ทศชาติชาดก
 
เรื่อง  มโหสถบัณฑิต   ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี  ตอนที่ 71


        จากตอนที่แล้ว  ชายหนุ่มทั้งสามที่ถูกมโหสถส่งไปทดสอบให้เกี้ยวพาราสีนาง แม้จะใช้คำคมคารมหวานหว่านล้อมขอความรักความเห็นใจอย่างไรก็ตาม ก็ไม่อาจทำให้นางเออออด้วย แถมยังถูกนางอมราสอนกลับเข้าให้ด้วยคำที่เชือดเฉือนเสียจนปลาบแปลบไปถึงหัวใจ จึงต้องล่าถอยออกมา

        ครั้งต่อมา มโหสถจึงสั่งว่า “ถ้าเช่นนั้น พวกท่านทั้งหลายจงฉุดนางแล้วนำมาหาเราที่นี่แหละ”  ชายเหล่านั้นก็จำต้องทำตามคำสั่งของมโหสถ ตรงเข้าจู่โจมถึงตัวนางแล้วใช้กำลังฉุดคร่านางมา แล้วนำตัวมาสู่เรือนของ มโหสถ ให้ยืนอยู่ต่อหน้าบุคคลผู้เป็นสามี  แต่นางก็จำสามีของตนไม่ได้ เพราะบัดนี้เขามิใช่ช่างชุนธรรมดาๆ เสียแล้ว แต่เป็นมโหสถบัณฑิตผู้มั่งคั่งไปด้วยทรัพย์สมบัติและบริวาร

        มโหสถทดลองใจนาง หลอกล่อด้วยทรัพย์สมบัติต่างๆ อย่างไรก็ไม่อาจทำให้นางเปลี่ยนใจ เมื่อรู้ว่านางเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์และซื่อสัตย์ต่อตนผู้เป็นสามีอย่างแท้จริง จึงบังเกิดความรักและเทิดทูนนางยิ่งขึ้นไปอีก จากนั้นจึงให้พานางกลับไปส่งที่เดิม แต่พอตกเย็น  มโหสถก็ปลอมตัวเป็นช่างชุนดังเดิม แล้วก็เข้าไปหานาง และได้นอนค้างแรมอยู่กับนางไปตลอดคืนจวบจนรุ่งสาง

        ครั้นในเวลารุ่งเช้า มโหสถได้พานางอมราออกเดินทางบ่ายหน้าไปสู่พระราชวังเพื่อขอเข้าเฝ้าพระนางอุทุมพรเทวี โดยบอกนางเพียงว่าจะพาไปให้รู้จักกับพี่สาว   มโหสถเดินนำหน้านางไปด้วยจิตใจที่แช่มชื่นเบิกบาน เพราะยิ่งใกล้ที่หมายเพียงใด นั่นก็หมายความว่าความจริงที่ปิดบังนางไว้ ก็จวนจะได้เวลาเปิดเผยให้ปรากฏ

        ฝ่ายนางอมราเดินตามหลังโสมทัตผู้เป็นสามีด้วยกิริยาสงบเสงี่ยม นางแลเห็นอาคารบ้านเรือนและปราสาทราชฐานซึ่งตั้งตระหง่านเป็นสง่าในระหว่างทาง ก็รำพึงอยู่ในใจว่า “สามีจะพาเราไปไหนกันนะ”

แต่ก็อดใจก็เก็บความสงสัยนั้นไว้ ด้วยยังไม่ปรารถนาจะถามสิ่งใดในระหว่างทาง เพราะการได้เดินตามสามีที่รักยิ่งไปทุกหนทุกแห่ง นับว่าเป็นความสุขใจเกินพอแล้วสำหรับนาง  พอผ่านพ้นพระที่นั่งมหาปราสาท ทั้งคู่ก็พากันเดินลัดเลี้ยวไปตามกำแพงพระราชวังฝ่ายใน  กระทั่งถึงพระตำหนักอันเป็นที่ประทับของพระนางอุทุมพรเทวี มโหสถหยุดยืนอยู่หน้าพระตำหนัก แล้วจึงแจ้งความประสงค์ที่จะขอเข้าเฝ้าต่อนางข้าหลวง

        ครั้นได้รับพระบรมราชานุญาตแล้ว จึงพานางเข้าสู่ภายในพระตำหนัก “มาเถิดน้องรัก เราจะไปเข้าเฝ้าพระแม่เจ้ากัน” ครั้นแล้วจึงจับมือนางอมรา แล้วพาเดินเคียงคู่กันไปจนพ้นพระทวาร  ขณะนั้น พระนางอุทุมเทวีประทับอยู่เหนือพระแท่นบัลลังก์ ทรงกำลังรอคอยการมาของมโหสถบัณฑิตอยู่พอดี

        ครั้นเห็นมโหสถน้องชายจูงมือนางอมราเข้ามาใกล้ๆ ก็ทรงปลื้มพระทัย ตรัสด้วยสุรเสียงอ่อนโยนว่า “มโหสถน้องรักของพี่ รู้ไหมว่าพี่น่ะกำลังรอเธออยู่ทีเดียว”

        นางอมราได้ยินพระนางเจ้าอุทุมเทวีตรัสทักทายสามีของตนเช่นนั้น ก็รู้สึกแปลกใจยิ่งนัก จึงเหลียวมามองมโหสถผู้เป็นสามีด้วยสีหน้างงงวย    แต่มโหสถกลับยิ้มให้นางอย่างปกติ เป็นเหตุให้นางยิ่งฉงนใจ พร้อมกันนั้นก็มีคำถามเกิดขึ้นในใจมากมาย 
 

        มโหสถพานางเข้ามาถวายบังคมพระนางแล้ว ก็ยืนอยู่ ณ ที่อันสมควร พลางกราบทูลว่า “ขอเดชะ ข้าแต่พระแม่เจ้า บัดนี้ภาระกิจสำคัญที่พระนางทรงมอบหมายให้ข้าพระบาทรับไปปฏิบัติ ได้สำเร็จแล้วพะย่ะค่ะ”

        พระนางจึงรับสั่งถามว่า “น้องรัก นางผู้นี้น่ะหรือ ที่น้องเลือกแล้วว่าเหมาะสมที่จะเป็นคู่ชีวิตของน้อง”

        “พะย่ะค่ะ ข้าพระบาทรักนางและปรารถนาจะอยู่เคียงข้างนางตลอดไป” มโหสถกราบทูลด้วยรอยยิ้ม

        พระนางอุทุมเทวีเรียกนางอมราเข้ามาใกล้ๆ แล้วตรัสถามว่า  “ไหน เธอชื่ออะไรหรือ”

        นางอมราคลานเข้าไปใกล้ น้อมกายถวายบังคมพระนางด้วยกิริยามารยาทที่อ่อนช้อยสมเป็นกุลสตรีที่ได้รับการฝึกดีแล้ว  แล้วจึงกราบทูลแด่พระนางว่า “หม่อมฉันชื่ออมรา ขอถวายตัวแด่พระแม่เจ้า เพคะ”

        พระนางทรงพิจารณาดูนางแล้ว ก็ทรงพอพระทัยยิ่งนัก  จึงหันไปตรัสกับมโหสถว่า “ชื่ออมราหรือ อือ...นางนี่ช่างน่ารักน่าเอ็นดูจริงเชียว สมแล้วที่เป็นคู่ครองของน้องมโหสถ เอาหล่ะ ก็ในเมื่อมโหสถเป็นน้องชายของฉัน เธอก็เท่ากับเป็นน้องสาวของฉันเหมือนกัน”  ตรัสดังนี้แล้ว พระนางก็ทรงปรารภที่จะนำความเรื่องนี้ขึ้นกราบทูลพระราชสวามี 

        มโหสถจึงได้ถือโอกาสนั้นทูลลาพระนาง แล้วพานางอมราไปยังเรือนหลวงของตนซึ่งตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานฝ่ายนอก  จากนั้นมโหสถก็ได้เปิดเผยเรื่องราวของตนให้นางทราบ

        ฝ่ายนางอมราเมื่อได้ทราบความจริงทั้งหมดแล้ว ก็ยิ่งมีความปลื้มปีติใจ กล่าวกับสามีว่า “อมราคิดแล้วไม่มีผิด ว่าสามีของอมราคงมิใช่ช่างชุนธรรมดาอย่างแน่นอน  แต่ไม่ว่าพี่จะเป็นโสมทัตหรือเป็นถึงมโหสถบัณฑิตก็ตาม ถึงอย่างไรพี่ก็ยังเป็นทั้งหมดในชีวิตของอมรา และไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม อมราก็พร้อมจะอยู่เคียงข้างสุดรักสุดบูชาของอมราตลอดไปคะ”

        มโหสถได้ฟังคำของนางแล้ว ความรักที่เต็มตื้นอยู่ในจิตใจ ก็ยิ่งจะท่วมท้นเอ่อล้น จนไม่อาจอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ จึงทำได้แต่เพียงสวมกอดนางไว้แนบอก และให้สัญญากับนาง ว่าตนจะขออยู่เคียงข้างนางตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แล้วบัดนี้ มโหสถก็ได้นางอมราเข้ามาอยู่ในฐานะภรรยาของตนแล้ว เหลือเพียงพิธีตกแต่งให้เหมาะสม ส่วนเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไป

พระธรรมเทศนาโดย : พระราชภาวนาวิสุทธิ์  (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/jataka/mahosathapandita071.html
เมื่อ 4 พฤษภาคม 2567 23:39
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv