CASE STUDY 
จะเชื่อตอนเป็น หรือจะเห็นตอนตาย
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
ออกอากาศครั้งแรก วันที่ 14 มีนาคม พ.ศ.2549
 
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

    กระผมเป็นนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา โดยได้เข้าโรงเรียน ซึ่งเป็นการเรียนทางไกล ไกลหลายพันไมล์ ไกลถึงประเทศบาห์เรนครับ แต่ถึงระยะทางจะไกลแค่ไหน กระผมก็รู้สึกว่า ได้อยู่ใกล้ๆกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เพราะเมื่อคราใดที่ได้เห็นรอยยิ้มของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ช่างทำให้ใจของกระผมนั้น รู้สึก ชุ่มชื่น เบิกบาน อบอุ่น และปลอดภัย
 
    เหมือนคนหลงทางในทะเลทรายที่แห้งแล้ง และร้อนระอุ แล้วได้มาพบแหล่งน้ำที่ชุ่มเย็น และผู้ชี้หนทางที่ถูกต้องให้ ครั้งแรกกระผมนึกว่ากระผมจะรู้สึกเช่นนี้เพียงแต่ผู้เดียว แต่พอได้ถามภรรยาและลูกๆก็ปรากฏว่า ทุกคนรู้สึกเหมือนกันเลยครับ
 
    พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ กระผมรอคอยวันเวลานี้มานานแสนนานแล้ว กระผมเคยคิดว่า คริสต์ อิสลาม เขามีทีวีของเขาได้ตลอด 24ชั่วโมง ทำอย่างไรหนอ ศาสนาพุทธของเราจึงจะได้มีอย่างเขาบ้าง และแล้วเวลาที่กระผมเฝ้ารอคอยก็ได้มาถึง เมื่อกระผมได้มีโอกาสรู้จักกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ ผ่านทางช่อง DMC ช่องนี้ช่องเดียว
 
    กระผมรู้ว่ามีช่อง DMC จากการบอกเล่าของน้องชายและน้องสะใภ้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2547 ทำให้กระผมรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก ตอนนี้กระผม ภรรยา และลูกๆ ก็ได้เป็นนักเรียนอนุบาลพันธุ์แท้กันทั้งบ้านเลยครับ ซึ่งกระผมติด DMC ไว้ที่บ้านทุกห้องเลยครับ ทั้งห้องนอน ห้องรับแขก ห้องปฏิบัติธรรม ทำให้กระผมได้รับคำสอนที่ฟังแล้วเข้าใจได้เลย ไม่ต้องแปล ตรงไปตรงมา ชัดเจน แจ่มแจ้ง ได้รับคำตอบของทุกๆคำถามที่อยู่ในใจ กระผมซาบซึ้งกับทุกๆคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อมากครับ
 
    ปัจจุบันนี้ กระผมได้ต่อเติมภายในบ้าน ทำเป็นห้องปฏิบัติธรรม สามารถรองรับผู้มีบุญได้ประมาณ 60-70คน และพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ได้เมตตาอนุญาตให้จัดบรรพชาสามเณรขึ้นที่บ้านแห่งนี้ กระผมและลูกชายก็ได้ตั้งใจบวช ในครั้งประวัติศาสตร์นั้นด้วย และยังปลื้มใจในการจัดบวชครั้งนั้นมากเลยครับ
 
    กระผม เกิดในครอบครัวเกษตรกรรม ที่ค่อนข้างยากจน ในจังหวัดเพชรบูรณ์ มีพี่น้อง 3คน กระผมเป็นลูกชายคนโต ภายหลังจากที่ คุณพ่อของกระผมได้เดินทางไปทำงานที่บาห์เรน กระผมและน้องๆก็ได้ย้ายมาอยู่กับ คุณตา-คุณยาย ท่านทั้งสองได้เลี้ยงกระผมและน้องๆมาด้วยความรักและห่วงใย ท่านมักจะพากระผมไปวัดทำบุญด้วยเป็นประจำ ทำให้กระผมผูกพันอยู่กับพระและวัด
 
    ส่วนบ้านกับโรงเรียนนั้น อยู่ห่างกันกว่า 3กิโลเมตร หลวงตาที่วัดใกล้โรงเรียน จึงชวนกระผมให้ไปอยู่ที่วัดกับท่าน เพื่อจะได้ไม่ต้องเดินทางไกลมาโรงเรียน แต่กระผมทนอยู่เป็นเด็กวัดได้หนึ่งปี ก็ลาออกจากการเป็นเด็กวัด เพราะเพื่อนเด็กวัดแต่ละคน ล้วนทานข้าวแล้วมักเกี่ยงกันเรื่องล้างจาน
 
    กระผมชอบที่จะช่วยเหลือตัวเอง มากกว่าขอให้คนอื่นช่วย เช่น ชอบซ่อมจักรยานด้วยตัวเอง แต่มีนิสัยเสียอยู่อย่างหนึ่ง คือ ไม่ค่อยมีสัจจะ โดยครั้งหนึ่งเคยรับปากกับหลวงตาเจ้าอาวาสว่า จะเดินทางไปเป็นเพื่อนท่าน เพื่อช่วยท่านหิ้วของ แต่พอถึงเวลานัดจริงๆ กระผมก็เพลิดเพลินกับการดูการ์ตูน จนสุดท้ายกระผมก็ไม่ได้ไปตามที่รับปากกับท่านไว้ พอกระผมนึกขึ้นมาได้ กระผมก็อายจนไม่กล้าไปพบหน้าท่านอีกเลย จนกระทั่งท่านมรณภาพ ทำให้กระผมรู้สึกผิดจนกระทั่งทุกวันนี้
 
    เมื่อกระผมมาเข้าเรียนในชั้น_ม.4 ชีวิตของกระผมก็เปลี่ยนไป คือ กระผมได้มาคบกับกลุ่มเพื่อนและรุ่นพี่ ที่ทำให้กระผมได้รู้จักการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ กระผมได้สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่า จะไม่ดื่มเหล้า และไม่สูบบุหรี่เป็นอันขาด แต่แล้วกระผมก็ติดมันจนได้ และได้เที่ยวเตร่จนไม่มีสมาธิในการเรียน จนทำให้ต้องออกจากโรงเรียนตอน_ม.4 ในเทอมต้นนั้นเองครับ
 
    แต่ถึงกระนั้นก็ตาม กระผมก็ยังมีใจฝักใฝ่เรื่องการนั่งสมาธิ โดยเฉพาะเรื่องอิทธิฤทธิ์ กระผมอยากมีหูทิพย์ ตาทิพย์ อยากมองทะลุที่ครอบลูกสี่เหลี่ยมเล็กๆ (ลูกไฮโล) ให้ได้ โดยกระผมได้ทดลองฝึกสมาธิในหลายๆวิธี มีอยู่บ่อยครั้งที่กระผมรู้สึกได้ถึงสภาวะที่ตัวเบาสบาย เหมือนจะลอยได้ แต่กระผมก็ไม่ได้ทำอย่างต่อเนื่อง
 
    ภายหลัง คุณแม่ เกรงว่ากระผมจะเสียคน จึงได้ตัดสินใจพากระผมไปอยู่กับคุณพ่อ-คุณแม่ที่บาห์เรน โดยไปเป็นผู้ช่วยช่างในอู่ซ่อมรถ ได้เงินเดือน 5,000บาท ชีวิตเด็กอู่นั้นน่าน้อยใจนะครับ เงินเดือนก็น้อยแล้วยังต้องมาเจอแต่ของผุๆพังๆอีก
 
    ต่อมา ชีวิตเด็กอู่อย่างกระผม ก็ได้มาพบรักกับสาวไทยในบาห์เรน เธอทำงานในร้านเสริมสวย ที่เดียวกับที่คุณแม่ของกระผมทำงานอยู่ เธอเป็นคนที่น่ารักมาก ขยันขันแข็ง เธอเก่งทุกอย่าง แต่เธอก็มีมาตรฐานสูงในการเลือกคู่ครอง คือ จะต้องไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ดังนั้นการที่จะไปเจอกับเธอแต่ละครั้ง กระผมต้องเตรียมตัวอย่างดี ไม่ให้มีกลิ่นเหล้าอย่างเด็ดขาด
 
    ในที่สุด กระผมก็ได้แต่งงานกับเธอสมปรารถนา และมีลูกด้วยกันเป็น ชายหนึ่งคน หญิงหนึ่งคน เราสองคนได้ร่วมกันสร้างฐานะ สร้างครอบครัวด้วยการเปิดธุรกิจหลายอย่าง ทั้งร้านเสริมสวย ร้านอาหาร ร้านนวดไทย รวมไปถึงการเป็นเจ้ามือหวย
 
    ต่อมาภายหลัง เมื่อได้รับชม DMC กระผมจึงได้หักดิบตัดใจเลิกเหล้า และบุหรี่อย่างเด็ดขาด รวมไปถึงเลิกธุรกิจที่ส่อแววว่าจะผิดศีลธรรมทุกชนิด ด้วยประโยคเด็ดของพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่ว่า “จะเชื่อตอนเป็นหรือเห็นตอนตาย” บัดนี้ กระผม ภรรยาและลูกๆ เป็นนักเรียนอนุบาลพันธุ์แท้กันทุกคนครับ
 
    คุณพ่อของกระผม ท่านเกิดมาในครอบครัวเกษตรกร ที่ค่อนข้างยากจน ท่านต้องต่อสู้ชีวิต และทำงานอย่างขยันขันแข็ง อดทน สู้ทุกอย่างเพื่อครอบครัว มีมนุษยสัมพันธ์ดี เป็นที่รักของเพื่อนๆ ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน คุณพ่อจะรักคุณแม่มาก ทำงานทุกอย่างโดยไม่ให้คุณแม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากเลี้ยงลูก ทำงานอยู่กับบ้าน และคอยเป็นกำลังใจให้คุณพ่อเพียงอย่างเดียว
 
    คุณพ่อทำงานสู้ชีวิตทุกอย่าง เพื่อสร้างฐานะครอบครัว แต่ฐานะครอบครัวก็ไม่ดีขึ้น ท่านจึงตัดสินใจขายบ้าน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพื่อไปเสี่ยงโชคในประเทศบาห์เรน โดยไปทำงานรับจ้างขับรถ และท่านก็หาอาชีพเสริมอื่นๆไปด้วย เมื่อกระผมเดินทางไปบาห์เรนและตั้งฐานะได้แล้ว เห็นว่าคุณพ่อเหน็ดเหนื่อยมามาก อยากให้ท่านได้พัก จึงให้คุณพ่อเดินทางกลับมาอยู่ที่เมืองไทย และกระผมก็ได้ดูแลค่าใช้จ่ายให้ท่านได้ใช้อย่างพอเพียง
 
    แต่ด้วยความที่คุณพ่อเป็นคนขยันไม่ชอบอยู่เฉยๆ พอท่านกลับมาถึงเมืองไทยได้ไม่นาน ก็เปิดเล้าหมู เล้าไก่ แต่ได้เลิกกิจการไปเพราะขาดทุน ปัจจุบันคุณพ่อเปิดฟาร์มเลี้ยงจระเข้ มีจระเข้อยู่ 300กว่าตัว นอกนั้นยังเพาะพันธุ์ลูกสุนัขขาย เปิดบ่อปลา เปิดกรงนก และยังมีแผนการเปิดคอกเลี้ยงวัวอีกด้วย ปัจจุบันคุณพ่อยังไม่เข้าใจเรื่องบุญมากนัก ท่านเกรงว่าสมบัติจะหมดไปเพราะการทำบุญ เนื่องจากกระผมและครอบครัวได้ทุ่มเททำบุญกับทางวัดมากๆ ซึ่งกระผมและภรรยาพยายามที่จะอธิบายให้ท่านเข้าใจ แต่ท่านก็ยังคงห่วงใยในจุดนี้อยู่
 
    คุณตาของกระผม ท่านจะชอบทำบุญเป็นประจำ แต่ก็ชอบเล่นการพนันด้วย ท่านชอบนั่งหลังพิงโอ่งน้ำ สูบบุหรี่ แล้วก็เล่าเรื่องความหลังเก่าๆให้ลูกหลานฟัง บั้นปลายของชีวิต คุณตาป่วยเรื้อรังด้วยโรคถุงลมโป่งพอง ต้องไปหาหมออย่างต่อเนื่อง คุณตาคิดว่าท่านต้องตายก่อนคุณยาย คุณตาจึงโอนเงินทั้งหมด 3หมื่นบาท ในบัญชีของท่านให้เป็นชื่อของคุณยาย แต่เรื่องที่ไม่คาดคิดก็บังเกิดขึ้น คุณยายซึ่งปกติเป็นคนแข็งแรง แต่ก็มาป่วยเฉียบพลัน และเสียชีวิตภายในเดือนนั้นเอง
 
    หลังจากที่คุณยายเสียชีวิตแล้ว ทุกคนก็ยังเห็นคุณตาในลักษณะเดิม คือ นั่งพิงโอ่ง สูบบุหรี่ แต่เปลี่ยนจากเล่าเรื่องความหลังเก่าๆให้ลูกหลานฟัง มาเป็นนั่งท่องบทสวดมนต์แทน ในวาระสุดท้ายก่อนที่คุณตาจะเสียชีวิต ท่านไม่ได้ทรมานแต่อย่างใด มีอาการเหมือนคนสะอึก 3ครั้ง แล้วท่านก็จากไป รวมสิริอายุได้ 86ปี
 
    คุณยายของกระผม เป็นคนขยัน ชอบการทำบุญ ท่านจะตักบาตรในทุกเช้า คุณยายไม่ชอบฆ่าสัตว์ แต่จะใช้ให้กระผมและน้องชายเป็นคนฆ่าแทน ปกติคุณยายเป็นคนแข็งแรง วันหนึ่งเมื่ออายุได้ 76ปี คุณยายมีอาการไม่สบาย ครั่นเนื้อครั่นตัวนิดหน่อย คุณตาจึงแบ่งยาของท่านให้คุณยายทาน คุณยายทานยาแล้วท่านก็ช็อกไปเลย
 
    เมื่อนำคุณยายไปส่งที่โรงพยาบาล คุณยายก็พูดไม่ได้ น้ำตาไหล เล็บมือเล็บเท้าเขียว ต้องให้อาหารเหลวทางปาก ต้องเจาะคอ และใช้เครื่องช่วยหายใจ คุณยายได้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลาหนึ่งเดือน ก่อนเสียชีวิตมีสติรู้ตัวตลอด ตอนนั้นกระผมไม่รู้จัก DMC ไม่รู้จักพระเดชพระคุณหลวงพ่อ กระผมจึงไม่รู้หลักวิชาในการดูแลคนป่วยใกล้ตาย กระผมจึงไม่ได้ทำหน้าที่หลานที่ดีในช่วงวาระสุดท้ายของคุณยาย ผู้มีพระคุณที่ได้เลี้ยงผมมาจนโต ทำให้ผมรู้สึกเสียใจอยู่จนทุกวันนี้
 
กระผมขอกราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังนี้ครับ
 
1.กระผมรู้สึกกังวลใจกับนิสัยที่มักจะลังเล และรับปากแล้วไม่ได้ทำ เช่น การที่กระผมนัดหมายกับหลวงตาว่า จะเดินทางไปเป็นเพื่อนท่านแล้วกระผมก็ผิดนัด จนทำให้กระผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยมีสัจจะบารมีเลย ตรงนี้จะทำให้กระผมมีวิบากกรรมอะไรติดไปหรือไม่ครับ และจะแก้นิสัยนี้ได้อย่างไรครับ
 
2.ทำอย่างไร จึงจะทำให้คุณพ่อเลิกเลี้ยงสัตว์ทุกชนิดครับ แล้วกระผมจะมีส่วนในบาปกรรมนี้หรือไม่ เพราะเงินส่วนหนึ่งที่กระผมส่งไปให้คุณพ่อใช้จ่าย ท่านก็นำไปซื้ออาหารให้สัตว์เหล่านั้นด้วย โดยที่กระผมไม่ได้มีจิตอนุโมทนากับสิ่งที่ท่านทำเลยครับ
 
3.กระผมจะอธิบายให้คุณพ่อเข้าใจเรื่องบุญอย่างไรดีครับ จึงจะทำให้ท่านอนุโมทนาในบุญที่กระผมและครอบครัวได้ทำ และได้มาเป็นนักสร้างบารมีลูกพระธัมฯครับ
 
4.คุณแม่ของกระผมรักคุณพ่อมากๆ จนท่านไม่มีเวลาปฏิบัติธรรม เพราะต้องคอยดูแลคุณพ่อเสมอ กระผมจะต้องทำอย่างไรให้คุณแม่วางใจจากคุณพ่อได้บ้าง แล้วหันหน้ามาปฏิบัติธรรมด้วยกันครับ
 
5.คุณยายของกระผมช็อก และป่วยจนเสียชีวิตด้วยการกินยาผิด ใช่หรือไม่ครับ ท่านมีวิบากกรรมอะไร ทำไมก่อนตายท่านต้องได้รับทุกขเวทนามากเลยครับ
 
6.เหตุใด เมื่อคุณยายตายไปแล้ว คุณตาได้มานั่งหลังพิงโอ่ง สวดมนต์แทนการเล่าเรื่องในอดีตให้ลูกหลานฟังครับ คุณตา-คุณยาย ตายแล้วไปอยู่ที่ไหน ไปอยู่ด้วยกันหรือไม่ เพราะท่านรักกันมากเลยครับ
 
7.ทำไมชาตินี้ กระผมถึงต้องมาอยู่ไกลวัดขนาดนี้ แต่ด้วยบุญอะไรทำให้กระผมได้มาพบหมู่คณะ และได้ร่วมสร้างบารมีอย่างเต็มกำลังกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ
 
8.เพราะเหตุใด กระผมจึงได้มาบวชในต่างแดน เป็นครั้งแรกของแผ่นดินที่ว่างเว้นจากการบวชมาแสนนานครับ
 
9.บุญจากการบวชของกระผมและลูกหลาน รวมถึงการให้สถานที่จัดบวชครั้งประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ ตัวกระผมและครอบครัวจะได้รับผลบุญอย่างไรบ้างครับ คุณพ่อ คุณแม่ คุณตา คุณยาย ทุกๆท่านจะได้รับผลบุญในครั้งนี้ด้วยหรือไม่ครับ
 
10.กระผมได้ตั้งใจตั้งแต่เด็กไว้ว่า จะไม่มีครอบครัว โตขึ้นจะบวชตลอดชีวิต แต่ทำไมผังชีวิตจึงต้องมามีครอบครัว และกระผมจะมีโอกาสบวชตลอดชีวิตในชาตินี้หรือไม่ครับ
 
11.ในพุทธันดรที่ผ่านมา กระผมได้ลงมาเกิดสร้างบารมีกับหมู่คณะหรือไม่ครับ ได้เคยบวชตลอดชีวิตหรือไม่ครับ

กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างสูงครับ
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1.การที่ลูกมีนิสัยลังเล ไม่เป็นไปตามนัดหรือความตั้งใจ เช่น เคยนัดว่าจะไปเป็นเพื่อนหลวงตา แต่ก็ไม่ได้ไปนั้น ก็จะมีวิบากกรรม คือ ถึงเวลาตัวเองก็จะโดนอย่างนี้บ้าง กับจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ไม่เท่าที่ได้ตั้งใจเอาไว้ เพราะขาดสัจจะบารมี
 

 
2.คุณพ่อเลี้ยงสัตว์ไว้ขาย เช่น เพื่อฆ่าบ้าง เพื่อดูเล่นบ้าง เช่น เลี้ยงหมู ไก่ ต่อมาตั้งฟาร์มจระเข้ เพาะพันธุ์ลูกสุนัขขาย เปิดบ่อปลา เปิดกรงนก และคอกวัว เป็นต้นนั้น ท่านก็จะมีวิบากกรรม คือ...

 
 
3.ลูกจะอธิบายเรื่องบุญให้ท่านเข้าใจนั้น ก่อนอื่นลูกต้องหากุศโลบายให้ท่านไปปฏิบัติธรรมที่สวนพนาวัฒน์สัก 7วัน ให้ท่านได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี มีเพื่อนกัลยาณมิตร พี่เลี้ยงและพระอาจารย์ ที่จะคอยแนะนำเรื่องการปฏิบัติธรรมจนใจท่านใส แล้วท่านก็จะค่อยๆเรียนรู้เรื่องบาป-บุญ-คุณ-โทษ ประโยชน์หรือสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์
 

 
4.คุณแม่รักคุณพ่อมากๆ จนท่านไม่มีเวลาปฏิบัติธรรม เพราะต้องคอยดูแลคุณพ่อเสมอนั้น ก็ให้ลูกชักชวนให้ท่านขึ้นไปปฏิบัติธรรมที่สวนพนาวัฒน์สัก 7วันดังกล่าว ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ก็จะทำให้ท่านทั้งสองได้เข้าใจเรื่องราวความจริงของชีวิตดีขึ้น
 
 
5.คุณยายช็อกและป่วยจนเสียชีวิต และก่อนตายทุกข์ทรมานมาก เพราะคุณยายทานยาผิด ด้วยวิบากกรรมในอดีต ที่ท่านได้เป็นสามี-ภรรยากับคุณตาเหมือนชาตินี้ แต่มีครั้งหนึ่งคุณตาป่วย ท่านก็หยิบยาผิดให้คุณตาทาน โดยไม่ได้เจตนา แต่กรรมก็ส่งผลให้ท่านมาโดนบ้างในชาตินี้
 
 

 
6.เมื่อคุณยายตายแล้ว คุณตามักจะมานั่งเอาหลังพิงโอ่ง สวดมนต์แทนการเล่าเรื่องในอดีตให้ลูกหลานฟัง เพราะท่านได้ข้อคิดจากการตายของคุณยาย และเสียใจที่ท่านหยิบยาผิดให้คุณยาย เป็นเหตุให้คุณยายตาย จึงหันมาหาที่พึ่งทางใจด้วยการสวดมนต์ แทนการเล่าเรื่องในอดีตตามประสาคนแก่ ให้ลูกหลานฟัง
 

 
7.ชาตินี้ลูกต้องมาอยู่ไกลวัด แต่ได้มาพบกับหมู่คณะ และได้ร่วมสร้างบารมีอย่างเต็มที่ เพราะเหตุปัจจุบันที่จะต้องไปทำมาหากิน รวมกับแรงอธิษฐานในอดีตหนุน คือ อธิษฐานว่าขอให้ได้มีส่วนในการขยายพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายไปทั่วโลก
 
 
8.ลูกได้มาบวชในต่างแดน เป็นครั้งแรกของแผ่นดินที่ว่างจากการบวชมานาน เพราะแรงอธิษฐานของลูก ที่มีความปรารถนาว่า ขอให้ได้มีส่วนในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย ในอดีตดังกล่าว มาส่งผล
 
 
9.บุญจากการบวชของลูกและลูกหลาน รวมถึงการให้สถานที่จัดบวชครั้งประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ ตัวลูกและครอบครัวจะได้ผลบุญ คือ ลูกก็จะมีสายบุญเชื่อมกับพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย ไปที่ใดก็จะได้รับการต้อนรับอย่างดีเยี่ยมในทุกสถานที่ จะมีชื่อเสียงขจรขยายไปทั่ว จะมีรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ได้บรรลุธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นต้น
 
 

10.ลูกตั้งใจตั้งแต่เด็กว่าจะไม่มีครอบครัว โตขึ้นจะบวชตลอดชีวิต แต่ทำไม่ได้ต้องมามีครอบครัวในภายหลัง เพราะความโลเลของจิตใจลูก กับผังบวชของลูกยังไม่หนาแน่นเพียงพอ
 

 
11.พุทธันดรที่ผ่านมา ลูกก็ได้มาสร้างบารมีกับหมู่คณะโดยเป็นกองเสบียง ประเภทบางครั้งก็เต็มที่ บางครั้งก็ตามอารมณ์ เพราะความโลเลใจของลูก แต่ก็ได้บวชในตอนแก่ ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว

บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2550-12-18.html
เมื่อ 29 มีนาคม 2567 05:53
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv