ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

"การแหล่" เทศน์ของพระ ผิดวินัยหรือเปล่าคะ (แค่อยากรู้)


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 May 2006 - 10:41 AM

เห็นมีพระที่ออกทีวีบ่อยๆ ที่ท่านออกมาเทศน์สอนญาติโยมด้วยวิธีการแหล่ แบบไทยๆ สมัยก่อน แบบนี้ก็ถือว่าเป็นธรรมนองสรภัญญะ แบบบทสวดมนต์หรือเปล่าคะ เพราะเหมือนกับมันจะออกแนวบันเทิงนิดๆ แต่ว่าก็มีคนติดมากมาย เพราะฟังเนื้อหาแล้วซึ้งกินใจดีเหมือนกัน เคยฟังครั้งนึง เรื่องกล่องข้าวน้อยฆ่าแม่ ตอนจบเนื้อหาของนิทาน ท่านก็จะมีคำสอนต่อท้าย ทำเอาคนฟัง ฟังแล้วสะเทือนใจ สะกิดใจให้กลับไปคิดทบทวนความกตัญญูของตัวเองได้มากทีเดียว

ก็เลยสงสัยน่ะค่ะว่าเทศน์แหล่แบบนี้ผิดหรือถูกอย่างไรค่ะ
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#2 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 27 May 2006 - 08:57 PM

จะผิดหรือถูกต้องเอาพระธรรมวินัยมาตัดสิน เอามหาปเทส ๔ มาพิจารณา แต่ที่สำคัญที่สุดผมคิดว่า อยู่ที่เจตนาในการแสดงธรรมของท่านมากกว่าน่ะครับ
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#3 แก้วประเสริฐ

แก้วประเสริฐ
  • Members
  • 513 โพสต์

โพสต์เมื่อ 31 May 2006 - 12:28 PM

เราอาจไม่เคยฟังก็เลยไม่ค่อยคุ้นสักเท่าไร เหมือนที่วัดยังต้องมีเพลงประกอบ
การเรียนการสอน ใหม่ๆเราก็ไม่ค่อยคุ้นสักเท่าไร ต่อมาก็ชิน
เลย ต้องมีการ์ตูน มีอะไรที่ไม่ค่อยเครียด ฟังแล้วสบายใจ ตามยุคตามสมัย
อยู่ที่เจตนาว่าท่านต้องการถ่ายทอดคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยไม่มี
สิ่งใดแอบแฝง

#4 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 06 March 2007 - 02:07 PM

ไม่เคยฟังเหมือนกันครับ

#5 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 03 August 2011 - 09:37 AM

การอนุโลมเข้าเรื่องการแหล่งตามพระพุทธองค์
การที่พระท่านเทศน์แหล่ โดยเฉพาะเทศน์มหาชาติอาจจะดูเป็นสีเทา ใกล้ๆจะเป็นขับร้องบ้าง แต่ก็ถือว่าอนุโลม เพราะการเทศน์แหล่นี่แม้พระราชามหากษัตริย์ก็ทรงมีพระราชศรัทธาในเรื่องนี้ โดยเฉพาะสมเด็จพระเทพรัตน์ ฯ
อาตมาภาพจึงให้โยมได้เข้าใจ ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตน์ ฯทรงมีพระราชศรัทธาในการเทศน์มหาชาติมากครั้งหนึ่งเคยตรัสกับพระนักเทศน์แหล่รูปหนึ่งว่า

"ท่านต้องรักษาไว้นะเรื่องการเทศน์แหล่นี่ไม่ใช่เพียงเรื่องทางศาสนาแต่เป็นมรดกของชาติด้วย"

ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า "อนุชานามิ ภิกขเว ราชูนังอนุวัตติตุง" ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้อนุโลมตามพระราชาได้

ธมฺมานนฺโทภิกษุ


#6 *นวกภิกษุ*

*นวกภิกษุ*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 25 October 2011 - 05:38 PM

อาตมามีความคิดเห็นว่าไม่เหมาะสมเพราะโดยนัยแล้วนั้น พระภิกษุนักแหล่นั้นต้องการหาปัจจัย (เงิน ) ซะมากกว่าที่จะศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์อย่างถ่องแท้ แล้วสั่งสอนประชาชนสาธุชนให้รู้ตาม เมื่อมีการเทศน์เมื่อไหร่เว้นไม่ได้ต้องมีปัจจัยทุกครั้งเชียว อาตมาเห็นแล้วรู้สึกหดหู่ใจเหลือเกิน ถ้าเทศน์เป็นทำนองสรภัญญะก็ไม่เป้นไรหรอกนะ แต่เดี๋ยวนี้ซิ ญาติโยมลองสังเกตดูเอาเถิดนะ จะออกไปทางแหล่ร้องเพลงแบบ ทศพล หิมพานต์ ที่สำคัญบางองค์ยังเอาเพลงมาร้องซะอีก เห็นแล้วน่าอนาถใจจริง

#7 payapichonza

payapichonza
  • Members
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2013 - 07:01 AM

กระผมก็ได้ไปลองดูแล้วรู้สึกไม่ค่อยดีเพราะพระท่านโยกซ้าย โยกขวาตามบทเพลงด้วย ก็เลยอยากรู้จริงๆว่าไม่ปิดจริงๆหรอ

ผมมองแบบนี้ถ้าเทศน์มหาชาติถูกจริงๆหลวงพ่อของเราคงให้เทศน์มหาชาติในวัดได้แล้ว แต่วัดเราไม่มีก็เพราะมันไม่ควรที่จะทำ ผิดถูกยังไงโปรดชี้แนะ ขอบพระคุณครับ 



#8 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2013 - 09:34 AM

http://th.wikipedia....a.org/wiki/แหล่

 

เป็นการนำสาร ปรับเข้าหาวิถีท้องถิ่น

 

จุดประสงค์อาจเป็นเพราะสมัยก่อนวัดเป็นศูนย์รวมของชุมชน มีทั้งเทศนา และ มหรสพ เป็นไปได้ที่ต้องพัฒนาวิธีเทศน์ให้มีลูกเล่น ลีลาใหม่ๆเพื่อดึงผู้ฟัง ซึ่งก็น่าจะดีกว่าปล่อยสาธุชนให้ไหลไปกับมหรสพที่ไม่มีสาระ สวดภาณยักษ์ เช่นกัน


ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC