ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2555
ปรโลกนิวส์ ตอน  คอยเธอมาแสนนาน
 
 
 คอยเธอมาแสนนาน ตอนที่ 1
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ  
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับ

        ผมเป็นชาวปากีสถาน ผมเกิดอยู่ในตระกูลที่ดี ครอบครัวผมมีความสุขมาก ชีวิตของผมเพียบพร้อมทุกอย่างราวกับเป็นคุณชายในหนัง  อาชีพของผมเป็นอาชีพที่มีเกียรติมีชื่อเสียง คือเป็นทั้งหมอ และนักร้องนักแสดง ผมมีแรงบันดาลใจและมีความฝันอยากที่จะ change the world หรือเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้มีแต่สันติสุขตั้งแต่ตอนที่ตัวผมเป็นเด็กเลยครับ

         ผมได้ตัดสินใจมาที่ประเทศไทย  เพราะตั้งใจมาสร้างโอกาสที่ดีๆ ในดินแดนใหม่ๆ  แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นไปตามที่คาดคิด  กล่าวคือ ไม่ว่าผมจะทำอะไรก็เหมือนมีอะไรสักอย่างมากีดกั้นไม่ให้สำเร็จ   อีกทั้งตัวผมยังถูกโกงหลายครั้ง   ซึ่งเป็นผลทำให้ครอบครัวของผมต้องได้รับความลำบากเป็นอย่างมาก

        ผมได้มีโอกาสเข้าวัดพระธรรมกายประมาณปี พ.ศ. 2554 และมาร่วมกิจกรรมของวัดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาประมาณ 1  ปี  เพราะมีกัลยาณมิตรชักชวนมา   แม้ผมจะนับถือความเชื่ออื่นที่ไม่ใช่พระพุทธศาสนา แต่ผมก็ชอบนั่งสมาธิ เพราะทำให้ผมรู้สึกมีพลังและมีความสุข  ปัจจุบันผมนั่งเห็นดวงแก้วด้วยครับ  ผมได้มาวัดเป็นประจำทุกอาทิตย์ต้นเดือน  และวันบุญใหญ่ต่างๆ ซึ่งทำให้ผมได้ร่วมบุญสำคัญๆ ของวัดในโอกาสต่างๆ  เช่น ร้องเพลง Change the World ในภาษาอูรดู ซึ่งเป็นภาษาราชการของประเทศปากีสถาน,  ช่วยแจกอาหารในช่วงน้ำท่วม,  ร่วมโปรยกลีบกุหลาบธุดงค์ธรรมชัย   เป็นต้น

       คำถามข้อที่ 1 ผมรักคุณย่าเหมือนแม่แท้ๆ  ท่านเสียชีวิตในอ้อมแขนของผมด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ   ในตอนนี้ท่านอยู่ที่ไหนมีความเป็นอยู่อย่างไร และท่านมีข้อความอะไรฝากถึงผมและครอบครัวบ้างครับ
 
ด้วยความที่ชอบทำบุญแบบสงเคราะห์โลก ตามคำสอนในศาสนาที่ตัวท่านนับถือจึงทำให้ตัวท่านได้ไปบังเกิดเป็นภุมมะเทวาระดับทั่วไป
 
ด้วยความที่ชอบทำบุญแบบสงเคราะห์โลกตามคำสอนในศาสนาที่ตัวท่านนับถือ
จึงทำให้ตัวท่านได้ไปบังเกิดเป็นภุมมะเทวาระดับทั่วไป

       คำตอบ ภายหลังจากที่คุณย่าของลูกเสียชีวิตไปแล้ว ด้วยความที่ตัวท่านเป็นคนที่มีพื้นฐานจิตใจดี มีเมตตารักความสงบและชอบทำบุญแบบสงเคราะห์โลก ตามคำสอนในศาสนาที่ตัวท่านนับถือ ด้วยเหตุดังกล่าวนี้เอง จึงทำให้ตัวท่านได้ไปบังเกิดเป็น “ ภุมมะเทวาระดับทั่วไป ” อยู่ในสังคมภุมมะเทวาที่มีความเชื่อในเรื่องเทวนิยมคล้ายๆ กับตัวท่าน ซึ่งตัวท่านก็มีเหล่าบริวารคอยปรนนิบัติรับใช้อยู่ประมาณ 4-5 ตน
 
วิมานมีลักษณะคล้ายๆ กับบ้านดินสีขาว 2 ชั้นที่มีขนาดปานกลาง 
 
วิมานมีลักษณะคล้ายๆ กับบ้านดินสีขาว 2 ชั้นที่มีขนาดปานกลาง
 
       ส่วนวิมานของท่านเทพธิดาภุมมะเทวานั้นจะประกอบไปด้วยตัวอาคารหลักและพื้นที่โดยรอบ ซึ่งตัวอาคารหลักจะมีลักษณะคล้ายๆ กับ “บ้านดินสีขาว 2 ชั้นที่มีขนาดปานกลาง” หรือมีขนาดประมาณ 150 ตารางเมตร ส่วนพื้นที่บริเวณโดยรอบตัววิมานก็จะมีต้นไม้อันเป็นทิพย์เกิดขึ้นเป็นแถวเป็นแนวสวยงาม ซึ่งแนวของต้นไม้เหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดขอบเขตของวิมานของภุมมะเทวาแต่ละหลัง ส่วนวัสดุที่ประกอบกันเป็นบ้านดินสีขาวของคุณย่าของลูกนั้นถ้าดูกันเพียงผิวเผินก็จะมีลักษณะคล้ายๆ กับปูนหรือดินสีขาวในเมืองมนุษย์  แต่ถ้าหากได้เข้าไปดูใกล้ๆ จะเห็นว่าวัสดุที่ประกอบกันเป็นบ้านดินสีขาวนี้จะแลดูนุ่มนวลและไม่แข็งกระด้างเหมือนปูนหรือดินที่พวกเราเคยเห็นหรือเข้าใจกัน ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะวัสดุดังกล่าวจะเป็นวัสดุที่เกิดขึ้นตามกำลังแห่งบุญในภพภูมินั้นๆ นั่นเอง
 
ชุมชนภุมมะเทวาจะมีลักษณะเป็นภพซ้อนภพเพียงแต่เราไม่เห็นเขา แต่เขาเห็นเรา 
 
ชุมชนภุมมะเทวาจะมีลักษณะเป็นภพซ้อนภพเพียงแต่เราไม่เห็นเขา แต่เขาเห็นเรา

       และที่สำคัญวัสดุที่ประกอบเป็นบ้านดินสีขาวของคุณย่าของลูกนั้นจะมีลักษณะเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมด   โดยไม่มีรอยต่อใดๆ ปรากฏเกิดขึ้นให้เห็นเลย  ส่วนวิมานหลังอื่นๆ ที่อยู่ในละแวกนั้น ก็จะมีลักษณะคล้ายๆ กันกับวิมานของท่านเทพธิดาภุมมะเทวา แต่จะมีความแตกต่างกันบ้างในเรื่องขนาดของวิมาน ซึ่งก็จะเป็นไปตามกำลังบุญของเจ้าของวิมานแต่ละหลัง ซึ่งชุมชนภุมมะเทวาแห่งนี้ จะมีลักษณะเป็นภพซ้อนภพ คือ เป็นภพละเอียดที่ซ้อนอยู่บนภพหยาบหรือโลกมนุษย์เพียงแต่เราไม่เห็นเขา แต่เขาเห็นเรา ส่วนว่ารายละเอียดที่น่าศึกษาอื่นๆ นั้น ก็ยังอีกเยอะแยะมากมาย แต่คุณครูไม่ใหญ่ฯ ก็ไม่อาจที่จะลงรายละเอียดทั้งหมดในที่นี้ได้   แต่อย่างไรก็ตาม รายละเอียดที่ตัวลูกได้ศึกษาไปแล้วนี้ ก็พอที่จะเป็นแนวทางให้ตัวลูกศึกษาเรียนรู้ต่อไปได้
 
ตัวท่านและเพื่อนบ้านภุมมะเทวาเหล่านั้นต่างก็เฝ้ารอคอยที่จะได้พบกับพระเจ้า 
 
ตัวท่านและเพื่อนบ้านภุมมะเทวาเหล่านั้นต่างก็เฝ้ารอคอยที่จะได้พบกับพระเจ้า

        เมื่อคุณย่าของลูกได้ไปบังเกิดเป็นภุมมะเทวาระดับทั่วไปแล้ว   ตัวท่านก็ได้ศึกษาเรียนรู้สังคมใหม่และก็ทำความรู้จักพูดคุยกับเพื่อนบ้านภุมมะเทวาที่อยู่ในละแวกนั้น  ซึ่งเป็นภุมมะเทวารุ่นพี่ที่อยู่มาก่อนหน้าที่คุณย่าของลูกจะมาบังเกิดอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ซึ่งภุมมะเทวารุ่นพี่แต่ละตนก็จะมีอายุมากน้อยอ่อนแก่แตกต่างกันไป   เช่น บางตนก็มีอายุ 100 ปี บางตนก็มีอายุ 1000 ปี ซึ่งหลังจากที่ตัวท่านได้พูดคุยกับเพื่อนบ้านภุมมะเทวาเหล่านั้นแล้ว   ตัวท่านก็ได้รู้ว่า “ ทั้งตัวท่านและเพื่อนบ้านภุมมะเทวาเหล่านั้น ต่างก็เฝ้ารอคอยเพื่อหวังที่จะได้พบกับพระเจ้าและเทพเจ้าของพวกเขา ตามความเชื่อที่พวกเขาได้เคยศึกษาเรียนรู้มาในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่แต่ไม่ว่าเพื่อนบ้านภุมมะเทวาเหล่านั้นจะเฝ้ารอคอยพระเจ้าและเทพเจ้าของพวกเขามายาวนานสักแค่ไหนก็ตาม คือตั้งแต่ภุมมะเทวารุ่นก่อนๆ จนมาถึงรุ่นของตัวท่านนี้ ก็ยังไม่มีใครเคยได้เจอกับพระเจ้าและเทพเจ้าของพวกเขาเลยแม้สักตนเดียว ”
 
พระธรรมกายเมตตาไปเยี่ยมท่านเทพธิดาภุมมะเทวา 
 
พระธรรมกายเมตตาไปเยี่ยมท่านเทพธิดาภุมมะเทวา

       ในเวลาต่อมา ก็ได้มีพระธรรมกายเมตตาไปเยี่ยมท่านเทพธิดาภุมมะเทวา ที่วิมานของท่าน ซึ่งทันทีที่ตัวท่านได้เห็นพระธรรมกายมาหาตัวท่านก็รู้สึกตะลึงพร้อมกับนึกขึ้นมาในใจ ตามความเข้าใจของท่านในช่วงนั้นว่า “ ตัวท่านได้พบกับพระเจ้าของท่านแล้ว ” แต่เมื่อท่านเทพธิดาภุมมะเทวาได้มองพระธรรมกายแบบชัดๆ   ตัวท่านจึงรู้ว่า “ บุคคลที่ท่านเห็นไม่ใช่พระเจ้าอย่างที่ตัวท่านคิดเอาไว้   และท่านก็ไม่รู้ว่าบุคคลที่อยู่ต่อหน้าท่านนั้นคือใคร ”  เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ตัวท่านทำอะไรไม่ถูกและก็ไม่รู้ว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร  
 
ท่านเทพธิดาภุมมะเทวา สัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ชุ่มเย็นอันเกิดจากอานุภาพของพระธรรมกาย 
 
ท่านเทพธิดาภุมมะเทวาสัมผัสได้ถึง
ความรู้สึกที่ชุ่มเย็นอันเกิดจากอานุภาพของพระธรรมกาย

       แต่สิ่งที่ท่านเทพธิดาภุมมะเทวา สัมผัสได้ในตอนนั้นก็คือความรู้สึกที่ชุ่มเย็นอันเกิดจากอานุภาพของพระธรรมกายนั่นเอง และด้วยความรู้สึกอันชุ่มเย็นนี้เองจึงทำให้คุณย่าของลูกเกิดความเลื่อมใสศรัทธาพระธรรมกายขึ้นมาในทันที  แล้วตัวท่านก็ไม่รอช้าได้รีบแสดงความเคารพต่อพระธรรมกาย ตามความรู้ความเข้าใจของตัวท่านเอง จากนั้นพระธรรมกายก็ได้เมตตากล่าวกับท่านเทพธิดาภุมมะเทวา ในทำนองที่ว่า “ การที่พระธรรมกายเมตตามาเยี่ยมตัวท่านถึงที่วิมานแห่งนี้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ตัวท่านได้ฝากข้อความไปถึงหลานของท่าน ที่อยู่ในเมืองมนุษย์ ”
 
สังคมแห่งนี้ไม่ต้องทำมาหากินเหมือนอย่างในโลกมนุษย์ 
 
สังคมแห่งนี้ไม่ต้องทำมาหากินเหมือนอย่างในโลกมนุษย์

       ซึ่งท่านเทพธิดาภุมมะเทวา ก็ได้ฝากสารแห่งความรักและความคิดถึงมาถึงตัวลูกและทุกคนในครอบครัวในทำนองที่ว่า “ ท่านรักตัวลูกมากๆ และท่านก็อยากขอบใจตัวลูกที่คอยช่วยดูแลตัวท่านเป็นอย่างดีมาโดยตลอดจนกระทั่งตัวท่านหมดลมหายใจ ในตอนนี้ตัวท่านมีความเป็นอยู่สุขสบายดี และที่สังคมแห่งนี้ก็แลดูคล้ายๆ กับสังคมในเมืองมนุษย์ แต่จะต่างกันตรงที่สังคมแห่งนี้ไม่ต้องทำมาหากินเหมือนอย่างในโลกมนุษย์ ซึ่งเพื่อนบ้านของท่าน แต่ละตนที่อยู่ในที่แห่งนี้ ต่างก็กำลังเฝ้ารอคอยที่จะได้พบกับพระเจ้าและเทพเจ้าของพวกเขา ตามความเชื่อที่พวกเขาได้เคยศึกษาเรียนรู้มาในสมัยที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่  แต่ที่ผ่านๆ มานั้นก็ยังไม่มีใครได้เจอกับพระเจ้าและเทพเจ้าของพวกเขาเลย  
 
ตัวท่านคิดว่าภพภูมิที่ตัวท่านอยู่นี้เป็นภพภูมิที่ดีที่สุดสำหรับท่านแต่ความจริงแล้วยังมีภพภูมิอื่นที่ละเอียดประณีตกว่าอีกเยอะแยะมากมาย 
 
ตัวท่านคิดว่าภพภูมิที่ตัวท่านอยู่นี้เป็นภพภูมิที่ดีที่สุดสำหรับท่าน
แต่ความจริงแล้วยังมีภพภูมิอื่นที่ละเอียดประณีตกว่าอีกเยอะแยะมากมาย
 
       ตัวท่านยังคิดถึงทุกๆ คนในครอบครัวอยู่เสมอ และท่านก็อยากให้ทุกๆ คนได้มาอยู่ด้วยกันกับท่านที่สังคมแห่งนี้ ขอให้ทุกๆ คนหมั่นทำความดีเอาไว้ให้มากๆ เพื่อที่ทุกคนจะได้มาอยู่ด้วยกันกับท่าน ณ ที่แห่งนี้ ” ซึ่งนั่นก็เป็นความเข้าใจของท่าน เพราะตัวท่านคิดว่า “ ภพภูมิของภุมมะเทวาที่ตัวท่านอยู่นี้เป็นภพภูมิที่ดีที่สุดสำหรับท่าน ”  แต่ในความเป็นจริงแล้วก็ยังมีภพภูมิอื่นที่ละเอียดประณีตและมีความสุขสบายมากกว่าภพภูมิของภุมมะเทวาที่ตัวท่านอาศัยอยู่อีกเยอะแยะมากมาย ซึ่งตัวลูกก็ต้องมาศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมด้วยตัวของลูกเอง
 
         สำหรับสาเหตุที่ทำให้คุณย่าของลูกต้องมาเสียชีวิตด้วยโรคลิ่มเลือดในสมองอุดตันตอนอายุ 94 ปีนั้นทั้งนี้ก็เป็นเพราะเศษกรรมปาณาติบาตที่คุณย่าของลูกได้เคยฆ่าสัตว์ทำอาหารเอาไว้ในหลายภพหลายชาติก่อนๆ  ได้ช่องตามมาส่งผลในช่วงที่ตัวท่านหมดอายุขัยพอดี
 
คุณย่าต้องมาเสียชีวิตด้วยโรคลิ่มเลือดในสมองอุดตันเป็นเพราะเศษกรรมปาณาติบาตที่ได้เคยฆ่าสัตว์ทำอาหาร
 
คุณย่าต้องมาเสียชีวิตด้วยโรคลิ่มเลือดในสมองอุดตัน
เป็นเพราะเศษกรรมปาณาติบาตที่ได้เคยฆ่าสัตว์ทำอาหาร
 
        เรื่องก็มีอยู่ว่า ในภพชาติดังกล่าวคุณย่าของลูกได้เกิดเป็น “ กุลธิดา ” อยู่ในครอบครัวที่มีความเชื่อเรื่องเทวนิยม ซึ่งคำสอนในลัทธิความเชื่อแบบเทวนิยมในยุคนั้น ก็ได้สอนให้คนทำความดีด้วยวิธีการต่างๆ  เช่น ไม่ฆ่ามนุษย์,  ไม่ลักทรัพย์,  ให้มีความกตัญญู,  ให้รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปันเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน  เป็นต้น  
 
แม้จะไม่ได้ลงมือฆ่าสัตว์ทำอาหารอยู่เป็นประจำแต่สิ่งที่ได้กระทำเอาไว้มันก็ได้กลายเป็นวิบากกรรมที่ติดตามมา
 
แม้จะไม่ได้ลงมือฆ่าสัตว์ทำอาหารอยู่เป็นประจำแต่สิ่งที่ได้กระทำเอาไว้
มันก็ได้กลายเป็นวิบากกรรมที่ติดตามมา

       แต่ด้วยความที่คำสอนในลัทธิความเชื่อแบบเทวนิยมดังกล่าวห้ามแค่การฆ่ามนุษย์เพียงเท่านั้น   แต่ไม่ได้ห้ามการฆ่าสัตว์ เพราะถือว่าสัตว์นั้นเป็นอาหารของมนุษย์ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้คุณย่าของลูก ได้ลงมือฆ่าสัตว์ทำอาหาร เป็นครั้งเป็นคราว แม้ว่าคุณย่าของลูก จะไม่ได้ลงมือฆ่าสัตว์ทำอาหารอยู่เป็นประจำก็ตาม   แต่ถึงกระนั้นสิ่งที่ตัวท่านได้กระทำเอาไว้มันก็ได้กลายเป็นวิบากกรรมที่ติดตามตัวท่านนับตั้งแต่ภพชาตินั้นเป็นต้นมา ตามหลักของกฎแห่งกรรม เพราะทุกๆ ชีวิตในสังสารวัฏล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมทั้งสิ้น ดังนั้น เมื่อเศษกรรมปาณาติบาตดังกล่าวได้ช่องตามมาส่งผลในภพชาติปัจจุบันนี้ จึงทำให้คุณย่าของลูกต้องมาเสียชีวิตด้วยโรคลิ่มเลือดในสมองอุดตันเหมือนอย่างที่เป็นอยู่นี้นั่นเอง
 

 
คุณย่ามีอายุขัยที่ยืนยาวถึง 94 ปี ด้วยผลแห่งบุญที่ตัวท่านได้บำรุงดูแลคุณพ่อคุณแม่ของท่าน
 
คุณย่ามีอายุขัยที่ยืนยาวถึง 94 ปี
ด้วยผลแห่งบุญที่ตัวท่านได้บำรุงดูแลคุณพ่อคุณแม่ของท่าน

       แม้ว่าคุณย่าของลูก จะทำปาณาติบาตด้วยการลงมือฆ่าสัตว์ทำอาหารบ้างก็ตาม แต่ถึงกระนั้น ตัวท่านก็เป็นคนที่มีพื้นฐานจิตใจดีและมีน้ำใจชอบช่วยเหลือผู้อื่น อีกทั้งตัวท่านยังคอยบำรุงดูแล คุณพ่อคุณแม่ของท่านเป็นอย่างดี จนกระทั่งคุณพ่อคุณแม่ของท่านทั้งสองหมดอายุขัย เรียกได้ว่า บุญก็ทำ กรรมก็สร้าง และด้วยผลแห่งบุญที่ตัวท่านได้บำรุงดูแลคุณพ่อคุณแม่ของท่าน ดังที่ได้กล่าวไปแล้วนี้เอง จึงทำให้ในภพชาติปัจจุบันนี้ คุณย่าของลูกจึงมีอายุขัยที่ยืนยาวถึง 94 ปี  คือ แม้ตัวท่านจะมีอายุขัยที่ยืนยาวด้วยผลแห่งบุญ   แต่ตัวท่านก็ต้องมาเสียชีวิตด้วยโรคลิ่มเลือดในสมองอุดตันด้วยผลแห่งเศษกรรมปาณาติบาตนั่นเอง
 
    คำถามข้อที่ 2  ผมรักและสนิทกับคุณยายมาก ท่านเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งมดลูก ในตอนนี้ท่านอยู่ที่ไหน มีความเป็นอยู่อย่างไร และท่านมีข้อความอะไรฝากถึงผมและครอบครัวบ้างครับ 
 
คุณยายและคุณย่าไปบังเกิดอยู่ในสังคมภุมมะเทวาแห่งเดียวกันแต่ยังไม่มีโอกาสได้เจอกัน 
 
คุณยายและคุณย่าไปบังเกิดอยู่ในสังคมภุมมะเทวาแห่งเดียวกัน
แต่ยังไม่มีโอกาสได้เจอกัน
 
      คำตอบ ภายหลังจากที่คุณยายของลูกเสียชีวิตไปแล้ว ตัวท่านก็ได้ไปบังเกิดเป็น “ ภุมมะเทวาระดับทั่วไป ” อยู่ในสังคมภุมมะเทวาแห่งเดียวกันกับคุณย่าของลูก ซึ่งเป็นสังคมภุมมะเทวาที่มีความเชื่อในเรื่องเทวนิยม ซึ่งวิมานของท่านเทพธิดาภุมมะเทวา นั้นก็จะมีลักษณะคล้ายๆ กับวิมานคุณย่าของลูก คือมีลักษณะเป็นบ้านดินสีขาวขนาดปานกลางซ้อนอยู่บนโลกมนุษย์แห่งนี้ แม้ว่าทั้งคุณย่าและคุณยายของลูกจะได้ไปบังเกิดอยู่ในสังคมภุมมะเทวาแห่งเดียวกันก็ตาม แต่ท่านทั้งสองก็ยังไม่มีโอกาสได้เจอหรือได้ทำความรู้จักกัน ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะสังคมภุมมะเทวาแห่งนั้นเป็นสังคมที่มีขนาดใหญ่มาก นั่นเอง

      ในเวลาต่อมา ก็ได้มีพระธรรมกายเมตตาไปเยี่ยมท่านเทพธิดาภุมมะเทวาวิมานของท่าน ซึ่งทันทีที่ตัวท่านได้เห็นพระธรรมกายมาหา ตัวท่านก็เกิดความรู้สึกนึกคิดและแสดงอากัปกิริยาในทำนองเดียวกันกับที่คุณย่าของลูกได้แสดงต่อพระธรรมกาย แล้วในที่สุดท่านเทพธิดาภุมมะเทวา ก็ได้ฝากสารแห่งความรักและความคิดถึงมาถึงตัวลูกในทำนองที่ว่า “ในตอนนี้ตัวท่านมีความเป็นอยู่สุขสบายดี เพราะที่สังคม แห่งนี้ไม่ต้องทำมาหากินใดๆ ทั้งสิ้น และเมื่อตัวท่านได้มาอยู่ในสังคม แห่งนี้แล้ว ตัวท่านก็ได้รู้จักกับเพื่อนบ้าน เยอะแยะมากมาย  
 
แต่ละตนต่างก็เฝ้ารอคอยที่จะได้พบพระเจ้าและเทพเจ้าของพวกเขาแต่ก็ยังไม่เห็นมีใครที่ได้เจอ 
 
แต่ละตนต่างก็เฝ้ารอคอยที่จะได้พบพระเจ้าและเทพเจ้าของพวกเขา
แต่ก็ยังไม่เห็นมีใครที่ได้เจอ

       ซึ่งเพื่อนบ้านของท่านแต่ละตนต่างก็เฝ้ารอคอยที่จะได้พบพระเจ้าและเทพเจ้าของพวกเขา แต่ก็ยังไม่เห็นมีใครที่ได้เจอกับบุคคลที่มีลักษณะเหมือนกับพระเจ้าหรือเทพเจ้าของพวกเขาเลย ตัวท่าน ยังรักและคิดถึงตัวลูกอยู่เสมอ และท่านก็อยากจะให้ตัวลูกได้มาอยู่ด้วยกันกับท่านที่สังคมแห่งนี้ ขอให้ตัวลูกตั้งใจทำความดีทุกๆ อย่างให้เต็มที่ แล้วตัวลูกจะได้มาอยู่ด้วยกันกับท่าน ณ ที่แห่งนี้” ซึ่งนั่นก็เป็นความเข้าใจของท่าน   แต่ในความเป็นจริงแล้วก็ยังมีภพภูมิอื่นที่ละเอียดประณีตและมีความสุขสบายมากกว่าภพภูมิของภุมมะเทวาที่ตัวท่านอาศัยอยู่อีกเยอะแยะมากมาย ซึ่งตัวลูกก็ต้องมาศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติม เพื่อจะได้พิสูจน์ด้วยตัวของลูกเอง
 
ท่านก็อยากจะให้ตัวลูกได้มาอยู่ด้วยกันกับท่านที่สังคมแห่ง 
 
ท่านก็อยากจะให้ตัวลูกได้มาอยู่ด้วยกันกับท่านที่สังคมแห่งนี้ด้วย

        ส่วนว่าบุพกรรมใดที่ทำให้คุณยายของลูกต้องมาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งมดลูกนั้น  ก็เราก็คงจะต้องมาติดตามรับฟังกันต่อในตอนต่อไป

รับชมวิดีโอ
 
[[videodmc==42767]]
[[videoprogram==case_study]]
 
ปรโลกนิวส์ ตอน คอยเธอมาแสนนาน ตอนที่ 2
ปรโลกนิวส์ ตอน คอยเธอมาแสนนาน ตอนที่ 3 
ปรโลกนิวส์ ตอน คอยเธอมาแสนนาน ตอนที่ 4  
ปรโลกนิวส์ ตอน คอยเธอมาแสนนาน ตอนที่ 5 
ปรโลกนิวส์ ตอน คอยเธอมาแสนนาน ตอนที่ 6 
กรณีศึกษากฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง (Case study in real life)

     บุคคลที่ปรากฏในเรื่องราวต่อไปนี้ มีตัวตนจริงในปัจจุบัน ประสบชะตากรรมขึ้นลงตามกระแสของวัฏฏะและกฎแห่งกรรม (ชมตัวอย่างบทสัมภาษณ์จากรายการชีวิตในสังสารวัฏ) ผู้อ่าน-ผู้ชมก็อย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธในทันที ควรศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แล้วค่อยนำไปเป็นอุทธาหรณ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป

     "วิชชาธรรมกาย" เป็นความรู้ดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติแล้วสามารถไปรู้ไปเห็นเรื่องราวกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ ตรงตามพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก วิชชาธรรมกายจึงเป็นหลักฐานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทันสมัยตลอดกาล (อกาลิโก)
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/latest_update/20120709-ปรโลกนิวส์ตอนคอยเธอมาแสนนาน-ตอนที่-1_LEFT.html
เมื่อ 19 เมษายน 2567 18:09
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv