CASE STUDY
คิดไม่ออก
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
  
 
กราบนมัสการคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพอย่างสูง

    ขณะนี้ผมและพี่ชาย กำลังดำรงตนอยู่ในเพศสมณะ ในโครงการอบรมธรรมทายาท นานาชาติ รุ่นที่4 โดยได้รับความเมตตาจากคุณครูไม่ใหญ่ ให้มีโอกาสจำพรรษาเจริญภาวนาต่อ ณ สวนสุขสันโดษ ผมมีความสุขมาก จนไม่อยากคลาดจากศูนย์กลางกายเลย แต่ถึงกระนั้น ผมก็ยังมีเรื่องค้างคาใจ อยากขอความเมตตาคุณครูไม่ใหญ่ ช่วยไขความลับของชีวิตให้ผมสักนิดนะครับ
 
    ผม เกิดที่กรุงเทพฯ โยมพ่อ เป็นหนุ่มเมืองกาญจน์ โยมแม่ เป็นสาวโคราช แต่เนื่องจากโยมพ่อดื่มเหล้า เจ้าชู้มากไปหน่อย จึงมักมีปากเสียงรุนแรงกับโยมแม่เป็นประจำ ทำให้โยมแม่ไม่ทนที่จะอยู่กับโยมพ่อต่อไป จึงขอหย่ากับโยมพ่อตั้งแต่ผมอายุ 7ขวบ ผมกับพี่ชายจึงต้องอยู่กับโยมพ่อ และย้ายไปอยู่กับโยมลุง-โยมป้า จนกระทั่งโยมแม่ไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ได้พบรักใหม่และแต่งงานกับหนุ่มชาวอังกฤษ ในปี พ.ศ.2533 โยมแม่จึงได้มารับตัวผมกับพี่ชายไปอยู่ที่อังกฤษด้วย
 
    ในปี พ.ศ.2538 โยมแม่และ โยมพ่อเลี้ยง ได้เปิดร้านอาหารไทยและผับ ที่เมืองบิสโต ธุรกิจไปได้ดีในช่วง 2-3ปีแรก แต่หลังจากนั้นก็เริ่มมีปัญหา โยมพ่อเลี้ยงก็เริ่มเปลี่ยนไป จากเดิมที่เคยใจดี สงสารลูกๆ จะเอาอะไรก็หาให้ แต่หลังจากธุรกิจนำเข้า-ส่งออก รถเบนซ์ และเงินค่าคอมมิชชั่นจากธุรกิจการบิน ถูกเพื่อนร่วมหุ้นโกง จนเกือบล้มละลาย ทำให้โยมพ่อเลี้ยงเครียดหนัก ชอบตะโกนด่าว่าตัวผมและพี่ชายว่า เป็นคนโง่และไร้ประโยชน์
 
    แม้โยมแม่จะพยายามห้ามปรามโยมพ่อเลี้ยง ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น บางครั้งโยมพ่อเลี้ยงอารมณ์ไม่ดี ก็ตะโกนด่าโยมแม่กลางร้าน ทั้งๆที่มีแขกเต็มร้าน วันหนึ่งโยมพ่อเลี้ยงฉุนเฉียวมาก ทำลายข้าวของในร้าน และเข้ามาผลักตู้ใส่แก้วไวน์ เพื่อหวังให้ตู้ล้มมาทับโยมแม่ แต่โชคดีที่โยมแม่เอามือยันไว้ได้ทัน โยมแม่ทนโยมพ่อเลี้ยงไม่ไหวอีกต่อไป จึงเดินออกจากร้าน และขอหย่าตั้งแต่บัดนั้น ปล่อยให้โยมพ่อเลี้ยงดำเนินธุรกิจทั้งหมดต่อไป โดยไม่เอาเงินจากโยมพ่อเลี้ยงเลยแม้แต่บาทเดียว
 
    ตอนนั้น โยมแม่ลำบากมาก ต้องทำเรื่องขอเงินอุดหนุนจากรัฐบาลอังกฤษ จากที่เคยเป็นเจ้าของร้าน ก็ต้องมาเป็นเป็นพนักงานในครัว ในร้านอาหารของเพื่อนของโยมแม่ และต้องขับรถไปกลับอีก 2ชั่วโมง เพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูผมกับพี่ชาย แต่โยมแม่ก็ภูมิใจที่เลี้ยงดูผมและพี่ชายได้ด้วยลำแข้งของท่านเอง
 
    ต่อมา โยมแม่ได้พบ แฟนคนใหม่ เขาเป็นนักเตะครับ แต่เตะฝุ่นเพิ่งออกจากงาน และไม่มีเงินติดตัว จึงตกลงกันว่า จะนำเงินเก็บของโยมแม่มาลงทุนเปิดร้านอาหารแห่งใหม่ที่เมืองวอริงตัน ผมและพี่ชายรักโยมน้าชายคนนี้เสมือนพ่อจริงๆ เพราะเขาใจดีมาก ให้ทุกอย่าง ทั้งความอบอุ่น และสิ่งของเงินทอง เวลาทำผิดก็ไม่เคยตำหนิเลย
 
    ในปี พ.ศ.2546 สองสามี-ภรรยา ซึ่งเป็นเพื่อนของโยมแม่ในวงการร้านอาหารไทย โดนหุ้นส่วนโกงมา อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องวีซ่าในอังกฤษ จนสิ้นไร้ไม้ตอก ได้มาหาโยมแม่ ด้วยความใจบุญโยมแม่จึงช่วยแก้ปัญหาให้ และรับเพื่อนทั้งสองกับพนักงานของพวกเขาให้มาอาศัยทำงานที่ร้าน จนเริ่มตั้งตัวได้ พวกเขาก็ขอร้องให้โยมแม่ร่วมหุ้นกับพวกเขาครึ่งต่อครึ่ง เปิดร้านอาหารที่เมืองบาธ ผลก็คือ ขายดีเกินคาด ธุรกิจเจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว
 
    เมื่อธุรกิจไปได้สวย แต่ชีวิตกลับไม่สวยเสียแล้ว ไม่นานเพื่อนร่วมหุ้นก็เปลี่ยนไป ทั้งสองชอบพูดเหน็บแนมโยมแม่ ยุยงให้พนักงานมีปัญหากับลูกค้า ทำกับข้าวไม่อร่อย มีอคติ และไม่เคารพโยมแม่ เพื่อหวังจะบีบให้โยมแม่ออกจากความเป็นหุ้นส่วน ซ้ำร้ายทั้งสองฝ่ายก็ไม่คุยกันซึ่งๆหน้า ใช้ให้ผมในฐานะผู้จัดการ เป็นตัวกลางรับปัญหา ทำให้ผมเครียดหนัก คิดไม่ออกว่า จะแก้ไขอย่างไร ในที่สุดผมจึงหาทางออกด้วยการดื่มเหล้า และเริ่มเล่นการพนัน
 
    ผมขอเปิดใจ พฤติกรรมติดการพนันของผมสักนิดนะครับ ในตอนแรกผมก็หยิบยืมเงินในร้านมานิดๆหน่อยๆ พนันการแข่งขันฟุตบอลทางอินเตอร์เน็ต พอนานเข้าก็ติด หนี้สินพอกพูนเกินกว่าจะรับไหว จนต้องนำเงินกองกลางที่ใช้บริหารร้านที่เมืองบาธ มาชำระหนี้ถึง 5ล้านบาท ในที่สุดผมก็สำนึกผิด สารภาพเรื่องทั้งหมดกับโยมแม่และหุ้นส่วน
 
    เพื่อนร่วมหุ้นของโยมแม่ จึงได้โอกาสบีบโยมแม่ให้ตัดสินใจขายหุ้นของร้านที่เมืองบาธได้สำเร็จ โดยมูลค่าหุ้นขณะขายคืนนั้นลดลงกว่าครึ่ง ต้องขาดทุน 5-6ล้านบาท เพื่อใช้หนี้ให้ผม หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ผมรู้สึกผิดและแย่มาก เหมือนติดหนี้บุญคุณโยมแม่และแฟนของท่าน ตลอดชีวิต
 
    เหตุการณ์ครั้งนี้ รุนแรงถึงขั้นขึ้นศาลอาญาได้เลยทีเดียว หากหุ้นส่วนแจ้งตำรวจ ผมบอกกับโยมแม่ว่า “ผมทำผิดหนักขนาดนี้ ขอให้แม่ส่งตำรวจมาดำเนินคดีเถิด” แต่โยมแม่ไม่คิดจะเอาผิดกับผมเลย แถมยังให้อภัยผมอีกด้วยครับ
 
    แต่ในช่วงนั้น เหมือนบุญบันดาล เพราะตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 เป็นต้นมา โยมแม่เริ่มรู้จักหมู่คณะที่ วัดเจริญภาวนาแมนเชสเตอร์ จากการชักชวนของกัลยาณมิตร แม้จะมีปัญหามากมาย แต่ท่านก็หาเวลาไปปฏิบัติธรรมอยู่บ่อยๆ และถวายภัตตาหารเพล ทุกวันไม่เคยขาด ตั้งแต่วันเปิดวัดฯ จนถึงทุกวันนี้ร่วม 2ปีกว่าแล้ว นอกจากนี้โยมแม่ยังตัดสินใจ จัดพิธีเทเหล้าเผาบุหรี่ ที่ร้านอาหารในเมืองวอริงตัน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจสุราและบุหรี่อีกต่อไปด้วย ทำให้โยมแม่ไม่อยากเอาผมเข้าคุก แต่อยากเอาผมเข้าวัด ไปบวชแทน จึงปกป้องผมไม่ให้มีประวัติอาชญากรรม ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถบวชได้
 
    พี่ชายของผม หลังจากโยมแม่ได้รู้จักหมู่คณะแล้ว พี่ชายก็ติดตามโยมแม่ไปทำบุญและปฏิบัติธรรมอยู่เสมอ จนตัดสินใจบวชธรรมทายาท รุ่นที่33 ที่วัดพระธรรมกาย อย่างไรก็ตาม พี่ชายก็เกือบไม่ได้บวชครับ เพราะหนึ่งเดือนก่อนหน้านั้น พี่ชายมีการปวดท้อง แพทย์ทำการเอกซเรย์แล้วพบว่า พี่ชายปอดหายไปข้างหนึ่ง ซึ่งเกิดจากอาการปอดรั่ว ต้องเจาะน้ำจากปอด และพักร่างกายจนเกือบไม่ได้มาบวช
 
    และก่อนที่พี่ชายจะได้เข้ามาบวชเป็นครั้งที่สองในปีนี้ ได้ประสบอุบัติเหตุจนเกือบเสียชีวิต เรื่องมีอยู่ว่า พี่ชายกับแฟนได้ขับรถกลับจากงานสังสรรค์ ประเภทเมาแล้วขับ จึงขับรถไถลไปชนแผ่นเหล็กที่กั้นไหล่ทาง ด้วยความเร็ว 200กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถเสียหายยับเยิน แต่ตัวพี่ชายกับแฟนกลับไม่เป็นอะไรเลย และเป็นเรื่องมหัศจรรย์ ที่พี่ชายห้อยพระผง พระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนีฯ รุ่นเททอง ด้วยครับ
 
    ในปีนี้เอง ผมและพี่ชายก็ได้ตัดสินใจเข้ามาบวชที่วัดพระธรรมกาย ในโครงการอบรม ธรรมทายาท นานาชาติ รุ่นที่4 ซึ่งเป็นการบวชครั้งแรกของผมด้วย แต่บวชครั้งนี้ ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด กล่าวคือ...
 
