ผลปฏิบัติธรรม 
ของ 
กัลยาณมิตร ณัฐชนก อินแกรม (อเมริกา)
 
 
    ลูกชื่อ ณัฐชนก อินแกรม อายุ 47 ปี จากเมืองแอตแลนต้า ประเทศสหรัฐอเมริกา อยู่ที่นี่มาได้ 9 ปี และทำงานเกี่ยวกับการประกันชีวิต แต่ชีวิตในวันวานของลูก ดูเหมือนว่าจะมีหลักประกันที่ไม่ค่อยมั่นคงนัก บริษัทประกันชีวิตในโลกนี้มีอยู่ไม่น้อย แต่ชีวิตหลังสิ้นสุดลมหายใจแล้ว ไม่รู้ว่าจะมีบริษัทไหนกล้าประกันให้บ้าง เหมือนชีวิตผ่านไปอย่างไร้ Concept เฝ้าถามตัวเองว่า เราเกิดมาทำไม ตายแล้วจะไปไหน พอใครบอกว่าวัดไหนดี ก็ไปหมด และเคยปฏิบัติธรรมโดยวิธีเอาใจไปไว้นอกตัว แต่ก็รู้สึกว่า ยังไม่ใช่
 
    จนกระทั่ง ปี พ.ศ.2541 กัลยาณมิตร สิทธิชัย  ได้เป็นกัลยาณมิตรคนแรก ชวนให้ลูกมาวัดพระธรรมกาย พอได้มาเห็นหลวงพ่อครั้งแรก หลวงพ่อผ่องใสมากๆ มีรัศมีรอบกาย รู้สึกเป็นบุญตาที่ได้เห็น บอกได้เลยว่า ประทับใจ ซาบซึ้ง ตะลึงในความงามของหลวงพ่อมากๆ มาวัดวันแรกลูกได้เห็นอัศจรรย์ตะวันแก้ว นึกกี่ครั้งก็ยังปลาบปลื้มไม่รู้จบ และได้ทำบุญสร้างองค์พระแกนกลางได้สำเร็จ โดยมีเพื่อนกัลยาณมิตรรวมเงินร่วมบุญด้วย ลูกซึ้งใจเพื่อนกัลยาณมิตรมาก ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ทำไมเพื่อนถึงดีขนาดนี้ ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย ยิ่งคิดยิ่งซึ้งใจ ยกให้เป็นซุปเปอร์เพื่อนเลยค่ะ
 
    หลังจากนั้นไม่นานลูกก็ได้เดินทางมาทำงานที่อเมริกา ได้รู้จักกับเพื่อนกัลยาณมิตรท่านหนึ่งชื่อ กัลยาณมิตร ทิพวรรณ  เข็มบุญเลิศ จึงได้มีโอกาสมาสร้างบุญที่ วัดภาวนาจอร์เจีย ในช่วงนั้น ลูกมีเพียงพระมหาสิริราชธาตุกรอบพระยานาคเท่านั้นที่นำติดตัวมาด้วย และท่านก็ช่วยลูกให้รอดพ้นจากอุบัติเหตุถึง 2 ครั้ง คือ
    ลูกมั่นใจว่า นี่เป็นอานุภาพของพระมหาสิริราชธาตุ และอานุภาพบุญที่ได้สร้างองค์พระแกนกลางในครั้งนั้นมาช่วยให้รอดพ้นจากอันตรายค่ะ
 
    ทุกวันนี้ลูกใช้ชีวิตอย่างมี Concept ฝากเบี้ยประกันให้ชีวิตด้วยการทำบุญทุกบุญ และนั่งสมาธิทุกวัน โดยยึดคติว่า ชีวิตไม่ใช่ดอกหญ้า อย่าปล่อยให้ไร้ค่า แล้วบ่นว่าเสียดาย ลูกจึงเติมคุณค่าให้ชีวิตโดยนั่งสมาธิอย่างน้อยวันละ 3 ชั่วโมง ลูกจะนั่งสมาธิปล่อยใจไปตามเสียงของหลวงพ่อ วางใจไปตามฐานทั้ง 7  แรกๆก็ยังวางใจไม่เป็น เพราะเคยชินกับการนำใจไปไว้นอกตัว และลุ้นเพราะอยากเห็น  แต่ก็พยายามสังเกตแล้วก็ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ พอนั่งมากๆก็เริ่มวางใจเป็น และรู้สึกตัวเบาๆโล่งๆ  บางทีตัวก็ยืด ขยายออก จากนั้นก็มีแสงเกิดขึ้นที่ศูนย์กลางกาย   เป็นแสงสว่างใสๆ เย็นๆ  แล้วลูกก็มองเห็นตัวเอง ที่ศูนย์กลางกายในท่านั่งสมาธิ แปลกมากเจ้าค่ะ เวลาเห็นภายในจะเห็นได้รอบทิศเลยทีเดียว  ไม่เคยเจอแบบนี้  พอเห็นแล้วก็เริ่มงงว่า ตัวเรานั่งอยู่ตรงนี้ แต่ทำไมในท้องนั่นยังมีตัวเราเหมือนกัน  แค่ เอ๊ะ...อ๊ะ...ภาพนั้นก็หายไปเลย  ทิ้งความมืดไว้ให้เป็นที่ระลึก ลูกจึงประคองใจใหม่อีกครั้ง  ผูกมิตรกับความมืด โดยคิดว่า จะมืดก็มืดไป  Don’t worry. ประคองใจเฉยๆไปเรื่อยๆ ไม่คิดอะไร แล้วอยู่ๆก็มีดวงใสๆขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย สว่าง  เย็นๆลอยขึ้นมา อยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ลูกมีความสุขมากๆ เป็นสุขแบบเปี่ยมล้น ท่วมท้นตัวเลยค่ะ เมื่อได้เห็นก็รู้สึกว่า ใช่แล้ว ทุกอย่างที่หลวงพ่อเคยบอกนั้น ถูกเผงเลย แค่ทำใจเฉยๆเย็นๆเดี๋ยวก็เห็นเอง
 
    มีคนเคยถามลูกว่า  “You นั่งนานๆไม่เมื่อยเหรอ” ลูกก็ตอบไปว่า “ตราบใดที่คุณเอาความคิดไปอยู่ที่ร่างกายคุณก็จะเมื่อย   แต่ถ้าคุณเอาใจมาอยู่ที่ตั้งของใจจริงๆ คือ ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 พอความสุขเกิดขึ้น ความเมื่อยก็หายไป” และความสุขภายในเป็นความสุขส่วนตัว ที่ขยายไปถึงบุคคลอื่นได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อก่อนลูกเป็นโรคแพ้ความผิดหวังอย่างรุนแรง ผิดหวังอะไรหนักๆก็คิดแต่จะฆ่าตัวตาย แต่ตอนนี้สมหวังแล้วค่ะ ชีวิตมีพลังตลอดเวลา
 
    สมาธิใช่จะดีต่อคนเท่านั้นนะค่ะ ยังมีผลต่อสติปัญญาของแมวด้วยค่ะ ตั้งแต่มีจานดาวธรรม ลูกจะเปิดตลอด  24 น. เปิดจนแมวตามมานั่งด้วย คือพอได้ยินเสียงหลวงพ่อนำนั่งสมาธิ แมวจะมานั่งที่ตักด้วย พอหลวงพ่อสัพเพฯมันก็ลุกไป   ผลปรากฎว่าแมวตัวนี้ฉลาดมาก แสนรู้เหนือแมวทั่วไป เป็นแมวที่สงบเสงี่ยม ส่วนแมวอีกตัวที่ไม่ค่อยสนใจดาวธรรม จะฉลาดน้อย วิ่งซน ไม่รู้เรื่องรู้ราว ตามประสาแมวแมวทั้งหลาย ผิดกับแมวตัวที่ชอบมานั่งที่ตักเวลานั่งสมาธิ เฉลียวฉลาดเกินชาติแมว ไม่น่าเชื่อค่ะว่า DMC จะทำให้แมวเปลี่ยนไป
 
 
    สามีของลูกชื่อ เอริค อินแกรม อายุ 41 ปี  เป็นชาวอเมริกัน เขาก็ชอบดู DMC เช่นกันค่ะ เขามีอาชีพเป็นวิศวกรออกแบบอุปกรณ์การสื่อสาร นับถือศาสนา  “ยูนิเทอร์เรี่ยน” คือศาสนาใหม่ที่รวมเอาข้อดีของทุกศาสนามาปฏิบัติ   แต่การปฏิบัติของสามีลูกเน้นมาทางพุทธศาสนามากกว่า เพราะเขาจะมาร่วมงานบุญทุกต้นเดือน  และตามมานั่งสมาธิที่วัดภาวนาจอร์เจียด้วยทุกครั้ง และไม่เคยขัดในการสร้างบุญเลย  เขาบอกว่า “เมื่อได้ยินเสียงหลวงพ่อ  รู้สึกใจสงบ  จิตใจสบาย  ทำให้นั่งสมาธิได้อย่างมีความสุข  การนั่งสมาธิเป็นความสุขที่ Peace  Full ” เขาจะนั่งสมาธิทุกวันโดยนั่งตอนเช้าก่อนไปทำงาน เขาเล่าว่า “เมื่อเอาใจมาไว้ที่ศูนย์กลางกาย จะรู้สึกตัวเบาๆ สบาย  ความคิดทั้งหลายจะหายไปหมดเหลือแต่ความสุข  และสมาธิทำให้สามารถควบคุมอารมณ์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่มีความวิตกกังวล มีความหนักแน่นขึ้น สามารถ Control อารมณ์และควบคุมสถานการณ์ได้ดีอย่างมีสติ
 
    เมื่อตัวลูกและสามีได้รับความสุขจากการนั่งสมาธิ ก็อยากทำหน้าที่ชวนคนมานั่งสมาธิกันมากๆ อยากจะช่วยทำภารกิจทุกอย่างของหลวงพ่อที่มีอยู่ให้สำเร็จค่ะ และลูกก็จะตั้งใจฝึกฝนการนั่งสมาธิให้มากขึ้น และดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ
 
    ลูกกราบขอบพระคุณคุณครูไม่ใหญ่อย่างสูงยิ่งค่ะ ที่ทำให้ลูกได้ทราบถึงคุณค่าของการเกิดมาเป็นมนุษย์ มีหลักประกันชีวิตที่มั่นคงและให้ได้รู้จักความสุขภายในจากการปฏิบัติธรรมค่ะ
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/world_meditation/USA_Ingram.html
เมื่อ 16 พฤษภาคม 2567 03:18
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv