ชีวิตของ ดร.เค คือ เด็กสลัมที่รักบุญ รักการศึกษา ฟันฝ่าอุปสรรค และตามหาฝัน แต่ชีวิตของผม...ดิฐพงศ์ เรือง ฤทธิเดช คือ คนที่ต้องผลักดันให้ความฝันของบรรพบุรุษเป็นจริงครับ แม้ว่าชื่อของผมอาจจะไม่ดังเท่ากับดร.เค แต่ผมมั่นใจว่า ทุกคนต้องร้องอ๋อ...ถ้าผมจะบอกว่า ผม คือ ผู้สืบทอดกิจการ “ชาตรามือ”_จากเตี่ยของผมเองครับ ผมเห็นบรรพบุรุษขายชาตรามือ มาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ตอนนั้นขายดีมากจนคนรู้จักไปทั่วประเทศ ความนิยมก็ไม่แพ้กาแฟเนเจอร์กิฟสมัยนี้เลยครับ แต่พอหลังจากนั้น ธุรกิจของเรา...ยอดขายก็กลับลดลง และต้องล้มลุกคลุกคลานมาตลอด
ผมเคยมาวัดตั้งแต่ปี พ.ศ.2528
_เพราะผมได้ฟังเทปมงคลชีวิต 38
-ประการของหลวงพ่อทัตตชีโว พอฟังจบ ผมก็ขับรถตามหาวัดพระธรรมกาย และได้มาทำบุญที่วัดทันที แต่หลังจากนั้น ผมก็ไม่ได้มาวัดอีกเลย เพราะต้องขับรถเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ-เชียงใหม่-เชียงราย เพื่อทำธุรกิจตลอด ผมต้องขับรถสิบชั่วโมง ก็ฟังเทปมงคลชีวิตสิบชั่วโมงเลยครับ ผมชอบฟังหลวงพ่อทัตตชีโวเทศน์มากที่สุดเลยครับ เพราะท่านเทศน์ทั้งยาว ทั้งสนุก ฟังเพลงยังไม่สนุกเท่ากับฟังธรรมะของคุณครูไม่เล็กเลยครับ ตั้งแต่ฟังมงคลชีวิต 38
-ประการ ผมก็เอาหลักธรรมนี้ มาใช้กับชีวิตครอบครัวและการทำธุรกิจตลอดเลยครับ
กัลยาณมิตรดิฐพงศ์ เรืองฤทธิเดช
เจ้าของบริษัทใบชาสยาม ผู้ผลิตชาตรามือ
พอปี พ.ศ.2540_ผมก็ได้เข้ามาดูแลกิจการอย่างเต็มตัว ผมอาศัยความมีวิสัยทัศน์แบบคนยุคใหม่ ตั้งใจพัฒนางาน และอธิษฐานขอให้ชาตรามือในยุคของผมขายดีไปทั่วโลก ผมก็คิดวางแผนเลยว่า เราต้องมีบุญควบคู่กับการทำงาน ผมจึงใช้หลักการว่า ต้องมีบุญทับทวี เอาบุญมาช่วย ผมก็เริ่มเก็บเงินส่วนตัวทำบุญกับวัดทั่วๆไปทุกปี ปีแรกผมเริ่มทำบุญได้ 2,000-บาทครับ หลังจากนั้นก็ทับทวีเป็น 4,000-บาท และ 8,000-บาท ตามลำดับ ผมถือคติว่า...ถ้าผมทำบุญทับทวีได้ ก็หมายถึงผมเจริญขึ้น แต่ทุกปีที่ผมทำบุญเกินเป้า ผมก็จะได้เงินเพิ่มมาเกินเป้าเช่นกันครับ
พอปี พ.ศ.2547
_ลูกชายของผมอายุ 15
-ปี ผมก็คิดอยากให้ลูกบวชสามเณร ลูกชายก็ตกลงจะบวชให้ แต่มีข้อแม้ว่าผมต้องซื้อกลองชุดเล่นดนตรีให้ ผมก็ตกลงทันที แต่พอภรรยาถามว่าจะบวชวัดไหน ผมก็บอกทันทีเลยครับว่า “ต้องเป็นวัดพระธรรมกาย”
_พอได้กลับมาวัดอีกครั้ง ผมก็ประทับใจมาก ที่ได้เห็นการทำงานทุกโครงการของวัด หลวงพ่อครับ...นโยบายที่จะเผยแผ่ธรรมะ และพระพุทธศาสนาไปทั่วโลกของหลวงพ่อโดนใจผมจริงๆครับ ปีนี้ลูกชายของผมเรียนจบปริญญาตรีแล้ว ผมจึงบอกลูกว่า “ให้บวชก่อนแล้วค่อยทำงาน จะรับช่วงจากเตี่ยได้ ก็ต้องมีบุญ ถ้าอยากมีบุญ ก็ต้องบวช”
_ลูกชายคนเดียวของผมจึงได้มาบวชพระแสนรูปรุ่นเข้าพรรษาด้วยครับ
พระสิทธิพร มนารกฺโข ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของครอบครัว
ตั้งแต่ลูกชายได้มาบวชสามเณร ผม และ ครอบครัว ก็มาวัดอย่างสม่ำเสมอ และได้มาทำบุญแบบทับทวีตามแบบฉบับของผมเหมือนเดิมครับ ทำทุกบุญ ทำทุกปีสม่ำเสมอ ยิ่งทำยิ่งปลื้ม ผมมีความสุขและเบิกบานมาก ที่ผมสามารถทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ทุกปี แล้วก็มีเรื่องอัศจรรย์ให้ได้เห็นทุกปี คือ ไม่ว่าจะทำบุญไปมากแค่ไหน ธุรกิจชาตรามือในยุคของผมก็ยิ่งเจริญรุ่งเรือง มีกำไรเข้ามาเพิ่มขึ้นทับทวีเช่นกันครับ
ปี พ.ศ.2552
_เป้าทำบุญทับทวีของผมก็มาถึงยอดเงิน 5
-M
_ครับ พอหลวงพ่อบอกข่าวบุญกฐิน 100
-ปีคุณยายอาจารย์ ผมก็ตกลงใจทันทีว่าจะทำหนึ่งแผ่นทอง แต่พอหลวงพ่อบอกทางดีเอ็มซีว่า ต้องการฟื้นฟูศีลธรรมโลก ด้วยการจัดงานบวชพระล้านรูป และบวชอุบาสิกาแก้วล้านคน ผมก็ตัดสินใจเอาเงินทุนที่เตรียมไว้เพื่อขยายกิจการชาตรามือ มาทำบุญกฐินคุณยายอาจารย์ก่อนทันที 10
-M
_ครับ หลวงพ่อครับผมปลื้มมากเลยครับ เพราะผมได้ปรึกษากับภรรยาคู่บุญแล้ว
เรามีความเห็นตรงกันว่า การขยายโรงงานของผมชะลอได้ แต่งานพระพุทธศาสนาชะลอไม่ได้ครับ
บริษัทใบชาสยาม ผู้ผลิตชาตรามือ แม้ยอดขายจะพุ่งพรวด
แต่ขอชะลอขยายโรงงาน เอาเงินมาขยายงานพระพุทธศาสนาก่อน
แล้วก็เกิดเหตุอัศจรรย์ที่ผมต้องอมยิ้มทั้งปี เพราะหนึ่งปีที่ผ่านมา ยอดขายชาของผมเพิ่มขึ้นแบบพุ่งพรวดเลยครับ ความนิยมชาตรามือพุ่งแรงถึงขนาดที่ว่า มีประเทศที่เขามีชาขั้นเทพของเขาอยู่แล้ว ไม่ยอมนำเข้าชาจากประเทศอื่นเลย กลับติดต่อมาขอซื้อชาตรามือของผมล็อตใหญ่ แถมระบุมาเลยว่า ต้องการชาที่ทวดเรียกเทพ แบบชาตรามือของผมเท่านั้นครับ
“ชาตรามือ” ต้นตำรับชาไทย เข้มข้น หอมอร่อย
พอปีนี้ หลวงพ่อบอกว่า เป็นกฐิน 101-ปีคุณยายอาจารย์ และต้องการกองทุนเพื่อเผยแผ่วิชชาธรรมกายไปทั่วโลก ผมจึงไปปรึกษากับภรรยาคู่บุญ และลูกๆของผม เราก็ตกลงใจทันทีทำบุญกฐินอีก 10-M_ครับ และยิ่งได้ทราบว่าหลวงพ่อจะมอบพระของขวัญรุ่นพิเศษสุดๆ ทำจากรัตนชาติที่คุณยายอาจารย์ซ้อนวิชชาธรรมกาย มาพร้อมกับดวงแก้วชุดสุดท้ายของท่าน ผมและภรรยาก็ยิ่งดีใจและเบิกบานสุดขีดเลยครับ เพราะขนาดดวงแก้วของคุณยายอาจารย์ยังศักดิ์สิทธิ์จนมีคนได้เจออานุภาพมากมายไปทั่วโลก แล้วผมจะได้รับพระของขวัญมาทั้งองค์แบบนี้ จะศักดิ์สิทธิ์ขนาดไหน ผมตั้งใจว่าจะเอาไว้เป็นพระประจำตระกูลชั่วลูกชั่วหลานเลยครับ
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
ดิฐพงศ์ เรือง ฤทธิเดช