ย้อนรอยกาลตามรอยธรรมแห่งพระพุทธโฆษาจารย์
 
เรื่อง : Tipitaka (DTP)
จากวารสารอยู่ในบุญฉบับเดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๙
 

      รอยจารึกอักษรโบราณอายุหลายร้อยปีที่ปรากฏบนแผ่นลานนั้น มีความหมายและทรงคุณค่าต่อการศึกษาเชิงประวัติศาสตร์แห่งการสืบทอดคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผ่านการจดจำและจดจารจากจุดเริ่มต้น ณ ดินแดนชมพูทวีปในสมัยพุทธกาล สืบทอดยาวนานผ่านรุ่นสู่รุ่นต่อเนื่องหลายพันปีจนถึงปัจจุบัน แม้อักขระมีความแตกต่างกันไปตามสายจารีต แต่ไม่ว่าจะเป็นอักษรขอม อักษรธรรม อักษรพม่า และอักษรสิงหล ต่างก็จดจารเนื้อความภาษาบาลีแห่งพระธรรมวินัยของพระบรมครูเฉกเช่นเดียวกัน เอกลักษณ์อันโดดเด่นของแต่ละสายอักษรดึงดูดให้นักวิชาการทั้งสายจารีตและสายตะวันตกเข้ามาศึกษาวิเคราะห์ค้นคว้าร่วมกันเพื่อย้อนไปสู่คำสอนดั้งเดิม
 
พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ ผู้อำนวยการโครงการพระไตรปิฎก ฉบับวิชาการ (DTP) และพระมหาวรท กิตฺติปาโล หัวหน้ากองพระไตรปิฎก ถ่ายภาพร่วมกับ Prof. Oskar von HinÜber และ Dr. Alexander Wynne
พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ ผู้อำนวยการโครงการพระไตรปิฎก ฉบับวิชาการ (DTP)
และพระมหาวรท กิตฺติปาโล หัวหน้ากองพระไตรปิฎก
ถ่ายภาพร่วมกับ Prof. Oskar von HinÜber และ Dr. Alexander Wynne

      เมื่อวันที่ ๒๒-๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ ผู้อำนวยการโครงการพระไตรปิฎก ฉบับวิชาการ (DTP) ได้เชิญนักวิชาการที่เป็นที่รู้จักในวงการการศึกษาคัมภีร์ใบลานและภาษาบาลี คือ Prof. Oskar von HinÜber ศาสตราจารย์ชาวเยอรมัน ผู้แต่งตำราที่ได้รับการยอมรับและใช้อ้างอิงจากนักวิชาการทั่วโลก และ Dr. Alexander Wynne นักวิชาการชาวอังกฤษ พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัย Oxford เข้าร่วมงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ณ กองพระไตรปิฎกวัดพระธรรมกาย เพื่อให้ความรู้และข้อแนะนำแก่นักวิชาการประจำของโครงการ ซึ่งประกอบด้วยพระภิกษุ อุบาสก อุบาสิกา และนักวิชาการจากหลากหลายประเทศ คือ ประเทศไทยเมียนมา ศรีลังกา ญี่ปุ่น และสเปน
 
 

     การสัมมนาเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ ทางโครงการได้นำภาพถ่ายดิจิทัลของคัมภีร์ใบลานพระไตรปิฎกทีฆนิกาย มหาวรรค แห่งพระสุตตันตปิฎก อักษรพม่าจากประเทศเมียนมาอักษรสิงหลจากประเทศศรีลังกา และอักษรขอม อักษรธรรม จากประเทศไทย จำนวน ๒๐ ฉบับ ที่ผ่านการคัดเลือกและกลั่นกรองมาจากคัมภีร์ทั้งหมดกว่าร้อยฉบับ เพื่อให้ได้คัมภีร์ที่ดีที่สุด เก่าแก่ที่สุด และสมบูรณ์ที่สุด อย่างน้อยสายละ ๕ คัมภีร์ แล้วนำมาศึกษาตามหลักวิชาคัมภีร์โบราณ เพื่อย้อนไปสู่คำสอนดั้งเดิมสมัยพระพุทธโฆษาจารย์ เพราะหลักฐานที่ปรากฏในอรรถกถาของพระพุทธโฆษาจารย์ที่แปลและเรียบเรียงขึ้นเพื่อขยายความพระไตรปิฎกบาลีทำให้เราสามารถสืบย้อนคำสอนแห่งพระธรรมวินัยของพระบรมศาสดากลับไปได้อย่างน้อยถึงราวปี พ.ศ. ๙๐๐
 

     คัมภีร์ใบลานถือเป็นข้อมูลปฐมภูมิที่คัดลอกจดจารสืบเนื่องมาจากคัมภีร์ใบลานพระไตรปิฎกฉบับแรกที่จารขึ้น ณ เกาะลังกาหลังพุทธปรินิพพานได้ ๔๐๐ ปีเศษ แม้คัมภีร์ต้นฉบับเสื่อมสลายสูญหายไปนานแล้ว แต่คัมภีร์พระไตรปิฎกใบลานที่หลงเหลือในปัจจุบันที่เกิดจากการจารคัมภีร์ใบลานฉบับใหม่ขึ้นทดแทนฉบับเดิมจากรุ่นสู่รุ่น ถือเป็นมรดกการสืบทอดที่บันทึกคำสอนดั้งเดิมเมื่อสองพันกว่าปีก่อนให้คงอยู่มาจนทุกวันนี้ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่า คัมภีร์ใบลานพระไตรปิฎกฉบับแรกได้รับการจารจารึกลงบนแผ่นลานในสมัยพระเจ้าวัฏฏคามณีอภัย เมื่อราวปี พ.ศ. ๔๐๐ เศษ แต่ก่อนหน้าที่จะมีการจารึกเป็นลายลักษณ์อักษร แต่เดิมในสมัยพุทธกาล พระสัทธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้รับการสืบทอดด้วยการสวดทรงจำแบบปากต่อปากที่เรียกว่า “มุขปาฐะ” ในดินแดนชมพูทวีปอันเป็นแหล่งกำเนิดของพระพุทธศาสนา
 
คัมภีร์ใบลานอรรถกถา อักษรธรรม จารเมื่อจุลศักราช ๑๒๐๔ พบที่เมืองแพร่
คัมภีร์ใบลานอรรถกถา อักษรธรรม จารเมื่อจุลศักราช ๑๒๐๔ พบที่เมืองแพร่

    ต่อมาหลังการสังคายนาครั้งที่ ๓ ที่กระทำขึ้นหลังพุทธปรินิพพานราว ๒๐๐ - ๓๐๐ ปี คำสอนของพระพุทธองค์จึงแผ่ขยายไปสู่ดินแดนอื่นๆ อย่างกว้างขวางเมื่อครั้งพระเจ้าอโศกมหาราชทรงจัดส่งสมณทูตออกประกาศเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังดินแดนต่างๆ จำนวน ๙ สาย ครั้งนั้น คณะพระภิกษุซึ่งมีพระมหินทเถระเป็นผู้นำเดินทางไปประดิษฐานพระพุทธศาสนายังเกาะลังกา แต่ในเวลาต่อมากษัตริย์ทมิฬเข้ายึดอำนาจครอบครองเกาะลังกา เกิดความวุ่นวายในแผ่นดิน พระภิกษุสงฆ์ได้รับความเดือดร้อนไปทั่ว บางส่วนจึงเดินทางลี้ภัยไปยังชมพูทวีป บางส่วนที่ยังอยู่ในเกาะลังกาก็หลีกเร้น ซ่อนตัว ไม่สามารถปฏิบัติศาสนกิจได้เหมือนก่อน

    เมื่อพระเจ้าวัฏฏคามณีอภัยสามารถยึดอำนาจคืนจนบ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติทรงเล็งเห็นว่า หากยังสืบทอดพระธรรมวินัยด้วยการสวดทรงจำเพียงอย่างเดียวไม่อาจรักษาพระธรรมวินัยให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ได้ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สงฆ์ที่เหลืออยู่ในประเทศและที่เดินทางกลับมาจากชมพูทวีปทบทวนพระธรรมวินัยให้ครบถ้วนสมบูรณ์ แล้วให้จารจารึกพระไตรปิฎกลงในแผ่นลานเป็นภาษาบาลีด้วยอักษรสิงหล นับเป็นครั้งแรกที่การสืบทอดพระธรรมวินัยเปลี่ยนรูปแบบจากการสวดทรงจำเป็นการจารจารึกเป็นลายลักษณ์อักษร
 

     ในขณะที่แสงแห่งพระสัทธรรมได้สว่างไสว ณ เกาะลังกา พระพุทธศาสนาในชมพูทวีปกลับเสื่อมลงอย่างมากเนื่องด้วยภัยจากศาสนาอื่นที่เข้ามารุกราน แม้คัมภีร์พระไตรปิฎกยังพอหลงเหลืออยู่ในอินเดียบ้างแต่ไม่มีคัมภีร์อรรถกถาซึ่งใช้อธิบายเนื้อความของพระไตรปิฎก จนกระทั่งราวปี พ.ศ. ๙๐๐ พระพุทธโฆษาจารย์ นักปราชญ์ชาวอินเดีย ผู้มีความรู้เชี่ยวชาญแตกฉานในภาษาบาลีจึงเดินทางไปยังเกาะลังกาเพื่อแปลและเรียบเรียงอรรถกถาจากภาษาสิงหลกลับเป็นภาษาบาลีอีกครั้งตามคำแนะนำของพระอุปัชฌาย์หลายปีแห่งการศึกษาเล่าเรียนภาษาสิงหลจนกระทั่งแตกฉาน ท่านได้แปลคัมภีร์อรรถกถาจากภาษาสิงหลกลับคืนสู่ภาษาบาลีหลายเล่ม ซึ่งวงการการศึกษาพระพุทธศาสนาใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงอย่างแพร่หลายอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน อาทิ คัมภีร์อรรถกถาธรรมบท
 

     แม้คัมภีร์พระไตรปิฎกใบลานฉบับแรกที่จาร ณ เกาะลังกาจะเสื่อมสลายไปนานแล้วก็ตาม แต่คัมภีร์ใบลานยุคต่อมาที่จารขึ้นทดแทนฉบับเดิมก็ยังคงเหลืออยู่ให้นำมาศึกษาประกอบกับคำอธิบายขยายพระไตรปิฎกที่ปรากฏในคัมภีร์อรรถกถา ที่สืบต่อกันมานับแต่ พ.ศ. ๙๐๐ รวมทั้งความรู้ด้านไวยากรณ์บาลีประวัติศาสตร์พุทธศาสนา หลักวิชาคัมภีร์โบราณ นิรุกติศาสตร์ และความรู้ทางวิชาการสาขาอื่น ๆ ได้นำมาใช้ศึกษาค้นคว้าในการสัมมนาเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ ซึ่งคณะนักวิชาการร่วมกันวิเคราะห์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในหลายประเด็น ผ่านมุมมองแห่งโลกตะวันตกผสานกับมุมมองแห่งโลกตะวันออก ส่งผลให้ผลงานวิเคราะห์ทางวิชาการออกมาในมุมกว้างและลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปเพื่อย้อนเนื้อความที่ปรากฏในพระไตรปิฎกที่ย้อนได้ไกลอย่างน้อยถึงสมัยพระพุทธโฆษาจารย์ เพื่อเป้าหมายสูงสุดในการรักษาสืบทอดคำสอนของพระบรมศาสดาที่บริสุทธิ์บริบูรณ์ให้ยาวนานสืบไป
 

อ้างอิง


มหามกุฏราชวิทยาลัย. สฺยามรฏฺฐสฺส เตปิฏกฏฺฐกถา ธมฺมปทฏฺกถา (ปฐโม ภาโค). กรุงเทพ,โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย, ๒๕๓๕.
มหามกุฏราชวิทยาลัย. สฺยามรฏฺฐสฺส เตปิฏกฏฺฐกํ สุตฺตนฺตปิฏเก ขุทฺทกนิกายสฺส. กรุงเทพ,โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย, ๒๕๒๒.
มหามกุฏราชวิทยาลัย. พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑. กรุงเทพ, โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย, ๒๕๕๒.
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/ความรู้รอบตัว/ย้อนรอยกาลตามรอยธรรมแห่งพระพุทธโฆษาจารย์.html
เมื่อ 29 มีนาคม 2567 21:16
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv