำบุญในเมืองโอเฟนบวร์ก (Offenburg) ประเทศเยอรมัน ได้เป็นประธานผ้าป่าสร้างเสาแก้วรอบมหาวิหารคด เป็นผู้นำรวมกลุ่มกัลยาณมิตร สร้างพระธรรมกายประจำตัวเป็นประจำทุกเดือน ตอนนี้ได้ 60กว่าองค์แล้วค่ะ ลูกกราบขอความเมตตาพระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ ฝันในฝันให้ลูกด้วยนะเจ้าคะ
 
    แดนดินถิ่นเกิดของลูก เป็นคนจังหวัดนครราชสีมา ตัวลูกมีพี่น้องทั้งหมด 8คน ลูกเป็นคนที่สี่ พ่อของลูก ชอบดื่มสุรา เมาแล้วก็จะอาเจียน ลูกเห็นแล้วรู้สึกหดหู่ใจมาก พ่อชอบใช้พลังหมัดมวยกับแม่และลูกๆเสมอ อีกทั้งยังมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนอื่นให้แม่ต้องเดือดร้อน ไปประกันตัวอยู่เป็นประจำ
 
    มีเหตุการณ์หนึ่ง ที่ลูกจำได้ติดตาไม่เคยลืมก็คือ วันนั้นพ่อดื่มเหล้าจนเมา แล้วใช้ดาบเล่มยาวไล่ฟันแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ พวกลูกๆก็วิ่งไล่ตามพ่อไป เพื่อห้ามพ่อทำร้ายแม่ แต่ขณะที่พ่อวิ่งไล่ฟันแม่อยู่นั้น แม่เสียจังหวะล้มลง พ่อจึงเงื้อดาบขึ้น ในขณะนั้นเองพี่สาวก็ได้กระโดดถีบพ่อล้มลง แม่จึงรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด หลังจากนั้นแม่กับพ่อก็แยกทางกัน ตอนนั้นลูกอายุได้ 7ขวบ
 
    ครอบครัวของลูก ต้องแยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง เพราะน้ำเมาแท้ๆ สำหรับตัวลูกต้องไปอยู่กับยาย ต้องตื่นแต่เช้า เพื่อนำผักต่างๆที่ยายปลูกไปขายที่ตลาด เดินกระเดียดถังผักไปขาย เป็นระยะทาง 2กิโลเมตรทุกวัน อาหารหลักส่วนใหญ่ของลูกก็คือ กินข้าวกับพริกน้ำปลา และผักกระถินริมรั้วที่ปลูกไว้ จนต้นกระถินโตไม่ทันกินเลยค่ะ
 
    ถ้าวันไหน มีเงินเหลือจากซื้อของประจำวัน ยายก็จะให้ซื้อปลาทูมาหนึ่งตัว เนื้อปลาเอาไว้ตำน้ำพริก ส่วนหัวปลาและครีบก้างที่เหลือ ก็เอามากินกับข้าว วันไหนมีเงินเหลือพอซื้อไข่ได้หนึ่งฟอง “โอ้โฮ...เป็นอาหารที่พิเศษมากที่สุดเลยค่ะ”
 
    ต่อมาเมื่อลูกเรียนจบ ป.4 ได้ทำงานเป็นคนรับใช้ เงินเดือน 200บาท ซึ่งทุกบาททุกสตางค์ ลูกจะยกให้ยายทั้งหมด ทุกเดือน ลูกทำงานเป็นคนรับใช้ได้ประมาณ 2ปี แม่ก็มารับให้ไปอยู่ด้วยกันที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อไปทำงานโรงงานน้ำตาล ซึ่งมีรายได้ดีกว่า ลูกจึงมาอยู่กับแม่ตั้งแต่อายุ 12ปี
 
    เมื่อมาอยู่กับแม่ที่กาญจนบุรี ลูกได้ยินเสียงคนมาด่าว่า “มาแย่งสามีเขา” ลูกไม่ทราบเลยสักนิดว่า เขาว่าใคร จนเมื่อเขามาว่าบ่อยๆเข้า จึงได้รู้ว่า แม่ของลูก เป็นภรรยาน้อย ชีวิตของแม่ถูกรบกวนจากภรรยาหลวงมาก ส่วน พ่อเลี้ยง ก็ไม่พอใจที่ภรรยาหลวงทำเช่นนี้ จึงกลับไปทำร้ายภรรยาหลวง ลูกรู้สึกอับอายมากที่แม่เป็นภรรยาน้อยเขา จึงหนีเข้ากรุงเทพฯ มาหางานทำ ตอนนั้นอายุได้ 17ปี ได้งานเย็บหมวกตำรวจ เงินเดือน 200บาท
 
    ในเรื่องของงานก็โอเคอยู่นะคะ แต่เวลาทานอาหารพร้อมกับเจ้านายนี่ซิคะ ถ้าลูกตักกับข้าวที่เป็นผักกับน้ำซุป ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าลูกตักไก่สักชิ้น เขาจะถลึงตามองลูก แต่ลูกก็อดทนทำงานที่นี่เป็นเวลาถึง 2ปี ต่อมาลูกได้งานทำ เป็นพนักงานขายสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ชีวิตของลูกเริ่มดีขึ้น มีเงินจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ลูกจึงใช้ชีวิตวัยสาว อย่างซิ่งเต็มที่ หมดเงินไปกับการซื้อเสื้อผ้า ดื่มเหล้า เข้าเธค แต่ถึงแม้ว่าลูกจะซ่าอย่างไร ลูกก็ชอบไปวัด เคยเที่ยวเธคจนถึงเช้า แล้วก็ไปตักบาตรต่อก็มีค่ะ
 
    วันหนึ่ง ลูกได้รับโทรเลขจากที่บ้านว่า แม่ป่วยหนักให้กลับบ้านด่วน เมื่อกลับมาถึง เห็นแม่ตัวบวมมากก็ตกใจ พี่กับน้องก็บอกว่า ลูกชายภรรยาหลวงแค้นมาก จึงมาดักตีแม่ เมื่อแม่สลบก็ลากไปให้รถสิบล้อทับ แต่โชคดีที่มีคนมาช่วยไว้ทัน ลูกทนไม่ไหว จึงขอร้องให้แม่เลิกกับพ่อเลี้ยง เพราะลูกไม่เคยเห็นแม่มีความสุขเลย แม่จึงเลิกกับพ่อเลี้ยง และย้ายไปอยู่กับยายที่จังหวัดสุพรรณบุรี
 
    ต่อมา แม่ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งปอด แล้วหกล้มทำให้แม่เดินไม่ได้ จึงต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช ขณะนั้นลูกมีเงินเดือน 7,000บาท ลูกเอาไว้เป็นค่ารักษาแม่เกือบทั้งหมด เหลือเอาไว้แค่เงินค่ารถเมล์มาทำงานวันละ 10บาทเท่านั้น...ในที่สุดแม่ก็หายป่วยกลับบ้านได้
 
    หลังจากนั้นไม่นาน แม่ก็ล้มอีกครั้ง ทำให้แม่เป็นอัมพาตขยับตัวไม่ได้เลย ส่วนยายก็มองไม่ค่อยเห็น ลูกจึงลาออกจากจากงานที่กรุงเทพฯ กลับไปดูแลแม่และยาย ทุกเช้าลูกจะล้างหน้าแปรงฟันให้แม่ ป้อนข้าวให้แม่จนเสร็จ แล้วก็เตรียมอาหารให้ยาย ตกกลางคืน ลูกต้องตื่นมาคลำผ้านุ่งของแม่ตลอด เพราะกลัวว่าท่านจะทำธุระหนักเบาแล้วจะไม่สบายตัว และจะคอยเปลี่ยนผ้าให้ใหม่ ลูกดูแลแม่และยายเป็นอย่างดี เป็นเวลาเกือบ 2ปี ช่วงที่ดูแลแม่นั้น น้ำหนักตัวลูกลดลงไปถึง 10กิโลกรัม
 
    วันสุดท้ายของแม่ ลูกจำได้ว่าเป็นวันมาฆบูชา ลูกออกไปซื้อดอกไม้มาให้แม่บูชาพระ และพาแม่สวดนะโม 3จบ จากนั้นเวลาประมาณ 11โมงครึ่ง แม่ก็จากไปอย่างสงบ เมื่ออายุ 57ปี หลังจากจัดงานศพให้แม่เรียบร้อยแล้ว ลูกได้ไปบวชชีพราหมณ์ ถือศีลแปด นั่งสมาธิ เป็นเวลา 3เดือน เอาบุญนี้อุทิศให้แม่
 
    หลังจากนั้น ลูกจึงได้กลับมาทำงานอีกครั้ง ทำงานได้ 2ปี ลูกก็เริ่มป่วยด้วยโรคประหลาด คือ จะมีอาการปวดกระดูกข้อต่อที่กลางอกมาก ปวดจนเป็นไข้ ปวดจนร้าวไปทั้งตัว หมอบอกว่า “ข้อต่อกระดูกอ่อนอักเสบ” ลูกทำงานไปด้วย รักษาตัวเองไปด้วย เงินที่เก็บไว้ก็เริ่มหมด เพื่อนสนิทจึงแนะนำให้มาทำงานที่ประเทศเยอรมัน เพื่อจะได้มีเงินพอที่จะรักษาตัวเอง ลูกจึงตกลง แต่ระหว่างรอที่จะเดินทาง ลูกได้เจอคุณตาคนหนึ่ง ท่านได้สวดคาถา และเป่าน้ำมันตรงบริเวณที่ปวดให้ 3ครั้ง อาการป่วยของลูกก็หายขาด ก่อนมาเยอรมันค่ะ
 
    ปี พ.ศ.2543 ลูกอายุได้ 38ปี ก็เดินทางมาเยอรมัน เพื่อนสนิทที่แต่งงานมีครอบครัวกับชาวเยอรมัน ได้แนะนำให้ลูกรู้จักกับชายชาวเยอรมันคนหนึ่ง เขาเป็นคนที่มีจิตใจดี อารมณ์เย็น และรักลูกมาก ในที่สุดเราจึงตกลงใจแต่งงานกัน เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2544 หลังจากแต่งงานกันแล้ว วันหนึ่งลูกก็บอกกับสามีว่า “ฉันอยู่โดยไม่ได้ทำบุญ ไม่ได้หรอกนะ ฉันอยากนิมนต์พระมาทำบุญวันเกิดที่บ้านเหลือเกิน” ตอนนั้นสามีเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจลูกหรอกค่ะ แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร
 
    ต่อมา บุญบันดาลให้ลูกได้มาพบกับ วัดพุทธสตราสบวร์ก จากการแนะนำของเจ้าของร้านที่ลูกไปซื้ออาหาร ลูกจึงได้นิมนต์พระมาทำบุญที่บ้านสมดังที่ตั้งใจไว้ ลูกรู้สึกปลื้มใจมากๆค่ะ พร้อมกันนี้ลูกก็ได้ติด DMC ที่บ้านด้วย...ในช่วงแรกที่มีการบูชาข้าวพระ ลูกต้องบูชาข้าวพระอยู่ที่บ้านพร้อมกับจอ DMC ถึง 3ครั้ง เพราะสามียังไม่อนุญาตให้ลูกไปนอนค้างที่วัด แต่ใจลูกน่ะ อยากไปบูชาข้าวพระที่วัดมาก
 
    ลูกจึงยื่นคำขาดกับสามีว่า “คุณมีทางเลือก 2ทาง เท่านั้น คือ ข้อแรก...คุณต้องอนุญาตให้ฉันไปนอนที่วัดเพื่อบูชาข้าวพระเดือนละครั้ง ข้อสอง...ถ้าคุณไม่อนุญาตให้ฉันไปนอนที่วัด เราก็เลิกกัน” ในที่สุดสามีเขาก็ตกลง...บ่อยครั้งที่เขาบอกว่า ลูกดุคล้ายแม่ของเขา แต่เขาก็ยอม เพราะรักลูกค่ะ
 
    ยายของลูก มีอาชีพขายหมากพลู ขายได้เงินมาเท่าไหร่ ตาก็ยึดหมด ยายจึงต้องแอบไปต้มเหล้าเถื่อนขาย เพื่อเก็บเงินซื้อผ้านุ่งสักผืน ต่อมา ยายทนความงกและความเจ้าชู้ของตาไม่ไหว จึงขอเลิกกับตาและยายก็ตัดสินใจขายบ้านของตนเอง ซึ่งอยู่ในป่าลึกแล้วมาอยู่ในตลาด พร้อมกับปลูกผักขาย หลังจากที่ยายขายบ้านหลังแรกไปแล้ว ยายก็ไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเองอีกเลย ต้องไปอาศัยอยู่กับคนอื่น ช่วงท้ายของชีวิต ยายไปอาศัยอยู่กับน้า และเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 82ปี
 
คำถาม
 
1.วิบากกรรมใด ทำให้แม่ไม่เคยมีความสุขในการครองเรือนเลย และเกือบเสียชีวิตจากการครองเรือนถึง 2ครั้ง ครั้งแรก...ถูกพ่อไล่ฟันด้วยมีดดาบ, ครั้งที่สอง...ถูกลูกชายของพ่อเลี้ยงซ้อม แล้วลากไปให้รถสิบล้อทับ แต่รอดมาได้เพราะบุญใดคะ
 
2.แม่เสียชีวิตแล้ว ไปอยู่ภพภูมิใด, ลูกได้บวชชีพราหมณ์ ถือศีลแปด นั่งสมาธิ เป็นเวลา 3เดือนอุทิศให้แม่ ท่านได้รับบุญนี้หรือไม่คะ อีกทั้งบุญที่ลูกสร้างองค์พระธรรมกายให้แม่ และทุกๆบุญที่ลูกอุทิศให้ ท่านได้รับหรือไม่คะ ถ้าได้รับแล้วท่านเป็นอย่างไรบ้าง และมีข้อความฝากมาถึงลูกบ้างหรือไม่คะ
 
3.แม่และยายเคยสร้างบุญมาอย่างไร จึงทำให้ลูกได้ลาออกจากงานเพื่อมาดูแลท่านทั้งสองอย่างดี และลูกจะได้อานิสงส์อย่างไรคะ
 
4.พ่อของลูกดื่มสุรามาเกือบตลอดชีวิต ต่อมาท่านมีโอกาสบวชพระในช่วงปลายชีวิตจนถึงปัจจุบัน บุญที่ท่านบวชพระนี้ จะสามารถตัดรอนวิบากกรรมได้มากน้อยแค่ไหน ท่านเคยสร้างบุญมากับหมู่คณะมาบ้างหรือไม่คะ
 
5.บุพกรรมใด ที่ทำให้ยายของลูก หลังจากขายบ้านหลังแรกไปแล้ว ก็ไม่มีบ้านเป็นของตัวเองอีกเลย ต้องไปอาศัยอยู่กับคนอื่น ยายตายแล้วไปไหน มีข้อความอะไรฝากถึงลูกบ้างหรือไม่คะ
 
6.บุพกรรมใด ทำให้ลูกต้องเกิดมาในครอบครัวที่แตกแยก ไม่ได้ร่ำเรียนสูงๆ อีกทั้งครอบครัวก็ยากจนมาก อาหารการกินก็สุดแสนจะลำบาก เป็นเวลาถึง 18ปี ลูกจะแก้ไขวิบากกรรมนี้อย่างไรคะ
 
7.บุพกรรมใด ลูกจึงป่วยด้วยโรคประหลาด หมอบอกว่า “ข้อต่อกระดูกอ่อนอักเสบ” มีอาการปวดร้าวไปหมดทั้งตัว เป็นเพราะบุญใดจึงหายได้ เพราะมีคุณตา ท่านหนึ่งมาเป่าน้ำมันให้คะ
 
8.ด้วยบุญใด ทำให้ชีวิตของลูกพลิกผัน เมื่ออายุ 38ปี ได้มาทำงานที่เยอรมัน ทำให้มีชีวิตที่ดี มีความสุข และได้มาเจอหมู่คณะ ลูกรักในการทำบุญและเป็นผู้นำบุญมาก ทำอย่างไร ลูกจึงจะมีปัจจัยมาทำบุญมากๆ และได้มาสร้างบารมีกับหมู่คณะตั้งแต่ยังเยาว์วัยคะ
 
9.บุพกรรมใด ทำให้ลูกต้องมาทำงานเป็นคนรับใช้ โดยทำครั้งแรกตอนจบ ป.4 ต่อมาเมื่อมาอยู่ที่เยอรมัน ลูกก็ยังต้องทำงานหนัก ทั้งขัด ทั้งถู รับจ้างทำความสะอาดบ้านให้ฝรั่ง จนถึงทุกวันนี้ และลูกจะต้องแก้ไขวิบากกรรมนี้อย่างไรคะ
 
10.ลูกเคยอธิษฐานว่า อยากมีบ้านหลังใหญ่ขึ้น เพื่อจะใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม และต่อมาลูกก็ได้เจอบ้านหลังหนึ่ง ที่มีความเหมาะสมมาก ลูกและสามีจะย้ายเข้าไปในเดือนกันยายน พ.ศ.2549 นี้ บ้านหลังนี้ลูกตั้งใจว่า จะใช้รวมคนมาปฏิบัติธรรมประมาณ 30คน สิ่งที่ลูกและหมู่คณะตั้งใจไว้จะสำเร็จหรือไม่คะ

กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ด้วยความเคารพรักยิ่ง

ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1.แม่ไม่มีความสุขในชีวิตของการครองเรือนเลย และเกือบเสียชีวิตถึง 2ครั้ง

 
 
2.แม่ตายแล้ว ก็ไปเป็นอากาสเทวา ด้วยบุญที่ลูกแนะนำให้ท่านระลึกนึกถึงบุญกุศลและคุณพระรัตนตรัย อีกทั้งได้บวชเป็นชีพราหมณ์ ถือศีลแปด นั่งสมาธิ เป็นเวลา 3เดือน
 
3.ลูกได้ลาออกจากงานเพื่อมาดูแลแม่และยาย เพราะบุญเลี้ยงดูบิดามารดาของแม่และยาย มาส่งผลทำให้ได้ตัวลูกมาดูแลท่านทั้งสอง กอปรกับลูกก็มีความกตัญญูกตเวทีด้วย

4.ยายของลูก ภายหลังจากขายบ้านหลังแรกแล้ว ก็ไม่มีบ้านเป็นของตนเองอีกเลย ต้องไปอาศัยผู้อื่นอยู่ เพราะทำทานในอดีตมาน้อย จึงทำให้ไม่สามารถรักษาบ้านหลังแรกได้ รวมทั้งต้องไปอาศัยผู้อื่นอยู่ ไม่มีบุญรองรับที่จะทำให้มีบ้านเป็นของตนเอง
 

 
5.พ่อของลูกดื่มสุรามาเกือบตลอดชีวิต ต่อมาได้อุปสมบทเป็นพระมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ บุญที่บวชพระในคราวนี้จะได้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับท่าน คือ...

 
6.ลูกต้องมาเกิดในครอบครัวที่แตกแยก เพราะเศษกรรมกาเมฯเจ้าชู้ในอดีต สมัยที่ลูกได้เกิดเป็นผู้ชาย ได้มาส่งผล

7.หมอบอกว่าลูกป่วยเป็นโรค “ข้อต่อกระดูกอ่อนอักเสบ” มีอาการปวดร้าวไปทั้งตัว เพราะกรรมในอดีตที่เคยไปกระทืบยอดอกของคู่อริ จนทำให้กระดูกอ่อนของเขาอักเสบ ในชาติที่ลูกเป็นผู้ชาย

8.เมื่อลูกอายุได้ 38ปี ได้มาทำงานที่เยอรมัน ทำให้ชีวิตดีมีความสุขและได้มาเจอหมู่คณะ เพราะบุญที่เคยทำมากับหมู่คณะในอดีต และได้อธิษฐานจิตว่า “ขอให้ได้มีส่วนในการสนับสนุน เผยแผ่พระพุทธศาสนาออกไปให้กว้างไกล และได้เป็นผู้นำบุญ” ได้มาส่งผล
 

 
9.ลูกต้องมาทำงานเป็นคนรับใช้ ตั้งแต่ ป.4 จนมาอยู่เยอรมัน เพราะในอดีตชาติชาติหนึ่ง ลูกได้เป็นเจ้าภาพมาวัด ได้ใช้พระที่วัดหยิบของและใช้ให้ท่านทำในหลายเรื่องด้วยความคุ้นเคย เพราะตนเองถือว่าเป็นอุปัฏฐากของท่าน เลยมีมานะทิฐิ คิดว่ามีบุญคุณกับท่าน ท่านจะต้องทำตามในสิ่งที่ตนบอก ด้วยมานะทิฐินี้ จึงทำให้ต้องมาเป็นคนรับใช้ 
 
 
 
10.ลูกตั้งใจอธิษฐานให้มีบ้านหลังใหญ่ เพื่อใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรม อย่างน้อยให้รองรับได้ 30คน แล้วลูกก็ได้เจอบ้านดังกล่าว สิ่งที่ลูกและหมู่คณะตั้งใจเอาไว้ด้วยดี ก็จะสำเร็จ แต่ว่าอย่าทะเลาะกัน ให้ตั้งใจสั่งสมบุญทุกบุญและนั่งสมาธิให้มากๆ
 

 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2549-08-29.html
เมื่อ 20 เมษายน 2567 04:45
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv