ชาดก 500 ชาติ

ตัจฉกสูกรชาดก-ชาดกว่าด้วยหมูพร้อมใจกันสู้เสือ

พระเจ้าปเสนทิโกศลและพระเจ้าอชาตศัตรูได้ทำสงครามรบราฆ่าฟันแย่งชิงบ้านเมืองซึ่งกันและกัน

พระเจ้าปเสนทิโกศลและพระเจ้าอชาตศัตรูได้ทำสงครามรบราฆ่าฟันแย่งชิงบ้านเมืองซึ่งกันและกัน
  
       ครั้งเมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูและพระเจ้าปเสนทิโกศลได้ก่อสงครามทรงรบเพื่อชิงบ้านเมืองนั้น ทั้งสองพระองค์ทรงรบกันหลายครั้งหลายครา ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะอยู่อย่างนั้น
ในคราวแรกของการทำสงคราม พระเจ้าอชาตศัตรูทรงมีชัย กองทัพของพระเจ้าปเสนทิโกศลไม่สามารถต้านทานกองทัพของพระเจ้าอชาตศัตรูไว้ได้
จึงถอนร่นกลับเมืองเพื่อเตรียมวางแผนการศึกครั้งต่อไป
 
กองทัพของพระเจ้าปเสนทิโกศลและกองทัพของพระเจ้าอชาตศัตรูต่างผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ
 
กองทัพของพระเจ้าปเสนทิโกศลและกองทัพของพระเจ้าอชาตศัตรูต่างผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ
 
       “ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ชนะแล้ว ครั้งนี้เราชนะแล้ว ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า ” พระเจ้าปเสนทิโกศลเมื่อเสียท่าจากศึกครั้งที่แล้ว ก็รู้สึกโกรธแค้นเป็นอันมากเร่งคิดหาวิธีรบครั้งต่อไป เพื่อนำชัยชนะ
มาให้ได้ “ จะมีวิธีการรบอย่างไรบ้างนะ ที่จะทำให้เราสามารถเอาชนะได้ จะทำอย่างไรให้สามารถจับตัวพระเจ้าอชาตศัตรูมาให้ได้ ”
 
กองทัพของพระเจ้าอชาตศัตรูได้รับชัยชนะในที่สุด
 
กองทัพของพระเจ้าอชาตศัตรูได้รับชัยชนะในที่สุด
 
       “ ข้าแต่พระมหาราช ธรรมดาว่าภิกษุทั้งหลายย่อมเป็นผู้ฉลาดในความคิดอ่าน ควรที่พระองค์จะส่งคนสอดแนมไปคอยกำหนดถ้อยคำของหมู่ภิกษุดู พระเจ้าค่ะ ”
“ ดี ถ้าอย่างนั้นพวกเจ้าจงรับคำสั่งจากเรา ส่งราชบุตรผู้หนึ่งไปสู่พระวิหาร แล้วก็ซ่อนตัวเสีย คอยจดจำเอาถ้อยคำของพระคุณเจ้าทั้งหลายมาให้จงได้ ”

พระเจ้าปเสนทิโกศลได้คิดหาวิธีที่จะทำให้ตนรบชนะพระเจ้าอชาตศัตรูให้จงได้
 
พระเจ้าปเสนทิโกศลได้คิดหาวิธีที่จะทำให้ตนรบชนะพระเจ้าอชาตศัตรูให้จงได้
 
       ในพระเชตวันวิหารนั้นมีที่เป็นพระเถระแก่สองรูปอยู่ที่บรรณศาลาหลังวัด รูปหนึ่งนามว่า ธนุคคหติสสเถระ รูปหนึ่งชื่อว่า มันตทัตตเถระ ขณะที่กำลังก่อกองไฟอยู่นั้น
ก็ได้พูดคุยถึงเรื่องสงครามของพระเจ้าอชาตศัตรูและพระเจ้าโกศล “ พระราชาปเสนทิโกศลองค์นี้ช่างเขลาเสียจริง ๆ
 
พระเจ้าปเสนทิโกศลส่งคนไปสอดแนมฟังพระเถระคุยกันในพระวิหาร
 
พระเจ้าปเสนทิโกศลส่งคนไปสอดแนมฟังพระเถระคุยกันในพระวิหาร
 
       พระองค์คงจะทรงทราบแต่เพียงเสวยกกระยาหารประมาณ 1  ถาดเท่านั้นเอง ” “ เหตุใด ท่านถึงกล่าวอย่างนั้นเล่า ” “ พระราชาพ่ายแพ้ศัตรูผู้เป็นเพียงตัวหนอนในพระอุทร
ของพระองค์ก็ว่าได้ การรบมันต้องมียุทธวิธี การที่จะเอาชนะกองทัพพระเจ้าอชาตศัตรูนั้น มันต้องมีวิธีการ ช่องเขาตรงโน้นเหมาะที่จะวางคนไว้สองข้าง ต้องวางแผนล่อให้ข้าศึก
เข้ามา พอรู้ว่าเข้ามาภายในแล้ว ก็โห่ร้องก้องสนั่นล้อมไว้ กระทำให้อยู่ในกำมือแล้วก็จับเอา เหมือนจับปลาที่เข้าไซนั่นแหละ ”

พระเจ้าปเสนทิโกศลสามารถจับพระเจ้าอชาตศัตรูได้ด้วยวิธีการที่แอบฟังมาจากพระเถระ
 
พระเจ้าปเสนทิโกศลสามารถจับพระเจ้าอชาตศัตรูได้ด้วยวิธีการที่แอบฟังมาจากพระเถระ
 
      ผู้ที่พระราชาทรงใช้ไปสืบฟังถ้อยคำนั้นแล้ว พากันกราบทูลแด่พระเจ้าปเสนทิโกศล ครั้งนั้นพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงเสด็จไปด้วยกองทัพใหญ่ ทรงกระทำตามแผนการ
ที่ฟังจากพระเถระ ทำให้สามารถจับพระเจ้าอชาตศัตรูได้  เรื่องราวที่ว่าพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงจับพระเจ้าอชาตศัตรูได้ ด้วยการจัดแจงของพระธนุคคหติสสเถระโด่งดัง
ไปในกลุ่มภิกษุ พากันยกเรื่องนั้นขึ้นสนทนาในธรรมสภา
 
เหล่าภิกษุทั้งหลายต่างพากันสนทนาถึงความสามารถของพระธนุคคติสสเถระที่มีความฉลาดในการจัดขบวนรบ
 
เหล่าภิกษุทั้งหลายต่างพากันสนทนาถึงความสามารถของพระธนุคคติสสเถระที่มีความฉลาดในการจัดขบวนรบ
 
       “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น ถึงในครั้งก่อนธนุคคหติสสเถระ ก็เป็นผู้ฉลาดในการจัดขบวนรบ ” ลำดับนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงนำอดีตนิทานมาเล่าดังต่อไปนี้
ในอดีตกาลมีช่างไม้ผู้หนึ่ง อาศัยอยู่ใกล้ประตูพระนครพาราณสี วันหนึ่งเขาได้เดินเข้าไปในป่าท้ายหมู่บ้านนั้น เพื่อหาไม้ดี ๆ มาประกอบงานช่างของเขา 
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงนำ ตัจฉกสูกรชาดก มาตรัสเล่าแก่หมู่ภิกษุสงฆ์ในธรรมสภา
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงนำ ตัจฉกสูกรชาดก มาตรัสเล่าแก่หมู่ภิกษุสงฆ์ในธรรมสภา
     
       ขณะที่เขากำลังเดินสำรวจดูไม้อยู่นั้น พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นลูกหมูตัวหนึ่งตกอยู่ในหลุม “ เฮ้ย นี่ลูกหมูนี่น่า น่าสงสารจังเลย นี่คงเผลอเดินตกหลุมมาละสิ มามะ มามะ
โอ๋ ไม่เป็นไรนะ น่ารักดีเหมือนกันนะเนี่ย ฉันจะเลี้ยงแกไว้แล้วกัน กลับบ้านด้วยกันนะเจ้าหมูน้อย ”

ช่างไม้ผู้หนึ่งอาศัยอยู่ใกล้ประตูพระนครพาราณสี
 
ช่างไม้ผู้หนึ่งอาศัยอยู่ใกล้ประตูพระนครพาราณสี
 
       ด้วยความรักใคร่เอ็นดูแต่แรกเห็น ช่างไม้นำลูกหมูตัวนั้นมาเลี้ยงไว้ในบ้าน แล้วตั้งชื่อให้ว่า  ตัจฉกสุกร เขาให้การเลี้ยงดูเจ้าหมูตัจฉกสุกรอย่างดี “ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เจ้านี่ก็ซนเหมือนกันนะ ตั้งแต่มีเจ้ามาอยู่ด้วย ข้าไม่เคยเหงาเลย ดีจังเลย ” ทั้งหมูและช่างไม้ผู้เป็นเจ้าของต่างอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
 
ช่างไม้เข้าป่าได้เจอลูกหมูซึ่งตกอยู่ในหลุมและเขาก็นำมันกลับมาเลี้ยงที่บ้าน
 
ช่างไม้เข้าป่าได้เจอลูกหมูซึ่งตกอยู่ในหลุมและเขาก็นำมันกลับมาเลี้ยงที่บ้าน
 
       ตัจฉกสุกรเมื่อได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีก็เติบโตเป็นหมูที่สมบูรณ์ ร่างกายของมันใหญ่โตสง่างาม มีกำลังมากมาย มันสามารถช่วยช่างไม้ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการ
เอาจะงอยปากพลิกไม้ให้ก็ได้ เอาเส้นบรรทัดพันจมูกลากจมูกไปให้ก็ได้ เอาปากคาบขวาน สิ่ว ค้อน มาให้ก็ได้
 
ตัจฉกสุกรเติบโตแข็งแรงและสามารถช่วยงานช่างไม้ได้หลายอย่าง
 
ตัจฉกสุกรเติบโตแข็งแรงและสามารถช่วยงานช่างไม้ได้หลายอย่าง
  
       “ ขอบใจมากลูกรักของพ่อ ขยันทำงานดีจริง ๆ น่ารัก ” วันหนึ่งมีเพื่อนบ้านแวะมาที่บ้านของช่างไม้นั้น เมื่อพวกเขาได้เห็นตัจฉกสุกร ก็คิดถึงเมนูอาหารจานใหญ่
พวกเขาหวังว่าจะได้กินเนื้อของมันในสักวัน “ โอ้โหเจ้าหมูตัวน้อยนั่น โตแล้วนี่ อ้วนดีจริง ๆ แล้วเมื่อไหร่เจ้าจะฆ่าเอาเนื้อมันมากินล่ะ กินตอนนี้กำลังดี เนื้อยังไม่เหนียว
ถ้าเจ้าฆ่าไม่ลงบอกพวกเรานะ เดี๋ยวมาช่วย ”
 
เพื่อนบ้านของช่างไม้ให้ความสนใจในตัวตัจฉสุกรเพราะต้องการกินมันเป็นอาหาร    

เพื่อนบ้านของช่างไม้ให้ความสนใจในตัวตัจฉสุกรเพราะต้องการกินมันเป็นอาหาร
 
       ช่างไม้เมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนบ้านกล่าวก็เกิดความหวั่นวิตก “ ลูกเอ๋ย พ่อเลี้ยงเจ้าไว้ที่นี่ต่อไป คงเกิดอันตรายกับเจ้าขึ้นแน่ ๆ ถ้าพ่อต้องออกไปตัดไม้แล้ว ใครจะอยู่กับเจ้า
ถึงตอนนั้นพวกชาวบ้านก็จะได้มาฆ่าเจ้าเอาไปทำแกงเป็นแน่ ๆ เฮ้อ นี่คงถึงเวลาที่เจ้าจะกลับไปบ้านของเจ้าที่แท้จริงแล้วสินะ ”

ช่างไม้นำตัวตัจฉกสุกรไปปล่อยคืนในป่าเพราะเกรงว่าเพื่อนบ้านจะเอาตัวมันไปฆ่าเป็นอาหาร
 
ช่างไม้นำตัวตัจฉกสุกรไปปล่อยคืนในป่าเพราะเกรงว่าเพื่อนบ้านจะเอาตัวมันไปฆ่าเป็นอาหาร
  
       เมื่อคิดได้ดังนั้น รุ่งเช้าช่างไม้จึงพาตัจฉกสุกรมาปล่อยไว้ในป่าดังเดิม “ ไปเถอะลูกเอ้ย ไปอยู่บ้านจริง ๆ ของเจ้า พ่อได้เลี้ยงเจ้าอย่างดีจนเติบใหญ่แข็งแรงแล้ว
บัดนี้เจ้าคงสามารถเอาตัวรอดในป่าใหญ่นี้ได้ โชคดีนะลูกพ่อ ” ตัจฉกสุกร เมื่อจากป่าไปตั้งแต่ยังเด็ก การใช้ชีวิตในป่าใหญ่นี้ด้วยตัวคนเดียวมันจึงยากนัก

ตัจฉกสุกรมีความกังวลว่ามันไม่สามารถที่จะอยู่ในป่าตัวเดียวได้เพราะมีอันตรายรอบด้าน
 
ตัจฉกสุกรมีความกังวลว่ามันไม่สามารถที่จะอยู่ในป่าตัวเดียวได้เพราะมีอันตรายรอบด้าน
 
       “ เราจะอยู่ในป่านี้แต่เพียงลำพังตัวเดียวได้อย่างไร ศัตรูสัตว์ใหญ่ ๆ เหล่านั้นมีมากมายนัก เราตัวคนเดียวคงสู้กับพวกมันไม่ได้ เห็นทีเราจะต้องเที่ยวค้นหาหมู่ญาติให้ได้
ญาติ ๆ ของเราเท่านั้นที่จะช่วยดูแลกันได้ ” ตัจฉกสุกรเดินเที่ยวเสาะหาฝูงหมูไปในป่าชัน พบหมูเป็นอันมากก็ดีใจ
 
ตัจฉกสุกรเดินตามหาฝูงหมูป่าจนเจอในที่สุด
 
ตัจฉกสุกรเดินตามหาฝูงหมูป่าจนเจอในที่สุด
 
       “ นั่นไง เจอแล้วหางเหมือนเรา จมูก ปาก เท้า หัว หู ทุกอย่างเหมือนเราหมดเลย สัตว์เหล่านั้นต้องเป็นญาติของเราแน่ ๆ ดูสิที่เห็นนี่ก็อุดมสมบูรณ์ มีทั้งน้ำ
ทั้งผลหมากรากไม้เยอะแยะ อยู่ที่นี่ต้องดีแน่ ๆ เลย ดีล่ะ เราจะไปขออยู่กับหมูเหล่านี้ ”

ฝูงหมูป่าได้บอกเล่าเรื่องของพญาเสือที่ออกไล่ล่าหมูป่าไปกินในทุก ๆ วัน แก่ตัจฉกสุกร
 
ฝูงหมูป่าได้บอกเล่าเรื่องของพญาเสือที่ออกไล่ล่าหมูป่าไปกินในทุก ๆ วัน แก่ตัจฉกสุกร
 
       “ ท่านทั้งหลาย เราขออยู่กับพวกท่านได้ไหม เรามาจากในหมู่บ้าน ถูกคนนำไปเลี้ยงตั้งแต่ยังเด็ก บัดนี้เขาได้เอาเรามาไว้ในป่าดังเดิมแล้ว เราไม่สามารถอยู่ตัวเดียวได้
ขอเราอยู่กับพวกท่านได้ไหม ” “ ฮึ เจ้าคิดดีแล้วรึที่จะมาอยู่ที่นี่ เจ้าไม่รู้หรอกว่าที่นี่ มีศัตรูตัวร้าย มันคอยดักขย้ำพวกเราวันละตัว วันละตัว จนเทียบจะไม่เหลืออยู่แล้ว
หมูตัวไหนอ้วนสุด มันก็จะฆ่า เอาเนื้อไปกิน ตัวอ้วน ๆ อย่างเจ้านะ คงถูกมันฆ่าตั้งแต่วันแรกแล้วล่ะ ”
 
พญาเสือได้พักอาศัยอยู่ที่อาศรมของชฎิลโกงซึ่งชอบกินเนื้อหมูเป็นอาหาร
 
พญาเสือได้พักอาศัยอยู่ที่อาศรมของชฎิลโกงซึ่งชอบกินเนื้อหมูเป็นอาหาร
 
       “ ศัตรูที่ท่านว่าคือใคร มันเป็นใคร พวกท่านบอกเราหน่อยได้ไหม ” “ ก็เสือยังไงละ เจ้าเคยเจอไหมละ มันน่ากลัวมาก มีเขี้ยวแหลมคม เล็บของมันนะคมนัก
หากหมูตัวไหนโดนมันขย้ำแล้ว มีแต่ตายเท่านั้น ฮึย พูดแล้วก็ขนลุก เจ้าคิดดูสิ หมูอ้วน ๆ ขาสั้น ๆ อย่างเราจะวิ่งหนีมันทันได้อย่างไรกัน ” “ ทุกวันนี้ พวกเรา
อยู่กันด้วยความหวาดวิตก คอยหลบ ๆ ซ่อน ๆ ตัวตลอดเวลา ชีวิตที่นี่มันไม่ปลอดภัยอย่างที่เจ้าคิดหรอกนะ ”
 
ชฎิลโกงได้ใช้เสือให้ออกไปหาเนื้อหมูมาให้ตนกินเป็นอาหาร
 
ชฎิลโกงได้ใช้เสือให้ออกไปหาเนื้อหมูมาให้ตนกินเป็นอาหาร
 
       “ นั่นสิ เจ้าเสือนั่นน่ากลัวจะตาย แค่ได้ยินเสียงมันคำรามหัวใจข้าก็หล่นลงพื้นไปแล้ว ฮึย ” “ พวกท่านจะกลัวเสือตัวนั้นไปทำไม พวกเราไม่มีเขี้ยวหรือ กำลังกายไม่พรั่งพร้อมหรือ
พวกเราทั้งหมดพร้อมใจกันแล้ว ก็จะจับมันตัวเดียวเท่านั้นให้อยู่ในอำนาจได้ พวกท่านดูสิพวกเรามีทั้งหมดกี่ตัว แล้วแค่เสือตัวเดียว เราจะเอาชนะมันไม่ได้รึ พวกท่านจะอยู่อย่าง
หวาดกลัวทำไม ลุกขึ้นสู้สิ สั่งสอนให้เจ้าเสือนั่น รู้ว่าหมูอย่างพวกเราไม่ยอมให้ใครมารังแกกันได้ง่าย ๆ หรอกนะ ”
 
ฝูงหมูได้ขู่คำรามตอบกลับพญาไปโดยไม่มีความเกรงกลัวแต่อย่างใด
 
ฝูงหมูได้ขู่คำรามตอบกลับพญาไปโดยไม่มีความเกรงกลัวแต่อย่างใด
 
       ตัจฉกสุกรพูดสร้างกำลังใจเหล่าหมู ให้มีใจฮึกเหิมสู้กับศัตรูเจ้าเสือร้าย “ นั่นนะสินะ เราจะกลัวเจ้าเสือนั่นทำไม พวกเรามีมากกว่าตั้งเยอะตั้งแยะ ” “ เอาเถอะฉันจะสลัด
ความกลัวออกไป แล้วก็จะสู้กับมันสักครั้ง ”ตัจฉกสุกรกระทำพวกหมูทั้งหมดให้มีความสามัคคีเป็นใจเดียวกัน แล้ววางแผนกำจัดศัตรูเจ้าเสือร้าย “ พวกท่านทั้งหลายรุ่งเช้า
พรุ่งนี้ หากเจ้าเสือนั้นมา พวกเราจงช่วยกันสู้กับมัน ฉันมีแผนที่จะกำจัดมันอย่างง่ายดาย หมูทั้งหลายช่วยกันทำตามแผนนี้เถิด ”
 
พญาเสือตกใจกับพฤติกรรมของฝูงหมูที่เปลี่ยนไปไม่กลัวตนเหมือนอย่างแต่ก่อน
 
พญาเสือตกใจกับพฤติกรรมของฝูงหมูที่เปลี่ยนไปไม่กลัวตนเหมือนอย่างแต่ก่อน
 
       ตัจฉกสุกรนั้น ฉลาดในการรบรู้ชัยภูมิว่าตั้งในฐานที่ไม่อาจชนะได้ เหตุนั้นจึงตรวจดูประเทศแห่งหนึ่งแล้วให้พวกหมูหากินเสียแต่กลางคืน เมื่อกินกันจนอิ่มแล้ว หมูทั้งหลาย
ก็เริ่มวางกับดักตามแผนที่ตัจฉกสุกรวางไว้ พอถึงเวลาค่อนรุ่งก็จัดให้เหล่าหมูตั้งเป็นขบวนรบ เมื่อตัจฉกจัดการเรียบร้อยก็ประจวบกับเวลาพระอาทิตย์ขึ้น พญาเสือตัวนี้ได้อาศัย
อยู่ในอาศรมของชฎิลโกง ทุกเช้ามันจะต้องล่าเหยื่อ แล้วนำเนื้อเหล่านั้นมาเป็นอาหารของมันเอง และฤาษีนั้นด้วย
 
พญาเสือถอยล่าถอยกลับไปยังอาศรมด้วยความกลัวในฝูงหมูซึ่งมีมากกว่า
 
พญาเสือถอยล่าถอยกลับไปยังอาศรมด้วยความกลัวในฝูงหมูซึ่งมีมากกว่า
 
       “ ตื่นแล้วหรือพ่อเอ๋ย วันนี้ขอเนื้อหมูอีกนะ เอามาย่างแล้วมันอร่อย เนื้อหวานนักเชียว หือ คิดแล้วน้ำลายไหล ” “ ได้เลย เราเองก็ชอบเนื้อหมูเหมือนกัน ไปล่ะ พูดแล้วก็ชัก
จะหิวสะแล้ว ” พญาเสือตัวนั้นเดินไปยังที่อยู่ของเหล่าหมู ตามเดิมอย่างที่มันเคยทำทุกครั้ง “ นั้นไงท่าน ศัตรูที่พวกเรารออยู่มาแล้ว ” “ โอ๊โอ๋ นั่นไงอาหารของเรา เห็นอยู่ลิบ ๆ
นี่ออกมารอกันอยู่แต่เช้าเลยหรือนี่ แหม รู้หน้าที่จริง ๆ ดี ๆ จะได้ไม่ต้องเดินหาให้เหนื่อย ฮะฮ่าฮ่าฮ่า ” 

พญาเสือกลับมาอีกครั้งและได้พลัดตกลงไปในหลุมที่ฝูงหมูช่วยกันทำกับดักไว้
 
พญาเสือกลับมาอีกครั้งและได้พลัดตกลงไปในหลุมที่ฝูงหมูช่วยกันทำกับดักไว้
 
       “ พวกท่านอย่ากลัวไปเลย ครั้งนี้เราได้เตรียมแผนไว้เป็นอย่างดีแล้ว เมื่อเสือตัวนั้นมาถึง ไม่ว่ามันจะทำอาการใด พวกท่านจงทำตามมัน อย่าได้เกรงกลัวไปเลย ” ครั้งนั้นเมื่อพญาเสือ
เดินมาถึงฝูงหมู มันสะบัดร่างกายแล้วขู่คำราม เพื่อทำให้ลูกหมูเหล่านั้นกลัว แต่เหตุการณ์เปลี่ยนไป หมูเหล่านั้นไม่ได้มีทีท่ากลัวมันอย่างเดิม พวกมันกลับขู่กลับมา อย่างพร้อมใจสู้กัน
ทั้งฝูง “ เฮ้ย เป็นไงกลัวกันหัวหดเลยละสิ เฮอะ ๆ ๆ” “ เราไม่กลัวเจ้าหรอก ”
 
ตัจฉกสุกรได้กระโจนเข้าขวิดและกัดพญาเสือจนตายในที่สุด
 
ตัจฉกสุกรได้กระโจนเข้าขวิดและกัดพญาเสือจนตายในที่สุด
 
       “ เฮ้ย เจ้าหมูพวกนี้วันนี้มันดูแปลก ๆ ทำมันไม่กลัวเราเหมือนเมื่อก่อน เมื่อวานมันยังกลัวหัวหดวิ่งหางจุกตูดไปเลย ทำไมวันนี้พวกมันน่ากลัวจังวะเนี่ย ทำท่าเป็นศัตรูกับเราซะด้วย
เอ๊ะ หรือว่าพวกมันจะมีนายใหญ่คอยสั่งการเอาไว้ พวกนี้ได้แบ็กดี ท่าทางจะไม่ดี ถอยไปตั้งหลักก่อนดีกว่า ” วันนั้นเจ้าเสือโคร่งเมื่อเห็นพฤติกรรมของเหล่าหมูที่เปลี่ยนไปก็เกิดความกลัว
มันจึงรีบกลับไปยังอาศรม พญาเสือเมื่อกลับไปถึงอาศรมโดยไม่มีเนื้อกลับมาด้วยดังเก่า ก็สร้างความไม่พอใจให้แก่ดาบส
 
ฝูงหมูพากันวิ่งตรงมายังอาศรมของชฎิลโกงหลังจากที่ได้ฆ่าพญาเสือตายแล้ว
 
ฝูงหมูพากันวิ่งตรงมายังอาศรมของชฎิลโกงหลังจากที่ได้ฆ่าพญาเสือตายแล้ว
 
       “ อ้าวไหนละเนื้อหมู เจ้าไม่ได้เอามาด้วยดอกหรือ หรือว่า ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า นี่เจ้าหมดเขี้ยวเล็บแล้วหรือพญาเสือที่ดุร้าย วันนี้กลับกลายเป็นสุนัขน้อย ๆ น่าเอ็นดูไปแล้วหรือนี่ ฮะ ฮ่า ฮา ฮ่า
น่าขำยิ่งนัก เสือที่ดุร้ายอย่างเจ้า กลัวแม้กระทั่งฝูงหมูอย่างนั้นรึ หมูที่ไหนจะมาพร้อมใจกันทำร้ายเจ้าได้ ไปเถิด ไปเอาเนื้อหมูนั้นมานะ ” เสือโคร่งเป็นสัตว์มีเขี้ยว ถูกชฎิลผู้หยาบช้า
เห็นแก่อามิส ปลุกใจให้ฮึกเหิม สำคัญว่าจะทำได้เหมือนครั้งก่อน จึงวิ่งเข้าไปในฝูงสุกรผู้มีเขี้ยว แต่เหล่าหมูนั้นไม่ได้เกรงกลัวมันดังคำที่ฤาษีว่าไว้ พวกมันตั้งรับสู้ดังแผนที่เตรียมกันไว้
 
ชฎิลโกงรีบวิ่งหนีฝูงหมูเพราะรู้ได้ในทันทีว่าพญาเสือคงจะพลาดท่าฝูงหมูไปแล้ว
 
ชฎิลโกงรีบวิ่งหนีฝูงหมูเพราะรู้ได้ในทันทีว่าพญาเสือคงจะพลาดท่าฝูงหมูไปแล้ว
 
       “ มาเลยเจ้าเสือร้าย เราไม่กลัวเจ้าหรอก มาเลย โดดมาเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า ” เสือโคร่งไม่สามารถยั้งความเร็วไว้ได้จึงไปตกในหลุมที่เป็นตะพักเหมือนกระด้ง แน่นอัดเหมือนฝ่อนหญ้า
ตัจฉกสุกรลุกขึ้นโดยเร็วเผ่นจากหลุมขบเขี้ยวลงตรงขั้วไส้ของมัน ขวิดขาดไปถึงหัวใจ กินเนื้อ แล้วเอาปากคาบเหวี่ยงไปนอกหลุมแบ่งให้หมูญาติของมันได้ลองลิ้มรสชาติของเสือบ้าง
แม้จะสามารถฆ่าศัตรูได้แล้ว แต่เหล่าหมูพวกนั้นก็ไม่ได้แสดงความยินดีเลย สร้างความสงสัยแก้ตัจฉกยิ่งนัก “ พวกท่านไม่ดีใจกันหรอกรึ นี่เราฆ่าเจ้าเสือร้ายนั่นได้แล้ว
ต่อไปนี้พวกเราก็จะอยู่กันอย่างมีความสุข ”
 
ชฎิลโกงได้วิ่งหนีฝูงหมูขึ้นไปอยู่บนต้นไม้
 
ชฎิลโกงได้วิ่งหนีฝูงหมูขึ้นไปอยู่บนต้นไม้
 
       “ นายเอ๋ย พวกเราเพียงจับเสือโคร่งได้ตัวเดียวเท่านั้น ก็เท่ากับพวกเราจับเสือโคร่งตัวที่ประทุษร้ายได้ตัวหนึ่ง แต่นอกจากนี้ ผู้ที่จะนำเสือโคร่งมาได้ยังมีอยู่ที่อาศรมนั่น มีชฎิลโกงอยู่
เขาเป็นผู้บงการให้สัตว์ร้ายในป่านี้มาทำร้ายเรา เมื่อไหร่ที่เจ้าชฎิลโกงยังอยู่ พวกเราก็ไม่สมารถอยู่กันอย่างสงบสุขได้หรอก ” “ ถ้าอย่างนั้น พวกเราก็ไปฆ่ามันกันเถอะ กำจัดคนร้ายนั้น
ให้พ้นไป ไปเถอะ” กล่าวถึงชฎิลนึกว่าเสือโคร่งมัวช้าอยู่ มองดูมาทางของมัน เห็นพวกหมูเป็นอันมากกรูวิ่งมา ก็เกิดความกลัว รีบปีนขึ้นไปบนต้นมะเดื่อ “ เฮ้ย ๆ นั่น นั่น นั่นอะไร
วิ่งมาทางนี้ นั่นมันหมูนี่น่า โอ้ย ซวยแล้วเรา นี่เจ้าเสือโคร่งมันคงโดนฆ่าตายแล้วละสิ หนี หนี หนีดีกว่า อยู่ไม่ได้แล้วโว้ย ”
 
ชฎิลโกงโดนขวิดและถูกกัดกินจนตายหลังจากที่หล่นร่วงลงมาจากต้นไม้
 
ชฎิลโกงโดนขวิดและถูกกัดกินจนตายหลังจากที่หล่นร่วงลงมาจากต้นไม้
 
       เหล่าหมูเมื่อมาถึงอาศรมเห็นดาบสโกงปีนขึ้นไปหลบบนต้นไม้ ตัจฉกสุกรจึงเรียกหมูหนุ่ม ๆ มาให้ช่วยกันคุ้ยดินออกจากต้นไม้ ให้แม่หมูทั้งหลายไปอมน้ำมา ให้พวกหมูที่มีเขี้ยวใหญ่ ๆ
ช่วยกันขวิดรากโดยรอบ จนเหลือแต่รากแก้วที่หยั่งลงไปตรงรากเดียวเท่านั้น “ เอาล่ะ พวกท่านหลบก่อน เราจะทำให้ต้นไม้นี่ล้มลงมาเอง เสร็จแน่เจ้าฤาษีทุศีล ” ตัจฉกสุกรคุกเข่า
เอาเขี้ยวขวิดตรงรากแก้วขาดไปเหมือนฟันด้วยขวาน ต้นไม้นั้นก็พลิก “ เฮ้ย ๆ ๆ ๆ ล้ม ล้ม ล้มแน่ ๆ ใครก็ได้ช่วยที โอ้ย โอ้ย โอ้ย ” พอชฎิลโกงตกลงมาเท่านั้นพวกหมูก็พากันรับไว้
แล้วรุมกินเนื้อเสีย
รุกขเทวดาได้เห็นเหตุการณ์ที่ฝูงหมูหาวิธีการและทำการฆ่าชฎิลโกงได้ในที่สุด
 
รุกขเทวดาได้เห็นเหตุการณ์ที่ฝูงหมูหาวิธีการและทำการฆ่าชฎิลโกงได้ในที่สุด
    
       ครั้งนั้นได้มีรุกขเทวดาเห็นเหตุอัศจรรย์นั้นโดยทั้งหมด “ญาติทั้งหลายมีมากด้วยกัน ย่อมยังประโยชน์ให้สำเร็จ ถึงต้นไม้ทั้งหลายที่เกิดในป่าก็เหมือนกัน สุกรทั้งหลาย
พร้อมเพรียงกันเข้า ฆ่าเสือโคร่งเสียได้ เพราะประพฤติร่วมใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน” หมูทั้งหลายช่วยกันฆ่าพราหมณ์และเสือโคร่งทั้งสองได้แล้ว ต่างร่าเริงบันเทิงใจ พากัน
บันลือศัพท์สำเนียงเสียงสนั่น หมูเหล่านั้นยกให้ตัจฉกสุกรเป็นพระราชา พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้วทรงประชุมชาดกว่า
 
 
 
ชฎิลโกงในครั้งนั้น ได้มาเป็นเทวทัต
ตัจฉกสุกรได้มาเป็น ธนุคคหติสสะ
ส่วนรุกขเทวดา เสวยพระชาติเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
 
[[videodmc==57510]]
 
 
นิทานชาดก 500 ชาติ
 
บทความนี้พิมพ์จาก http://www.dmc.tv/pages/นิทานชาดก/นิทานชาดก-ตัจฉกสูกรชาดก.html
เมื่อ 25 เมษายน 2567 17:12
สงวนลิขสิทธิ์ © 2547 - 2567 http://www.dmc.tv