พลิกชีวิตด้วยบุญกฐิน ตอน พลิกชีวิตเป็นคุณนายสไตล์ชิวๆ

     หลวงพ่อคะ ที่ผ่านมาชีวิตลูกลำบากมากค่ะ เพราะคุณพ่อตายตั้งแต่ลูกอยู่ ม.2 ทำให้คุณแม่ต้องรับภาระเลี้ยงลูกฝาแฝดและส่งเสียให้เรียนพร้อมกันถึง 2 คน

    และเนื่องจากครอบครัวลูกยากจนมาก ลูกจึงต้องกู้เงินเขาเรียน หนำซ้ำระหว่างเรียนก็ต้องรับจ้างเขาทำงานทุกรูปแบบ ตั้งแต่รับซักผ้า รับเลี้ยงเด็ก เสิร์ฟอาหาร เพื่อเอารายได้มาส่งตัวเองเรียน และช่วยแม่ด้วย ซึ่งพอเรียนจบปริญญาแล้ว ทำให้ลูกมีหนี้การเรียนติดมาด้วยถึง 2 แสนบาท จากนั้นลูกมีโอกาสมาทำงานด้านสปา ทำให้ได้หัดเรียนนวด จากนั้นก็ตัดสินใจหันมาทำอาชีพหมอนวดแผนโบราณ ทั้งๆที่ไม่เคยคิดจะทำอาชีพนี้เลย แต่หวังอยากจะมีกิจการสปาเป็นของตัวเองในอนาคต เพราะคิดว่าน่าจะรวย แต่พอทำเข้าจริงๆ รายได้ก็ไม่ค่อยพอใช้ค่ะ เนื่องจากต้องใช้หนี้ให้แม่ จนเหลือตังค์ทำบุญมากสุดก็ครั้งละ 100-200 บาทเท่านั้น

    แต่หลวงพ่อคะ..ด้วยความที่ลูกอยากรวย ลูกจึงพยายามเอาบุญทุกบุญ เช่น ต้อนรับพระธุดงค์ เดินบอกบุญที่ตลาดนัดอย่างต่อเนื่อง แล้วก็ไม่ลืมที่จะอธิษฐานขอหลวงปู่ว่าขอให้ลูกได้เงินเดือนเยอะๆ และหลังจากอธิษฐานเป็นประจำก็มีเหตุอัศจรรย์ที่ทำให้ลูกได้ไปเป็นหมอนวด (แผนโบราณ) ที่เมืองนอก เช่น ที่เกาหลี และสาธารณรัฐเช็ก ทำให้รายได้ดีขึ้นมาก แต่หลังหักค่าครองชีพ และส่งให้แม่ที่เมืองไทยแล้ว ก็เหลือเก็บไม่มาก อีกทั้งการใช้ชีวิตในต่างแดน ก็ต้องอดทนเป็นอย่างมาก จนลูกคิดถึงวัด และคิดถึงบ้าน ถึงขนาดนั่งร้องไห้ และพอลูกทำงานได้ระยะหนึ่ง ลูกก็พบความจริงว่า เราหาเงินได้แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าจะให้รวยจริงๆนั้นยากมาก พอลูกคิดแบบนี้ ประกอบกับที่ลูกได้ฟังเรื่องราวพลิกชีวิตด้วยบุญกฐินที่หลวงพ่อเล่าบ่อยๆ อีกทั้งยังได้เคยเดินในขบวนอัญเชิญผ้าไตรแทนเจ้าภาพที่ไม่มา ลูกก็เลยเกิดวิชั่นใหม่ คือ เกิดอะเลิร์ทอยากจะรื้อผังจน เพราะอยากเป็นประธานกองกฐินกับเขาบ้าง

    ดังนั้นกฐินปี 2557 ที่ผ่านมา ลูกจึงเดินบอกบุญ ชักชวนคนรู้จัก และรวบรวมเงินทั้งชีวิตที่มีอยู่แล้วตัดสินใจปิดบัญชีทันทีที่ 1 S ซึ่งลูกทำบุญทั้งๆที่ยังใช้หนี้ยืมเรียนไม่หมด และยังไม่ได้ซื้อที่ดินที่แม่อยากได้ให้ท่านเลย แต่ลูกก็ไม่กังวลค่ะ ตรงกันข้ามกลับปลื้มจนร้องไห้ เนื่องจากเป็นเงินก้อนที่ยิ่งใหญ่มากในอาชีพหมอนวดจนๆคนหนึ่ง อีกทั้งยังสามารถพาแม่มาถวายด้วยกันได้ และพอถวายเสร็จ ลูกก็บินกลับไปทำงานที่เมืองนอกเหมือนเดิม แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิม คือ มีแต่ลูกค้าเมตตาเอ็นดูซื้อของใช้ให้ ทำให้ลูกประหยัดค่าครองชีพไปได้อีกเยอะ และที่เหลือเชื่อไปกว่านั้น รายได้ของลูกดีขึ้นมาก จนมีเงินปลดหนี้สินตัวเองได้ทั้งหมดในปี 2558 นี่เองค่ะและที่อัศจรรย์ไปกว่านั้น ดาร์ลิ้งของลูกเขาก็ทำเซอร์ไพรส์โดยบินมาจากอเมริกาเพื่อรับลูกไปอยู่ด้วยกัน ลูกจึงลาออกจากงาน ระหว่างนั้นเราได้ไปเที่ยวยุโรปลูกและดาร์ลิ้งได้ไปทำบุญที่วัดพุทธเวียนนา และไปรับบุญที่วัดพระธรรมกายแฟรงค์เฟิร์ต 1 เดือน

และที่ลูกอัศจรรย์ใจมากที่สุดคือ ดาร์ลิ้งยังอะเลิร์ทให้เงินลูกหลาย S พร้อมแหวนเพชร ซึ่งลูกปลื้มมากเลยค่ะ รู้สึกตัดสินใจไม่ผิดเลยที่ปิดบัญชีทำกฐินไปเพราะนับจากนั้นชีวิตก็พลิกผันดีวันดีคืน บุญส่งผลแบบเกินควรเกินคาดและพอปีนี้..ลูกทราบว่าจะมีการหล่อหลวงปู่องค์ที่ 8 ลูกก็ตั้งใจจะเป็นประธานกองกฐิน และหล่อหลวงปู่อย่างเต็มที่เต็มกำลังค่ะ แต่ครั้งนี้..ดาร์ลิ้งของลูกจะบินมาถวายด้วยกันที่เมืองไทยพร้อมกันค่ะ

หลวงพ่อคะ ทุกวันนี้ ลูกปลื้มมากค่ะ รู้สึกว่าเรามีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งลูกก็อยากจะบอกทุกคนว่า ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจแบบนี้ ธุรกิจไหนๆ ก็มีผลกระทบเกือบหมดค่ะ ซึ่งคนที่จะได้รับผลกระทบน้อย หรือรวยท่ามกลางเศรษฐกิจแบบนี้ได้ ก็คือ คนที่มีบุญเท่านั้นล่ะค่ะ ดังนั้น การทำบุญในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ จึงควรทำอย่างยิ่ง เพราะถ้าเราหมดบุญ เราก็จะลำบากยากจน ฉะนั้นเราควรรีบหาบุญใหญ่ที่ให้อานิสงส์มากๆ ทำ ซึ่งก็คือ บุญหล่อหลวงปู่องค์ที่ 8 เพื่อจะได้มีกำลังบุญมากพอที่จะฝ่าวิกฤติชีวิตและเศรษฐกิจไปได้ค่ะ