ทำไมต้องแบ่งกะทำวิชชา
เหตุใดต้องแบ่งกะทำวิชชา
#1
โพสต์เมื่อ 14 January 2009 - 09:49 AM
ทำไมต้องแบ่งกะทำวิชชา
#2
โพสต์เมื่อ 14 January 2009 - 10:42 AM
ผู้รู้กล่าวไว้ว่า เวลาในภพมนุษย์นั้นมีน้อย
การเปลี่ยนภพบ่อยๆ เป็นความทุกข์
และบางครั้งชาติใหม่กว่าที่ชีวิตหนึ่งจะเข้าที่เข้าทาง(มรรค) ก็ต้องเที่ยวเป๋ไปเป๋มา ล้มลุกคลุกคลาน บาดเจ็บกันมาคนละไม่ใช่น้อย (บางท่านเยินมาเชียว)
และการณ์นี้ยังเป็นการเปิดช่องให้ผังมารเข้าแทรกได้ง่าย
ว่าไปแล้วการเวียนว่ายตายเกิดนี่มันเป็น WEAKED LINK จุดต่อที่อ่อนแอของชีวิตสัตว์โดยแท้
ครั้นเมื่อชีวิตเริ่มรู้ที่มาที่ไปแล้ว ยังต้องมาเจอกับสิ่งที่คอยมาเบียดบังเวลาทำวิชชาอีกมาก
เอาแค่เรื่องทำมาหากินอย่างเดียวก็ปาไปกว่าค่อนชีวิตแล้ว
ไหนสังขารยังจะต้อง กิน ขับถ่าย หลับนอน(ฆารวาสใช้ ๑ใน๔ส่วนของอายุขัยทีเดียว) แล้วยังจะเจ็บไข้ได้ป่วยอีก
ยังมีอีกจิปาถะเยอะแยะตาแป๋ไก๋ ตามแต่แทคติคลูกเล่นของข้าศึกที่เห็นช่องโหว่ให้โจมตีนั่นแหละ
อย่างท่านว่าแหละนะ เรายังหาไม่เจอเบื้องต้นเบื้องปลายของสังสารวัฎฏ์
เรารื้อได้แต่โครงเรือนชั่วคราวของมัน หักซี่กำฝ่าวงล้อมออกมา
ก็ได้แต่หวังใจว่า ณ อายตนะที่มารตามไปไม่ถึงนั้น (IMMORTAL LINK)
พวกเราจะได้ทำสิ่งที่ต้องทำได้อย่างเต็มที่ จนกว่าจนกว่าจะสิ้นสังสารวัฏฏ์โน่นแหละนะ
อนุโมทนาด้วย สาธุ... เชียร์ อัพ!
ป.ล. สิ่งที่ดีที่สุดในชาตินี้ของฉันคือการได้พบเธออีกครั้ง... แก้วทั้งสาม
ขอบคุณจริงๆ
ศรีวยาฆร-รำพึง
๑๔ มกราคม ๒๕๕๒
#3
โพสต์เมื่อ 14 January 2009 - 11:19 AM
#4
โพสต์เมื่อ 14 January 2009 - 12:11 PM
#5
โพสต์เมื่อ 14 January 2009 - 01:22 PM
#6
โพสต์เมื่อ 14 January 2009 - 08:15 PM
#7
โพสต์เมื่อ 17 January 2009 - 08:53 PM
แล้วมันเกี่ยวกับการแบ่งกะทำวิชชาตรงใหน ?
กับความยาวไลในสังสารวัฏ
คุณงงเหมือนผมเปล่า หรือผมอ่านไม่ดี
#8
โพสต์เมื่อ 19 January 2009 - 07:08 PM
#9
โพสต์เมื่อ 20 January 2009 - 09:47 AM
#10
โพสต์เมื่อ 20 January 2009 - 03:43 PM
#11
โพสต์เมื่อ 22 January 2009 - 07:40 AM
เฮ้อ อย่าไปคิดมากเลยครับ ผมก็แค่รำพึงไปตามประสาเอง
ก็ร่างกายเรามันมีขีดจำกัดอยู่นี่
ทั้งความรู้สึก ความทรงจำ ความนึกคิด และจิตวิญญาณ ต่างก็ถูกจำกัดไว้ทั้งนั้น
เราอยู่ในภพภูมิใด ภพภูมินั้นก็ครอบงำความเป็นไปของชีวิตเรา
แหะ แหะ ชีวิตเราในแต่ละชาติจึงเที่ยวงุนงง วกวนอยู่อย่างนี้แหละครับ อิอิ
ครั้งหนึ่งเคยมีคนเขียนบทกลอนหลังพุทธปรินิพพานนานมาแล้วว่า
คิดถึงใครคนหนึ่ง
ผู้ซึ่งเป็นแสงสว่างของฉัน
ฉันร้องไห้เมื่อเราจากกัน
ทุกๆ วัน ฉันยังเฝ้าคิดถึงเธอ
พุทธพจน์ที่ว่า ปิเยหิ วิปปโยโค ทุกโข ความพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักเป็นความทุกข์นี่
เฮ้อ! มันช่างเจ็บปวดได้สุดยอดใจจริงๆ พับผ่าเถอะ อิอิ
ป.ล.1 คำตอบของคำถามท่าน พุทธองค์ทรงตรัสตอบไว้แล้วในพระสูตรด้านบนนั่นแหละ
สังเกตุดูเอาเถอะ เดี๋ยวก็เห็น
ป.ล. 2 ขอบคุณสำหรับกำลังใจน่ารักๆ ของท่านอริย 072 ครับ
ไม่รู้เป็นงัย ชอบจริงๆ คนเขาชมเนี่ย ฮ่าฮ่า เอิ๊กๆ
#12
โพสต์เมื่อ 23 January 2009 - 02:14 AM
#13
โพสต์เมื่อ 26 August 2009 - 12:09 AM