ทองคำ คุณค่าแห่งทองคำ ราคาทองคำ

 
 
 
ทองคำ...คุณค่าแห่งทองคำ
ขึ้นอยู่กับราคาทอง หรือขึ้นอยู่กับสิ่งใด?
เรียบเรียงมากจากรายการ ทันโลก ทันธรรม ที่ออกอากาศทางช่อง DMC
 

 ทองคำ..คุณค่าแห่งทองคำ


ส่วนของทันโลก
 

     ทองคำมีความสำคัญกับเศรษฐกิจของโลกและตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันอย่างไร?


     เมื่อก่อนตั้งแต่ที่เราเริ่มมีสกุลเงินตรา หลังสงครามสหรัฐก็เข้ามาจัดระเบียบ พยายามให้เกิดการค้าขายกับเงินดอลล่าร์ สหรัฐจึงพยายามผูกดอลล่าร์ไว้กับราคาทองคำ เรียกว่า Gold Standard ทำให้ประเทศต่างๆค้าขายกันโดยใช้ดอลล่าร์เป็นหลัก ฉะนั้นทองคำจึงเป็นตัวกลางที่ใช้เป็นค่ามาตรฐานในการแลกเปลี่ยน แต่ปัจจุบัน Gold Standard ยกเลิกไปแล้วเนื่องจากปัญหาของปริมาณทองคำที่ต้องมีการสะสมทองคำมากขึ้น  ซึ่งที่อเมริกามีทองคำมากที่สุดในโลกเดิมมีประมาณ 20,000 ตัน แต่ปัจจุบันมีอยู่ 8,000 กว่าตัน แต่ทองคำที่เก็บไว้มากที่สุดอยู่ที่ธนาคารกลางสหรัฐที่นิวยอร์ก
 


     คุณประโยชน์ของทองคำมีอะไรบ้าง?

 
 
คุณค่าแห่งทองคำ
นำทองคำมาทำเป็นเครื่องประดับ
 

ทองคำกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจ

 
      ที่เห็นได้ชัดเจน คือ นำทองคำมาทำเป็นเครื่องประดับ นิยมใช้เป็นทุนสำรองเป็นอัตราทุนสำรอง ซึ่งเป็นเรื่องของความมั่นคงตามเศรษฐกิจการคลัง  ยิ่งเป็นประเทศที่มีทองคำมากก็ยิ่งมีทุนสำรองกว่า 70-80% การมีทุนสำรองเป็นทองคำดีกว่าเงินของสกุลต่างๆที่มีอยู่เพราะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงได้ตลอด

     "ทองนำ
" มาใช้เรื่องการสะท้อนรังสีอินฟาเรด กระทั่งเรื่องของการสื่อสารคมนาคม ป้องกันรังสีต่างๆ ในวงการแพทย์วัสดุอุดฟันที่ดีที่สุดคือทองคำ ซึ่งทองคำเป็นแท่งโลหะมีค่า และมีคุณสมบัติในตัว การนำมาใช้ประโยชน์ด้านต่างๆ เช่น การทำสปาผิว หรือร้อยไหมทองคำ อาจจะส่งผลในระดับหนึ่งแต่ก็เป็นเรื่องของความนิยมมากกว่าเมื่อเกิดกระแสนิยมว่าเป็นของมีค่ามีราคา

 


     ทองคำ 99.99% กับทองคำ 96.5% ต่างกันอย่างไร?


      ต่างประเทศจะยึดถือทองคำ 99.99% แต่ในเมืองไทยนิยมทองรูปพรรณซึ่งเป็นทอง 96.5% นำมาทำเป็นทองคำเส้นเล็กๆหรือเครื่องประดับได้ แต่นักสะสมทองคำเพื่อขายในเมืองไทยก็เป็นทอง 96.5% ซึ่งก็มีทองคำแท่งด้วย แต่ถ้าเป็น 99.99% มีผู้นิยมสะสมเพื่อความเป็นสากล
 


     ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองผันผวน?



คุณค่าแห่งทองคำ
กำหนดราคาทองคำอ้างอิงจากของ Gold Spots

ราคาทอง

     ราคาทองคำ มีการขึ้นลง ซึ่งในเมืองไทยเราก็มีสมาคมคอยดูแลความเปลี่ยนแปลง โดยกำหนดราคาอ้างอิงจากของ Gold Spots คือ ราคาทองของต่างประเทศและบวกลบค่าพรีเมี่ยมของผู้ค้าทอง  ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่ามีการนำเข้าหรือส่งออกมากกว่า และเช็คกับค่าเงินบาท หลังจากนั้นก็นำมาแปลงเป็นค่าทองเป็นบาท ค่าทองคำในเมืองไทย แล้วประกาศ ราคาทอง จึงขึ้นอยู่กับปัจจัย 4 ตัวแปร คือ

 

ราคาทอง เปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับปัจจัย 4 ข้อนี้ คือ

1. ราคาทองคำในต่างประเทศหรือที่เรียกว่า Gold Spots
2. อัตราค่าพรีเมี่ยมของผู้ค้าทอง
3. ค่าเงินบาทต่อดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา
4. อุปสงค์ อุปทานของการค้าขายภายในประเทศ

 
     ซึ่งแท้จริงแล้วการปรับขึ้นลงของราคาทองในแต่ละวันจำนวนไม่เท่ากันบางวันก็แค่ครั้งเดียว บางวันก็หลายครั้ง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของการซื้อขายทั่วโลก มารวมกับน้ำหนักกับปัจจัยของไทย
 


     ในการซื้อทองเราจะดูอย่างไรว่าทองจริงหรือทองปลอม?

 
 
คุณค่าแห่งทองคำ
ราคาทองคำขึ้นอยู่กับปัจจัยการลงทุนซื้อ-ขาย
 

      ซื้อกับร้านทองที่สามารถไว้ใจได้ แต่นอกจากร้านทองแล้วก็มีวิธีการตรวจเช็คได้ ทั้งการใช้เครื่องเอกซเรย์ เผาไฟดูน้ำหนัก วัดความถ่วงจำเพาะ แต่เราก็ไม่มีเครื่องตรวจวัดและไม่สามารถรู้ได้ ฉะนั้นถ้าต้องการซื้อทองคำให้ซื้อร้านที่มั่นใจ เชื่อใจได้
 

ราคาทองมีความผันผวน


      สถานการณ์ทองคำ ในปัจจุบันมีการผันผวนของราคาอย่างมาก และที่ทราบกันว่าทางสหรัฐอเมริกามีหนี้สาธารณะเกิน 100% แต่อย่างไรก็ตามอเมริกายังมีทองคำมากที่สุด เกิดการนำทองคำมาเล่นสำหรับกลุ่มการลงทุนใหญ่ๆ  จึงทำให้ราคาทองดันขึ้นลงเพื่อทำกำไร  ฉะนั้น ราคาทองคำ จึงไม่นิ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ของสหรัฐอเมริกา และขึ้นอยู่กับโลกที่มีการซื้อขายทองของกองทุนต่างๆ
 
     อีกสิ่งหนึ่งคือการสะสมทองคำของประเทศต่างๆ โดยภาพรวมของราคาทองคำปัจจุบันยังเป็นราคาที่ปั่นอยู่  ไม่ได้มาจากความต้องการที่แท้จริง เพราะมีการซื้อตุนของกองทุนเพื่อเก็งกำไร  แต่เมื่อใดที่ประเทศต่างๆ มีความเห็นว่าต้องมีการสะสมทองคำมากขึ้น ก็จะมีการซื้อทองมาสะสมมากขึ้น  แต่ปัญหาที่เกิดคือ เมื่อไหร่ที่กองทุนเทขาย ประเทศต่างๆ ที่ถือทองคำบางครั้งก็ขาดทุน  จึงต้องเททองคำขายเหมือนกันเพื่อตัดการขาดทุน ฉะนั้นถ้าจะลงทุนทองคำต้องคิดก่อนว่าความรู้ของเราจะถึงหรือไม่ ซึ่งช่วงนี้ราคาทองคำก็ยังขึ้นลงอยู่ จึงควรรอให้ราคาทองคำลงตัวก่อนจะดีกว่า และที่ผ่านมานี้คือส่วนของทันโลก


ส่วนของทันธรรม

โดยพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ (M.D.,Ph.D.)

ทองคำกับความรู้ทางธรรมในพระพุทธศาสนา

          
      ตั้งแต่สมัยโบราณกาลที่มนุษย์เรายังไม่ได้มีการไปมาหาสู่กันเท่าไหร่ แต่ภูมิภาคต่างๆของโลกล้วนให้ความสำคัญกับทองคำ ยกย่องว่าเป็นโลหะธาตุที่ล้ำค่า ที่สำคัญพบว่าไม่เฉพาะในปัจจุบันเท่านั้นแม้แต่ในพุทธันดร ปลายกัปป์ที่ผ่านมา แต่ละยุคสมัย มนุษย์ยังให้การยอมรับว่าทองคำเป็นโลหะ ธาตุที่มีคุณค่าเช่นเดียวกัน ถึงคราวที่จะทำสิ่งใดที่มีคุณค่าสูงๆ แสดงออกถึงความเคารพบูชาก็มักจะใช้ทองคำทำ เช่น สร้างเจดีย์ทองคำ พระพุทธรูปทองคำ เป็นต้น ซึ่งสาเหตุหลักๆ 2 ประการ


คุณค่าแห่งทองคำ
 นำทองมาตีเป็นแผ่นบาง
 
 
     ทองคำเป็นโลหะที่มีความคงทนแข็งแรงมาก ไม่ว่าจะเป็นทองเหลืองหรือ โลหะอื่นๆ มักจะเกิดปัญหาเรื่องความคงทน แต่ทองคำไม่ทำปฏิกิริยากับสิ่งใด ถ้าช่างจะนำทองไปทำเป็นรูปพรรณต้องใช้กรดกัดทองจึงจะตกแต่งเป็นลวดลายต่างๆได้ สามารถตีแผ่ทองเป็นชิ้นบางๆ จนแทบจะเรียงตัวเป็นโมเลกุลเดียว ฉะนั้นทอง 1 บาทราคา 20,000 แท้จริงแล้วทองคำ 1 บาทปริมาตรไม่ถึง 1CC ถ้าเป็นน้ำก็เพียงไม่กี่หยดเท่านั้น แต่ทองคำเปลวที่ปิดทองพระพุทธรูป ขายแผ่นละ 3-5 บาท ซึ่งหมายความว่าเมื่อนำทองไปทำทองคำเปลวต้องได้ทองคำเปลวเกือบ 10,000 ใบถึงจะคุ้ม ต้นทุนทองคำอย่างเดียวก็ 20,000 บาทยังไม่รวมค่าแรง กำไรจากการขาย ซึ่งถ้าเป็นโลหะอย่างอื่นทำไม่ได้เหมือนทองคำ
 
    การที่ทองคำจะหลอมรวมตัวกันได้ต้องใช้ความร้อนกว่า 1,000 องศาซึ่งจุดหลอมเหลวสูงมาก แต่ถ้าเป็นทองคำแท้จะไม่แข็งมาก  ประดิษฐ์เป็นรูปร่างต่างๆได้และใช้โลหะอื่นผสมอีกนิดหน่อยเพื่อเพิ่มความแข็ง เป็นโลหะที่มีความคงทนเหนียวแน่นมาก ทั้งหมดเสริมลักษณะทองคำอย่างยิ่งสิ่งใดก็ตามที่สร้างด้วยทองคำจะอยู่ไปอีกกาลนานก็ว่าได้  ซึ่งเป็นสักษณะพิเศษที่ทั้งสวยและทน  เอกลักษณ์ของทองคำคือปริมาณที่มีในโลกคือเป็นสัดส่วนที่พอดี เช่น ถ้ามีมากเท่าเหล็กคุณค่าคงน้อยลง แต่ถ้าน้อยจนทั้งโลกหาแทบไม่ได้เลยก็นำมาทำอะไรได้ยาก
 


     เรื่องของทองคำที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา

 

คุณค่าแห่งทองคำ
เหมืองทองขนาดใหญ่เป็นทองใต้ดิน
 

 แหล่งกำเนิดทองคำ คืออะไร

 
      แหล่งกำเนิดทองคำเกิดมาจากต้นไม้ ซึ่งต้นไม้ประจำชมพูทวีปของเรา คือ ต้นหว้า ต้นหว้าในยุคต้นกัปป์ ออกลูกมาเป็นทองคำที่เรียกกันว่า ทองชมพูนุช คือทองที่มาจากต้นหว้า ต้นหว้าศัพท์ทางพระพุทธศาสนาเรียกว่า ต้นชมพู่ ทองชมพูนุชคือทองตั้งแต่ต้นกัปป์เกิดจากต้นไม้ ทองที่เราเห็นในโลกปัจจุบันนี้แหล่งใหญ่ที่แท้จริงอยู่ในน้ำอยู่ในมหาสมุทร แต่เจือจางมากจะเอาน้ำมหาสมุทรมาสกัดระเหยเอาทองก็ไม่คุ้ม  และทองที่เราขุดค้นขึ้นมาใช้ตอนนี้มี 2 แบบ กระแสการพบทองแต่ละที่คนก็แห่ไปขุดโดยการขุดดินไปร่อน ใช้ปรอทมาจับทองรวมกันและมีพ่อค้ามรอรับซื้อ ถือว่าเป็นทองผิวดิน ยังไม่ใช่แหล่งทองใหญ่จริงๆ แหล่งทองใหญ่ของโลกที่ทำเหมืองทองขนาดใหญ่เป็นทองใต้ดินลึกลงไป 
 
     บางครั้งขุดลึกเป็นกิโลแต่ทองที่มาจากใต้ดินที่ได้มาก็เป็นดินซึ่งอยู่ในสารประกอบ จะทำเป็นทองได้ต้องนำดินที่ได้เหล่านั้นมาผ่านกระบวนการ  มีการใช้ยาพิษหรือไซยาไนต์เพื่อเปลี่ยนสารประกอบให้เกิดสภาพเป็นทองคำขึ้นได้  โดยใช้ไซยาไนต์ช่วยจับทองเหล่านี้ขึ้นมา  นี่คือแหล่งทองใหญ่ของโลกอย่างดี แต่ทองที่พบจากผิวดินสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากพืช เช่น เราปลูกต้นมันเราก็รู้ว่าใบมันและรากมีไซยาไนต์ผสมอยู่ เมื่อปลูกนานเข้าตามธรรมชาติ ไซยาไนต์ในดินก็ดึงสารประกอบในดินมารวมตัวกันเกิดเป็นเม็ดทอง

      ที่ไหนที่มีคนมีศีลธรรม อยู่ในบุญกันมากรัตนชาติก็จะรวมกันอย่างนั้นได้อีก มีเรื่องอานุภาพแห่งบุญ คือ เรื่องของชฎิลเศรษฐี ชฏิลเศรษฐีประวัติการเกิดของท่านแปลกเป็นเศรษฐีที่เกิดในครั้งพุทธกาล
 


ชฏิลเศรษฐี กับทองคำในสมัยพุทธกาล

 
     เรื่องว่ามีเศรษฐีคนหนึ่งมีบุตรสาวงดงามมากด้วยความหวงพ่อจึงนำไปขังไว้ที่ชั้นเจ็ดของยอดปราสาทกลัวหนุ่มมาเห็นเข้าจะถูกใจ  ลูกสาวถูกขังอยู่ด้านบนก็รู้สึกเหงาแต่บังเอิญมีวิทยาธรเหาะมาแล้วถูกใจกันจึงอยู่ร่วมกันแล้วท้อง  เมื่อท้องก็กลัวว่าบิดาจะรู้จึงคอยแอบจนกระทั่งคลอดจึงให้นางพาสีใส่ภาชนะแล้วไปลอยน้ำ  เมื่อลอยไปตามน้ำปรากฎว่ามีหญิงสองคนเพื่อนกันกำลังเล่นน้ำ  พอเห็นว่าภาชนะลอยมาก็รูสึกถูกใจว่าภาชนะสวยงาม คนหนึ่งจึงบอกว่าภาชนะนี้ของฉัน อีกคนจึงบอกว่าของในภาชนะของฉัน เมื่อพบว่าเป็นเด็กหญิงคนที่ต้องการของจึงได้เด็กไป  ซึ่งหญิงที่ได้เด็กมาเป็นอุปัฏฐายิกาของพระมหากัจจายนะตั้งใจเลี้ยงเมื่อโตแล้วจะให้บวชและตั้งชื่อว่าชฏิล
 
 
คุณค่าแห่งทองคำ
 ภูเขาทองคำที่เกิดขึ้นจากบุญ
 
 
     เมื่ออายุเจ็ดขวบก็นำไปถวายพระมหากัจจายนะเพื่อให้บวชเณร  แต่ท่านเห็นด้วยญาณทัศนะว่าเด็กนี้มีบุญแต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะบวชตอนนี้ท่านจึงนำไปฝากอุบาสกอีกคนหนึ่งที่เป็นลูกศิษย์ท่านไว้  อุบาสกรักและรับเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม วันหนึ่งอุบาสกไปทำธุระข้างนอกก็บอกให้ชฎิลช่วยดูแลของที่เหลือค้างอยู่ที่ขายไม่หมด  แต่ด้วยอานุภาพแห่งบุญลูกค้าก็ไหลมาเทมาของขายหมดเกลี้ยงภายในวันเดียว เมื่อบิดากลับมาเห็นของไม่มีเหลือก็ตกใจ จึงซักถามชฎิลว่าเกิดอะไรขึ้นชฎิลจึงบอกว่าขายของได้ทั้งหมด บิดาจึงรูว่าชฎิลเป็นคนมีบุญจึงยกลูกสาวแท้ๆของตนเองให้แต่งงานและสร้างคฤหาสน์ให้อยู่  เมื่อชฎิลก้าวท้าวแตะพื้นแค่ก้าวแรกเท่านั้นมีภูเขาทองคำผุดขึ้นหลังบ้านสูง 40 เมตร 80 ศอกและมีจอบเพชรบังเกิดขึ้น เมื่อต้องการทองคำก็เอาจอบไปตักมาใช้ได้  แต่คนอื่นตักไม่ได้ต้องเป็นชฎิลเศรษฐีเท่านั้นที่ตักได้เพราะเป็นเจ้าของบุญ
 
      คนก็พากันแตกตื่นกันทั้งเมือง เมื่อพระราชาทราบจึงตั้งหนุ่มชฎิลให้กลายเป็นเศรษฐี เศรษฐีสมัยเหมือนตำแหน่งรัฐมนตรีคลังประจำเมืองมีตราตั้ง  และต้องเข้าเฝ้าพระราชาคอยควบคุมเศรษฐกิจของเมือง อยนู่ต่อมามีลูกชายสามคน วันหนึ่งเกิดศรัทธาในพระพุทธศาสนาจึงสละทรัพย์ทั้งหมดและออกบวช  โดยให้ลูกทั้งสามคนไปตักทอง ลูกชายคนแรกตักไม่ได้ คนที่สองก็ตักไม่ได้ ส่วนคนที่สามตักได้จึงยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้ลูกชายคนที่สาม  บอกลูกคนโตกับคนกลางว่าเมื่อต้องการทรัพย์ให้ไปหาลูกคนเล็ก ทุกอย่างมีเหตุมีที่มาทั้งหมด  เมื่อออกบวชก็ตั้งใจปฏิบัติธรรมไม่นานก็บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์
 

    ถ้าถามว่าชฎิลเศรษฐีมีบุญมีกรรมอะไรจึงได้รวยขนาดมีภูเขาทองคำหลังบ้านและทำไมถึงได้ถูกลอยน้ำมา

 
 
คุณค่าแห่งทองคำ
 มหาชนสร้างเจดีย์บูชาพระกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้า
 

อานิสงส์สร้างเจดีย์ทองคำ

 
     คือเมื่อภพอดีตสมัยพระกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้ามหาชนสร้างเจดีย์บูชาพระกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระอรหันต์รูปหนึ่งไปดูการสร้างเจดีย์และเห็นว่ามุมหนึ่งขาดอยู่  จึงถามชาวบ้านว่าเพราะอะไรชาวบ้านจึงบอกว่าขาดทองคำอยู่  พระอรหันต์จึงรับเป็นภาระและเข้าไปในเมืองบอกช่างทองคนหนึ่งว่า เขากำลีงมีการสร้างเจดีย์บูชาพระกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้ายังขาดทองอยู่อีกส่วนหนึ่ง โดยการไปบอกบุญ ปรากฏว่าเศรษฐีที่เป็นช่างทองทะเลาะกับภรรยา  อารมณ์กำลังพุ่งพล่านก็หันไปขึ้นเสียงใส่พระอรหันต์ ให้เอาพระศาสดาของท่านไปลอยน้ำเถอะ
 
     เมื่อภรรยาได้ยินก็ตกใจว่า ถ้าพี่โกรธฉันพี่ก็ดุฉัน ทำไมไปพูดพาดพิงพระบรมศาสดาเดี๋ยวกรรมหนัก  เมื่อช่างทองได้สตินึกขึ้นได้ก็ตกใจกราบพระอรหันต์บอกว่า  จะทำอย่างไรจึงจะล้างกรรมนี้ได้   พระอรหันต์จึงให้นำหม้อดอกไม้ทองคำสามหม้อไปบรรจุในเจดีย์ และไปกราบขอขมากับพระพุทธเจ้า ช่างทองจึงรีบมาทำ โดยไปชวนลูกคนแรกกับคนที่สองก็บอกว่า พ่อทำพ่อก็รับผิดชอบเอง จึงไปชวนลูกคนเล็กมาช่วยเมื่อเห็นว่า เป็นภาระของพ่อก็เป็นภาระของฉัน เมื่อเสร็จก็ไปกราบขอขมากับพระเจดีย์ของพระกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้า 
 
     บุพกรรมนั้นทำให้เกิดมากี่ชาติก็ถูกเขาลอยน้ำมาทุกชาติ แม้ชาติสุดท้ายก็ถูกเอาไปลอยน้ำเพราะคำที่เปล่งวาจาล่วงเกินผู้ทรงอันประเสริฐ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพียงแค่อารมณ์แค่ชั่ววูบ แต่ด้วยการที่ตั้งใจคิดและขอขมาโทษ ด้วยหม้อดอกไม้ทองคำสามหม้อนั้นเมื่อมาเกิดแล้วภูเขาทองคำเกิดขึ้นคู่บุญ ลูกคนโต คนกลางไม่ช่วยจึงขุดตักทองไม่ได้ แต่ลูกคนเล็กมาช่วยจึงรับมรดกสืบทอดไปได้
 
     เรื่องนี้จึงทำให้เราเห็นว่าบุญใครบุญคนนั้น ใครสร้างบุญ สร้างกรรมใดไว้ก็ต้องรับผลแห่งวิบากนั้น  ฉะนั้นอุทาหรณ์เรื่องนี้พวกเราทั้งหลายมีโอกาสในการสร้างบุญใหญ่บูชาผู้ที่มีคุณสูงให้ตั้งใจทำ
 
 
 

รับชมวิดีโอ
 
[[videodmc==45819]]
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/top_of_week/ทองคำ-คุณค่าแห่งทองคำ.html
เมื่อ 2 พฤษภาคม 2567 17:28
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv