ผลปฏิบัติธรรม 
ของ
พระหุ่น มินห์ ตันห์ (เวียดนาม)
 
 
    ผมชื่อ พระหุ่น มินห์ ตันห์ ชวนะภิกขุ อายุ 35 ปี เป็นพระภิกษุชาวเวียดนาม ในพระพุทธศาสนาเถรวาท จากจังหวัดวินห์ลอง ซึ่งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศเวียดนาม ใกล้เมืองไซง่อน ผมพูดได้ 5 ภาษาครับ ทั้งพม่า ไทย ลาว เวียดนาม อังกฤษ
 
    ผมมีความสนใจในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่เยาว์วัย โดยมี โยมพ่อ-โยมแม่ เป็นผู้นำเข้าวัด สมัยก่อนครอบครัวของผมนับถือศาสนาพุทธมหายาน แต่ต่อมา พี่ชายคนโต ได้ไปเรียนธรรมะในวัดเถรวาท ก็เห็นว่า มีการสอนธรรมะที่ดี ฟังแล้วเข้าใจ หลักปฏิบัติก็ดี จึงได้ชักชวนครอบครัวไปเข้าวัดเถรวาท ชื่อ วัดซิวลี้ ซึ่งตั้งมานานกว่า 60 ปี บรรดาพี่น้องของผมซึ่งมีทั้งหมด 11 คน พี่ชาย 5 คน พี่สาว 5 คน เป็นชาวพุทธหมดทุกคนเลยครับ พี่ชายทั้ง 5 คน ต่างก็ได้เคยออกบวชเป็นพระสงฆ์ในฝ่ายเถรวาทกันหมด และพี่ชายคนที่ 5 ก็ยังอยู่ในเพศสมณะมุ่งแสวงหาหนทางพระนิพพาน อย่างมีความสุขเบิกบานครับ
 
    ก่อนบวช ผมได้ทำหน้าที่เป็นครูสอนหนังสือ เป็นเวลา 6 ปี โดยเน้นการสอนถึงเรื่องคุณธรรม ความเคารพต่อบิดา มารดา และครูบาอาจารย์ การได้เป็นครูสอนนักเรียน เป็นงานที่มีความสุข เป็นอาชีพที่สามารถเปลี่ยนคนให้เป็นคนดีได้ อีกทั้งโยมพ่อ-โยมแม่ ก็สนับสนุน และเป็นกำลังใจให้ตลอด ต่อมาหลังจากที่โยมพ่อและโยมแม่ ละโลกแล้ว ผมก็ออกบวช เพราะอยากให้ท่านทั้งสองได้บุญและคิดว่า ถ้าเป็นพระจะทำให้ผมสามารถทำหน้าที่ครูได้ดียิ่งขึ้น และสอนวิชาพ้นทุกข์ให้คนได้ด้วย
 
    ผมออกบวช เมื่ออายุ 29 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 ที่ วัดชิวอูมิน  เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า ปัจจุบันอยู่ในเพศสมณะมา 6 พรรษาแล้วครับ
 
    เมื่อปีที่แล้ว ผมได้มาจำพรรษาที่ วัดป่าวิเวก จังหวัดสกลนคร และปัจจุบันกำลังเตรียมสอบ เพื่อศึกษาในระดับปริญญาโท ที่ วัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ครับ
 
    ผมได้มา วัดพระธรรมกาย ครั้งแรก เมื่อวันที่ 20 เม.ย. พ.ศ.2550 โดยการชักชวนของเพื่อนสหธรรมิกรูปหนึ่ง พอมาแล้วผมประทับใจมาก เหมือนรวมความเป็นที่สุดในด้านดีไว้ในที่เดียวกัน วัดใหญ่ที่สุด พระเยอะที่สุด คนเยอะที่สุด ห้องสมุดใหญ่ที่สุด โดยเฉพาะในวัน Happy Birthday ของหลวงพ่อ เห็นคนแต่งชุดขาวเยอะมาก ผมดีใจมากที่ได้มาเห็นภาพที่สวยงาม ยิ่งกว่าภาพในฝัน เพราะแม้นอนหลับก็ไม่เคยฝันเห็นภาพอย่างนั้น และปีหน้า 30,000 วัด ถ้านิมนต์อีก ผมก็จะมาอีกแน่นอน และผมอยากกราบขออนุญาตพาพระที่เวียดนามมาร่วมงานบ้างได้ไหมครับ
 
    จากที่ได้สัมผัสสิ่งต่างๆในวัดพระธรรมกาย ผมอยากให้ เวียดนามมีวัดอย่างวัดพระธรรมกายบ้าง เพราะมีการจัดการและบริหารพุทธบริษัทสี่ ดุจเดียวกับสมัยพุทธกาล สถานที่สะอาดสะอ้าน เวลานั่งทำสมาธิก็พลอยทำให้ใจใสไม่ขุ่นมัว
 
    แม้ผมจะได้พำนักอยู่เพียงหนึ่งสัปดาห์ ก็ได้รับการอนุเคราะห์และดูแลจากพระอาจารย์เป็นอย่างดี ตลอดจนเพื่อนบรรพชิตต่างแดน เช่นพระภิกษุจากมองโกเลีย ผมรู้สึกผูกพันเหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน เป็นโอกาสที่ดีที่เราเป็นสมณะเหมือนกันแต่ได้มาเจอกันที่นี่ และสามเณรมองโกเลียก็ขยันปฏิบัติธรรมด้วยครับ
 
    ผมมีโอกาสได้ฟังหลวงพ่อแสดงธรรมะ ในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ได้เห็นหลวงพ่ออย่างใกล้ชิด ผมดีใจมากๆที่ได้เห็นหลวงพ่อ ใบหน้าหลวงพ่อเปี่ยมด้วยเมตตา เวลาเดินก็สง่างาม ในสายตาของผม หลวงพ่อเป็นต้นบุญต้นแบบ สำหรับพุทธบุตรทุกๆคน ผมเดินทางมาหลายที่ทั้งเวียดนาม, เมืองเขมร, เมืองลาว, เมืองพม่า, ไทยแลนด์ ไม่เห็นใครเหมือนหลวงพ่อเลยครับ หลวงพ่อเป็นสุดยอดผู้นำ เวลาสอนธรรมะ หลวงพ่อสอนได้อย่างเป็นธรรมชาติ
 
    หลังจากที่ผมได้นั่งสมาธิปฏิบัติธรรม โดยการหลับตาวางใจเบาๆสบายๆ พอใจนิ่ง เป็นสมาธิ ผมจะรู้สึกตัวเบา สบาย อยากนั่งไปเรื่อยๆ สักพักผมก็เห็นแสงที่สว่างมากๆบางครั้งเห็นเป็นดวงอาทิตย์ ที่เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ ทั้งสีเหลือง สีแดง  สีขาว เห็นแสงแล้วผมรู้สึกหัวใจดีมากๆครับ ใจสบาย (แขวตัม) และมีความสุขมาก (ก๊อ สื่อ หั่น ฟุบ)
 
    ช่วงก่อนหน้านี้ ผมมักจะปวดหัว ไม่สบายจมูก คือน้ำจมูกไหลบ่อยๆ แล้วหัวใจก็ไม่ดี รู้สึกเจ็บๆที่ใจ พอได้นั่งสมาธิ มีความสบายใจ ความไม่สบายกายก็หายหมดเลย 
 
ผมมีคำถามอยากถามหลวงพ่อครับ
 
1.เวลานั่งสมาธิ ถ้าจิตไม่สงบ มีความคิดเยอะควรปรับอย่างไร
2.เวลาง่วงแต่อยากนั่งทำสมาธิ ต้องทำอย่างไรครับ
3.ถ้าเรานั่งเห็นดวง แล้วตัวเบาๆ แต่รู้สึกว่าดวงนั้นอยู่ข้างหน้า ควรจะมองที่กลางท้องหรือมองที่ดวงครับ
    ผมอยากศึกษาเรื่องสมาธิให้เข้าใจ และมีเป้าหมายอยากให้คนเวียดนามได้นั่งสมาธิ และศึกษาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างสมบูรณ์
 
    (พระเดชพระคุณคุณครูไม่ใหญ่ เพิ่มเติมว่า ให้เริ่มต้นทั้งทฤษฎีและปฏิบัติอย่าให้ขาดแม้แต่เพียงวันเดียว ดั่งเช่น พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระมงคลเทพมุนี สด จนฺทสโร ซึ่งเป็นต้นแบบที่ดีมาก ซึ่งอยู่ในช่วงใกล้ๆ นอกเหนือจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งอยู่ในช่วงไกลๆ ให้มี สติ สบาย สม่ำเสมอ หมั่นสังเกตว่า เราทำอย่างไรจึงจะได้ผล วันนี้เราทำได้ผลเพราะอะไร แต่ให้สังเกตตอนเลิกนั่งแล้ว อย่าไปสังเกตตอนที่กำลังนั่งสมาธิ หากวันใดนั่งได้ดี ให้ลืมเวลาไปเลย แล้วนั่งไปเรื่อยๆ เดี๋ยวจะดีมากๆ)
 
    พอได้มาเห็นต้นแบบจากหลวงพ่อแล้ว หัวใจของผมอัดแน่นไปด้วยความปรารถนา ที่จะฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในเวียดนาม ให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้งให้ได้ครับ และผมมุ่งหวังอยากให้หลวงพ่ออายุยืนๆเป็นหนุ่มอย่างนี้นานๆ มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง และเป็นหลักชัยของพวกเราทุกคนครับ
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/world_meditation/Vietnam_Phra_Hun_Mintun.html
เมื่อ 8 พฤษภาคม 2567 03:03
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv