พบการปิดใช้งาน Javascript

คุณกำลังใช้งานแบบปิดการใช้ Javascript บางฟังก์ชันอาจใช้งานไม่ได้ กรุณาเปิดการใช้งาน Javascript หากต้องการใช้งานฟังก์ชันแบบสมบูรณ์

ในหลวงพระราชทานเงิน 72 ล้านใช้เผยแผ่ศาสนา

เริ่มโดย ลูกพระพุทธ, Oct 10 2008 09:06 PM

คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้

มี 19 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ลูกพระพุทธ

Members
136 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 October 2008 - 09:06 PM

ข่าว วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 แต่สุดปราบปลื้มครับ เลยเอามาให้อ่าน

ในหลวงพระราชทานเงิน 72 ล้านให้กรมการศาสนา และมหาเถรสมาคมตั้งกองทุนเผยแผ่ "พระธรรมในพระพุทธศาสนา" อธิบดีกรมศาสนาสุดซาบซึ้งพระมหากรุณาธิคุณ เตรียมจัดโครงการ และกิจกรรมเผยแผ่ศาสนาในรูปแบบต่าง ๆ ระบุใช้ศีล 5 เป็นหลักในการปฏิบัติให้ข้าราชการ ประชาชน และนักเรียนรับรู้ พร้อมระดมทุนบริจาคตั้งเป้า 1,000 ล้านบาท

นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานเงินจำนวน 72 ล้านบาทที่ประชาชนทูลเกล้าฯถวายเพื่อให้พระองค์ใช้ตามพระราชอัธยาศัย เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 72 พรรษา ให้แก่กรมการศาสนา และมหาเถรสมาคม ( มส.) เพื่อใช้ในการแผ่พระธรรมในพระพุทธศาสนาให้แก่พี่น้องชาวไทยทุกคน

เมื่อวันที่ 21 ก.ค. นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานเงินทุนในการเผยแผ่พระธรรมในพระพุทธศาสนาจำนวน 72 ล้านบาท โดยมอบให้กรมการศาสนาร่วมกับมหาเถรสมาคม (มส.) เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารกองทุน

อย่างไรก็ตาม สำหรับเงินพระราชทานดังกล่าวกรมศาสนา และมส.ได้กำหนดให้มีการร่างระเบียบว่า ด้วยกองทุนเผยแผ่พระธรรมในพระพุทธศาสนาตามพระราชประสงค์ พ.ศ. 2547 ซึ่งการร่างระเบียบดังกล่าวเพื่อกำหนดวัตถุประสงค์ของกองทุนในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้ชัดเจน

"เราจะมีคณะกรรมการบริหารกองทุนทั้งพระสงฆ์และฆราวาส โดยผู้ที่จะดำรงตำแหน่งประธานบริหารกองทุนนั้น เราจะเปิดรับมืออาชีพเข้ามาดูแลเงินทุน รวมทั้งการระดมทุน ซึ่งจะมีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี เช่นเดียวกับผู้จัดการกองทุน"นายปรีชา กล่าวว่า

อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวต่อว่า สำหรับการใช้เงินกองทุนนั้น คณะกรรมการได้ข้อสรุปว่า จะใช้เฉพาะดอกเบี้ยของเงิน 72 ล้านบาทเท่านั้น โดยเงินดังกล่าวจะฝากไว้ที่ธนาคารออมสิน ส่วนการเพิ่มทุนและระดมทุนนั้น จะขอจากงบประมาณของรัฐบาล และจากเงินบริจาคเท่านั้น

นายปรีชา กล่าวอีกว่า ส่วนรูปแบบในการเผยแผ่ธรรมะในพระพุทธศาสนาตามวัตถุประสงค์ของกองทุนนั้น คณะกรรมการจะเปิดโอกาสให้หน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะเน้นที่หน่วยงานราชการเป็นหลัก โดยจะใช้ศีล 5 ซึ่งเป็นศีลขั้นพื้นฐานของชาวพุทธยึดเป็นต้นแบบในการสร้างและเผยแผ่พระธรรมในพุทธศาสนา เพราะหากข้าราชการและเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามศีล 5 เชื่อว่า พระธรรมจะนำชาติรอด ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น รวมทั้งการประพฤติผิดลูกเมียจะลดลง

อย่างไรก็ตามในส่วนของเด็กและเยาวชนตามสถานศึกษาต่าง ๆนั้น จะใช้เครือข่ายของศูนย์พระสงฆ์ เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา ซึ่งเครือข่ายดังกล่าวจะมีพระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา และกรรมการ มส. เป็นองค์ประธานศูนย์ และเป็นสื่อในการเผยแพร่

"ที่มาของเงิน 72 ล้านบาท เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 72 พรรษา ทางธนาคารออมสินได้ทูลเกล้าฯถวายเพื่อให้พระองค์ใช้ตามพระราชอัธยาศัย แต่พระองค์ทรงพระราชทานกลับคืนมาให้กรมการศาสนา และ มส. ตั้งเป็นกองทุน เราจะระดมทุน และเปิดรับบริจาคจากประชาชน หน่วยงาน และรัฐบาล โดยตั้งเป้าให้ถึง 1,000 ล้านบาท ผมในฐานะอธิบดีกรมการศาสนาและพุทธศาสนิกชนรู้สึกซาบซึ้งในพระกรุณาของพระองค์อย่างหาที่เปรียบไม่ได้" นายปรีชา กล่าว

นายปรีชา กล่าวต่อ สำหรับร่างระเบียบกรมการศาสนาว่าด้วยกองทุนเผยแผ่พระธรรมคาดว่า จะแล้วเสร็จในเดือน ส.ค.นี้ และจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม มส. เร็วๆนี้ ทั้งนี้หาก มส.มีมติจะมีผลบังคับใช้ทันที โดยก่อนหน้านั้น มส. ได้ส่งตัวพระชั้นผู้ใหญ่มาร่วมเป็นกรรมการที่ปรึกษาจำนวน 2 รูป ประกอบด้วย พระพรหมมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศ และ วิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศเทพวราราม

http://www.komchadlu.../p1--50780.html