เกาะติดกระแสฮิตอินเทรนด์
ลูกผู้ชายตัวจริง...ต้องบวช
กระแสการบวชรุ่นเข้าพรรษา ตอนนี้กำลังติดลมบน ไม่ว่าจะไปในหมู่สมาคมใด ทั้งเด็กดี V-Star อดีตธรรมทายาท หรือเหล่าผู้นำบุญทั้งหลาย ต่างก็พูดเรื่องเดียวกัน คือ เรื่องการบวชธรรมทายาท ถึงแม้จะต่างกันด้วยวัย ต่างเพศ ต่างอาชีพ แต่ตอนนี้ทุกคนล้วนมีหัวใจเดียวกัน คือ เรื่องบวชพระพันรูปรุ่นเข้าพรรษานี้ อยู่เต็มเปี่ยมทุกห้องหัวใจกันเลยทีเดียว
ส่วนเรื่องการทำหน้าที่ชวนคนมาบวชนั้น ทั้งเข้มข้น ทั้งดุเดือด เพราะแต่ละคนกลัวว่าจะไม่ได้อานิสงส์แห่งบุญของการทำหน้าที่ชวนบวช ไม่เว้นแม้แต่อดีตธรรมทายาทรุ่นที่1 กัลยาณมิตรจิรวัฒน์ ภู่เพียงใจ หรือ พี่อี๊ด ถึงกับกล่าวว่า “ถึงเวลาแล้วที่อดีตธรรมทายาททุกรุ่น จะต้องมาบวชร่วมรุ่นกันอีกสักครั้ง เพื่องานพระพุทธศาสนา ถึงแม้ว่าผมจะเคยบวชมาแล้วเมื่อ 28ปีก่อน แต่ความรู้สึกในใจลึกๆของผมก็ยังคงอยากจะบวชอยู่ตลอดเวลา แต่ผมก็หาข้ออ้างและขอผ่อนผันในเรื่องการบวชให้กับตนเองเรื่อยมา อาจจะเป็นเพราะผมได้ลาออกจากการทำงานธนาคาร แล้วมาช่วยงานวัดด้านการเผยแผ่สื่อคณะสงฆ์อย่างต่อเนื่อง มาแล้วกว่า 17ปี ผมก็เลยได้คิดเข้าข้างตัวเองมาตลอดว่า การมาช่วยงานวัดแบบทุ่มเต็มที่ โดยอุทิศชีวิตทั้งชีวิตเพื่องานพระศาสนาแล้ว ยังไงๆก็คงจะได้บุญเหมือนกัน บวชหรือไม่บวชก็คงไม่ต่างอะไรกันมาก
แต่จริงๆแล้ว ผมคิดผิดครับ มันต่างกันมากเลยครับ เพราะชีวิตการครองเรือนนั้นล้วนแต่มีปัญหา มีข้อผูกพัน ข้อผูกมัดมากมาย ส่วนการเป็นนักบวชนั้นมีธุระเพียงแค่สองอย่างคือ คันถธุระและวิปัสสนาธุระเท่านั้น จึงทำให้ผมตัดสินใจให้รางวัลกับชีวิต ด้วยการมาบวชอีกสักครั้ง และยิ่งไปกว่านั้นการบวชครั้งนี้ก็ยังไม่ธรรมดา บวชครั้งเดียวได้บุญถึงสองต่อ นอกจากจะได้ฝึกฝนอบรมตนเองแล้ว ยังมีโอกาสได้ช่วยงานพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ในการเป็นพระพี่เลี้ยงดูแลพระในรุ่น 7,000รูป7,000ตำบลทั่วไทย ทำให้ผมตัดสินใจหักดิบจากความกังวลและข้ออ้างต่างๆบางประการอย่างมากมาย แล้วรีบมาสมัครบวชทันที แบบไม่ต้องมีใครมาชวน เพราะกลัวว่าจะได้อานิสงส์น้อยลง”
แม้แต่นักธุรกิจอย่าง กัลยาณมิตรทนุ มานะไชยรักษ์ ซึ่งเคยบวชธรรมทายาทมาแล้วถึง 6ครั้งด้วยกัน แต่ครั้งนี้ท่านก็ขอกลับมาบวชอีกครั้ง เพื่อทำผังบวชให้หนาแน่น และการบวชครั้งนี้ ยังเป็นต้นบุญต้นแบบของการบวชที่จะเป็นแบบอย่างให้กับชาวโลกอีกด้วย เพราะการบวช 7,000รูป 7,000ตำบลทั่วไทย ถือเป็นกุศลใหญ่ เพราะตั้งแต่สร้างชาติมายังไม่เคยมีการบวชพร้อมกันที่ยิ่งใหญ่เท่าครั้งนี้มาก่อนเลย
กัลยาณมิตรทนุกล่าวว่า “พระเดชพระคุณหลวงพ่อว่าไง ผมว่างั้น พระเดชพระคุณหลวงพ่อบอกให้บวช ผมก็บวช และอีกอย่างหนึ่งนะครับเวลาผมไปทำหน้าที่ชวนคนมาบวช ทุกคนล้วนแต่มีข้ออ้างเสมอๆว่า งานเยอะ งานยุ่ง ไม่มีเวลาว่าง ผมก็เลยบอกกับเขาไปว่า...
ผมก็เป็นนักธุรกิจเหมือนกัน ทำไมผมถึงบวชได้ล่ะ คุณลองพิจารณาดูนะว่าในโลกนี้มีอะไรเป็นของของเราจริงๆบ้าง งานเป็นของเราจริงๆหรือ ทุกอย่างล้วนไม่ใช่ของของเราเลย เพราะเมื่อเราหลับตาลาจากโลกนี้ไปแล้ว เราก็เอาอะไรไปไม่ได้เลย แม้แต่เงินทองที่เราเก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต เรายังเอาไปไม่ได้เลยแม้แต่บาทเดียว แต่สิ่งที่จะติดตามตัวเราไปอย่างแท้จริงนั่นก็คือ บุญ บุญอย่างเดียวเท่านั้น อย่าลืมนะทุกคนเกิดมาต้องตาย เมื่อโอกาสดีๆมาถึงแล้วก็ต้องรีบฉกฉวยโอกาสนั้น ถ้าไม่บวชตั้งแต่ชาตินี้ คิดมั้ยว่าชาติหน้าจะได้บวช…ทำให้เพื่อนๆนักธุรกิจด้วยกันหลายคน ถึงกับได้คิด และเขาก็คิดได้ จึงได้มาบวชร่วมกัน สุดท้ายนี้ ผมก็อยากจะขอใช้เวที DMC_นี้ ประกาศถึงอดีตธรรมทายาทและทุกๆคนว่า ในเมื่อเราก็สามารถดีไซน์หรือออกแบบชีวิตตัวเราเองได้ ทำไมเราไม่เลือกหนทางที่เราจะได้เพิ่มบุญบารมีในตัวเราให้เต็มเปี่ยม ที่ผ่านมาในชีวิตอาจเคยมีการตัดสินใจที่เมื่อเราตัดสินใจไปแล้ว ต้องกลับมาเสียใจภายหลัง แต่ผมขอยืนยันว่าการตัดสินใจมาบวชในครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจที่เราจะไม่มีวันต้องกลับมาเสียใจในภายหลังอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้น ผมจะกลับมาบวชในรอบที่7 นี้อีกทำไม”