    ข้อแรก โยมแม่ประสบปัญหาการเงินอย่างหนัก ถึงขนาดไม่มีเงินจ่ายค่าเครื่องบินให้ลูกๆมาบวชที่เมืองไทย แต่โชคดี สาธุชนผู้มีบุญที่วัดเจริญภาวนาแมนเชสเตอร์ ช่วยออกค่าเดินทางให้
 
   ข้อสอง จากอุบัติเหตุของพี่ชาย ทำให้พี่ชายต้องไปรายงานตัวกับศาลทุกสัปดาห์ กว่าจะครบกำหนดก็เดือนกันยายน ดังนั้นถ้าจะบวช พี่ชายก็ต้องลองขอกับทางราชการ ให้ยกเลิกการรายงานตัวให้เร็วขึ้น พี่ชายให้เหตุผลต่อศาลไปตรงๆว่า “ผมจะไปบวช” และแล้วศาลก็มีคำสั่งอนุมัติ ยกเลิกการรายงานตัว ในวันที่ 6 กรกฎาคม
 
    ขณะนี้ ทั้งผมและพี่ชาย ได้เป็นพระภิกษุสมดังใจแล้ว กำลังดื่มกินรสแห่งธรรมอยู่ ณ สวนสุขสันโดษ เพื่อการเข้าถึงธรรมตามมโนปณิธานของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เป็นพระแท้ เชิดชูพระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย ให้เด่นเป็นธงชัยคู่โลกต่อไป ตอนนี้ผมซาบซึ้งกับคำๆนี้แล้วครับว่า “เราเกิดมาสร้างบารมี”
 
    ผมขอเล่าถึง โยมยายของผม สักนิดนะครับ โยมยายของผม เสียชีวิตเมื่ออายุ 76ปี ท่านเป็นคนโอบอ้อมอารี เคยขายเหล้าและของป่า แต่ก็เข้าวัดทำบุญอยู่เสมอ ก่อนเสียชีวิต โยมยายเล่าว่า เห็นเทวดาและเทวรถมารับ แม้เสียชีวิต มือของท่านก็ยังอุ่น ไม่แข็ง และใบหน้ามีรอยยิ้มด้วยครับ
 
คำถาม
 
1.โยมยาย ตายแล้วไปไหน ก่อนตาย ท่านเห็นเทวดาและเทวรถมารับ จริงหรือไม่ แล้วบุญจากการสร้างพระธรรมกายให้ท่าน ท่านได้รับบุญหรือไม่ครับ
 
2.บุพกรรมใด ทำให้ผมและพี่ชายไม่ค่อยลงรอยกับโยมพ่อเลี้ยงคนแรก ไม่นานนี้ ร้านอาหารส่วนตัวของโยมพ่อเลี้ยงเป็นหนี้ แต่ไม่ยอมใช้คืน ทำให้ผมและพี่ชายซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของกิจการ ถูกสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย ไม่ทราบเป็นเพราะบุพกรรมใดของผมและพี่ชาย และจะมีทางแก้อย่างไรบ้างครับ
 
3.เหตุใด ธุรกิจของโยมแม่จึงเริ่มต้นได้ดีทุกครั้ง แต่เวลาผ่านไปกลับมีปัญหา บุพกรรมใด ที่ทำให้แม้โยมแม่จะช่วยเหลือเพื่อนร่วมหุ้นของท่าน แต่ก็เหมือนทำคุณไม่ขึ้น ซ้ำร้ายยังโดนบีบให้ขายหุ้นที่ร้านอย่างไม่ชอบธรรม และควรจะช่วยเหลือให้เพื่อนร่วมหุ้น แก้นิสัยเหล่านี้ได้อย่างไรบ้างครับ
 
4.โยมแม่อยากมีกำลังทรัพย์มาทำบุญเยอะๆ เพิ่งเปิดร้านอาหารที่แมนเชสเตอร์ ชื่อ เพชรไพลิน ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อเมตตาตั้งให้ โดยเป็นร้านเดียวในเมืองนี้ที่ไม่ขายสุราและบุหรี่ พร้อมมี DMC ช่องนี้ช่องเดียว แต่เนื่องจากอยู่ท่ามกลางแหล่งอบายมุข โยมแม่ต้องอดทน ทั้งคนที่ไม่เข้าใจและรายได้ไม่เป็นไปตามเป้า โยมแม่ควรจะดำเนินกิจการต่อไปอย่างไร จึงจะผ่านพ้นอุปสรรคไปได้ครับ
 
5.โยมแม่กับแฟนของท่านคนปัจจุบัน เคยสร้างบารมีกับพระราชาองค์ที่ออกบวชหรือไม่ครับ และทำอย่างไรจึงจะสามารถสร้างบารมีได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่มีอุปสรรคอีกต่อไปครับ
 
6.บุพกรรมใด พี่ชายจึงมีอาการปอดรั่ว ซึ่งแพทย์ได้อธิบายว่า จะเกิดขึ้นกับคนที่ผอมสูง พี่ชายต้องแก้วิบากกรรมนี้อย่างไร และบุญใดที่ช่วยให้พี่ชายกับแฟนของเขา รอดพ้นจากอุบัติเหตุโดยไม่มีการบาดเจ็บแม้แต่น้อย เป็นเพราะอานุภาพพระผง พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ใช่หรือไม่ครับ
 
7.บุพกรรมใด ทำให้ผมและพี่ชายต้องจากเมืองไทยไปอยู่ต่างแดน แต่ก็ได้กลับมาบวชที่เมืองไทย พี่ชายของผมสร้างบุญมาอย่างไร จึงได้มาบวชถึง 2ครั้ง แต่ก็ล้วนมีอุปสรรคเกิดขึ้นก่อนบวชเสมอ ควรประกอบเหตุเช่นไร จึงจะไม่มีอุปสรรคในการบวชครับ
 
8.ผมกับโยมแม่สร้างกรรมใดไว้ในอดีต โยมแม่จึงต้องมาใช้หนี้ที่ผมก่อไว้จากการพนัน ผมควรทำอย่างไร ที่จะไม่ให้วิบากกรรมนี้ติดตัวไปครับ
 
9.บุพกรรมใด ทำให้ผมมีอาการปวดศีรษะ เป็นไมเกรนเป็นระยะๆ และทำอย่างไรผมจึงจะแก้อาการนี้ให้หายขาดได้ครับ
 
10.จากการที่สาธุชนผู้ใจบุญ ณ วัดเจริญภาวนาแมนเชสเตอร์ ได้ออกค่าตั๋วเครื่องบิน เพื่อสนับสนุนให้ผมและพี่ชายมาบวชนั้น จะมีอานิสงส์อย่างไรครับ
 
11.ในการบวชครั้งนี้ เพราะเหตุใด ผมจึงรู้สึกสนิทสนมกับเพื่อนสหธรรมิกท่านหนึ่งเป็นพิเศษ ทั้งๆที่ไม่รู้จักกันมาก่อน เหตุใดในช่วงอบรมก็ยังป่วยเหมือนกัน และถูกส่งเข้าโรงพยาบาลพร้อมกันทั้งสองรูปครับ
 
12.ผม พี่ชาย และเพื่อนสหธรรมิก สร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร มีหน้าที่อะไรในกองทัพธรรม และทำไมจึงได้มาบวชพร้อมกันครับ

กราบขอบคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ด้วยความเคารพอย่างสูงครับ
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1.โยมยาย ตายแล้วก็ไปเป็นเทพธิดาสุดสวย มีวิมานทองของชั้นดาวดึงส์เฟส3 ด้วยบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนา
 
2.ตัวลูกและพี่ชายไม่ค่อยจะลงรอยกับโยมพ่อเลี้ยงคนแรก เพราะในอดีต ก็ได้เป็นญาติกัน ในช่วงแรกก็ดีต่อกัน แต่ต่อมาก็ไม่ค่อยลงรอยกัน ด้วยเรื่องผลประโยชน์ และคำพูดที่กระทบกระทั่งกัน ผังนี้ได้ติดตัวมา เมื่อมาเจอกันก็เป็นคล้ายๆอย่างเดิม
 

 
3.ธุรกิจของโยมแม่เริ่มต้นมักจะดี แต่ต่อมามักมีปัญหา เพราะในอดีต โยมแม่ทำบุญไม่สม่ำเสมอและมักจะเสียดายในภายหลัง จึงทำให้กรรมตระหนี่ในบางชาติมาแทรก ดังนั้นในปัจจุบันนี้ ช่วงแรกบุญส่งผลก็ทำให้กิจการดี แต่ต่อมาก็มีปัญหาดังกล่าว ก็เพราะวิบากกรรมนี้ 
 
 
 
4.โยมแม่อยากมีทรัพย์มาทำบุญ ได้เปิดร้านอาหารที่ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ขายสิ่งเหล่านี้ แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เพราะอยู่ในทำเลและสิ่งแวดล้อมไม่ค่อยดี
 
5.โยมแม่กับแฟนของท่านคนปัจจุบัน เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะแบบกองเสบียง ประเภทบางครั้งก็เต็มที่ บางครั้งก็ตามอารมณ์ บางครั้งก็ตามกำลัง บางครั้งก็ไม่ทำ จึงทำให้ชีวิตขึ้นๆลงๆไปตามกำลังบุญที่ทำ
 
6.พี่ชายมีอาการปอดรั่ว เพราะกรรมในอดีต ที่เคยฆ่าสัตว์ทำอาหารและใช้แรงงานสัตว์มากเกินไปจนมันเหนื่อย และไม่ค่อยให้มันพัก มาส่งผล

7.ตัวลูกและพี่ชายต้องจากเมืองไทยมาอยู่ต่างแดน แต่ได้กลับมาบวชที่เมืองไทย เพราะบุญที่เคยบวชกับหมู่คณะ ช่วงสั้นในอดีต มาส่งผลให้ได้กลับมาบวชกับหมู่คณะอีก

 
 
8.โยมแม่ต้องมาใช้หนี้การพนันที่ตัวลูกก่อไว้ เพราะเป็นกรรมเก่าของท่าน ที่ในอดีตได้คบคนพาล ชวนไปเล่นการพนันจนทำให้พ่อ-แม่เดือดร้อน คล้ายกับที่ตัวลูกเองทำกับท่านอย่างนี้ กับเป็นกรรมใหม่ของตัวลูกด้วย
 
 
 
9.ตัวลูกปวดศีรษะ มีอาการไมเกรนเป็นระยะ เพราะความเครียดและกังวลในเรื่องปัจจุบันเป็นหลัก กับกรรมที่บี้มดตบยุงมาเสริม เท่านั้น

10.สาธุชนผู้ใจบุญ ได้ออกค่าตั๋วเครื่องบินให้ตัวลูกและพี่ชายได้มาบวชที่เมืองไทย จะมีอานิสงส์โดยย่อ คือ จะได้มีส่วนบุญแห่งการบวชของลูกทั้งสอง เช่น ได้บุญปิดอบายไปสวรรค์ จะได้รับความสะดวกสบายในที่ทุกสถาน จะได้เกิดในร่มเงาพุทธศาสนา จะได้มีดวงตาเห็นธรรม เป็นต้น
 
11.ในการบวชครั้งนี้ ตัวลูกมีความสนิทสนมกับเพื่อนสหธรรมิกท่านนี้เป็นพิเศษ เพราะในอดีตก็เคยสร้างบุญร่วมกันมา เคยเป็นกัลยาณมิตรกันมา กอปรกับในปัจจุบันก็มีวัยใกล้เคียงกัน ธาตุตรงกัน อัธยาศัยต้องกัน
 
12.ตัวลูก พี่ชายและเพื่อนสหธรรมิก เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาโดยเป็นกองเสบียง และมีบุญบวชในระยะสั้นกับหมู่คณะ

 

บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2549-10-03.html
เมื่อ 26 เมษายน 2567 06:08
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv