ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
จดหมายจากนักเรียนอนุบาลฯในวาระหล่อหลวงปู่ องค์ที่ 7    
                                                 
จะไปถึงเป้าต้องทำให้ถูกหลักวิชชา
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา 

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

       กระผม ทันตแพทย์วิชิต กิตติพงศ์โกศล ลูกพระธัมฯครับ ผมเริ่มมาสั่งสมบุญกับหมู่คณะแบบปลื้มๆอินๆตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2531 ครับ
 
ทันตแพทย์วิชิต  กิตติพงศ์โกศล 
ทันตแพทย์วิชิต กิตติพงศ์โกศล
 
      โดยได้ไปฝึกทำสมาธิที่บ้านมธุระ มีป้าใส (กัลฯเกษมสุข ภมรสถิตย์) เป็นต้นบุญต้นแบบในการสั่งสมบุญ ซึ่งช่วงแรกๆนั้น ผมจะเน้นเรื่องการฝึกทำสมาธิเป็นหลัก เพราะสามารถนำไปใช้ได้กับการทำงานและการใช้ชีวิต แล้วค่อยๆศึกษาธรรมะโดยฟังคำสอนจากคุณครูไม่ใหญ่ พอเริ่มกระจ่างแจ้งในใจว่าเราเกิดมาทำไม อะไรคือเป้าหมายชีวิต ผมก็ใส่เกียร์เดินหน้าลุยสร้างบารมีทุกรูปแบบ..ทุกบุญ และยังทำหน้าที่กัลยาณมิตรชวนบวชในโครงการ 1 แสนรูปด้วย คือ ทุ่มทั้งแรงกายเททั้งแรงใจรวมไปถึงปัจจัยครับ ยิ่งทำบุญกับหลวงพ่อมากเท่าไหร่ ชีวิตก็ยิ่งมีความสุข แล้วที่อัศจรรย์เห็นกันจังๆ คือ ยิ่งตั้งเป้า ยิ่งเทกระเป๋า กลับยิ่งมีปัจจัยมาร่วมบุญได้มากขึ้นเรื่อยๆครับ

      ดังนั้น พอได้ยินหลวงพ่อเชิญชวนให้มาหล่อหลวงปู่ พระผู้ปราบมาร องค์ที่ 7 ผมรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่จะได้บุญใหญ่ ถึงแม้ผมจะไม่ได้เกิดอยู่ในยุคของหลวงปู่ แต่เรื่องราวของท่านทำให้ผมสะดุดใจ อย่างคำว่า “พระผู้ปราบมาร” คำนี้ทำให้เห็นถึงความเมตตาอย่างหาที่สุดไม่ได้ของท่าน แล้วการที่ท่านสอนวิธีให้เราเข้าถึงพระธรรมกาย สอนให้รู้จักกับศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ซึ่งเป็นที่ตั้งของใจ เป็นเส้นทางที่จะทำให้เราได้พบกับที่พึ่งที่แท้จริงของชีวิต ท่านชี้ทางรอดในการดำเนินชีวิต ทำให้เราปลอดภัยในสังสารวัฏ ผมจึงรักและศรัทธาในพระเดชพระคุณหลวงปู่อย่างยิ่ง อยากที่จะตอบแทนพระคุณอันยิ่งใหญ่ของท่าน ผมจึงทำแบบเทให้ท่านหมดทั้งหัวใจครับ และรับเป้าทันทีว่าอย่างน้อย..เราต้อง 1 กิโลทองครับ                   
                                         
      หลวงพ่อครับ ก่อนหน้านี้ผมเพิ่งเทกระเป๋าทำบุญกฐินปี’55 ไปหมาดๆ 2 M แบบไม่มีกั๊กหมกเม็ด แต่พอผู้ประสานงานบอกว่า ภาพรวมของกฐินยังไม่บรรลุเป้า ขอให้ผมรับเพิ่มอีก 1 M ผมก็โอเคเพราะมั่นใจว่าจะมีทางมาของทรัพย์ แล้วพอมีบุญสร้างอนุสรณ์สถานเพื่อประดิษฐานหลวงปู่ทองคำ ผมก็รับอีก ทั้งๆ ที่ตอนนั้นปัจจัยยังไม่พร้อม แต่ใจผมพร้อมไปถึงล้านครับ ซึ่งพอตั้งใจรับเป้า ก็เกิดเหตุอัศจรรย์ครับ คือตึกที่ผมเคยบอกขายเอาไว้..ซึ่งเงียบมานานเป็นแรมปี จู่ๆก็มีคนโทรเข้ามาบอกว่าจะขอซื้อ และตกลงตามราคาที่ผมเสนอด้วย ผมก็ให้ทนายไปช่วยดูแลเรื่องกฎหมายการซื้อขาย แต่คนซื้อเกิดอารมณ์อยากจะขอจ่ายเป็นงวด เลยต้องทำสัญญากันยุ่งยากยุ่งเหยิงอีลุงตุงนัง
 
       สุดท้ายการซื้อขายก็ถูกยืดเวลาออกไปเพราะต้องแก้ไขร่างสัญญา ผมเลยต้องเอารายได้จากงานประจำทยอยทำบุญอนุสรณ์สถานทุกเดือน ซึ่งยังไม่ครบ M สักที พอหลวงพ่อชวนหล่อ ผมก็อยากหล่อ เพราะเป็นบุญใหญ่ อย่างที่เกริ่นไว้ตั้งแต่แรกแหละครับว่าผมตั้งเป้าทันทีที่ 1 กิโลทอง แต่ผ่านไป 2 เดือน การขายตึกก็ยังไม่สรุป จนป้าใสให้สติ ว่าให้ลองกลับไปทบทวนดูสิว่าเราทำอะไรผิดหลักวิชชาหรือเปล่า เพราะตึกก็มีอยู่แล้ว คนซื้อก็มีแล้ว แต่ทำไมถึงยังไม่คืบหน้า ป้าใสได้ให้มุมมองว่า “เราเป็นเจ้าของบุญ เรามีบุญ เราต้องทำเอง” ผมก็คิดว่า..เออ..จริง เพราะผมมัวแต่ห่วงเรื่องกฏหมายเลยจ้างทนายความให้ทำแทน พอคิดได้จึงยกโทรศัพท์คุยกับคนซื้อด้วยตัวเองเลยหลวงพ่อเชื่อมั๊ยครับ ไม่ว่าผมพูดยังไงคนซื้อโอเคหมด แล้วก็นัดวัน นัดสถานที่ ใช้เวลาแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น ทุกอย่างจบ ทำให้ผมสามารถปิดงบบุญสร้างอนุสรณ์สถานได้สำเร็จสมปรารถนา 1 M และย้อนหลังปิดกฐินปี’55 M ที่ 3 สำเร็จ พร้อมขยายใจหล่อหลวงปู่ทองคำองค์ที่ 7 จาก 1 กิโลทอง เป็น 5 M ครับ
 
      ซึ่งได้ถวายหลวงพ่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ผมจะไม่หยุดแค่ 5 M นะครับ ผมตั้งใจที่จะเติมไปเรื่อยๆจนกว่าโครงงานของหลวงพ่อจะสำเร็จ เพราะมันเป็นหน้าที่ของลูกพระธัมฯ ตราบใดที่ภารกิจยังไม่บรรลุเป้าหมาย ผมจะไม่มีวันหยุดทำอย่างเด็ดขาดครับ

      เพื่อนๆ กัลยาณมิตรครับ ไม่มีใครมีอะไรติดตัวมาตั้งแต่เกิดนะครับ เราก็มาหาเอาทีหลังกันทั้งนั้น แล้วเราได้มันมาได้ยังไง..ก็ได้มาด้วยบุญ เราต้องให้ความสำคัญกับบุญ ซึ่งบุญหล่อหลวงปู่ทองคำ องค์ที่ 7 เป็นบุญมหาศาล ขอให้ทุกท่านตั้งเป้า ขยายใจ ทำให้ถูกหลักวิชชา ด้วยการทำอารมณ์ให้สบาย ทำสมาธิทุกวัน มีหลวงปู่อยู่ในใจตลอดเวลา และอธิษฐานจิต..ต้องสำเร็จครับ

    ผมขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างสูงครับ ที่เมตตาอดทนพร่ำสอนทำให้ผมได้เข้าใจเป้าหมายชีวิต ให้ผมได้มาสร้างบารมีกับหมู่คณะ แล้วที่หลวงพ่อบอกว่าจะขอปลีกวิเวกไปปฏิบัติธรรม ผมและทุกคนก็รู้สึกดีใจที่หลวงพ่อจะได้ทำในสิ่งที่หลวงพ่อปรารถนา แต่ในขณะเดียวกันพวกเราคงจะคิดถึงหลวงพ่อมากครับ เพราะการได้เห็นหลวงพ่อในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของพวกเราไปแล้ว และผมก็อยากฟังคำสอนจากหลวงพ่ออย่างนี้ตลอดไป แต่พวกเราก็จะตั้งใจปฏิบัติธรรม โดยการคิดถึงหลวงพ่อให้ถูกหลักวิชชา ด้วยการคิดถึงหลวงพ่อเอาไว้ในศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ตลอดพรรษานี้และตลอดไปครับ
 
[[videodmc==45600]]
 
[[videoprogram==mv]]
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/latest_update/20130720-จะไปถึงเป้าต้องทำให้ถูกหลักวิชชา.html
เมื่อ 14 มิถุนายน 2567 06:05
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv