มังกรสอนใจ 4
บทความให้กำลังใจในการดำเนินชีวิต
 
 
ชายงาม
 

             เช้าวันหนึ่งหลังจากล้างหน้าหวีผมสวมเสื้อผ้า สวมหมวกแล้วเขาก็ยืนชื่นชมรูปร่างหน้าตาตนเองอยู่หน้ากระจก และถามภรรยาของตนขึ้นว่า "ฉันกับสวีกงเปรียบเทียบกันแล้วใครมีหน้าตางดงามกว่ากัน"


     ที่แคว้นฉีมีชายคนหนึ่งชื่อ โจวจี้ หน้าตาหล่อเหลาคมคาย รูปร่างลักษณะงดงาม เขารู้สึกภูมิใจในรูปร่างหน้าตาของตนเองมาก เช้าวันหนึ่งหลังจากล้างหน้าหวีผมสวมเสื้อผ้า สวมหมวกแล้วเขาก็ยืนชื่นชมรูปร่างหน้าตาตนเองอยู่หน้ากระจก และถามภรรยาของตนขึ้นว่า

     "ฉันกับสวีกงเปรียบเทียบกันแล้วใครมีหน้าตางดงามกว่ากัน"
 
     ภรรยาขอเขาตอบว่า...
 
     "สวีกงจะเปรียบเทียบสู้ท่านได้อย่างไร"
 
     สวีกงเป็นผู้มีรูปโฉมงามสง่า ชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วประเทศ แต่ภรรยาของโจวจี้กลับบอกว่าหล่อสู้โจวจี้ไม่ได้ โจวจี้ฟังแล้วยังไม่ค่อยเชื่อดีนัก จึงไปถามภรรยาน้อยของตนว่า "เธอดูฉันกับสวีกงใครหล่อกว่ากัน"

     ภรรยาน้องเขาตอบว่า "สวีกงไม่มีทางสู้ท่านได้อยู่แล้ว"

     วันถัดมา มีแขกคนหนึ่งมาขอพบโจวจี้ หลังจากการพูดคุยธุระเสร็จโจววี้ก็ถือโอกาสถามแขกคนนั้นว่า "คุณดูรูปร่างหน้าตาผมเปรียบเทียบกับสวีกงแล้วเป็นอย่างไร"

     แขกคนนั้นตอบว่า "ถึงแม้สวีกงจะเป็นชายที่มีหน้าตาดี แต่เมื่อเทียบกับท่านแล้ว ยังห่างไกลกันครับ"
 
     เขาฟังแล้วรู้สึกดีใจมาก
 
     ผ่านไปไม่กี่วัน สวีกงมีธุระได้มาที่บ้านโจวจี้ โจวจี้ได้สังเกตพินิจพิจารณาดูสวีกงอย่างละเอียด พบว่าสวีกงนอกจากจะมีรูปร่างหน้าตาดีแล้ว ยังมีบุคลิกที่สูงสง่าอย่างยิ่งแฝงอยู่ด้วย ตนเองเปรียบเทียบไม่ได้เลย ลองไปส่องกระจกดูอีกหลาย ๆ รอบ พบว่าไม่เพียงแต่เปรียบไม่ได้เท่านั้น แต่ยังห่างกันไกลทีเดียว

     หลังจากสวีกงกลับไปแล้ว โจวจี้มีท่าทางซึมเซา ไม่สดชื่นขังตัวเองอยู่ในห้องหนังสือ คิดตรึกตรองอยู่ครึ่งวัน ในที่สุดก็คิดได้สว่างโพลงขึ้นในใจ พูดกับตัวเองว่า
 
     "เห็นอยู่ชัดๆ ว่ารูปร่างหน้าตาฉันไม่มีทางเปรียบเทียบกับสวีกงได้เลย แต่ภรรยาของฉันบอกว่าฉันมีหน้าตาดีกว่าสวีกง เพราะเธอรักฉัน ภรรยาน้อยของฉันบอกว่าฉันหน้าตาดีกว่าสวีกง เพราะเธอกลัวฉัน เพื่อนฉันบอกว่าฉันหน้าตาดีกว่าสวีกง เพราะเขามีธุระจะให้ฉันช่วยคิดจะได้ยินความคิดเห็นที่ถูกต้องแท้จริงจากใจคนรอบข้างช่างเป็นเรื่องไม่ง่ายเลย"
 
ท่านสาธุชนทั้งหลาย...

     คนส่วนใหญ่ในโลกปรารถนาคำสรรเสริญเยินยอ เมื่อได้รับคำชมก็พึงพอใจ ทั้งที่หากพิจารณาจริงๆ แล้วจะพบว่า คำสรรเสริญเยินยอนั้นไม่มีอะไรเป็นแก่นสารที่เชื่อถือได้ ยิ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจหรือมีทรัพย์สมบัติ ผู้ที่เข้ามาหาคอยป้อนคำสรรเสริญให้นั้น ก็มักหวังประโยช์อย่างใดอย่างหนึ่ง ปากเขาแกล้งเยินยอเรา แต่ในใจจะนึกหวังประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง ปากเขาแกล้งเยินยอเรา แต่ในใจจะนึกขันอยู่หรือเปล่าเราก็ไม่รู้ และวันใดที่เราเสื่อมลาภเสื่อมยศบุคคลเหล่านั้นก็จะห่างเหินไปทันที ผู้ที่ติดในคำชมก็จะต้องมานั่งน้อยใจกลุ้มใจ เราจึงไม่ควรเป็นคนหิวคำชม ไม่เอาใจเราไปยึดติดกับเงื่อนไขภายในภายนอกซึ่งเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ไม่มีแก่นสารที่แท้จริง แต่ขอให้อิ่มใจกับความดีที่ตนได้กระทำไว้ อิ่มใจกับคุณธรรมที่ตนมี แม้ไม่มีใครชม และพัฒนาคุณธรรมนี้ผูกไว้กับใจเรา การผูกใจไว้กับเงื่อนไขภายในเช่นนี้ จะให้ความสุขที่ยั่งยืนทั้งภพนี้และภพหน้า

โดย พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ M.D., Ph.D.
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/ธรรมะสอนใจ/ชายงาม.html
เมื่อ 30 เมษายน 2567 22:27
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv