ผลปฏิบัติธรรม

กัลยาณมิตร อารักษ์ สุวรรณฤทธิ์

(อเมริกา)

 
 
 
    ผมชื่อ อารักษ์ สุวรรณฤทธิ์ อายุ 68 ปี อยู่ที่เมืองซีแอตเติ้ลสหรัฐอเมริกามาได้ 35ปีแล้วครับ รู้จักวัดครั้งแรกปี พ.ศ.2541 จาก คุณนวลน้อย ลีพัฒนะพันธ์   ผู้เปิดบ้านกัลยาณมิตรหลังแรกในซีแอตเติ้ล จากนั้นผมเริ่มสนใจและปฏิบัติธรรมเรื่อยมา แม้ผมจะถูกเพื่อนๆ พูดกระทบกระเทียบว่า “คุณนี่...ท่าจะเพี้ยนใส่ชุดขาวไปวัด เหล้าก็ไม่กิน บุหรี่ก็ไม่สูบ เพี้ยนไปแล้วแน่ๆ” ผมตอบว่า “ไม่เพี้ยนหรอก ชุดสีขาวเป็นสีที่สะอาดบริสุทธิ์ ปู่ย่า ตายาย สมัยก่อนก็ใส่ชุดขาวมาวัดกันทั้งนั้น และการไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ก็เป็นปกติของมนุษย์ที่ต้องมีศีล คนไม่มีศีลต่างหาก ถึงจะเรียกว่าเพี้ยนจากความเป็นมนุษย์” แล้วผมก็ไม่แคร์ปากหนูปากแมว ตั้งหน้าตั้งตาทำบุญอย่างต่อเนื่อง ร่วมบุกเบิกศูนย์ จนกระทั่งมี วัดภาวนาวอชิงตัน ในปัจจุบัน
 
 
    ปี พ.ศ.2542 ผมมาวัดพระธรรมกาย ที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก ผมได้พบคุณครูไม่ใหญ่ครั้งแรก ผมปลื้มใจสุดขีด ท่านดูสว่างมากๆ ผิวพรรณผ่องใส ใบหน้าตึงสุดๆ เหมือนหนุ่มอายุ 30 เท่านั้น วันนั้นผมได้ถวายปัจจัยบูชาธรรม 1 M ผมปลื้มจนน้ำตาไหล
 
    ก่อนเกษียณ ผมทำงานที่ โบอิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทฯ สร้างและผลิตเครื่องบินของอเมริกาที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นเวลาถึง 18 ปี ทำหน้าที่ติดเสาอากาศสัญญาณเครื่องบินเพื่อรับสัญญาณจากภาคพื้นดิน ซึ่งเป็นงานที่ต้องทำด้วยความละเอียด พลาดไม่ได้ ผมสร้างเครื่องบินรวมแล้ว 2,000 ลำแล้วครับ
 
    บางครั้ง แม้เวลาทำงานจะมีปัญหาด้านเทคนิค ผมจะใช้การทำสมาธิเพื่อแก้ไขปัญหา และทำให้ผ่านไปได้ดีทุกครั้ง จนเพื่อนร่วมงานชมว่า You คือ Number one ตอนผม Retire โบอิ้งไม่อยากให้ผม Retire จึงเสนอให้ผมไปเที่ยวฮาวาย เพื่อพักผ่อน...ผมตอบปฏิเสธ เพราะอยากเอาเวลามาขยายจานดาวธรรมมากกว่า
 
    การติดดาวที่อเมริกา ต้องเผชิญกับศัตรูตัวฉกาจคือยุง ยุงที่นี่มีน้อย แต่พอมีทีนี่ ตัวไม่น้อยเลยครับ Size ขนาดลูกแมลงปอ ผมต้องคอยเป่าไม่ให้ยุงมัน Landing ปักหัวที่เนื้อของผม และต้องเจอกับความหนาวถึงขั้นอยู่เฉยๆ มือก็สั่นได้ และผมก็กลัวความสูงที่สุดในชีวิต พอขึ้นไปแล้วใจหวิวๆ แต่ตอนนี้ผม กลัวไม่ได้บุญ มากกว่า เวลาที่ผมติดเสาอากาศเครื่องบินจะมีเครื่องมือคอย Safety แต่ติดดาวเราจะมีบุญคอย Safety ใหม่ๆ มีคนมาเตือนผมเยอะบอกว่า อายุจะ 70 แล้วไปขึ้นหลังคาสูงอย่างนั้น เดี๋ยวจะกลับบ้านเก่าก่อนเวลา ผมก็ตอบเขาว่า จะอยู่ที่สูงหรือที่ราบบนพื้นดินก็ต้องตายอยู่ดี ถ้าตายผมเลือกตายในหน้าที่ดีกว่า
 
 
 
    พอติดดาวเสร็จ แล้วเห็นคุณครูไม่ใหญ่ขึ้นมาที่จอได้ ผมจะมีความสุขใจชุ่มชื่นหล่อเลี้ยงทั้งวัน ผมติดจานดาวธรรมในอเมริกาได้กว่า 200 ดวงแล้ว
 
    แต่ก่อนนั้น ผมเคยไปนั่งสมาธิที่อื่น นั่งไปก็ปวดขามาก เวลาปวดขา เขาจะไม่ให้เราขยับ แต่จะให้ภาวนา ปวดหนอๆ ยิ่งภาวนา ผมกลับรู้สึกว่า ผมปวดจริงๆ และปวดมากๆ เข้าไปทุกทีจนผมเครียดมาก แต่พอรู้จักคุณครูไม่ใหญ่ สอนทำใจสบายๆ ทำแล้วผมรู้สึกกระปรี้กระเปร่า กระชุ่มกระชวยเหมือนกลับสู่วัยหนุ่มรอบ 2 ซึ่งจากประสบการณ์การทำเสาอากาศเครื่องบินได้สอนผมว่า ถ้าเราปรับเสาสัญญาณได้อย่างสมบูรณ์ ก็จะติดต่อกับศูนย์สัญญาณภาคพื้นได้ ผมก็มาคิดว่า ใจเราก็เหมือนเสาสัญญาณ ถ้าเราปรับใจเอาไว้ที่ศูนย์กลางกายได้อย่างถูกส่วน ก็จะสามารถรับสัญญาณความสุข จากศูนย์สัญญาณภายในได้
 
    ผมก็ไม่คิดอะไรมาก นิ่งๆเฉยๆ อย่างเดียว เฉยๆ ไป 30 นาที จนใจเริ่มพอเหมาะ แล้วผมก็เห็นดวงแก้วผุดขึ้นมาเรื่อยๆ ที่กลางท้อง เป็นดวงสีขาวอมฟ้าสวยๆ ใสๆ ผุดขึ้นมา จนนับไม่ทัน มีความสุขมาก เป็นสุขที่บอกไม่ถูก รู้สึกนั่งสบายๆ จนลืมไปว่า เรากำลังนั่งสมาธิอยู่ มันรู้สึกเพลินๆ เบาๆ เหมือนเวลานั่งบนเครื่องบิน ไม่อยากลุกเลย อยากนั่งต่อไปเรื่อยๆ ทุกวันนี้ผมนั่งสมาธิวันละ 2 ชั่วโมงครับ
 
ส่วนเทพธิดาในดวงใจของผม เธอชื่อ จารุณี ตอนแรกเธอยังไม่เข้าใจเรื่องบุญเท่าไร แต่ก่อนจะมาวัดที ต้องเกลี้ยกล่อมอยู่นาน จนทำเอาผมกังวลมาก กลัวภรรยาที่อยู่เคียงข้างสร้างฝัน จะอดได้บุญ และเวลาขับรถมาวัดแล้ว ถ้าหันไปที่เบาะข้างๆ อันว่างเปล่า ใจผมจะหดหู่ ผมจึงอธิษฐานจิตทุกวันให้เธอได้มาวัด หลังจากเธอดู DMC ทำให้เธอเข้าใจบุญ เราจึงไปวัดด้วยกันทุกครั้ง ผมมีความสุขมากที่เบาะข้างๆ ไม่ว่างอีกต่อไป และแม้ผมกลับจากติดดาวตอนดึกดื่น เธอก็ไม่น้อยใจเหมือนแต่ก่อนแถมมาเตรียมอาหารไว้ให้ผมด้วย
 
 
ผมอยากฝากถึงทุกคนทั่วโลกว่า การติดดาวทุกครั้งจะเอาชีวิตเป็นเดิมพัน บ้านที่ติดจานแล้ว ก็ขอให้ดูอย่างต่อเนื่อง อย่าปล่อยให้ดาวที่ติดเป็นดาวโรยรอวันร่วงนะครับ
 
    หลวงพ่อครับ ผมพร้อมจะตายเพื่อการขยายจาน ผมจะสู้ไม่ถอยเพื่องานเผยแผ่วิชชาธรรมกาย หากผมต้องตายในระหว่างการติดจาน ขอความเมตตาหลวงพ่อช่วยผมด้วยนะครับ
 
    ขออีกสักนิดครับ เพราะผมเจอสิ่งที่ทำให้มั่นใจในอานุภาพของมหาปูชนียาจารย์ ตามปกติ รถผมจะต้องมีรูปของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯทุกคัน วันหนึ่งผมกำลังขับรถอยู่ดีๆ ก็มีมือมาสะกิดผมอย่างแรงๆ และบอกว่า ตื่นลูก...ตื่น...ตื่นลูก  ณ วินาทีนั้นเองผมจึงเห็นว่า มีเสาไฟฟ้าอยู่ข้างหน้ารถผม ผมหักหลบออกข้างทางได้ทัน พอรถจอด ผมก็นั่งพนมมือสาธุขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯที่ช่วยชีวิต
 
    สุดท้ายนี้ ขอกราบแทบเท้าพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตนี้ จะขอทำงานถวายคุณครูไม่ใหญ่ไปตลอดชีวิตครับ
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/world_meditation/usa_aarak.html
เมื่อ 30 เมษายน 2567 16:00
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv