เคยได้ฟังและได้อ่านมาว่า
ด้วยอานิสงส์ที่เคยถวายอาสนด้วยแก้วผลึก ฉาบด้วยทองชมพูนุท อันเป็นทองคำบริสุทธิ์ เพื่อเป็นที่ประทับของพระปทุมุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้า
ส่งผลให้พระมหากัจจายนะ (ภพชาติในอดีต) ได้ไปเกิดเป็นเทพราชาผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ มีรัศมีแผ่ไปโดยรอบไกลถึง 100 โยชน์
ด้บังเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ผู้มีฤทธิ์มาก มีรัตนะ 8 ประการ สว่างโชติช่วง ทั้งกลางวันกลางคืน
ประดุจดวงอาทิตย์อุทัย และเวียนว่ายตายเกิดอยู่แต่ในสุคติภูมิเป็นเวลาที่ยาวนาน
อยากถามว่า รัตนแปดนี้ มีอะไรนอกเหนือจากรัตนเจ็ดหรือครับ
รัตนที่กล่าวถึงนี้คือ รัตนแบบเดียวกับรัตน7ที่พระเจ้าจักรพรรดิ์ได้บำเพ็ญจักรวรรดิวัตรและรักษาอุโบสถศีลแล้ว รัตนะทั้งเจ็ดประการอันเป็นสมบัติคู่บุญของพระเจ้าจักรพรรดิ ประกอบด้วย จักรแก้ว ดวงแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว ขุนคลังแก้ว ขุนพลแก้ว และนางแก้ว ที่เกิดเป็นสมบัติคู่บุญ ใช่หรือเปล่าครับ
531129p5.jpg 398.11K
24 ดาวน์โหลด
#1
โพสต์เมื่อ 18 August 2014 - 01:17 PM
#2
โพสต์เมื่อ 18 August 2014 - 04:58 PM
ตามปกติ สมบัติพระเจ้าจักรพรรดิ จะประกอบด้วยรัตน 7 ประการอย่างที่เราทราบๆ กันดีอยู่ เพราะเป็น สิ่งที่บังเกิดขึ้นตายตัวในทุกๆ พระเจ้าจักรพรรดิเมื่อสมาทานศีล
แต่พระเจ้าจักรพรรดิแต่ละพระองค์จะยังทรงมี "อานุภาพแห่งพระเจ้าจักรพรรดิ" อีกหนึ่งประการ ประกอบด้วย คือ
ทรงมีพระรูปงาม น่าชม น่าเลื่อมใส มีผิวพรรณผ่องใสยิ่งกว่าใครๆ
ทรงเป็นผู้มีพระชนมายุยืนนานกว่าคนทั่วไป
ทรงเป็นผู้มีอาพาธน้อย มีโรคน้อย นอกจากนี้
ทรงเป็นที่รัก ที่ชอบใจของทุกๆ คน ใครได้เห็นแล้วจะรู้สึกรักและเคารพ
ความคิดเห็นส่วนตัว--- เข้าใจว่า "อานุภาพแห่งพระเจ้าจักรพรรดิ" นี้ เป็นสิ่งที่ปรากฏอยู่ก่อนที่จะสมาทานจักรวรรดิศีล ไม่ได้มาบังเกิดทีหลังเหมือนสิ่งอื่นๆ จึงไม่ได้นับเป็นสมบัติแห่งพระเจ้าจักรพรรดิ แต่ก็จัดเป็นรัตนะ คือ อานุภาพแห่งพระเจ้าจักรพรรดิด้วยเช่นกัน
บางตำราว่าไว้ถึง ธรรมรัตนะแห่งพระเจ้าจักรพรรดิ คือ จักรวรรดิวัตร 10 ประการ ก็จัดเป็นรัตนแห่งพระเจ้าจักรพรรดิเหมือนกันครับ
ซึ่งถ้าจะสรุปเอาง่ายๆ ก็คือ ธรรมรัตนะแห่งพระเจ้าจักรพรรดินั่นเอง
ถูก ผิด อย่างไร เดี๋ยวพระอาจารย์ท่านคงมาเสริมให้ครับ
#3
โพสต์เมื่อ 18 August 2014 - 06:07 PM
ต้องขยายอรรถ อีกนิด
http://buddha.dmc.tv...พระไตรปิฎก.html
ย้อนไปในสมัยพระปทุมุตตรพุทธเจ้า ท่านก็เคยถวายอาสนะทำด้วยแก้วผลึกที่ฉาบทาด้วยทองชมพูนุท ซึ่งเป็นทองคำบริสุทธิ์ มีฉัตรทำด้วยรัตนะทั้ง 7 ประการ กางกั้นไว้บนยอด และถวายพัดวาลวีชนี พัดบวรจามรี แด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยอานุภาพแห่งการบูชาในครั้งนี้ ทำให้ท่านได้เสวยทิพยสุขในเทวโลก ได้บังเกิดเป็นเทพราชาผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์เป็นเวลายาวนานถึง 10 กัป มีรัศมีแผ่ไปโดยรอบร้อยโยชน์อยู่เป็นนิจ และได้บังเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้มีฤทธานุภาพมาก มีรัตนชาติบังเกิดขึ้นมากมายเหลือคณานับ ล้วนส่องสว่างโชติช่วงดังอาทิตย์อุทัย ตลอดทั้งกลางวันกลางคืน พระมหากัจจายนะระลึกชาติไปดูประวัติการสร้างบารมีของท่านในชาตินั้นก็พบว่า เมื่อท่านถวายอาสนะแก้วผลึกที่ฉาบทาด้วยทองชมพูนุทอันเป็นทองคำบริสุทธิ์ เพื่อเป็นที่ประทับนั่งของพระพระปทุมุตตรพุทธเจ้าแล้ว พระองค์ตรัสว่า “ผู้ใดได้ถวายอาสนะที่ทำด้วยทองและแก้วนี้ เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว ผู้นั้นจักเป็นจอมแห่งเทวดาเสวยเทวรัชสมบัติอยู่ 30 กัป จักมีรัศมีแผ่ไปโดยรอบตลอด 100 โยชน์ ครั้นมาสู่มนุษยโลกแล้ว จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิมรพระนามว่า ปภัสสระ จักเป็นผู้มีเดชอันรุ่งเรือง จักได้เป็นกษัตริย์มีรัตนะ 8 ประการ โชติช่วงอยู่โดยรอบทั้งกลางคืนกลางวัน ดังพระอาทิตย์อุทัยฉะนั้น” เมื่อระลึกชาติเห็นความดีที่ทำไว้แล้ว พระมหากัจจายนะก็บังเกิดความปลื้มปีติเป็นยิ่งนัก
รัตนะทั้ง๗ ของพระเจ้าจักรพรรดิ ถือเป็นที่สุดแห่งทรัพย์สมบัติ อันเป็นโลกียทรัพย์
แต่กษัตริย์ผู้ไม่มีรัตนะทั้ง๗ บุญหย่อนลงมา รัตนะทั้ง ๘ สันนิษฐานหมายเอาถึง รัตนชาติในมหาสมุทรที่เหล่าอสูรอภิรมย์ ใน ปหาราทสูตร ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกับท้าวปหารทะจอมอสูรเทียบกับพระธรรม ๘ประการที่เหล่าภิกษุอภิรมย์
หากไม่นับ ทอง เงิน ในมหาสมุทรมีรัตนชาติ ๘ประการ แก้วมุกดา แก้วมณี แก้วไพฑูรย์ สังข์ ศิลา แก้วประพาฬ ทับทิม มรกต
ผู้มีบุญที่จะครอบครอง ย่อมได้รัตนชาติทั้ง ๘ ครอบครอง โดยไม่ต้องไปแย่งชิงอสูร หรือ ควานหาในมหาสมุทร ทั้งรัตนชาติยังเปล่งแสงโชติช่วง ดุจมณี ดังอาทิตย์อุทัย...อจิณไตย จริงๆนะ
#4
โพสต์เมื่อ 18 August 2014 - 06:23 PM
กราบขอบพระคุณพระอาจารย์และนักเรียนอนุบาลทัพพีในหม้อครับ
#5
โพสต์เมื่อ 18 August 2014 - 11:28 PM
พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๕พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาตหน้าที่ ๓-๖ข้อที่๘
รัตนสูตร ในขุททกปาฐะ
ทรงกล่าวถึงรัตนะต่างๆ อันเป็นเครื่องปลื้มใจ ทรัพย์ที่เป็นรัตนะของมนุษย์ในโลกนี้ ทรัพย์ที่เป็นรัตนะอันประณีตของสวรรค์ รัตนะที่ประเสริฐที่สุดคือพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ
พระไตรปิฎก ฉบับมหาจุฬาฯ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๙พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๑ สังยุตตนิกาย มหาวารวรรคหน้าที่ ๑๕๕ข้อที่ ๒๒๓ จักกวัตติสูตร ว่าด้วยพระเจ้าจักรพรรดิ “ภิกษุทั้งหลาย เพราะพระเจ้าจักรพรรดิปรากฏ แก้ว ๗ ประการ เพราะพระเจ้าจักรพรรดิปรากฏ แก้ว ๗ ประการนี้จึงปรากฏ
แก้ว ๗ ประการ อะไรบ้าง คือ ๑.จักรแก้ว ๒ ช้างแก้ว ๓.ม้าแก้ว ๔ มณีแก้ว๕.นางแก้ว ๖ คหบดีแก้ว ๗.ปริณายกแก้ว
เพราะพระเจ้าจักรพรรดิปรากฏ แก้ว ๗ ประการนี้จึงปรากฏ
..........สิ่งที่ยิ่งกว่าทรัพย์ใดๆทั้งหมดนี้คือรัตนะในตัว..............
กราบอนุโมทนาบุญค่ะ
#6
โพสต์เมื่อ 20 August 2014 - 03:05 AM
Krap kob pra koon of Dhammatan from K. Tagra, Pra Ajan and K. Tuppe ka. Sadhu sadhu sadhu ka