ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2554

กว่าจะคิดได้...ก็สายไปแล้ว

 
 
 
พลิกชีวิตด้วยการบวช...กว่าจะคิดได้...ก็สายไปแล้ว
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูง
 
        กระผม พระพีรพงศ์ ปญฺญาธิโก อายุ 24-ปี เป็นคนจังหวัดนครปฐม อดีตพนักงานหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง อนาคตไกล ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งครับ ชีวิตของกระผมตั้งแต่เด็กจนโต พ่อกับแม่จะสอนให้กระผมรู้จักการทำบุญตั้งแต่เด็กครับ อีกทั้งท่านมักจะพูดกรอกหูกระผมตลอดเวลาว่า “ถ้าลูกโตแล้ว บวชให้พ่อนะลูก พ่อรอลูกบวชอยู่นะ”-ซึ่งกระผมคิดว่า หลายคนก็คงจะคิดเหมือนกระผมว่า สิ่งนี้มันเหมือนเป็นสัญญาใจลึกๆที่ทำให้กระผมคิดว่าถ้าโตขึ้น กระผมจะต้องบวชเป็นพระให้พ่ออย่างแน่นอน
 
พระพีรพงศ์ ปญฺญาธิโก
 
พระพีรพงศ์ ปญฺญาธิโก
 
        แต่พอเอาเข้าจริงๆ พอกระผมเรียนจบแล้ว กระผมก็เลือกที่จะไปทำงานก่อน และคิดว่าค่อยบวชตอนเข้าพรรษาปีหน้าก็แล้วกัน ยังมีเวลาอีกเยอะ พ่อกับแม่ก็ยังไม่ได้แก่มาก ยังแข็งแรงอยู่เลย ตอนนั้นกระผมสนุกกับการทำงานมาก ยิ่งทำงานก็ยิ่งได้เงิน พอได้เงิน กระผมก็เริ่มเที่ยวครับ เงินเดือนได้มาเท่าไรก็เอาไปเที่ยว เอาไปซื้อของเรื่อยเปื่อย วันๆก็คิดแต่ว่าจะแต่งตัวอย่างไรให้หล่อๆ ทำตัวอย่างไรให้เท่ๆ จะได้มีสาวๆมาสนใจเยอะๆ ก็แค่นั้นเองครับ กระผมใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไร้สาระไปวันๆครับ
 
        และแล้ววันหนึ่ง เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน ก็บังเกิดขึ้นกับชีวิตกระผม ซึ่งกระผมไม่คิดเลยว่า จะมีเหตุการณ์นี้มาเกิดขึ้นกับชีวิตของกระผมได้ คือ อยู่ๆก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหวในตอนตีสอง ซึ่งทำให้กระผมสะดุ้งตกใจตื่นและรีบคว้าโทรศัพท์นั้นขึ้นมา ปรากฏว่าเป็นสายของแม่ กระผมก็รีบรับทันที ซึ่งขณะที่กระผมกำลังสะลึมสะลืออยู่นั้น แม่ก็พูดประโยคหนึ่งขึ้นมาว่า “พ่อเสียแล้ว”-ตอนนั้น กระผมแทบช็อค ทำใจไม่ได้ เหมือนโลกมันหยุดหมุนไปเลย กระผมตัวชาไปหมด เพราะล่าสุดกระผมเห็นคุณพ่อยังแข็งแรงอยู่เลย ท่านยังปีนกำแพงเก็บดอกมะลิมาบูชาพระได้ทุกวัน และกระผมยังคิดตลอดเวลาด้วยว่า พ่อยังแข็งแรงยังอยู่กับกระผมได้อีกนาน แต่แล้วอยู่ดีๆทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้
 
        คืนนั้น กระผมจึงรีบไปทำเรื่องลางานและกลับบ้านทันที หลังจากที่กระผมจัดงานศพของพ่อทุกอย่างจนเสร็จ ตอนนั้นกระผมสับสนมากครับ คิดว่าจะเอาอย่างไรต่อไปดี เพราะตอนนี้เสาหลักของครอบครัวหายไปแล้ว คิดไปคิดมาสักพัก ก็คิดได้ว่า กระผมเองยังไม่เคยทำอะไรเพื่อพ่อเลย ที่เป็นการตอบแทนพระคุณท่าน กระผมมานึกทบทวนเรื่องราวต่างๆของพ่อตลอดเวลาที่ท่านยังอยู่กับกระผม นึกไปนึกมา จนกระผมคิดได้ว่า มีสิ่งหนึ่งที่พ่อขอกระผมมาตลอดชีวิต คือ ให้กระผมบวช แต่กระผมเองยังไม่ได้ทำให้ท่านเลย เพราะตอนนั้นกระผมคิดว่าเดี๋ยวค่อยบวชก็ได้ ยังมีเวลาอีกเยอะ และมัวแต่ไปเที่ยว ทำตัวไร้สาระ พ่อขอให้บวชแล้วบวชอีก กระผมก็ยังมัวแต่ผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ แต่ตอนนี้กระผมคิดได้มันก็สายไปแล้วครับ
 
        กระผมจำได้ขึ้นใจกับคำที่พ่อบอกว่า “บวชให้พ่อนะลูก พ่อรออยู่นะ”-คำนี้พอกระผมนึกขึ้นมาทีไร น้ำตากระผมก็ซึมเลยครับ เพราะตอนนี้พ่อไม่อยู่แล้ว พอคิดได้แบบนี้กระผมจึงตัดสินใจไปลางานเพื่อมาบวชให้พ่อ และตั้งใจไว้ว่าจะบวชสักหนึ่งพรรษาให้ท่าน เหมือนกับที่ได้สัญญากับท่านไว้ตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ครับ กระผมได้ไปทำเรื่องลาบวชที่ทำงาน และระหว่างนั้นก็มีพี่คนหนึ่งบอกว่า “ทางวัดพระธรรมกายมีโครงการบวชพระรุ่นเข้าพรรษา ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย”-กระผมจึงรีบตัดสินใจไปสมัครบวชตอนนั้น ทันทีเลยครับ
 
        การบวชในครั้งนี้ของกระผม กระผมตั้งใจบวชมากๆ เพราะอยากเอาบุญนี้ให้กับคุณพ่อ วันที่กระผมบวช ตอนนั้นกระผมคิดว่า ถ้าพ่อยังมีชีวิตอยู่ ท่านคงจะดีใจมากที่ได้เห็นลูกชายแท้ๆคนนี้ของท่านบวช สิ่งนี้คงเป็นสิ่งที่มีค่าและภาคภูมิใจมากที่สุดในชีวิตของความเป็นพ่อ ที่ลูกได้ทำให้ แต่กระผมก็ไม่สามารถที่จะทำวันนั้นให้พ่อได้อีกแล้ว และในวันบวช ตอนที่กระผมกราบขอขมาแม่ กระผมก็นึกถึงภาพพ่อในใจอย่างสนิทติดแน่นกลางหัวใจ และนึกอยากจะย้อนเวลา ให้กลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อนตอนที่พ่อยังมีชีวิตอยู่ วันนี้คงจะเป็นวันที่พ่อยิ้มและมีความสุขมาก พอคิดแบบนี้ น้ำตามันจึงไหลออกมาขณะก้มกราบแม่เลยครับ
 
        แต่ในเมื่อมันย้อนเวลากลับไปไม่ได้อีกแล้ว  ณ วันนี้ กระผมไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับใครอีก และกระผมขอฝากเป็นข้อคิดให้กับลูกชายทุกคนที่อยู่บนโลกใบนี้ว่า โอกาสมาถึงท่านแล้ว อย่ามัวรอหรือคิดว่าค่อยทำวันหลังก็ได้ อย่าคิดแบบนั้น เพราะบางครั้งมันก็อาจจะสายเกินไป ไม่มีคำว่าพรุ่งนี้อีกแล้วก็ได้นะครับ เราในฐานะที่เป็นลูกชายควรทำตัวให้พ่อได้ภาคภูมิใจให้ได้สักครั้งในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
 
พระพีรพงศ์ ปญฺญาธิโก
 
พระพีรพงศ์ ปญฺญาธิโก
 
        หลวงพ่อครับ...พอกระผมได้เข้ามาบวชจริงๆแล้ว การบวชในครั้งนี้ ทำให้กระผมได้เรียนรู้อะไรที่มากกว่าที่กระผมคิดเอาไว้อย่างมากมาย ทั้งๆที่กระผมก็ได้ศึกษาพระพุทธศาสนามาบ้าง แต่พอเข้ามาจริงๆแล้ว ไม่คิดว่าพระพุทธศาสนาจะมีคุณค่าต่อชีวิตมนุษย์ได้มากถึงขนาดนี้ ทางโครงการ นอกจากจะฝึกให้เราเป็นพระแท้แล้ว ยังสอนให้เรารู้ถึงเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต ซึ่งกระผมคิดว่าเราไม่สามารถที่จะไปนั่งเรียนหรือหาได้จากที่ไหนอีกแล้ว และที่สำคัญพอกระผมได้มาดูภัยของพระพุทธศาสนา กระผมยิ่งตกใจมาก แทบไม่น่าเชื่อว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นแล้วจริงๆบนแผ่นดินไทยของเรา เพราะเมื่อก่อนกระผมไม่รู้ มัวแต่รักสนุก เอาแต่เที่ยว ทำอะไรเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้ว่าภัยกำลังมาถึงตัว กระผมเห็นคุณค่าของสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวน้อยเกินไป หลังจากดูเสร็จ กระผมได้คำตอบให้กับชีวิตของตัวเองเลยครับว่า เรามีภารกิจอันสำคัญที่ต้องทำแล้ว กระผมจึงรีบไปเขียนใบปวารณาขอบวชต่อทันทีเลยครับ และตั้งใจว่ากระผมจะขอเอาชีวิตตัวเองเป็นเดิมพันในการปกป้องพระพุทธศาสนา และขอบวชเป็นพระแท้เพื่อพ่อครับ
 
        สุดท้ายนี้ กระผมก็อยากจะฝากบอกชายแมนแมนทุกคนว่า มาบวชกันเถอะครับ มาบวชให้กับพ่อแม่ของเรา ในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ อย่าเป็นเหมือนกระผมที่มาคิดได้มันก็สายเกินไปแล้ว พ่อแม่...ท่านทำอะไรเพื่อเรามาตลอดชีวิต แล้วเราจะมาบวชตอบแทนบุญคุณท่าน บวชเอาบุญให้ท่านสักพรรษาไม่ได้เชียวหรือ อย่ามัวแต่คิดว่า วันหลังก็ได้ ปีหน้าก็ได้ หรือเดี๋ยวค่อยบวชก็ได้ อย่าคิดแบบนี้นะครับ เพราะกระผมก็เคยคิดแบบนี้มาแล้ว แต่สุดท้ายพอเอาเข้าจริง เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า พ่อแม่จะมีลมหายใจไว้รอเรา...ถึงวันที่เราจะบวชให้ท่านตามที่เราคิดไว้หรือเปล่า เพราะฉะนั้น รีบตัดสินใจบวชตั้งแต่วันนี้ อย่ารอให้มันสายเกินไป ควรจะบวชให้ในขณะที่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่นะครับ
 
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
 
พระพีรพงศ์ ปญฺญาธิโก
 
********************************
รับชมวีดีโอ บวชพระหนึ่งแสนรูปทั่วไทย ภาคฤดูร้อน
[[videodmc==38130]]
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/latest_update/20110309-พลิกชีวิตด้วยการบวช-กว่าจะคิดได้ก็สายไปแล้ว.html
เมื่อ 22 พฤษภาคม 2567 06:07
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv