ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2553 ช่วงที่ 5.2
 
 
 
กรณีศึกษากฎแห่งกรรม
Case Study (ตอนพิเศษ)
คุณแม่ของโฮเวิร์ด
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับ
 
        กระผม...โฮเวิร์ด แมคเคอรี่ ลูกพระธัมฯครับ ขณะนี้ผมอยู่ในภาวะที่ยากจะอธิบาย แต่ก็เป็นสิ่งที่ลูกทุกคนต้องเผชิญ ลูกล้วนเคยซบอยู่ตรงอกแม่ แม้เด็กคนนี้จะโตขนาดไหน รักเดียวของแม่ก็ไม่เคยเปลี่ยน พร้อมสายตาที่มีแต่ความหวังดีของมารดา แต่วันนี้ดวงตาทั้งสองที่เคยเฝ้ามองลูกได้ปิดสนิทลงแล้ว แม่หลับไปพร้อมกับสังขารวัย 90ปี
 
        คุณแม่บังเกิดเกล้าของผมชื่อ มิสซิสลูอัลเฟรด ไบรอัน แมคเคอรี่ ท่านเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งแต่น่ารักมาก ทุกคนจึงเรียกท่านว่า ฮันนี่ ซึ่งแปลว่า ที่รัก ตลอดชีวิตของผม ผมเห็นคุณแม่ดูแลคนร่อนเร่ คนยากจน หรืออดอยาก เธอคือผู้ให้และเสียสละมาโดยตลอด นับเป็นเวลาหลายปีที่เธอไม่ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ตัวเองเลย เพื่อให้ลูกๆได้มีเสื้อผ้าดีๆสวมใส่ คุณแม่เป็นชาวคริสต์ที่เคร่งครัด และมุ่งมั่นในการสวดอ้อนวอนพระเจ้ามากครับ ผู้คนจากทั่วโลกมักแวะเวียนมาหาเธอ และขอให้เธอสวดอ้อนวอนพระเจ้าให้
 
        คุณแม่มีอาการเป็นโรคสมองเสื่อมเป็นเวลาสี่ปีมาแล้ว ตั้งแต่ผมย้ายมาอยู่ฮ่องกง เธอพูดได้น้อยลง จนกระทั่งหยุดพูด ในช่วงสุดท้ายของชีวิต คุณแม่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในนครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ดวงตาทั้งสองลืมไม่ขึ้นแต่หูสามารถฟังเสียงได้ หายใจค่อนข้างลำบาก จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และยังมีอาการน้ำท่วมปอด ชีพจรเต้นอ่อน ไม่สามารถรับประทานอาหารอะไรได้เลย
 
        ลูกชายเจ็ดคนและลูกสาวสองคน ได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาและพักอยู่กับคุณแม่ รวมทั้งผมและไอวี่ก็เดินทางมาเยี่ยมด้วย เพื่อทำหน้าที่แนะนำให้คุณแม่ได้รู้จักกับอาณาจักรพระเจ้าที่อยู่ภายในตัว โดยให้นำใจมาวางไว้ที่กลางกาย และนึกถึงดวงตะวันภายใน และให้คุณแม่จำคำสำคัญไว้ คือ คำว่า สาธุ พร้อมกันนี้ผมได้ส่งปัจจัยมาเมืองไทยเพื่อทำบุญอุทิศให้คุณแม่ อาทิ ถวายภัตตาหารพระแสนรูป บูชามหาธรรมกายเจดีย์ และปล่อยปลา
 
        ก่อนที่ท่านจะสิ้นลมหายใจ คุณแม่ได้ลืมตาทั้งสองข้างขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย และจ้องมองมาที่นัยน์ตาของผม โดยพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะพูดกับผม แต่ก็เป็นเพียงการพึมพำออกมาเท่านั้น ซึ่งไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ เธอพยายามทำอย่างนี้อยู่ถึงสิบนาที...จึงสิ้นใจ หลวงพ่อครับ...ความตายไม่มีนิมิตหมายจริงๆ คุณแม่ละโลกอย่างสงบ
 
        ในขณะที่ผมและทุกคนเริ่มทำใจ แต่ด้วยความรักและความกตัญญูที่มีอยู่อย่างท่วมท้นดวงใจ ทำให้ผมอยากรู้เรื่องของคุณแม่อีกสักครั้ง แม้ในปรโลก ซึ่งไม่มีทางอื่นใดนอกจาก...ด้วยความเมตตาจากหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ที่ผมรักที่สุดในโลก ผมจึงเขียนจดหมายมากราบเรียนหลวงพ่อในวันนี้ครับ
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
คำถาม
1.ก่อนเสียชีวิตคุณแม่ของผมสามารถได้ยินและเข้าใจความหมายของคำว่า สาธุ หรือเปล่าครับ
 
คำตอบ
        ในตอนที่ท่านใกล้จะเสียชีวิต ท่านก็พอจะได้ยินเสียงอยู่บ้าง เพียงแต่ท่านไม่สามารถเข้าใจในความหมายของคำว่า สาธุ ที่ตัวลูกพยายามจะบอกให้ท่านเข้าใจ ที่เป็นแบบนี้ ก็เป็นเพราะว่าสังขารของท่านในขณะนั้น ค่อนข้างทรุดโทรมมาก ที่ทำให้ประสามสัมผัสในการรับรู้ของท่านไม่เต็มร้อยเหมือนกับช่วงที่ท่านยังแข็งแรง และเป็นช่วงวาระสุดท้ายของชีวิตด้วย อีกทั้งท่านเป็นคนที่มีความเชื่อแบบเทวนิยมอย่างเคร่งครัด ดังนั้น ท่านจึงไม่รู้ความหมายของคำว่า สาธุ ที่ลูกพยายามจะบอกกับท่าน
 
 
คำถาม
2.ในขณะที่ผมพยายามแนะนำให้เธอเข้าใจเรื่องบุญ คุณแม่ได้พึมพำอะไรออกมาก่อนที่จะสิ้นใจครับ
 
คำตอบ
        คำที่คุณแม่ได้พึมพำออกมาก่อนที่ท่านจะสิ้นใจนั้น มีใจความประมาณว่า ท่านรักลูกของท่านมาก และในขณะที่ท่านกำลังพึมพำอยู่นั้น ท่านได้เห็นแสงสว่างคล้ายสปอตไลท์ส่องมาที่ท่าน(คือ จิตท่านเป็นกุศล สงเคราะห์โลก จิตใจงาม)ท่านจึงพูดออกไปตามความเข้าใจของท่าน เพื่อจะบอกให้ลูกทุกคนได้ทราบว่า โอ...พระเจ้ากำลังมารับท่านแล้ว ท่านกำลังจะได้ไปอยู่กับพระเจ้าแล้ว
 
 
คำถาม
3.ตอนนี้คุณแม่อยู่ที่ไหนครับ ท่านได้ไปสวรรค์พบกับพระเจ้าตามความเชื่อหรือไม่
 
คำตอบ
        หลังจากที่คุณแม่ของลูกเสียชีวิตไปแล้ว ท่านไม่ได้ไปเกิดบนสวรรค์กับพระเจ้าตามความเชื่อของท่านแต่อย่างใด แต่ท่านได้ไปเกิดเป็นภุมมเทวาระดับสูง ด้วยบุญที่ท่านสงเคราะห์โลก โดยมีอาการเหมือนหลับแล้วตื่นขึ้นอยู่กลางวิมานของท่าน
 
 
        สวรรค์ นรก นั้นเป็นของกลาง แล้วแต่ว่าใครทำถูกหลักวิชชาของกฎแห่งการกระทำหรือไม่ ถ้าสั่งสมบุญ นึกถึงความดีนึกถึงบุญได้ ก็ใจใส ใจใสก็ไปสู่สุคติภูมิ ถ้าทำสิ่งไม่ดี คตินิมิตมืด ใจหมองก็ไปอบาย 
 
        สำหรับวิมานที่ท่านอยู่ในขณะนี้ ตั้งอยู่ในแนวป่าที่เป็นหมู่บ้านของผู้ที่มีความเชื่อในแบบเดียวกันกับท่าน คือ แบบเทวนิยม วิมานของท่านจะมีรูปร่างลักษณะคล้ายกับบ้านที่อยู่บนโลกมนุษย์ แต่มีขนาดที่ใหญ่กว่ามาก และใหญ่โตกว่าวิมานของภุมมเทวาทั่วไปอีกด้วย เพราะท่านเป็นภุมมเทวาระดับสูง
 
        ซึ่งในขณะนี้ คุณแม่ของลูกกำลังเข้าใจว่า ณ ตอนนี้ ท่านเป็นภุมมเทวาที่ทั้งสาวขึ้นสวยขึ้น ตัวท่านกำลังรอเวลาเพื่อจะไปพบกับพระเจ้าของท่านอยู่(ความเชื่อนี้ยังติดอยู่ที่กายละเอียด แม้ท่านเป็นภุมมเทวาระดับสูง)ซึ่งก็เป็นความเชื่อเช่นเดียวกับภุมมเทวาที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน และอยู่ก่อนหน้าท่านมาเนิ่นนานแล้ว
 
 
คำถาม
4.คุณแม่ได้ฝากข้อความอะไรถึงพวกเราบ้าง และท่านได้รับบุญที่ผมทำให้ท่าน หรือไม่ครับ
 
คำตอบ
        ด้วยความที่คุณแม่ของลูกกำลังตื่นตาตื่นใจในทิพยสมบัติของท่าน และตื่นตัวว่าท่านสาวขึ้น ตื่นในสิ่งแวดล้อมใหม่ๆอยู่ ในขณะนี้กำลังศึกษาเรียนรู้สังคมใหม่ จึงทำให้ตอนช่วงนี้ท่านยังไม่มีข้อความใดๆฝากมาถึงลูกๆของท่าน แต่ภายในใจของท่านก็ยังรักและผูกพันในลูกของท่านทุกคนอยู่ และทุกครั้งที่ตัวลูกได้ทำบุญและอุทิศบุญส่งไปให้ท่าน ท่านก็จะได้รับบุญในทุกๆครั้ง เมื่อท่านได้รับบุญแล้ว ภายในใจของท่านก็จะสว่างไสว ก็จะทำให้กายของท่านมีรัศมีกาย มีความผ่องใส สว่างมากขึ้นกว่าเดิม สวยกว่าเดิม สาวกว่าเดิม
 
        ด้วยความที่ตัวลูกทำบุญและอุทิศบุญส่งไปให้ท่านบ่อยๆ จึงได้ทำให้ภาพของลูกโฮเวิร์ด ได้ไปปรากฏอยู่ภายในใจของท่าน ชัดเจนมากกว่าลูกๆอีกหลายคนของท่าน
 
 
คำถาม
5.เพราะเหตุใด คุณพ่อคุณแม่ของผมจึงมีอายุยืนครับ
 
คำตอบ
        สาเหตุที่คุณพ่อคุณแม่ของลูกอายุยืน เป็นเพราะบุญที่ท่านทั้งสองเคยกระทำไว้ ในอดีตชาติ หลายๆชาติที่ผ่านมา ซึ่งในชาตินั้น ท่านทั้งสองไม่ได้เป็นสามีภรรยากัน และไม่ได้เป็นญาติกัน ต่างคนต่างอยู่กันคนละพื้นที่ อีกทั้งไม่รู้จักกันด้วย ท่านทั้งสองได้สร้างบุญอยู่นอกบุญเขตของพระพุทธศาสนา เรื่องมีอยู่ว่า...
 
        ท่านทั้งสองต่างเกิดในครอบครัวคฤหบดีที่มีฐานะมั่งคั่ง ซึ่งในชาตินั้น ท่านทั้งสองเป็นคนที่มีเมตตา ท่านจะชอบช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก ชอบบริจาคอาหาร ยารักษาโรค ให้กับคนยากคนจนและคนที่ด้อยโอกาสอยู่เสมอๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็คือการสงเคราะห์โลกนั่นเอง
 
 
        ด้วยบุญสงเคราะห์โลกนี้ เมื่อได้ช่องส่งผล จึงทำให้ทั้งคุณพ่อคุณแม่ของลูก มีอายุขัยที่ยืนยาวในภพชาติปัจจุบัน(บุญแบบนี้ในหลายๆชาติมารวมส่งผล)
 
คำถาม
6.เพราะเหตุใด คุณพ่อคุณแม่ของผมจึงต้องไปเกิดในสถานที่ที่ต่างความเชื่อครับ
 
คำตอบ
        สาเหตุที่ทำให้ท่านต้องไปเกิด และมีความเชื่อ ที่อยู่นอกบุญเขตของพระพุทธศาสนา เป็นเพราะว่าในหลายๆชาติก่อน ท่านก็เคยเกิดอยู่ในครอบครัวที่นับถือพระพุทธศาสนา แต่ไม่ได้ศึกษาคำสอน ให้ได้เข้าใจในหลักธรรมอย่างแท้จริง จึงเป็นเพียงชาวพุทธแต่ในนามเท่านั้น อีกทั้งในเวลาที่ท่านประสบปัญหาชีวิต ท่านก็มักไปแสวงหาที่พึ่งที่ไม่ใช่พระรัตนตรัย ตามคำแนะนำและคำชักชวนของเพื่อนที่มีความเชื่ออื่นก็มี และที่เป็นชาวพุทธแต่เพียงในนามก็มี จนในที่สุดท่านก็ค่อยๆออกห่างจากพระพุทธศาสนา
 
        ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ภพชาติต่อๆมา ท่านทั้งสองจึงได้ไปเกิดในครอบครัวที่มีความเชื่อแบบเทวนิยม ทำให้ไม่ได้พบพระพุทธศาสนาอีกเลย นับแต่นั้นเป็นต้นมา
 
 
คำถาม
7.ผมเคยมีความสัมพันธ์ในอดีตชาติกับคุณแม่อย่างไรครับ
 
คำตอบ
        ชีวิตในสังสารวัฏอันยาวนานนั้น ทุกๆชีวิตต่างก็เวียนว่ายตายเกิด ไม่เคยมีใครที่ไม่เคยเกิดเป็นญาติกันมาก่อน บ้างก็เคยเกิดเป็นพ่อแม่ลูกกันบ้าง เกิดเป็นสามีภรรยากันบ้าง เกิดเป็นพี่เป็นน้องกันบ้าง เกิดเป็นญาติกันบ้าง เกิดเป็นเพื่อนกันบ้าง เคยเกิดเป็นศัตรูหรือคู่อริกันบ้าง เป็นต้น ซึ่งในแต่ละชีวิต ต่างก็ต้องเวียนว่ายตายเกิด สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปเช่นนี้อยู่เรื่อยๆ
 
        ส่วนตัวลูกกับคุณพ่อคุณแม่ของลูกในชาตินี้ก็เช่นเดียวกัน ต่างคนต่างก็เคยเกิดมาเจอกันหลายครั้งหลายหนแล้ว อย่างชาติในอดีตช่วงใกล้ๆนี้ เรื่องมีอยู่ว่า...
 
        เมื่อหลายๆพุทธันดรก่อน ตัวลูกเองเคยเกิดเป็นลูกชายของคุณแม่(คนปัจจุบัน)เหมือนอย่างเช่นในชาตินี้ แต่เพราะความขัดแย้งกระทบกระทั่งกัน เป็นเหตุให้น้อยใจในหมู่คณะ(ซึ่งครูไม่ใหญ่เคยเล่ารายละเอียดให้ลูกฟังเมื่อคราวก่อนแล้ว)จึงมีผลทำให้ลูกต้องพลัดจากหมู่คณะ และหันไปนับถือลัทธิความเชื่ออื่นอยู่ระยะหนึ่ง
 
 
        และด้วยวิบากกรรมในครั้งนั้น จึงกลายเป็นผังที่ทำให้ลูกต้องไปเกิดอยู่นอกบุญเขตพระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย และยังดึงดูดให้ไปเกิดอยู่ในครอบครัวที่มีความเชื่อแบบเทวนิยมอย่างในภพชาติปัจจุบัน
 
คำถาม
8.ผมเคยมีความสัมพันธ์ในอดีตชาติกับคุณพ่ออย่างไรบ้างครับ
 
คำตอบ
        คุณพ่อในชาติปัจจุบัน เมื่อพุทธันดรที่ผ่านมา ท่านได้เกิดเป็นน้องชายของคุณแม่ ซึ่งท่านก็รักและเอ็นดูลูก ท่านจะคอยสนับสนุนดูแล และคอยช่วยเหลือเกื้อกูลตัวลูกเสมอๆ ซึ่งลูกก็รักและเคารพท่านมาก
 
 
        พอมาเกิดในชาตินี้ ด้วยบุพกรรมที่เคยเกื้อกูลกันมาในอดีตชาติ จึงดึงดูดให้มาเกิดเป็นครอบครัวเดียวกันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในบางชาติ ลูกก็เคยเกิดเป็นน้องชายของคุณพ่อ โดยที่ไม่ได้เจอกับคุณแม่ก็มี บางชาติ ท่านทั้งสองได้เกิดมาพบกันและแต่งานเป็นสามีภรรยากัน แต่ไม่เจอตัวลูกก็มี
 
คำถาม
9.เมื่อผมกลับมาฮ่องกงแล้ว คืนหนึ่ง...ในฝันนั้น ผมรู้สึกกระวนกระวายใจ และคุณแม่ได้มาปลอบประโลมด้วยการร้องเพลงระฆังหรรษาให้ผมฟัง พอตื่นขึ้นมาผมสามารถจำเนื้อเพลงและทำนองได้ ดังนั้น ผมจึงทำเพลงนี้ขึ้น เพลงจอยเบล คุณแม่มาเข้าฝันและมอบเพลงนี้ให้ผมหรือเปล่าครับ
 
คำตอบ
        สิ่งที่ลูกฝันไปในคืนนั้น เป็นคุณแม่ของลูกจริงๆ ที่ท่านมาพบลูกในความฝัน เพราะลูกได้ทำบุญและอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่านอยู่เสมอ อย่างถูกหลักวิชชา ทำให้ในใจของท่านมีภาพของลูกโฮเวิร์ด ปรากฏขึ้นอยู่เสมอๆ
 
        ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ท่านคิดถึงลูกคนนี้มาก ได้มาหาลูกที่ฮ่องกง ท่านได้เห็นลูกชายของท่านไม่สบายใจ ด้วยความรักและห่วงใยที่มีในตัวลูก เพราะว่าท่านเพิ่งเสียชีวิตไม่นาน ยังมีความรักและผูกพันกันอยู่ ท่านจึงปลอบใจลูก แต่สื่อสารกับกายหยาบของลูกไม่ได้ ก็สื่อสารกับกายละเอียด โดยร้องเพลงให้กายละเอียดของลูกฟัง ที่ร้องเพลง เพราะเป็นสิ่งที่ลูกคุ้นเคย และเข้ากับจิตใจของตัวลูกได้ง่าย เพลงที่ท่านร้องนี้เป็นดั่งของขวัญและกำลังใจที่ท่านมีให้กับลูกโฮเวิร์ด เพื่อให้ลูกชายสุดที่รักของท่านสบายใจขึ้น
 
 
        เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด หรือเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ใดก็ตาม ถ้าอยากจะทำบุญให้ไปถึงกับบิดามารดาที่ละโลกไปแล้ว จงทำให้ถูกหลักวิชชา คือ ทำในแหล่งแห่งเนื้อนาบุญ อย่างที่ลูกโฮเวิร์ดทำให้กับคุณแม่ของเขา ก็จะถึง ถ้าอยู่ในภูมิที่รับได้ เช่น อยู่ในภูมิของภุมมเทวาที่มีความเชื่อเดียวกัน...อย่างนี้ เป็นต้น 
 
        ดังนั้น ทุกๆครั้งที่ลูกโฮเวิร์ดทำบุญ ให้อุทิศบุญไปให้คุณแม่บ่อยๆ และให้ทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการทดแทนบุญคุณของท่านที่ท่านได้ให้กำเนิดเรา ให้เราได้มาสร้างบารมี และอีกทั้งตอนนี้ท่านยังมีความรักและห่วงใยตัวลูก แม้ว่าท่านกับลูกจะอยู่กันคนละภพแล้วก็ตาม บุญที่ลูกส่งไปให้ก็จะทำให้ท่านมีสภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิมในทุกๆด้าน วิมานใหญ่โตโอฬารขึ้น อาหารทิพย์ก็มากมาย บริวารก็เพิ่มขึ้น และสาวเพิ่มขึ้น และจะรักลูกโฮเวิร์ดเพิ่มขึ้นด้วย
 
 
 
ชม Video Scoop "คุณแม่ของผม" โดย โฮเวิร์ด แมคเคอรี่
 


มีปัญหาการรับชมวิดีโอ กรุณากดที่นี่ เพื่อใช้เครื่องเล่นแบบเก่า window media player

บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/latest_update/20100320_5CAS2_LEFT.html
เมื่อ 17 พฤษภาคม 2567 16:51
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv