การปฏิบัติตามคุณธรรม ๔ ประการ
เป็นคุณธรรมที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ทรงนำเอาคำแปลพระศาสนธรรมคำสั่งสอนทางพระพุทธศาสนา ที่เรียกว่าฆราวาสธรรม มารวมเป็นพระบรมราโชวาท เพื่อเป็นหลักให้ประชาชนคนไทยทุกคนได้ศึกษา และนำไปปฏิบัติปลุกฝังให้เจริญงอกงามในจิตใจ จะช่ายให้ประเทศชาติเกิดความสงบสุข ร่มเย็นประกอบด้วย.-
คุณธรรมประการที่ ๑ คือ การรักษาความสัจความจริงใจต่อตัวเองที่ ประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์และเป็นคุณธรรม
ความสัจ คือ สัจจะ ความจริงใจ เป็นคนพูดจริงทำจริงอย่างไรก็ปฏิบัติอย่างนั้นเป็นปกตินิสัย เป็นที่ยอมรับของสังคม ซึ่งตรงข้ามกับคนไม่มีสัจจะความจริงใจเป็นคนใจคอโลเล พูดไม่จริง ทำไม่จริงเป็นคนปากกับใจไม่ตรงกันดังคำพังเพยที่ว่า "เมื่อไม่ทำดังปากว่า และจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน " คนที่ไม่มีสัจจะอยู่ในจิตใจเป็นบุคคลที่ไร้ค่าเป็นบุคคลที่สังคมไม่ปรารถนา
คุณธรรมประการที่ ๒ คือ การรู้จักข่มใจตนเอง ให้ประพฤติและปฏิบัติ อยู่ในความสัจความดีนั้นคุณธรรม
ข้อนี้แยกได้เป็น ๒ ประการคือ รู้จักข่มใจตนเอง ให้ประพฤติและปฏิบัติอยู่ในความสัจ ความดีนั้นการข่มใจ หมายถึงการรู้จักบัคับตนเอง ไม่ให้โลภอยากได้ในทางทุจริตผิดศีลธรรม ไม่ให้โกรธเคืองคิดอาหาตพยาบาทจองเวรไม่หลงงมงายคนที่มีความข่มใจจะเป็นคนเก็บอารมณ์เก่ง ไม่แสดงอาการผิดปกติออกนอกหน้าตามคำพังเพยที่ ว่า "เก็บน้ำใจขุ่นไว้ข้างใน นำน้ำใสไว้ข้างนอก"
การฝึกใจ หมายถึง การรู้จัดฝึกฝนตนเองรู้จัดฝึกตัวฝึกใจปรับปรุงแห้ไขตัวเอง ให้เหมาะสมกับภาวะและสถานะของตน อีกประการหนึ่งคือการหยุดใจ เผป็นการรู้จักยับยั้งใจไม่ถลำลงไปสุ่ความชั่ง ความผิด ความเสียหาย
คุณธรรมประการที่ ๓ คือ การอดทน อดกลั้น และอดออม ที่จะไม่ประพฤติล่วงความทุจริต ไม่ว่าจะด้วยเหตุ
ประการใด เป็นคุณธรรมที่สามารถแยกได้เป็น ๖ อย่าง ได้แก่๑.การอดทน ที่จะไม่ประพฤติล่วงความสัจ ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุประการใดการอดทน อดกลั้น อดออม ก็เพื่อให้พ้นจากสภาพที่เลว และให้ได้มาซึ่งสภาพที่ดี ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุประการใด
๒.การอดทน ที่จะไม่ประพฤติล่วงความสัจสุจริต ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุประการใด
๓.การอดกลั้น ที่จะไม่ประพฤติล่วงความสัจ ไม่ว่าจะเป็นเตุประการใด
๔.การอดกลั้น ที่จะไม่ประพฤติล่วงความสุจริต ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุประการใด
๕.การอดออม ที่จะไม่ประพฤติล่วงความสัจ ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุประการใด
๖.การอดออม ที่จะไม่ประพฤติล่วงความสุจริต ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุประการใด๒.การอดทน ที่จะไม่ประพฤติล่วงความสัจสุจริต ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุประการใดคุณธรรมประการที่ ๔ การรู้จักละความชั่ว ความทุจริต และรู้จักสละประโยชน์ส่วนน้อยของตน เพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของบ้านเมือง
๓.การอดกลั้น ที่จะไม่ประพฤติล่วงความสัจ ไม่ว่าจะเป็นเตุประการใด
๔.การอดกลั้น ที่จะไม่ประพฤติล่วงความสุจริต ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุประการใด
๕.การอดออม ที่จะไม่ประพฤติล่วงความสัจ ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุประการใด
๖.การอดออม ที่จะไม่ประพฤติล่วงความสุจริต ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุประการใด
การอดทน อดกลั้น อดออม ก็เพื่อให้พ้นจากสภาพที่เลว และให้ได้มาซึ่งสภาพที่ดี
คุณธรรมข้อนี้เป็นการสอนให้ละวาง ๒ อย่างคือ๑.ละวางความชั่วการละวางหมายถึง การละทิ้ง ไม่ใส่ใจอารมณ์ที่มารบกวนให้เรากระทำชั่ว ให้เรากระทำทุจริตซึ่งทำให้เสียความจริงใจ สละวัตถุ และสละอารมณ์ การเสียสละวัตถุหรือสิ่งของธรรมดา เราอยู่ในสังคมต้องรู้จักการเสียสละในคราวที่ควรจะเสียสละ ต้องรู้จักแบ่งปันแก่คนที่สมควรจะให้การแบ่งปัน เป็นการแสดงความมีน้ำใจ การเสียสละอารมณ์เป็นการปลดเปลื้องอารมณ์ในสิ่งที่ไม่น่าปรารถนาอันจะทำให้บุคคลอื่น เกิดความขัดใจไม่พอใจ เพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของบ้านเมือง คือถ้าหากเราเสียสละแล้วไม่ว่าวัตถุก็ดี อารมณ์ก็ดี สิ่งเหล่านี้จะก่อให้เกิดความสุขสงบของบุคคล สังคม ก็ย่อมที่จะทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข ร่มเย็นด้วยแล้วเราก็ควรที่จะปฏิบัติ
๒.ละวางความทุจริตและสละประโยชน์ส่วนน้อยของตน เพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของบ้านเมือง
ที่มา : วัดท่าไทร