พลิกชีวิตด้วยบุญกฐิน ตอน กล้าพิสูจน์ จึงกล้ารวย

ลูกเข้าวัดพระธรรมกายเพราะมีคุณพ่อเป็นกัลยาณมิตร ซึ่งท่านจะเพียรอธิบายว่าวัดดีอย่างไร เพราะตอนนั้นลูกฟังแต่ข่าวค่ะ แต่ก็ยอมมาวัดกับท่าน วันแรกที่มาวัดพอหลวงพ่อนำนั่งสมาธิ ลูกก็นั่งกอดอก คอยฟังว่าหลวงพ่อจะสอนอะไร ลูกมาวัดได้ระยะหนึ่งจึงได้พิสูจน์ด้วยตนเองว่าวัดพระธรรมกายไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวโจมตี แถมหลวงพ่อยังทำแต่โครงการดีๆเต็มไปหมดเลย พอรู้ดังนั้นลูกก็ทำบุญอย่างเต็มที่แบบที่มนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งจะทำได้ค่ะ และเวลาได้โบนัสมาแต่ละปี พอแบ่งให้คุณพ่อคุณแม่แล้ว ส่วนที่เหลือลูกก็เอามาทำบุญหมดเลย ไม่เคยกั๊กค่ะ

หลวงพ่อคะ ในช่วงที่ผ่านมามนุษย์เงินเดือนอย่างลูก ปิดบัญชี ปิดแล้วปิดอีก เพื่อนำมาปิดกองกฐิน S ได้ถึง 5 ปี ซ้อนค่ะ และจากการที่ทำบุญแบบสุดกำลังทำให้ลูกได้พบกับเรื่องอัศจรรย์บ่อยๆค่ะ ครั้งหนึ่งลูกมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนงานค่ะ ตอนที่ไปสมัคร..เขาเปิดรับในตำแหน่งรองผู้อำนวยการค่ะ แต่พอสัมภาษณ์จบปุ๊บ ผู้บริหารก็ถามลูกว่าต้องการเงินเดือนเท่าไหร่ ลูกเกรงใจจึงบอกเขาไปว่า “ขอเงินเดือนเท่ากับที่เก่าก็แล้วกันค่ะ” แต่ผู้บริหารบอกว่า “ไม่ได้ อยากได้เท่าไหร่ให้ขอมาเลย” หลวงพ่อคะ ตอนนั้นลูกใจเต้นตึกตักเลยค่ะ ลูกใจเต้นมาก กล้าๆ กลัวๆ จึงขอเพิ่มจากเดิมไปนิดหน่อยเองค่ะ แต่ความอัศจรรย์ยังไม่หมด เพราะเขาให้ตำแหน่งลูกเป็นผู้อำนวยการฝ่ายค่ะ นี่ถ้าไม่ใช่ด้วยอานุภาพบุญก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาอธิบายค่ะ เพราะได้ทุกอย่างแบบเกินควรเกินคาดทั้งเงินเดือนและตำแหน่งค่ะ หลวงพ่อคะย้อนไปตอนที่กำลังตัดสินใจจะเรียกเงินเดือนใจลูกมันกล้าๆกลัวๆ ทำให้นึกไปถึงตอนที่จะรับเป้ากฐินใจมันก็หวั่นๆไหวๆกลัวว่าจะทำไม่ได้ ลูกจึกคิดจะเปลี่ยนผังใหม่ เวลาสมบัติมาจะได้กล้ารับแบบจัดเต็มค่ะ ดังนั้นปีนี้ลูกจึงขยายใจเลยว่าเราต้องเป็นประธานกฐินให้ได้ ทั้งที่ตอนนั้นยังไม่รู้เลยนะคะว่าจะเอาปัจจัยมาจากไหน แต่ลูกมีเป้าหมายเป็นหลักอุปสรรคไม่มีค่ะพูดง่ายๆ ว่าสำหรับลูกแล้วไม่มีปัญหาค่ะ

แล้วก็นึกได้ว่าบ้านที่อยู่ในสหกรณ์...จะมีหุ้นของสหกรณ์อยู่ด้วย ลูกจึงปรึกษากับเทพบุตรข้างกายโดยยกตัวอย่างเคสเพื่อนในที่ทำงานที่อยู่ๆ ก็เสียชีวิต ลูกรู้สึกว่าชีวิตเราไม่มีอะไรแน่นอนเลย ถ้าตายไปตอนนี้บ้านที่ยังติดอยู่ในสหกรณ์ก็จะไม่มีใครรับผิดชอบ ดังนั้นจึงคิดจะเอามารีไฟแนนซ์กับธนาคารและทำประกันชีวิตไปด้วยเลย หากว่าเราเป็นอะไรขึ้นมาคนข้างหลังก็จะได้ไม่ต้องมารับผิดชอบ แถมเราจะได้ปัจจัยจากหุ้นสหกรณ์มาทำบุญด้วย ลูกจึงตั้งจิตอธิษฐานกับหลวงปู่ว่า “หลวงปู่เจ้าขา ถ้าลูกรีไฟแนนซ์สำเร็จ ลูกจะถวาย 1S ค่ะ” แต่ในช่วงเดือนกว่าๆที่ยื่นเรื่อง..มันขลุกขลักไปหมด สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ แต่ลูกไม่ย่อท้อคิดว่าเราต้องขยายใจ จึงขอหลวงปู่ใหม่ “หลวงปู่เจ้าขา ถ้าสำเร็จลูกจะถวายหมดเลยค่ะและขอให้ได้มาภายใน 3 วัน 7วันนะเจ้าค่ะ” คราวนี้หลวงปู่จัดให้อย่างรวดเร็ว อัศจรรย์จนเจ้าหน้าที่แบงค์บอกว่า ไม่เคยเจอเคสไหนเร็วขนาดนี้ คือคีย์ประวัติตอนเย็น วันรุ่งขึ้นแบงค์ก็อนุมัติเลยค่ะ พอได้ปัจจัยก้อนนั้นมาปุ๊บลูกก็นำมารวมกับปัจจัยอื่นๆ ที่รวบรวมได้จากที่ลับที่แจ้งที่แห้งที่เปียก ทั้งเงิน ทั้งหุ้น และทองคำ แต่ก็ยังไม่เต็มกองค่ะ ลูกจึงเดินหน้าบอกบุญด้วย ลูกขอพรจากหลวงปู่ว่า “หลวงปู่เจ้าขา ใครก็ตามที่ลูกไปบอกบุญ ขอให้เขาชื่นอกชื่นใจ ให้คำพูดลูกศักดิ์สิทธิ์มีอานุภาพ ให้เขาอยากทำบุญกับลูกเยอะๆ นะคะ” พอเจอใครลูกก็ลุยเลยค่ะ แล้วก็อัศจรรย์จริงๆ คนที่แต่ก่อนเคยร่วมบุญมาร้อยสองร้อย...ก็ร่วมมาเป็นพัน คนที่ไม่เคยร่วมบุญมาก่อน...ก็ร่วมมาเป็นหมื่น บางคนก็ร่วมมาเป็น S มาแบบไม่คาดคิดค่ะ

พอถึงวันที่ตั้งใจจะถวายลูกเอาปัจจัยมานับแล้วนับอีกนับไปนับมาได้ถึง M กว่า ๆ เลยค่ะ ลูกยกปัจจัยขึ้นท่วมหัว นอนร้องไห้ด้วยความปลื้มอยู่หลายคืนค่ะ เพราะกว่าจะได้มามันไม่ง่ายเลย แต่ลูกก็ระเบิดผังจนสำเร็จแล้วค่ะและลูกจะได้เป็นประธานกองกฐินแล้ว พอรู้ว่าจะได้หล่อหลวงปู่ทองคำ องค์ที่ 8 ลูกก็ไปค้นไปหาไปแคะไปแงะจนได้มาอีกโดยเหลือเฉพาะไว้ใช้จ่ายจำเป็นจริงๆ นอกนั้นเอามาถวายหลวงปู่หมดเลย 10 บาททองค่ะ ลูกขอเชิญชวนทุกคนให้มาทำบุญกฐินและหล่อหลวงปู่ องค์ที่ 8 ให้สุดหัวใจ ไม่ต้องกั๊ก เพราะวันเวลาที่ล่วงเลยผ่านไปไม่หวนคืนกลับมาได้ฉันใด โอกาสทองที่เราจะได้ร่วมเป็นหนึ่งในผู้ชิตังเม กับการหล่อทองหลวงปู่เมื่อผ่านเลยไปแล้ว ย่อมไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้ฉันนั้น เพราะฉะนั้นอย่ารอช้า ทำแล้วก็ทำอีกได้ ถ้าเราทำอย่างอัศจรรย์บุญก็จะส่งผลอย่างอัศจรรย์ มาร่วมกันสร้างผังสำเร็จให้ ชิตังเม ก่อนวันที่ 25 พ.ย. นี้ค่ะ